“นิด้าโพล” ปชช. 30.15% ค่อนข้างให้ความสำคัญ คำนำหน้านาม
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_749259/
“นิด้าโพล” ประชาชน 30.15% ค่อนข้างให้ความสำคัญ คำนำหน้านาม ขณะ 89.54% ไม่เคยตรวจสอบบุคคลที่มีคำนำหน้านาม มีเพียงร้อยละ 10.46 ที่เคยตรวจสอบเช่น คำนำหน้านามตามวุฒิการศึกษา
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “คำนำหน้านามนั้น สำคัญไฉน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2567 เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 30.15 ระบุว่า ค่อนข้างให้ความสำคัญ เมื่อเห็นชื่อบุคคลที่มีคำนำหน้านาม ร้อยละ 28.56 ระบุว่า ไม่ค่อยให้ความสำคัญ, ร้อยละ 26.18 ระบุว่า ไม่ให้ความสำคัญเลย และ ร้อยละ 15.11 ระบุว่า ให้ความสำคัญมาก
สำหรับการให้เกียรติบุคคลที่มีคำนำหน้านามประเภทต่าง ๆ เมื่อพบเจอกัน
1. ผู้มีคำนำหน้านามตามฐานันดรศักดิ์ เช่น หม่อมหลวง หม่อมราชวงศ์ เป็นต้น ร้อยละ 43.28 ระบุ ให้เกียรติมาก, ร้อยละ 36.41 ค่อนข้างให้เกียรติ, ร้อยละ 12.14 ระบุว่า ไม่ค่อยให้เกียรติ ร้อยละ 4.27 ระบุว่าไม่ให้เกียรติเลย และร้อยละ 3.90 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
2. ผู้มีคำนำหน้านามตามวิชาชีพ เช่น นายแพทย์ แพทย์หญิง เป็นต้น ร้อยละ 43.75 ระบุ ค่อนข้างให้เกียรติ ร้อยละ 43.05 ระบุ ให้เกียรติมาก ร้อยละ 9.01 ไม่ค่อยให้เกียรติ ร้อยละ 3.66 ระบุ ไม่ให้เกียรติเลย และร้อยละ 0.53 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
3. ผู้มีคำนำหน้านามตามตำแหน่งวิชาการ เช่น ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ เป็นต้น ร้อยละ 43.97 ระบุว่า ค่อนข้างให้เกียรติ ร้อยละ 35.27 ระบุว่า ให้เกียรติมาก ร้อยละ 12.37 ไม่ค่อยให้เกียรติ ร้อยละ 6.10 ไม่ให้เกียรติเลย และ ร้อยละ 2.29 ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
4. ผู้ที่มีคำนำหน้านามตามวุฒิการศึกษา เช่น ดอกเตอร์ เป็นต้น ร้อยละ 41.76 ระบุ ค่อนข้างให้เกียรติ ร้อยละ 32.67 ระบุ ให้เกียรติมาก ร้อยละ 14.96 ระบุ ไม่ค่อยให้เกียรติ ร้อยละ 7.79 ระบุ ไม่ให้เกียรติเลย และร้อยละ 2.82 ระบุ ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
5. ผู้มีคำนำหน้านามตามยศ เช่น พลเอก พลตำรวจเอก เป็นต้น ตัวอย่าง ร้อยละ 44.12 ระบุ ค่อนข้างให้เกียรติ ร้อยละ 29.47 ระบุ ให้เกียรติมาก ร้อยละ 17.25 ระบุ ไม่ค่อยให้เกียรติร้อยละ 7.63 ระบุ ไม่ให้เกียรติเลย และร้อยละ 1.53 ระบุ ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
6. ผู้มีคำนำหน้านามสตรีที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เช่น คุณหญิง ท่านผู้หญิง เป็นต้น ร้อยละ 39.01 ระบุ ค่อนข้างให้เกียรติ ร้อยละ 29.31 ระบุ ให้เกียรติมาก ร้อยละ 17.56ระบุ ไม่ค่อยให้เกียรติ ร้อยละ 9.01 ระบุ ไม่ให้เกียรติเลย และร้อยละ 5.11 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
