8 มิถุนายน 2564 เราตัดสินใจทำประกันสุขภาพกับKTแอกซ่า ก่อนทำเราได้แถลงประวัติการรักษาทั้งหมด ยื่นสเตทเม้น และบริษัทก็ตอบตกลงและยินดีเราเป็นลูกค้าอย่างถูกต้องทุกประการ จนถึงการต่ออายุกรมธรรม์วันที่ 8 มิถุนายน 2567 (เข้าสู่ปีที่ 4) ทางบริษัทได้ทำการยกเลิกสัญญาเพิ่มเติมที่เป็นค่ารักษาสุขภาพและชดเชยรายได้จากการนอนโรงพยาบาล
ซึ่งคงเหลือไว้เพียงสัญญาหลักที่คุ้มครองกรณีเสียชีวิตเท่านั้น และให้สาเหตุว่ามีอัตราการเคลมสูง ความเสี่ยงสูง
สาเหตุเกิดจากการคลอดบุตรคนที่3 เราคลอดได้ไม่นานก็ฉีดวัคซีนโควิททั้งแอสต้าและไฟเซอร์ เราแพ้ทั้งคู่ สักพักเราก็ติด Covid-19 ทั้งบ้านได้นอนแอดมิททั้ง5คน ที่รพ. พอออกจากรพ.มา ทำให้เรามีอาการลอง Covid-19 ร่างกายเลยอ่อนแอ ทำให้เป็นไข้และไม่สบายบ่อยกว่าปกติ และเราก็ยังให้นมลูกด้วย ยาที่ได้เลยเป็นยาสำหรับคนท้องมาตลอด
ปีที่แล้วเด็กๆลูกคนโตและคนกลางไปโรงเรียน ก็จะติดไข้หวัดใหญ่มาจากโรงเรียน ออกรพ.ได้สักพัก ก็ติดไข้หวัดอีกสายพันธุ์มาอีก คือปีที่แล้วทั้งบ้าน นอนรพ.บ่อยมาก และป่วยทีก็จะป่วยพร้อมกัน2-3คนตลอด (การไปนอนโรงพยาบาลเหนื่อยมากนะคะสำหรับตัวเอง ที่ทั้งป่วยและลูกป่วยพร้อมกัน ไม่ได้สนุกค่ะ) ส่วนเราเป็นแม่ ใกล้ชิดลูกและภูมิตกอยู่แล้วก็ย่อมติดกับลูกแทบทุกครั้ง พอป่วยบ่อยเข้าทำให้จมูกบวม เป็นไซนัส และมีฮอร์โมนแปรปรวนทำให้เป็นประจำเดือนเกือบ8เดือน ตรวจมะเร็งก็ไม่มี จนสุดท้ายคุณหมอได้ทำการขูดมดลูก อาการเป็นประจำเดือนก็หายไป และช่วงที่เราเป็นประจำเดือนบ่อยเลือดออกเยอะ มีครั้งหนึ่งเรานั่งทำงานอยู่ อยู่ดีๆก็ปวดหัวมากๆสักพักใบหน้าขยิบๆ ตาลืมไม่ขึ้นแฟนเรามาเห็นเลยรีบพาเราไปรพ.ใกล้บ้าน
เราเลยได้แอดมิทเพราะตาเราลืมไม่ขึ้น พูดไม่ชัดปากจีบเลยละ ตอนนั้นเราก็ใช้ประกันของแอกซ่าและพรูเดน(พรูเดนเราทำมา5ปี เขาก็ต่อให้ปกติค่ะ)
และการเข้ารักษานอนรพ.ครั้งนั้น บริษัทประกันก็อนุมัติค่ารักษาปกติ ก่อนอนุมัติเขาก็ขอประวัติการรักษาทั้งหมดที่เราเคยมีแล้วด้วย สุดท้ายก็อนุมัติปกติ เรามั่นใจอยู่แล้วและเชื่อมั่นบริษัทมาตลอดเพราะเราบริสุทธิ์ใจ ก่อนทำแถลงทุกอย่างหมดแล้ว
