เกริ่นก่อนว่า ผมเคยดูเรื่องนี้ก่อนในช่วงหนังฉายใหม่ๆ จำได้ว่าดูไม่รู้เรื่อง ไม่อิน ดูเเล้วจะหลับ งงไปหมด ซีนนี้ผกกต้องการจะสื่ออะไร? ดูจบก็เป็นหนังเรื่องนึงที่ผ่านมาแล้วผ่านไป  จนมารู้ทีหลังว่ามันสร้างจากเรื่องจริงแล้วเอามา mix ใหม่ในฉบับของ เควนติน  ซึ่งการที่เควนตินเลือกที่จะไม่เล่าพื้นหลังให้คนดูเข้าใจก่อน ก็ถือเป็นดาบสองคมเพราะ คนที่รู้ข่าวอยู่แล้วก็จะดูสนุกและอินมากๆ นอกจากนี้ยังทำให้หนังกระชับขึ้น(นี้กระชับแล้วนะ ล่อไป 3 ชม. ฮาๆ)  แต่สำหรับคนที่ไม่ได้รู้ข่าวมาก่อน  ก็จะเป้นเหมือนผมตอนดูรอบแรก ดูไม่อิน มีแต่คำถามในหัว เหมือนเป้นการสร้างภาระให้คนดูอยู่กลายๆ

    พอตัดสินใจดูรอบที่สอง(แบบทำการบ้านศึกษาข่าวแมนสันมาก่อน)  ซึ่งหลังดูจบ กลายเป็นว่าชอบกว่ารอบแรกนะ คงเพราะไม่ได้คาดหวังมาก แต่ก็ทำให้รู้ว่าการ"ทำการบ้านมาก่อน"มันมีผลต่อความสนุกเยอะมากจริงๆ   ถึงแม้หนังจะออกแนวรอมคอม-แอคชั่นเสียดสีประวัติศาตร์ และกวนทีนตามสไตล์ป๊าเควนติน  แต่กลับให้ความรู้สึกหวาดระแวงเหมือนหนังระทึกขวัญ  เหมือนคนถือระเบิดเวลาที่ไม่รู้จะระเบิดเมื่อไหร่  มีจังหวะแย็บๆให้คนดูลุ้นเล่นๆบ้าง เจ๋งตรงที่ไม่ได้ใช้ซาวด์ระทึกขวัญจนเสียมู้ดหรือสับภาพรัวๆแต่ยังทำให้เรารู้สึกลุ้นไปด้วยได้   การได้เก็บรายละเอียดและเข้าใจลักษณะนิสัยตัวละครมากขึ้น ซึ่งเป็นข้อดีอีกข้อของการดูรอบสอง  โดยเฉพาะตัวเอกหลัก ลีโอนาโด ที่เล่นได้น่าเอ็นดูปนสงสาร บวกกับเซ้นความฮาแบบโก๊ะๆเปิ่นๆ แถมมีมพี่แกก็ผุดมาเป็นดอกเห็น  ส่วนแบรดพิทก็เป็นสตั้นแมนที่โคตรเท่ มีความคูลเก็บอารมณ์ แต่ก็มีคามคิดน้อยและหัวรั้นอยู่บ้าง เลยนำไปสู่เหตุการณ์เกือบชิบผายหลายๆอย่าง

      ส่วนเหตุการณ์สำคัญในองค์สาม ก็ทำบทสรุปออกมาได้ดี สะใจที่เห็นพวกแมนสันโดนกระทำ(ยิ่งดูข่าวมา จะยิ่งอินมากก)  และในตอนจบผมถึงได้เข้าใจความหมายของชื่อหนัง once upon a time in hollywood.... ที่แปลว่ากาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  อยากให้"เรื่องจริง"ที่ชาลอนโดนทำร้าย มันก็เป็นแค่  alternative world หรือไม่ก็เป็นแค่นิทานเรื่องหนึ่ง  เราอยากให้ชีวิตจริงจบแบบในหนัง  รู้สึกถึงความตั้งใจผู้สร้าง ที่ไม่ได้กะเอาประวัติศาตร์มาปู้ยี่ปู้ยำ เอามันส์ไปวันๆ แต่ยังแอบสอดแทรกการ "แก้แค้นพวกแมนสัน" และไว้ด้วย คือจะบอกว่าหนัง tribute ให้ชาลอนก็ไม่เชิง เพราะก็มีความ "fair" ที่ให้ชาลอนเป้นมนุษย์คนนึงที่มีทั้งเรื่องที่ดีและข่าวไม่ดีของเธอนำเสนอในหนังบ้าง ที่ลืมพูดไม่ได้คือ นักแสดงสมทบภายในเรื่องที่พอมาดูในปี 2024 จะคุ้นหน้าตาหลายคนมาก และหลายๆคนก็กลายเป็นดาวรุ่งไปหมดแล้ว  แต่ที่ผมสะดุดตาสุดคือ Bridie Latona ที่รับบทฮิปปี้ที่โบกรถแบรดพิส เสียดายที่ปัจจุบันน้องไม่ได้มีผลงานกระแสมากนัก

    สรุปคือ ถ้าถามผมการเสียเวลา เพื่อทำการบ้านหาข้อมูลมาสักนิด แล้วดูหนังเรื่องนี้จะเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก ยกให้เป็นหนังที่ดีที่สุดอีกเรื่องนึงที่เคยได้ดูมา แต่ถ้าเลือกที่จะดูแบบหัวโล่งๆเลย ก็ดูได้ ไม่แย่ แต่ความอินความสนุกจะหายไปเยอะแน่ๆ