สำหรับการตรวจสอบบุคคลที่มีคำนำหน้านาม ร้อยละ 89.54 ระบุว่า ไม่เคยตรวจสอบใด ๆ เลย ขณะที่ ร้อยละ 10.46 ระบุว่า เคยตรวจสอบผู้มีคำนำหน้านาม เมื่อสอบถามเกี่ยวกับประเภท ของคำนำหน้านามที่เคยตรวจสอบ ร้อยละ 49.64 ระบุว่า เคยตรวจสอบผู้มีคำนำหน้านามตามวุฒิการศึกษา ร้อยละ 46.72 ระบุว่า เคยตรวจสอบผู้มีคำนำหน้านามตามยศ และ ร้อยละ 40.88 ระบุว่า เคยตรวจสอบผู้มีคำนำหน้านามตามวิชาชีพ
เมื่อสอบถามความคิดเห็นของผู้ที่ระบุว่าเคยตรวจสอบผู้ที่มีคำนำหน้านาม เกี่ยวกับผลการตรวจสอบบุคคลที่มีคำนำหน้านาม พบว่า ร้อยละ 48.91 ระบุ ไม่เคยเจอว่าเป็นการแอบอ้างใช้คำนำหน้านาม ร้อยละ 32.85 ระบุ เคยเจอว่าเป็นการแอบอ้างใช้คำนำหน้านาม และร้อยละ 18.24 ระบุ ตรวจแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นการแอบอ้างใช้คำนำหน้านามหรือไม่
“พิธา” เวียนเทียน-อาบน้ำนมพระพิฆเนศ เจอทักถ้าไม่มีเกมสกปรก ได้เป็นนายกฯ แล้ว
https://www.thairath.co.th/news/politic/2802174
“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เดินสายมู ร่วมพิธีสรงสนาน อาบน้ำนมพระพิฆเนศ-เวียนเทียนวัดศรีสุพรรณ พร้อมพบปะประชาชนถนนวัวลาย ป้าวัย 71 วิ่งโผกอด ร้องโอ๊ยชื่นใจ ถ้าไม่มีเกมสกปรก ได้เป็นนายกฯ ไปแล้ว
วันที่ 20 ก.ค. 2567 นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกล เดินถนนคนเดินวัวลาย ซึ่งเป็นถนนคนเดินทุกวันเสาร์ ก่อนจะเดินไปยังวัดศรีสุพรรณ เพื่อร่วมทำบุญเนื่องในวันอาสาฬหบูชา
บรรยากาศระหว่างที่นาย
พิธา เดินในถนนคนเดินวัวลาย มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจและขอเข้ามาถ่ายรูปกับนายพิธาเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีประชาชนมากล่าวให้กำลังใจและสวมกอดนายพิธาเป็นระยะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินถนนวัวลาย จู่ๆ มีนาง
กิตติมา สินรา อายุ 71 ปี โผเข้ามากอดให้กำลังใจนาย
พิธา พร้อมส่งเสียงด้วยความดีใจที่เจอ และบอกว่า “
อยากเห็นนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี และจะรอจนถึงตัวเองอายุ 80 ปี” นายพิธา ได้ขอบคุณกำลังใจ พร้อมตอบกลับว่า “
จะพยายามเป็นให้ได้ก่อนคุณป้าอายุ 80 ปี”
นาง
กิตติมา บอกกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า ตนเป็นคนภูเก็ต แต่มารับราชการที่ จ.เชียงใหม่ “
รักพรรคก้าวไกลมากนะ ความหวังอยู่ที่ก้าวไกล โอ๊ยชื่นใจ วันนี้ได้เจอพิธา แม่มีข้างในนะองค์พระพิฆเนศ แม่บอก สส.ที่นี่ ว่าจะได้เป็น สส. สรุปได้เป็นทุกคนเลย คนปัจจุบันยังเป็นนายกเทศมนตรีอยู่เลย แม่บอกพิธาได้เป็น ถ้าไม่สกปรก ไม่ต้องห่วง”
ทั้งนี้ นาง
กิตติมา ยังกล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ด้วยว่า แย่ แย่ที่สุด ยุคลุงตู่ว่าแย่แล้ว แต่ตอนนี้แย่มาก เอาออกไปให้หมด แล้วเอาเด็กรุ่นใหม่มาเป็น จะได้พัฒนาบ้านเมือง
...