จนเวลาผ่านไป เมื่อปีที่4 ที่เราต่ออายุกรมธรรม์ เราก็ชำระผ่านแอพบริษัทรายปีไปจำนวนเงิน45,xxxบาท(เราต่อก่อนหมดอายุ สามารถต่อได้ก่อน30วัน) ใบเสร็จก็มีว่าเราชำระแล้ว
ก่อนจะใกล้วันต่ออายุ มีเจ้าหน้าที่พยาบาลบริษัทได้โทรมาหาเรา (จะเอ่ยขื่อก็เกรงใจเพราะไม่เคยเจอกันค่ะ) คือคุณเขาตั้งใจจะโทรมาถามอาการหลังจากออกรพ. คือบริษัทดีมากๆ เราถึงบอกเรามั่นใจในบริษัทมากเพราะเจ้าหน้าที่และตัวแทนเขาดีมาก บริการได้ดี สมกับเป็นบริษัทมหาชนที่เราเลือก
เขาจะโทรมาถามอาการเราเป็นยังไงบ้างดีขึ้นยัง ยังต้องหาคุณหมอไหม เพราะเขามีหน้าที่หาคุณหมอดีๆและเก่งให้เรา เพราะเราเคยขอให้บริษัทช่วยหาคุณหมอเก่งๆให้ เลยมีเจ้าหน้าที่ประสานงานหาคุณหมอให้เรา และประสานงานโรงพยาบาลให้เราเลย แบบฟาสมากๆ รวดเร็วและชำนาญ
พอเจ้าหน้าที่โทรมารอบนี้ เขาดันบอกว่า เขาตั้งใจจะโทรมาถามอาการเราเป็นยังไง แต่เห็นในระบบขึ้นว่าเราโดนยกเลิกไม่ให้ต่ออายุกรมธรรม์แล้ว
เรายังบอกไม่นะ เราจ่ายค่าเบี้ยรายปีไปแล้วด้วย ใบเสร็จก็ยังส่งมาให้เรา
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า พอถึงวันเดี๋ยวระบบก็ตัดเราออกเองและเดี๋ยวโอนคืนค่าเบี้ยให้เรา
พอทราบแบบนี้เราก็คุยกับตัวแทน ตัวแทนก็บอกในระบบก็ปกติเช่นกันเขาจะมองไม่เห็นข้อมูลด้านใน
เราเลยโทรเข้าสำนักงานใหญ่ สุดท้ายเขาบอกไม่ต่อให้เพราะเรามีการเคลมสูง ปีที่แล้วทั้งปีเราใช้ไป4แสนกว่า เราทำแผนค่ารักษาเหมาจ่าย10ล้าน แต่เราใช้ไป4แสนกว่าบอกเราเคลมสูงและเสี่ยงสูง
เราเลยขออุทธรณ์ สุดท้ายเขาก็ยังยืนยันว่าไม่ต่อให้เพราะเขาเอาเข้าที่ประชุมแล้ว ถ้าเรายังไม่ยอมรับก็ให้เราร้องเรียนแผนกสินไหม เราเลยทำหนังสือไป สุดท้ายหัวหน้าฝ่ายร้องเรียนก็ยืนยันว่าไม่ต่อให้ เราเลยขอให้หัวหน้าคนนั้นที่ยืนยันโทรมาหาเรา
แล้วเขาก็โทรมา คุยไปคุยมาสรุปเขาบอกมีครั้งหนึ่งที่เรานอนโรงพยาบาลเดือน7ปีที่แล้ว เราไปด้วยอาการปวดหัว ครั้งนั้นเหตุผลในการคนอนรพ.ไม่ชัดเจน
เราเลยบอกว่า รอบไหนเราไปปวดหัว คือเรามั่นใจว่าเราไม่เคยไปด้วยแค่อาการปวดหัวแน่ๆ พอเขาบอกเดือนมาเราเลยรู้เลย เราบอกเขาว่า รอบนั้นเราไม่ได้แค่ปวดหัวนะคะ รอบนั้นตาเบี้ยวปากเบี้ยวได้เลย ไม่มีเหตุผลต้องนอนรพ.ได้ยังไง ตาก็ลืมไม่ขึ้นใบรับรองแพทย์ก็ก็มีเขารีบบอกว่า เอาเป็นว่าเขาไม่สามารถต่อให้
