คุณลองคิดดู เทคโนโลยีทำให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิต เช่นกรณีรถแท็กซี่ไร้คนขับ ซึ่งตอนนี้จีนกับสหรัฐเริ่มใช้แล้ว*(1,2)
(1) Riding Google's NEW Waymo Driverless taxi in LA!
(2) Luobu kuaipao Wuhan Driverless Taxi
อีกไม่นาน การกลายเป็นหุ่นยนต์ของรถตัก รถไถ รถบด เครื่องบิน เครน สายการผลิต ล้วนไม่ใช้คน หรือใช้แค่คนเดียว
ก่อให้เกิดปัญหาว่า แล้วคนจะเอาเงินที่ไหนทำกิน
ถ้างั้นคนก็ไปทำเกษตรสิ
แต่อีกไม่นาน โรงเรือนหุ่นยนต์ก็จะมาอีก การทำเกษตรแบบโรงงานและกลายเป็นระบบอัตโนมัติก็จะมาอีก ทำให้การเกษตรเพื่อการค้าของรายย่อยต้องแพ้พ่ายไปอีก
ผลที่ตามมาคือ
1. ประชากรลด เมื่อโลกยังคงใช้ระบบทุนนิยม เมื่อมนุษย์ตีคุณค่าตัวเองด้วยเงิน หรือความสามารถในการหาเงิน เมื่อตำแหน่งทั่วไปลดลง คุณค่าของมนุษย์ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงานอัตโนมัติเหล่านั้นก็ลดลง ไม่มีเงินก็ฆ่าตัวตาย หรือถ้ามีเงินเพียงพอแค่ตัวเองก็ไม่มีลูก
2. สินค้าจะราคาถูกมาก ทำงานวันเดียวก็ได้รถยนต์ ทำงาน5วันก็ได้บ้าน ปัญหาคือไม่มีงานให้ทำ
3. ความมั่งคั่งไปสะสมอยู่ที่แต่ละประเทศคนไม่กี่คน และกระจุกตัวอยู่ไม่กี่ประเทศ คนเหล่านี้จะรวยล้นฟ้า ล้นล้นฟ้า มหามหาเศรษฐี ในขณะที่ประชากรทั่วไป ถ้าหางานได้ ก็จะมีรายได้เยอะมาก ถ้าตกงานก็ไม่มีรายได้เลย ไม่มีคำว่า เงินเดือนน้อย มีแค่เงินเดือนเยอะมาก กับตกงาน (เพราะหุ่นยนต์แม่บ้าน หุ่นยนต์ทุกอย่างตอบสนองความต้องการของพนักงานของคนรวยเหล่านี้
4. ไม่นาน คนรวยมหามหาเศรษฐีเหล่านี้ก็จะเข้าไปแต่งงานกับกลุ่มคนมีอำนาจทางทหารของแต่ละประเทศ ก่อให้เกิด อำนาจแต่งงานกับเงินรวมตัวกลายเป็นคนกลุ่มเดียวกันในที่สุด เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว กรณีของญีุ่่ปุ่นก่อนสงครามโลกเรียกว่ากลุ่มไซบัทสึ กรณีเกาหลีเรียกว่าแชรโบล (คำนี้ผมเข้าใจว่าแปลว่า กลุ่มทุน)
5. แต่มหามหาเศรษฐีกับคนมีอำนาจเหล่านี้ ยังคงต้องการคนจน เพราะต้องการพนักงาน ยิ่งรวยยิ่งติดสบาย ต้องการคนอื่นมาดูแล และเพราะว่าสงครามอาจจะเกิดเมื่อได้ก็ได้ สงครามในอนาคตจะเป็นสงครามหุ่นยนต์ก็จริง แต่เป้าหมายสงครามยังคงเป็นการสังหารมนุษย์ ผู้ชนะจะชนะที่การมีคนเหลือเยอะกว่า ดังนั้นจะต้องให้ประชากรส่วนใหญ่อยู่รอด งั้นจะทำอย่างไร
