วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาปีนี้ (พุทธศักราช ๒๕๖๗) ตรงกับวันเสาร์และอาทิตย์ หยุดชดเชยวันจันทร์และอังคาร น้องชาย-น้องสะใภ้ และครอบครัวชักชวนไปไหว้พระในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เอ่ยถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในช่วงวันหยุดยาว ๔ วันแล้ว มโนในสมองก็คิดไปถึงว่า รถจะติดไปถึงไหน วัดจะมีคนมากราบไหว้ขอพรกันเยอะขนาดไหน การต่อคิวกันเข้าห้องน้ำ หรือแม้กระทั่งซื้ออาหารการกินจะเป็นอย่างไร ฯลฯ จิปาถะจะจินตนาการไปไกลเท่าใด....
“เราจะไปไหว้พระกันที่วัดวังแดงใต้?” น้องชายบอก ...อืม เกิดมาจนอายุปานนี้เพิ่งเคยได้ยิน แต่ไม่แปลกใจเพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีวัดมากมายหลายวัด
น้องชายขับรถวิ่งมาตามถนนวิภาวดีรังสิต จนมาออกถนนสายเอเชีย แล้วยูเทิร์นใต้สะพานข้ามแม่น้ำป่าสักตรงตลาดสุวรรณเกลียวทอง ทางไปอำเภอนครหลวง ขับตรงมาเรื่อยๆ เส้นนี้จะมีรถบรรทุกหนาแน่นสักหน่อย เพราะมีท่าเรืออยู่ เลยป้องตำรวจที่บ้านโพธิ์เอนมาถนนก็จะโล่งแล้ว การจราจรไม่หนาแน่นอย่างที่มโนไปเอง
ไม่นานก็มาถึงวัดวังแดงใต้ เงียบ สงบ แต่วัดแห่งนี้ มีพระอยู่เก้ารูป มีสถานที่โบราณเป็นโบสถ์เก่าตามป้ายประวัติของโบราณสถานวัดวังแดงใต้เขียนไว้ว่า “วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๓๒๐ ตรงกับรัชกาลพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๒ เขตวิสุงคามสีมากว้าง ๔๕ เมตร ยาว ๔๕ เมตร เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินที่ตั้งวัด ๒๒ ไร่ ๑ งาน ๑๒ ตารางวา....
โบราณสถานวัดวังแดงใต้ ประกอบด้วยอุโบสถเป็นประธานของวัด เป็นอาคารอิฐถือปูน ฐานทำเป็นบัวลูกแก้วอกไก่ ฐานและผนังอุโบสถยังพบร่องรอยปูนฉาบอยู่ค่อนข้างมาก โดยปูนฉายได้รับการบูรณะใหม่ในปี พ.ศ.๒๕๕๕ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ อุโบสถหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ด้านหน้าอุโบสถมีหมู่วิหาร ๓ หลัง และเจดีย์ขนาดเล็ก ๓ องค์ ทั้งหมดถูกรายล้อมด้วยกำแพงวัด ทิศตะวันออกของกำแพงวัดมีหอระฆังทรงสี่เหลี่ยม ๓ ชั้น...”
วัดแห่งนี้เงียบสงบ หลวงพ่อเจ้าอาวาสเล่าว่า เมื่อเช้าชาวบ้านเพิ่งมาเวียนเทียนที่โบสถ์ไปแล้ว เมื่อถามว่า ปกติเวียนเทียนเวลากลางคืนมิใช่หรือ หลวงพ่อบอกว่า ชาวบ้านที่นี่ทำไร่ทำนาแต่เช้า กว่าจะเสร็จก็เย็นค่ำ เหนื่อย ก็อยากพักผ่อน ไม่อยากจะมาเวียนเทียนที่วัดแล้ว ทางวัดเลยจัดให้เวียนเทียนตอนเช้าก่อนไปทำไร่ทำนา....