เราบอกถ้าไม่ทีเหตุผลชัดเจนนอนรพ. แล้วทำไมรอบนั้นบริษัทก็ยังอนุมัติค่ารักษาษามา
หัวหน้าแผนกร้องเรียนอ้างว่า เพราะบางทีแผนกสินไหมก็อะลุ่มอะล่วยได้
เรานี่ห้ะเลย ใช่หรอยอมจ่ายค่าสินไหมง่ายๆ
เราบอกคุณไม่มีความเป็นมนุษย์ธรรมเลย เราป่วยจริง เจ็บจริง คุณมาอ้างแบบนี้ไม่น่ารักมากๆ เราขอเอาเสียงที่อัดคุยกันไปให้คนอื่นฟัง
หัวหน้าแอกซ่าคนนั้นบอกว่า เขาไม่อนุญาตให้เอาคลิปเสียงของเขาไปเผยแผ่
เราเลยถาม แล้วทำไมทางบริษัทคุณถึงอัดคลิปเสียงดิฉันได้
เขาบอกว่า เอามาพัฒนาองค์กรหรือบริษัทนี่แหละคะ
คืองงมากมีคนมีวุฒิภาวะแบบนี้ทำงานในองค์กรระดับนี้ด้วย เสียดายเจ้าหน้าที่พยาบาล(จากแอพเอมม่า) ตัวแทนดีๆที่ทำงานอย่างโปร่งใส แบบนี้องค์กรคุณมีความเป็นธรรมหรอคะ ดิฉันผิดหวังมาก จากที่แนะนำเพื่อน สามี คนในครอบครัวและคนรู้จัก เราอวยมาตลอดว่าเลือกบริษัทมหาชน เลือกบริษัทประกันที่มั่นคงไม่ผิด
ส่วนตัวแทนดิฉันตอนแรกที่ทำเป็นอีกคน ดิฉันทำอยู่อุดร และเกิดติดต่อตัวแทนยากเลยขอเปลี่ยนเป็นอีกท่าน ขอเอ่ยชื่อละกันค่ะ
ตัวแทนคนใหม่คือคุณหนุ่ม ดูแลดีมากและให้ข้อมูลที่ดี ตัวแทนก็ช่วยประสานงานเท่าที่ตัวแทนจะทำได้ คุณหนุ่มก็งงเช่นกันเพราะดิฉันป่วยจริง
แต่ทำไมฝ่ายด้านในบริษัทถึงทำงานไม่เห็นแก่ความเป็นจริง
ดิฉันว่าพนักงานบริษัทแอกซ่าหลายฝ่าย ทั้งตัวแทนขาย เจ้าหน้าที่เอ็มม่า เจ้าหน้าที่พยาบาล ดูแลดีมากๆนะคะ เห็นแก่ความเป็นจริง ถ้าฝ่ายบริหารในบริษัทมีความเป็นธรรม และวุฒิภาวะแบบพนักงานด้านนอกที่เขาตั้งใจทำงานด้วยความสัตย์จริง บริษัทจะน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นกว่านี้เยอะค่ะ
มาวันนี้ดิฉันผิดหวังและเสียความรู้สึกกับบริษัทประกันนี้มากๆ ความน่าเชื่อถือความมั่นใจที่เคยมี ที่สะสมมาหายไปไหนหมด
คุณขายความเสี่ยงให้ลูกค้า คุณโฆษณาว่าให้ลูกค้ามาซื้อความเสี่ยงกับคุณ พอลูกค้าป่วยจริง มาทำแบบนี้
ดิฉันร้องคปภ.ไป ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า บริษัทก็ตอบมาเช่นเคยว่าเรามีความเสี่ยงสูง