จากนั้นนาย
พิธาเข้าไปที่วัดศรีสุพรรณ ร่วมชมการแสดงฟ้อนเทียน จากนั้นได้ถูกเชิญให้ทำพิธี “
สรงสนาน องค์พระพิฆเนศ” ด้วยการอาบน้ำนมและน้ำเปล่า ซึ่งเชื่อว่าเป็นการชำระล้างสิ่งไม่ดีให้ออกไป จากนั้นได้เข้าไปสักการะ “
พระเจ้าเจ็ดตื้อ” พระประธานในพระอุโบสถของวัด เจ้าหน้าที่วัดพาชมประติมากรรมภายในพระอุโบสถ ก่อนจะออกมาร่วมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ
หลังเวียนเทียน นายพิธาและคณะ รับพรและสนทนาธรรมกับพระครู
พิทักษ์สุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีสุพรรณ จากนั้นพระครูได้นำองค์พระพิฆเนศมามอบให้นาย
พิธา แล้วนาย
พิธาก็รีบออกจากวัดไปขึ้นรถตู้ แต่ก่อนจะถึงรถตู้ได้หันกลับมาบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องขอถวายพระพิฆเนศคืนท่านเจ้าอาวาส เพราะได้ดูราคาแล้วมีราคาเกิน 3,000 บาท จึงไม่สามารถรับเอาไว้ได้ ก่อนจะขึ้นรถตู้รีบไปสนามบินต่อไป
ยังน่าห่วง! ฝนถล่ม จ.ตราด นํ้าท่วมถนนหลายสาย สูงสุด 1 เมตร-รถเล็กผ่านไม่ได้แล้ว
https://www.dailynews.co.th/news/3667370/
สถานการณ์น้ำท่วม จ.ตราด ยังน่าห่วงหลังเกิดเหตุฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลทำให้มีนํ้าท่วมขังบนถนนหลายสาย รถเล็กสัญจรยากลำบาก บางจุดไม่สามารถผ่านได้แล้ว
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ช่วงเช้าของวันนี้ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในเขต จ.ตราด โดยเฉพาะ อ.เมืองตราด และ อ.เขาสมิง จนส่งผลให้ถนนสุขุมวิท สาย 3 ตั้งแต่ตัวเมืองตราด – เขาสมิง ระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร มีน้ำท่วมถนนทั้งหมด จำนวน 8 จุด ทำให้การสัญจรยากลำบาก
โดย จุดที่ 1 : โค้งอีซูซุตราด ขาออกเมือง ต.วังกระแจะ อ.เมือง น้ำท่วมสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร
จุดที่ 2 : หน้าแลคตาซอย ทั้งเข้าและออก น้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร
จุดที่ 3 : อบจ.ตราด ขาออกเมือง ต.วังกระแจะ อ.เมือง น้ำท่วมสูงประมาณ 60 เซนติเมตร
จุดที่ 4 : แขวงทางหลวงตราด – แยกท่าประดู่ ต.วังกระแจะ อ.เมือง ทั้งขาเข้าและขาออก ความยาวประมาณ 500 เมตร น้ำท่วมสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร
จุดที่ 5 : โค้งสวนใน ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง ขาเข้าเมือง น้ำท่วมสูงประมาณ 50-100 เซนติเมตร รถทุกชนิดวิ่งไม่ได้ ต้องใช้ทางขาออกเมืองตราดในการสัญจร
จุดทึ่ 6 : ก่อนถึงแยกเขาสมิง อ.เขาสมิง ขาออกเมือง น้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร
จุดที่ 7 : หน้าสวนเติมทรัพย์ ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง น้ำท่วมทั้งเข้าและออก ความสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร
จุดที่ 8 : แยกโพธิกิจ – โฮมวัสดุภัณฑ์ ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง น้ำท่วมถนน ฝั่งขาเข้าเมืองตราด ความสูง 40-50 เซนติเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ต้องเปลี่ยนใช้ถนนฝั่งขาออกเมืองตราดแทน
ส่วนเขตเทศบาลเมืองตราด มีน้ำท่วมขัง ที่ถนนเทศบาล 5 ,ถนนเทศบาล 3 ,ถนนเทดจรัญ ,ถนนตัดใหม่ ,ถนนวิจิตรจรรยาและบริเวณหน้าร้านเมย์ ซึ่งเป็นจุดเดิมที่เคยท่วมเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา
ล่าสุดสถานการณ์น้ำท่วมยังคงทรงตัว เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังบ้านเรือประชาชนที่ติดกับถนนที่เป็นพื้นที่ต่ำถูกน้ำท่วมหลายสิบหลัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือแล้ว.
