เหวียน ฝู จ่อง ผู้มีอำนาจสูงสุดในเวียดนามเสียชีวิต ใครจะได้เป็นผู้นำคนต่อไป

เหวียน ฝู จ่อง (Nguyen Phu Trong) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา ตามรายงานข่าวระบุว่า ผู้มีอำนาจสูงสุดของเวียดนามวัย 80 ปีผู้นี้เสียชีวิตด้วยโรคชราและอาการป่วยรุนแรง 

คำถามสำคัญคือ ใครจะได้เป็นผู้นำคนต่อไปของเวียดนาม ? 

ผู้ที่มีโอกาสมากที่สุด ณ เวลานี้ คงจะเป็น โต เลิม (To Lam) ประธานาธิบดีเวียดนามคนปัจจุบันที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เป็นประธานดูแลการทำงานของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม คณะกรรมการกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม หรือ โปลิตบูโร (Politburo) และสำนักงานเลขาธิการพรรค เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมกันนั้นมีการรายงานว่า เหวียน ฝู จ่อง หยุดพักการทำงานเพื่อดูแลสุขภาพ

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานในวันที่ 19 กรกฎาคม 2024 ถึงการสรรหาผู้สืบทอดตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดในประเทศเวียดนามว่า มีกระบวนการคัดเลือกที่เป็นความลับอย่างยิ่ง และนักวิเคราะห์คาดว่าตำแหน่งในระดับสูงสุดที่ว่างลงจะกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันอย่างดุเดือดในคณะกรรมการกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และคณะกรรมการบริหารกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม 

บลูมเบิร์กระบุว่า แม้ว่า โต เลิม วัย 67 ปี อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งในการที่จะเป็นผู้นำพรรคคนต่อไป แต่ก็ไม่มีการรับประกันความแน่นอนว่าเขาจะได้รับตำแหน่ง 

เดอะนิวยอร์กไทม์ส (The New York Times) รายงานในวันที่ 20 กรกฎาคมว่า โต เลิม จะได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามอย่างถาวรหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าโปลิตบูโรจะรับรองบทบาทใหม่ที่ใหญ่ขึ้นของเขาหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น โต เลิม จะมีโอกาสทำให้ตำแหน่งของเขามั่นคงขึ้นก่อนที่พรรคจะจัดการประชุมใหญ่ครั้งต่อไปในปี 2026 เพื่อคัดเลือกผู้นำระดับสูงของประเทศสำหรับวาระ 5 ปีถัดจากนั้น

“นี่อาจเป็นการปูทางให้โต เลิม ได้เป็นเลขาธิการคนต่อไป … เขาน่าจะเป็นตัวเต็งที่มาแรงกว่าคนอื่น แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าเขาจะได้รับเลือกหรือไม่ เพราะมีกลุ่มต่าง ๆ ในพรรคที่ไม่ต้องการให้เขาได้รับอำนาจมากขนาดนั้น” เหงียน คัก เกียง (Nguyen Khac Giang) นักวิจัยจากสถาบันสถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา ยูซุฟ อิสฮัค (ISEAS-Yusof Ishak) ในสิงคโปร์กล่าว ตามการรายงานของของเดอะนิวยอร์กไทม์ส

คาร์ล เทเยอร์ (Carl Thayer) ศาสตราจารย์กิตติคุณจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ในกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย วิเคราะห์ว่า โต เลิม เป็นหนึ่งใน 4 ผู้ชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่จะดำรงตำแหน่งอย่างน้อย 5 ปีในโปลิตบูโร ก้าวแรกของการที่ โต เลิม จะได้รับการยืนยันว่าจะเป็นผู้ชนะคือการที่เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการเลขาธิการใหญ่ในการประชุมคณะกรรมการพรรคครั้งต่อไป ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด 

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ที่ถูกมองว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามต่อจาก เหวียน ฝู จ่อง คือ หวอ วัน เถือง (Vo Van Thuong) ประธานาธิบดีเวียดนามคนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็น “ดาวรุ่ง” ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เขาเป็นเจ้าของสถิติสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในคณะโปลิตบูโรซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจสูงสุดของพรรค เขามีบทบาทระดับแถวหน้าในงานด้านต่างประเทศของเวียดนาม และยังเป็นบุตรบุญธรรมของ เหวียน ฝู จ่อง ด้วย 

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2024 หวอ วัน เถือง ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากที่เขาถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎของพรรค เป็นการสิ้นสุดเส้นทางอันรุ่งโรจน์ของเขา และโต เลิม ผู้มีชื่อเสียงจากการปราบปรามคอร์รัปชัน ก้าวขึ้นมาแทน 

นอกจากนี้ เดอะนิวยอร์กไทม์สรายงานว่า นักวิเคราะห์ของเวียดนามวิเคราะห์ว่า การเสียชีวิตของ เหวียน ฝู จ่อง ไม่น่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศหรือความสัมพันธ์ทางการค้า เนื่องจากเวียดนามจะยังคงรักษาสมดุลระหว่างความสัมพันธ์ที่เวียดนามมีกับสหรัฐ กับจีน และกับรัสเซีย ต่อไป 

https://www.prachachat.net/world-news/news-1612699
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่