และประกันที่เราทำสามารถยกเลิกได้ปีต่อปี แบบนี้เราถือมา10ปี ปีที่11เราป่วยหนัก มาปี12คุณสามารถยกเลิกได้ แบบนี้ได้หรอคะ (เขาอ้างว่าตัวเก่ายกเลิกได้ แต่ตัวใหม่ที่คปภ.พึ่งออกมาไม่ให้ยกเลิกพึ่งออกมาได้2ปี)
แบบนี้เราจะเชื่อมั่นในการมีประกันอีกหรอ ย้อนกลับไปดูของลูกเรา ที่นอนรพ.ด้วยกันหลายรอบ ก็ไม่เห็นคนไหนโดนยกเลิก (ของลูกเรา เราทำอีกบริษัท วิริยะประกันภัยดีมากๆ ไม่ยกเลิกของลูกเราเลย ทั้งๆก็นอนรพ.บ่อย)
แต่ของเรา อุส่าเลือกแผน10ล้านไว้ใช้ยาวๆดันโดนยกเลิกซะงั้น
ตอนคุณขาย คุณไม่ได้ขายประกันชีวิตนะคะ
คุณโฆษณาว่า ประกันสุขภาพเหมาจ่าย 3ล้าน 10ล้าน จนจนถึง100ล้าน
ดิฉันซื้อค่ารักษาเหมาจ่าย10ล้าน ใช้ไป4แสนกว่าคุณยกเลิกด้วยเหตุผลไม่แฟร์ ไม่มีความเป็นธรรมเลย ถ้าดิฉันปกปิดหรือไม่บริสุทธิ์ใจจะไม่ว่าเลยค่ะ
อยากให้มีหน่วยงานที่จัดการบริษัทไม่มีความเป็นธรรมแบบนี้กับคนไทยแบบไม่ใช่พึ่งทำ2ปีนี้ยกเลิกไม่ได้
แต่ควรย้อนกลับไปว่าที่เคยทำมาหาหลายปีแล้วลูกค้าบริสุทธิ์ใจและไม่ปกปิดควรที่จะไม่สามารถยกเลิกได้เช่นกัน แบบนี้ของคนที่ถือมาเป็น10ปีก็ยกเลิกได้สิค่ะ
ดิฉันสอบถามมาคือ ตามกฎหมายสามารถยกเลิกได้ แต่ไม่มีบริษัทไหนเขาทำกัน
ดิฉันควรฟ้องร้องไหมคะ เพราะเขายกเลิกดิฉันแบบนี้เท่ากับว่าเขาติดเครดิตบรูโรสำหรับการซื้อประกันกับบริษัทอื่นของดิฉันได้เลย เพราะดิฉันจะไม่สามารถซื้อประกันสุขภาพเพิ่มใหม่ได้อีก มีใครเคยให้ทนายฟ้องไหมคะ แนะนำทีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
เครียดเลยคะ เจอแบบนี้ เราอุส่าวางแผนอนาคต ว่า "ถ้าเราเกิดป่วย อย่างน้อยเราก็ยังมีประกันไว้ใช้ยามเจ็บป่วย"
บริษัททำแบบนี้ไม่มีความยุติธรรม มนุษยธรรมกับลูกค้าเลยค่ะ
ปล. ของสามีเราทำมา2ปี ไม่เคยเคลม ตอนนี้เลยยังไม่โดนยกเลิกค่ะ ค่าเบี้ยรายปีดิฉันก็เป็นคนจ่ายให้ ในประวัติการชำระก็จะมีว่าชื่อคนไหนชำระค่ะ ดิฉันเอาคำถามนี้ถามหัวหน้าแผนกร้องเรียนไป เขาตอบทำนองว่า นี่พูดถึงเคสเรา ของสามีเราคนละเคสค่ะ อยากให้บริษัทไปเปิดฟังบทสนทนาที่ดิฉันคุยกับหัวหน้าแผนกร้องเรียนด้วยค่ะ จะได้ทราบถึงการสนทนาเป็นอย่างไร