JJNY : 30.15% ค่อนข้างให้ความสำคัญ คำนำหน้านาม│“พิธา”เจอทัก ถ้าไม่มีเกมสกปรกเป็นนายกฯ แล้ว │ฝนถล่มจ.ตราด│อิสราเอลโจมตี
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_749259/
“นิด้าโพล” ประชาชน 30.15% ค่อนข้างให้ความสำคัญ คำนำหน้านาม ขณะ 89.54% ไม่เคยตรวจสอบบุคคลที่มีคำนำหน้านาม มีเพียงร้อยละ 10.46 ที่เคยตรวจสอบเช่น คำนำหน้านามตามวุฒิการศึกษา
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “คำนำหน้านามนั้น สำคัญไฉน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2567 เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 30.15 ระบุว่า ค่อนข้างให้ความสำคัญ เมื่อเห็นชื่อบุคคลที่มีคำนำหน้านาม ร้อยละ 28.56 ระบุว่า ไม่ค่อยให้ความสำคัญ, ร้อยละ 26.18 ระบุว่า ไม่ให้ความสำคัญเลย และ ร้อยละ 15.11 ระบุว่า ให้ความสำคัญมาก
สำหรับการให้เกียรติบุคคลที่มีคำนำหน้านามประเภทต่าง ๆ เมื่อพบเจอกัน
1. ผู้มีคำนำหน้านามตามฐานันดรศักดิ์ เช่น หม่อมหลวง หม่อมราชวงศ์ เป็นต้น ร้อยละ 43.28 ระบุ ให้เกียรติมาก, ร้อยละ 36.41 ค่อนข้างให้เกียรติ, ร้อยละ 12.14 ระบุว่า ไม่ค่อยให้เกียรติ ร้อยละ 4.27 ระบุว่าไม่ให้เกียรติเลย และร้อยละ 3.90 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
2. ผู้มีคำนำหน้านามตามวิชาชีพ เช่น นายแพทย์ แพทย์หญิง เป็นต้น ร้อยละ 43.75 ระบุ ค่อนข้างให้เกียรติ ร้อยละ 43.05 ระบุ ให้เกียรติมาก ร้อยละ 9.01 ไม่ค่อยให้เกียรติ ร้อยละ 3.66 ระบุ ไม่ให้เกียรติเลย และร้อยละ 0.53 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
3. ผู้มีคำนำหน้านามตามตำแหน่งวิชาการ เช่น ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ เป็นต้น ร้อยละ 43.97 ระบุว่า ค่อนข้างให้เกียรติ ร้อยละ 35.27 ระบุว่า ให้เกียรติมาก ร้อยละ 12.37 ไม่ค่อยให้เกียรติ ร้อยละ 6.10 ไม่ให้เกียรติเลย และ ร้อยละ 2.29 ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
4. ผู้ที่มีคำนำหน้านามตามวุฒิการศึกษา เช่น ดอกเตอร์ เป็นต้น ร้อยละ 41.76 ระบุ ค่อนข้างให้เกียรติ ร้อยละ 32.67 ระบุ ให้เกียรติมาก ร้อยละ 14.96 ระบุ ไม่ค่อยให้เกียรติ ร้อยละ 7.79 ระบุ ไม่ให้เกียรติเลย และร้อยละ 2.82 ระบุ ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
5. ผู้มีคำนำหน้านามตามยศ เช่น พลเอก พลตำรวจเอก เป็นต้น ตัวอย่าง ร้อยละ 44.12 ระบุ ค่อนข้างให้เกียรติ ร้อยละ 29.47 ระบุ ให้เกียรติมาก ร้อยละ 17.25 ระบุ ไม่ค่อยให้เกียรติร้อยละ 7.63 ระบุ ไม่ให้เกียรติเลย และร้อยละ 1.53 ระบุ ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
6. ผู้มีคำนำหน้านามสตรีที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เช่น คุณหญิง ท่านผู้หญิง เป็นต้น ร้อยละ 39.01 ระบุ ค่อนข้างให้เกียรติ ร้อยละ 29.31 ระบุ ให้เกียรติมาก ร้อยละ 17.56ระบุ ไม่ค่อยให้เกียรติ ร้อยละ 9.01 ระบุ ไม่ให้เกียรติเลย และร้อยละ 5.11 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ
สำหรับการตรวจสอบบุคคลที่มีคำนำหน้านาม ร้อยละ 89.54 ระบุว่า ไม่เคยตรวจสอบใด ๆ เลย ขณะที่ ร้อยละ 10.46 ระบุว่า เคยตรวจสอบผู้มีคำนำหน้านาม เมื่อสอบถามเกี่ยวกับประเภท ของคำนำหน้านามที่เคยตรวจสอบ ร้อยละ 49.64 ระบุว่า เคยตรวจสอบผู้มีคำนำหน้านามตามวุฒิการศึกษา ร้อยละ 46.72 ระบุว่า เคยตรวจสอบผู้มีคำนำหน้านามตามยศ และ ร้อยละ 40.88 ระบุว่า เคยตรวจสอบผู้มีคำนำหน้านามตามวิชาชีพ
เมื่อสอบถามความคิดเห็นของผู้ที่ระบุว่าเคยตรวจสอบผู้ที่มีคำนำหน้านาม เกี่ยวกับผลการตรวจสอบบุคคลที่มีคำนำหน้านาม พบว่า ร้อยละ 48.91 ระบุ ไม่เคยเจอว่าเป็นการแอบอ้างใช้คำนำหน้านาม ร้อยละ 32.85 ระบุ เคยเจอว่าเป็นการแอบอ้างใช้คำนำหน้านาม และร้อยละ 18.24 ระบุ ตรวจแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นการแอบอ้างใช้คำนำหน้านามหรือไม่
“พิธา” เวียนเทียน-อาบน้ำนมพระพิฆเนศ เจอทักถ้าไม่มีเกมสกปรก ได้เป็นนายกฯ แล้ว
https://www.thairath.co.th/news/politic/2802174
“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เดินสายมู ร่วมพิธีสรงสนาน อาบน้ำนมพระพิฆเนศ-เวียนเทียนวัดศรีสุพรรณ พร้อมพบปะประชาชนถนนวัวลาย ป้าวัย 71 วิ่งโผกอด ร้องโอ๊ยชื่นใจ ถ้าไม่มีเกมสกปรก ได้เป็นนายกฯ ไปแล้ว
วันที่ 20 ก.ค. 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกล เดินถนนคนเดินวัวลาย ซึ่งเป็นถนนคนเดินทุกวันเสาร์ ก่อนจะเดินไปยังวัดศรีสุพรรณ เพื่อร่วมทำบุญเนื่องในวันอาสาฬหบูชา
บรรยากาศระหว่างที่นายพิธา เดินในถนนคนเดินวัวลาย มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจและขอเข้ามาถ่ายรูปกับนายพิธาเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีประชาชนมากล่าวให้กำลังใจและสวมกอดนายพิธาเป็นระยะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินถนนวัวลาย จู่ๆ มีนางกิตติมา สินรา อายุ 71 ปี โผเข้ามากอดให้กำลังใจนายพิธา พร้อมส่งเสียงด้วยความดีใจที่เจอ และบอกว่า “อยากเห็นนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี และจะรอจนถึงตัวเองอายุ 80 ปี” นายพิธา ได้ขอบคุณกำลังใจ พร้อมตอบกลับว่า “จะพยายามเป็นให้ได้ก่อนคุณป้าอายุ 80 ปี”
นางกิตติมา บอกกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า ตนเป็นคนภูเก็ต แต่มารับราชการที่ จ.เชียงใหม่ “รักพรรคก้าวไกลมากนะ ความหวังอยู่ที่ก้าวไกล โอ๊ยชื่นใจ วันนี้ได้เจอพิธา แม่มีข้างในนะองค์พระพิฆเนศ แม่บอก สส.ที่นี่ ว่าจะได้เป็น สส. สรุปได้เป็นทุกคนเลย คนปัจจุบันยังเป็นนายกเทศมนตรีอยู่เลย แม่บอกพิธาได้เป็น ถ้าไม่สกปรก ไม่ต้องห่วง”
ทั้งนี้ นางกิตติมา ยังกล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ด้วยว่า แย่ แย่ที่สุด ยุคลุงตู่ว่าแย่แล้ว แต่ตอนนี้แย่มาก เอาออกไปให้หมด แล้วเอาเด็กรุ่นใหม่มาเป็น จะได้พัฒนาบ้านเมือง
...