นี่เป็นวิถีชีวิตของคนในบริเวณใกล้เคียงกับวัดวังแดงใต้ ซึ่งก็ปรับชีวิตของตนให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบันนั่นเอง
มาไหว้วัดนี้ ก็เลยสงบเงียบดี ไม่มีผู้คนพลุกพล่านครับ
โดย นายสามเหลี่ยม
วัดวังแดงใต้...วัดไม่ร้าง แต่อ้างว้างนิดหน่อย
เอ่ยถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในช่วงวันหยุดยาว ๔ วันแล้ว มโนในสมองก็คิดไปถึงว่า รถจะติดไปถึงไหน วัดจะมีคนมากราบไหว้ขอพรกันเยอะขนาดไหน การต่อคิวกันเข้าห้องน้ำ หรือแม้กระทั่งซื้ออาหารการกินจะเป็นอย่างไร ฯลฯ จิปาถะจะจินตนาการไปไกลเท่าใด....
“เราจะไปไหว้พระกันที่วัดวังแดงใต้?” น้องชายบอก ...อืม เกิดมาจนอายุปานนี้เพิ่งเคยได้ยิน แต่ไม่แปลกใจเพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีวัดมากมายหลายวัด
น้องชายขับรถวิ่งมาตามถนนวิภาวดีรังสิต จนมาออกถนนสายเอเชีย แล้วยูเทิร์นใต้สะพานข้ามแม่น้ำป่าสักตรงตลาดสุวรรณเกลียวทอง ทางไปอำเภอนครหลวง ขับตรงมาเรื่อยๆ เส้นนี้จะมีรถบรรทุกหนาแน่นสักหน่อย เพราะมีท่าเรืออยู่ เลยป้องตำรวจที่บ้านโพธิ์เอนมาถนนก็จะโล่งแล้ว การจราจรไม่หนาแน่นอย่างที่มโนไปเอง
ไม่นานก็มาถึงวัดวังแดงใต้ เงียบ สงบ แต่วัดแห่งนี้ มีพระอยู่เก้ารูป มีสถานที่โบราณเป็นโบสถ์เก่าตามป้ายประวัติของโบราณสถานวัดวังแดงใต้เขียนไว้ว่า “วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๓๒๐ ตรงกับรัชกาลพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๒ เขตวิสุงคามสีมากว้าง ๔๕ เมตร ยาว ๔๕ เมตร เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินที่ตั้งวัด ๒๒ ไร่ ๑ งาน ๑๒ ตารางวา....
โบราณสถานวัดวังแดงใต้ ประกอบด้วยอุโบสถเป็นประธานของวัด เป็นอาคารอิฐถือปูน ฐานทำเป็นบัวลูกแก้วอกไก่ ฐานและผนังอุโบสถยังพบร่องรอยปูนฉาบอยู่ค่อนข้างมาก โดยปูนฉายได้รับการบูรณะใหม่ในปี พ.ศ.๒๕๕๕ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ อุโบสถหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ด้านหน้าอุโบสถมีหมู่วิหาร ๓ หลัง และเจดีย์ขนาดเล็ก ๓ องค์ ทั้งหมดถูกรายล้อมด้วยกำแพงวัด ทิศตะวันออกของกำแพงวัดมีหอระฆังทรงสี่เหลี่ยม ๓ ชั้น...”
วัดแห่งนี้เงียบสงบ หลวงพ่อเจ้าอาวาสเล่าว่า เมื่อเช้าชาวบ้านเพิ่งมาเวียนเทียนที่โบสถ์ไปแล้ว เมื่อถามว่า ปกติเวียนเทียนเวลากลางคืนมิใช่หรือ หลวงพ่อบอกว่า ชาวบ้านที่นี่ทำไร่ทำนาแต่เช้า กว่าจะเสร็จก็เย็นค่ำ เหนื่อย ก็อยากพักผ่อน ไม่อยากจะมาเวียนเทียนที่วัดแล้ว ทางวัดเลยจัดให้เวียนเทียนตอนเช้าก่อนไปทำไร่ทำนา....
นี่เป็นวิถีชีวิตของคนในบริเวณใกล้เคียงกับวัดวังแดงใต้ ซึ่งก็ปรับชีวิตของตนให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบันนั่นเอง
มาไหว้วัดนี้ ก็เลยสงบเงียบดี ไม่มีผู้คนพลุกพล่านครับ
โดย นายสามเหลี่ยม