คำพูดและคำตอบที่ได้ยินไม่สมเหตุค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อยากให้ผู้บริหารแอกซ่าได้อ่านค่ะ องค์กรคุณดี แต่ควรมีความเป็นธรรมและความเป็นจริง ตามโฆษณา ว่าขายความเสี่ยงเมื่อเจ็บป่วยแบบไม่คาดคิด ยังมีประกันของคุณรองรับ แล้วเราเป็นลูกค้าก็ซื้อความเสี่ยงกับคุณแล้ว แต่มาอ้างลูกค้ามีความเสี่ยงสูง คุณควรยึดมั่นกับการขายด้วยค่ะ
จากความมั่นใจซื้อประกันสุขภาพAXAสู่ความไม่มั่นคงและเที่ยงตรงกับลูกค้า ผิดหวังมากค่ะ ที่ถูกยกเลิกกรมธรรม์ปีที่4
สาเหตุเกิดจากการคลอดบุตรคนที่3 เราคลอดได้ไม่นานก็ฉีดวัคซีนโควิททั้งแอสต้าและไฟเซอร์ เราแพ้ทั้งคู่ สักพักเราก็ติด Covid-19 ทั้งบ้านได้นอนแอดมิททั้ง5คน ที่รพ. พอออกจากรพ.มา ทำให้เรามีอาการลอง Covid-19 ร่างกายเลยอ่อนแอ ทำให้เป็นไข้และไม่สบายบ่อยกว่าปกติ และเราก็ยังให้นมลูกด้วย ยาที่ได้เลยเป็นยาสำหรับคนท้องมาตลอด
ปีที่แล้วเด็กๆลูกคนโตและคนกลางไปโรงเรียน ก็จะติดไข้หวัดใหญ่มาจากโรงเรียน ออกรพ.ได้สักพัก ก็ติดไข้หวัดอีกสายพันธุ์มาอีก คือปีที่แล้วทั้งบ้าน นอนรพ.บ่อยมาก และป่วยทีก็จะป่วยพร้อมกัน2-3คนตลอด (การไปนอนโรงพยาบาลเหนื่อยมากนะคะสำหรับตัวเอง ที่ทั้งป่วยและลูกป่วยพร้อมกัน ไม่ได้สนุกค่ะ) ส่วนเราเป็นแม่ ใกล้ชิดลูกและภูมิตกอยู่แล้วก็ย่อมติดกับลูกแทบทุกครั้ง พอป่วยบ่อยเข้าทำให้จมูกบวม เป็นไซนัส และมีฮอร์โมนแปรปรวนทำให้เป็นประจำเดือนเกือบ8เดือน ตรวจมะเร็งก็ไม่มี จนสุดท้ายคุณหมอได้ทำการขูดมดลูก อาการเป็นประจำเดือนก็หายไป และช่วงที่เราเป็นประจำเดือนบ่อยเลือดออกเยอะ มีครั้งหนึ่งเรานั่งทำงานอยู่ อยู่ดีๆก็ปวดหัวมากๆสักพักใบหน้าขยิบๆ ตาลืมไม่ขึ้นแฟนเรามาเห็นเลยรีบพาเราไปรพ.ใกล้บ้าน
เราเลยได้แอดมิทเพราะตาเราลืมไม่ขึ้น พูดไม่ชัดปากจีบเลยละ ตอนนั้นเราก็ใช้ประกันของแอกซ่าและพรูเดน(พรูเดนเราทำมา5ปี เขาก็ต่อให้ปกติค่ะ)
และการเข้ารักษานอนรพ.ครั้งนั้น บริษัทประกันก็อนุมัติค่ารักษาปกติ ก่อนอนุมัติเขาก็ขอประวัติการรักษาทั้งหมดที่เราเคยมีแล้วด้วย สุดท้ายก็อนุมัติปกติ เรามั่นใจอยู่แล้วและเชื่อมั่นบริษัทมาตลอดเพราะเราบริสุทธิ์ใจ ก่อนทำแถลงทุกอย่างหมดแล้ว