จากนั้นนายพิธาเข้าไปที่วัดศรีสุพรรณ ร่วมชมการแสดงฟ้อนเทียน จากนั้นได้ถูกเชิญให้ทำพิธี “สรงสนาน องค์พระพิฆเนศ” ด้วยการอาบน้ำนมและน้ำเปล่า ซึ่งเชื่อว่าเป็นการชำระล้างสิ่งไม่ดีให้ออกไป จากนั้นได้เข้าไปสักการะ “พระเจ้าเจ็ดตื้อ” พระประธานในพระอุโบสถของวัด เจ้าหน้าที่วัดพาชมประติมากรรมภายในพระอุโบสถ ก่อนจะออกมาร่วมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ
หลังเวียนเทียน นายพิธาและคณะ รับพรและสนทนาธรรมกับพระครูพิทักษ์สุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีสุพรรณ จากนั้นพระครูได้นำองค์พระพิฆเนศมามอบให้นายพิธา แล้วนายพิธาก็รีบออกจากวัดไปขึ้นรถตู้ แต่ก่อนจะถึงรถตู้ได้หันกลับมาบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องขอถวายพระพิฆเนศคืนท่านเจ้าอาวาส เพราะได้ดูราคาแล้วมีราคาเกิน 3,000 บาท จึงไม่สามารถรับเอาไว้ได้ ก่อนจะขึ้นรถตู้รีบไปสนามบินต่อไป
ยังน่าห่วง! ฝนถล่ม จ.ตราด นํ้าท่วมถนนหลายสาย สูงสุด 1 เมตร-รถเล็กผ่านไม่ได้แล้ว
https://www.dailynews.co.th/news/3667370/
สถานการณ์น้ำท่วม จ.ตราด ยังน่าห่วงหลังเกิดเหตุฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลทำให้มีนํ้าท่วมขังบนถนนหลายสาย รถเล็กสัญจรยากลำบาก บางจุดไม่สามารถผ่านได้แล้ว
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ช่วงเช้าของวันนี้ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในเขต จ.ตราด โดยเฉพาะ อ.เมืองตราด และ อ.เขาสมิง จนส่งผลให้ถนนสุขุมวิท สาย 3 ตั้งแต่ตัวเมืองตราด – เขาสมิง ระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร มีน้ำท่วมถนนทั้งหมด จำนวน 8 จุด ทำให้การสัญจรยากลำบาก
โดย จุดที่ 1 : โค้งอีซูซุตราด ขาออกเมือง ต.วังกระแจะ อ.เมือง น้ำท่วมสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร
จุดที่ 2 : หน้าแลคตาซอย ทั้งเข้าและออก น้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร
จุดที่ 3 : อบจ.ตราด ขาออกเมือง ต.วังกระแจะ อ.เมือง น้ำท่วมสูงประมาณ 60 เซนติเมตร
จุดที่ 4 : แขวงทางหลวงตราด – แยกท่าประดู่ ต.วังกระแจะ อ.เมือง ทั้งขาเข้าและขาออก ความยาวประมาณ 500 เมตร น้ำท่วมสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร
จุดที่ 5 : โค้งสวนใน ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง ขาเข้าเมือง น้ำท่วมสูงประมาณ 50-100 เซนติเมตร รถทุกชนิดวิ่งไม่ได้ ต้องใช้ทางขาออกเมืองตราดในการสัญจร
จุดทึ่ 6 : ก่อนถึงแยกเขาสมิง อ.เขาสมิง ขาออกเมือง น้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร
จุดที่ 7 : หน้าสวนเติมทรัพย์ ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง น้ำท่วมทั้งเข้าและออก ความสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร
จุดที่ 8 : แยกโพธิกิจ – โฮมวัสดุภัณฑ์ ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง น้ำท่วมถนน ฝั่งขาเข้าเมืองตราด ความสูง 40-50 เซนติเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ต้องเปลี่ยนใช้ถนนฝั่งขาออกเมืองตราดแทน
ส่วนเขตเทศบาลเมืองตราด มีน้ำท่วมขัง ที่ถนนเทศบาล 5 ,ถนนเทศบาล 3 ,ถนนเทดจรัญ ,ถนนตัดใหม่ ,ถนนวิจิตรจรรยาและบริเวณหน้าร้านเมย์ ซึ่งเป็นจุดเดิมที่เคยท่วมเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา
ล่าสุดสถานการณ์น้ำท่วมยังคงทรงตัว เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังบ้านเรือประชาชนที่ติดกับถนนที่เป็นพื้นที่ต่ำถูกน้ำท่วมหลายสิบหลัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือแล้ว.