จนเวลาผ่านไป เมื่อปีที่4 ที่เราต่ออายุกรมธรรม์ เราก็ชำระผ่านแอพบริษัทรายปีไปจำนวนเงิน45,xxxบาท(เราต่อก่อนหมดอายุ สามารถต่อได้ก่อน30วัน) ใบเสร็จก็มีว่าเราชำระแล้ว
ก่อนจะใกล้วันต่ออายุ มีเจ้าหน้าที่พยาบาลบริษัทได้โทรมาหาเรา (จะเอ่ยขื่อก็เกรงใจเพราะไม่เคยเจอกันค่ะ) คือคุณเขาตั้งใจจะโทรมาถามอาการหลังจากออกรพ. คือบริษัทดีมากๆ เราถึงบอกเรามั่นใจในบริษัทมากเพราะเจ้าหน้าที่และตัวแทนเขาดีมาก บริการได้ดี สมกับเป็นบริษัทมหาชนที่เราเลือก
เขาจะโทรมาถามอาการเราเป็นยังไงบ้างดีขึ้นยัง ยังต้องหาคุณหมอไหม เพราะเขามีหน้าที่หาคุณหมอดีๆและเก่งให้เรา เพราะเราเคยขอให้บริษัทช่วยหาคุณหมอเก่งๆให้ เลยมีเจ้าหน้าที่ประสานงานหาคุณหมอให้เรา และประสานงานโรงพยาบาลให้เราเลย แบบฟาสมากๆ รวดเร็วและชำนาญ
พอเจ้าหน้าที่โทรมารอบนี้ เขาดันบอกว่า เขาตั้งใจจะโทรมาถามอาการเราเป็นยังไง แต่เห็นในระบบขึ้นว่าเราโดนยกเลิกไม่ให้ต่ออายุกรมธรรม์แล้ว
เรายังบอกไม่นะ เราจ่ายค่าเบี้ยรายปีไปแล้วด้วย ใบเสร็จก็ยังส่งมาให้เรา
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า พอถึงวันเดี๋ยวระบบก็ตัดเราออกเองและเดี๋ยวโอนคืนค่าเบี้ยให้เรา
พอทราบแบบนี้เราก็คุยกับตัวแทน ตัวแทนก็บอกในระบบก็ปกติเช่นกันเขาจะมองไม่เห็นข้อมูลด้านใน
เราเลยโทรเข้าสำนักงานใหญ่ สุดท้ายเขาบอกไม่ต่อให้เพราะเรามีการเคลมสูง ปีที่แล้วทั้งปีเราใช้ไป4แสนกว่า เราทำแผนค่ารักษาเหมาจ่าย10ล้าน แต่เราใช้ไป4แสนกว่าบอกเราเคลมสูงและเสี่ยงสูง
เราเลยขออุทธรณ์ สุดท้ายเขาก็ยังยืนยันว่าไม่ต่อให้เพราะเขาเอาเข้าที่ประชุมแล้ว ถ้าเรายังไม่ยอมรับก็ให้เราร้องเรียนแผนกสินไหม เราเลยทำหนังสือไป สุดท้ายหัวหน้าฝ่ายร้องเรียนก็ยืนยันว่าไม่ต่อให้ เราเลยขอให้หัวหน้าคนนั้นที่ยืนยันโทรมาหาเรา
แล้วเขาก็โทรมา คุยไปคุยมาสรุปเขาบอกมีครั้งหนึ่งที่เรานอนโรงพยาบาลเดือน7ปีที่แล้ว เราไปด้วยอาการปวดหัว ครั้งนั้นเหตุผลในการคนอนรพ.ไม่ชัดเจน
เราเลยบอกว่า รอบไหนเราไปปวดหัว คือเรามั่นใจว่าเราไม่เคยไปด้วยแค่อาการปวดหัวแน่ๆ พอเขาบอกเดือนมาเราเลยรู้เลย เราบอกเขาว่า รอบนั้นเราไม่ได้แค่ปวดหัวนะคะ รอบนั้นตาเบี้ยวปากเบี้ยวได้เลย ไม่มีเหตุผลต้องนอนรพ.ได้ยังไง ตาก็ลืมไม่ขึ้นใบรับรองแพทย์ก็ก็มีเขารีบบอกว่า เอาเป็นว่าเขาไม่สามารถต่อให้
เราบอกถ้าไม่ทีเหตุผลชัดเจนนอนรพ. แล้วทำไมรอบนั้นบริษัทก็ยังอนุมัติค่ารักษาษามา
หัวหน้าแผนกร้องเรียนอ้างว่า เพราะบางทีแผนกสินไหมก็อะลุ่มอะล่วยได้
เรานี่ห้ะเลย ใช่หรอยอมจ่ายค่าสินไหมง่ายๆ
เราบอกคุณไม่มีความเป็นมนุษย์ธรรมเลย เราป่วยจริง เจ็บจริง คุณมาอ้างแบบนี้ไม่น่ารักมากๆ เราขอเอาเสียงที่อัดคุยกันไปให้คนอื่นฟัง
หัวหน้าแอกซ่าคนนั้นบอกว่า เขาไม่อนุญาตให้เอาคลิปเสียงของเขาไปเผยแผ่
เราเลยถาม แล้วทำไมทางบริษัทคุณถึงอัดคลิปเสียงดิฉันได้
เขาบอกว่า เอามาพัฒนาองค์กรหรือบริษัทนี่แหละคะ
คืองงมากมีคนมีวุฒิภาวะแบบนี้ทำงานในองค์กรระดับนี้ด้วย เสียดายเจ้าหน้าที่พยาบาล(จากแอพเอมม่า) ตัวแทนดีๆที่ทำงานอย่างโปร่งใส แบบนี้องค์กรคุณมีความเป็นธรรมหรอคะ ดิฉันผิดหวังมาก จากที่แนะนำเพื่อน สามี คนในครอบครัวและคนรู้จัก เราอวยมาตลอดว่าเลือกบริษัทมหาชน เลือกบริษัทประกันที่มั่นคงไม่ผิด
ส่วนตัวแทนดิฉันตอนแรกที่ทำเป็นอีกคน ดิฉันทำอยู่อุดร และเกิดติดต่อตัวแทนยากเลยขอเปลี่ยนเป็นอีกท่าน ขอเอ่ยชื่อละกันค่ะ
ตัวแทนคนใหม่คือคุณหนุ่ม ดูแลดีมากและให้ข้อมูลที่ดี ตัวแทนก็ช่วยประสานงานเท่าที่ตัวแทนจะทำได้ คุณหนุ่มก็งงเช่นกันเพราะดิฉันป่วยจริง
แต่ทำไมฝ่ายด้านในบริษัทถึงทำงานไม่เห็นแก่ความเป็นจริง
ดิฉันว่าพนักงานบริษัทแอกซ่าหลายฝ่าย ทั้งตัวแทนขาย เจ้าหน้าที่เอ็มม่า เจ้าหน้าที่พยาบาล ดูแลดีมากๆนะคะ เห็นแก่ความเป็นจริง ถ้าฝ่ายบริหารในบริษัทมีความเป็นธรรม และวุฒิภาวะแบบพนักงานด้านนอกที่เขาตั้งใจทำงานด้วยความสัตย์จริง บริษัทจะน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นกว่านี้เยอะค่ะ
มาวันนี้ดิฉันผิดหวังและเสียความรู้สึกกับบริษัทประกันนี้มากๆ ความน่าเชื่อถือความมั่นใจที่เคยมี ที่สะสมมาหายไปไหนหมด
คุณขายความเสี่ยงให้ลูกค้า คุณโฆษณาว่าให้ลูกค้ามาซื้อความเสี่ยงกับคุณ พอลูกค้าป่วยจริง มาทำแบบนี้
ดิฉันร้องคปภ.ไป ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า บริษัทก็ตอบมาเช่นเคยว่าเรามีความเสี่ยงสูง
และประกันที่เราทำสามารถยกเลิกได้ปีต่อปี แบบนี้เราถือมา10ปี ปีที่11เราป่วยหนัก มาปี12คุณสามารถยกเลิกได้ แบบนี้ได้หรอคะ (เขาอ้างว่าตัวเก่ายกเลิกได้ แต่ตัวใหม่ที่คปภ.พึ่งออกมาไม่ให้ยกเลิกพึ่งออกมาได้2ปี)
แบบนี้เราจะเชื่อมั่นในการมีประกันอีกหรอ ย้อนกลับไปดูของลูกเรา ที่นอนรพ.ด้วยกันหลายรอบ ก็ไม่เห็นคนไหนโดนยกเลิก (ของลูกเรา เราทำอีกบริษัท วิริยะประกันภัยดีมากๆ ไม่ยกเลิกของลูกเราเลย ทั้งๆก็นอนรพ.บ่อย)
แต่ของเรา อุส่าเลือกแผน10ล้านไว้ใช้ยาวๆดันโดนยกเลิกซะงั้น
ตอนคุณขาย คุณไม่ได้ขายประกันชีวิตนะคะ
คุณโฆษณาว่า ประกันสุขภาพเหมาจ่าย 3ล้าน 10ล้าน จนจนถึง100ล้าน
ดิฉันซื้อค่ารักษาเหมาจ่าย10ล้าน ใช้ไป4แสนกว่าคุณยกเลิกด้วยเหตุผลไม่แฟร์ ไม่มีความเป็นธรรมเลย ถ้าดิฉันปกปิดหรือไม่บริสุทธิ์ใจจะไม่ว่าเลยค่ะ
อยากให้มีหน่วยงานที่จัดการบริษัทไม่มีความเป็นธรรมแบบนี้กับคนไทยแบบไม่ใช่พึ่งทำ2ปีนี้ยกเลิกไม่ได้
แต่ควรย้อนกลับไปว่าที่เคยทำมาหาหลายปีแล้วลูกค้าบริสุทธิ์ใจและไม่ปกปิดควรที่จะไม่สามารถยกเลิกได้เช่นกัน แบบนี้ของคนที่ถือมาเป็น10ปีก็ยกเลิกได้สิค่ะ
ดิฉันสอบถามมาคือ ตามกฎหมายสามารถยกเลิกได้ แต่ไม่มีบริษัทไหนเขาทำกัน
ดิฉันควรฟ้องร้องไหมคะ เพราะเขายกเลิกดิฉันแบบนี้เท่ากับว่าเขาติดเครดิตบรูโรสำหรับการซื้อประกันกับบริษัทอื่นของดิฉันได้เลย เพราะดิฉันจะไม่สามารถซื้อประกันสุขภาพเพิ่มใหม่ได้อีก มีใครเคยให้ทนายฟ้องไหมคะ แนะนำทีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
เครียดเลยคะ เจอแบบนี้ เราอุส่าวางแผนอนาคต ว่า "ถ้าเราเกิดป่วย อย่างน้อยเราก็ยังมีประกันไว้ใช้ยามเจ็บป่วย"
บริษัททำแบบนี้ไม่มีความยุติธรรม มนุษยธรรมกับลูกค้าเลยค่ะ
ปล. ของสามีเราทำมา2ปี ไม่เคยเคลม ตอนนี้เลยยังไม่โดนยกเลิกค่ะ ค่าเบี้ยรายปีดิฉันก็เป็นคนจ่ายให้ ในประวัติการชำระก็จะมีว่าชื่อคนไหนชำระค่ะ ดิฉันเอาคำถามนี้ถามหัวหน้าแผนกร้องเรียนไป เขาตอบทำนองว่า นี่พูดถึงเคสเรา ของสามีเราคนละเคสค่ะ อยากให้บริษัทไปเปิดฟังบทสนทนาที่ดิฉันคุยกับหัวหน้าแผนกร้องเรียนด้วยค่ะ จะได้ทราบถึงการสนทนาเป็นอย่างไร คำพูดและคำตอบที่ได้ยินไม่สมเหตุค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้