5.1 มาร์ค ซัคเคอร์เบอร์ก*, World economic forum คุณสวจ๊วบ ได้เฉลยออกมาแล้ว*(3,4) คือการแจกเงินให้คนทั่วไป วิธีการนี้ฟังเหมือนดี แต่ความจริงแล้ว เมื่อไหร่ที่ใครต้องพึ่งเงินคนอื่นเพื่ออยู่รอด นั่นคือ คนๆนั้นก็เป็นทาสเงินของผู้อื่นไปแล้ว แต่นั่นแหละ นอกจากวิธีนี้แล้วยังไม่มีวิธีอื่นที่ผมคิดออก จนกระทั่งการมาถึงของปลาหมอคางดำหรือปลานีลคางดำ ที่อาจจะเป็นทางรอดของผู้ที่ต้องการอยู่อย่างไม่พึ่งพาเงินพวกมหามหาเศรษฐี
(3) มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก: Universal Basic Income
(4) WEF Klaus Schwab: You will own nothing and be happy
5.2 ตกลงแล้ว โลกแบบนี้ดีหรือไม่ดี? ไม่ต้องทำงานก็มีกิน มีหุ่นยนต์ทำงานให้ทุกอย่าง แต่ถ้าต้องการมากกว่าการมีกิน ถ้าต้องการการรักษาโรค การมีใช้ด้วย ถ้าต้องการการแต่งงาน มีลูก ก็ต้องทำงาน ถ้าต้องการมีเซ็กส์ ก็มีหุ่นยนต์บริการอีก
6. การมาถึงของมดลูกเทียม ในที่สุด มดลูกเทียมก็จะถูกคิดค้นขึ้น และเหล่ามหามหาเศรษฐี ก็จะมีลูกหลานคนละหมื่นละแสนคน แก้ไขปัญหาประชากรขาดแคลนในที่สุด และพนักงานเงินเดือนสูงของเหล่ามหามหาเศรษฐีก็จะได้ใช้ด้วย
7. แล้วมหามหาเศรษฐี เจอกับมหามหาเศรษฐีด้วยกันจะเกิดไรขึ้น? เกิดการแข่งขันครับ แข่งขันทำอะไร
7.1 ล้มฝ่ายตรงข้ามด้วยการแฮ็คข้อมูลโรงงานอีกฝ่าย เมื่อทุกอย่างทำด้วยหุ่นยนต์ นั่นหมายความว่าถ้าผมแฮ็คระบบโรงงานคุณได้ ผมรู้ทุกอย่าง คู่ค้าคุณเป็นใคร กระบวนการผลิตยังไงรู้ทุกเสี้ยววินาที ถ้าผมขโมย source code ของโรงงานคุณได้ ผมก็ทำโรงงานแข่งได้เลย
7.2 เนื่องจากมหามหาเศรษฐีต้องทำงานเพื่อประเทศ เพราะแต่งงงานไปแล้วกับพวกอำนาจทหาร จะก่อให้เกิดสิ่งต่อไปนี้ข้อ 8
7.3 หาเงินจากมหามหาเศรษฐีด้วยกัน แล้วจะหาเงินยังไง? การชลอความชรา หรือการยืดอายุคือคำตอบ นั่นก่อให้เกิดการลงทุนในเรื่องของการวิจัยหาทางไม่แก่ หรืออายุยืน200ปี ผลของมันจะทำให้มหามหาเศรษฐีกลายเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ของมนุษย์ที่ดัดแปลงพันธุกรรม เป็นคนเหนือคนที่อายุยืน200ปี
7.4 จากข้อด้านบน มหามหาเศรษฐีที่โหดร้ายบางคนจะวิจัยให้ประชาชนทั่วไปโดนแปลงพันธุกรรมให้อายุสั้นลงด้วย เพราะการแบ่งชนชั้นที่ดีที่สุดคือแบ่งพันธุกรรมไปเลย คนทั่วไปอาจจะต้องกินอาหารที่ปนเปื้อนสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงยีนส์ให้อายุสั้นลง
8. การเตรียมการของสงครามโลก และการหนีไปดาวดวงอื่น มนุษย์เรา พระเจ้าดูเหมือนจะกำหนดให้ต้องรบกันตลอดไป เพราะผู้ชนะสงครามยึดครองทุกอย่าง มีอำนาจออกกฏ ผู้แพ้ต้องสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ นั่นจะทำให้ประเทศที่เตรียมทำสงครามหาทางหนีไปดาวดวงอื่นหากแพ้ ถ้าคุณดูประวัติศาสตร์คุณจะพบว่าปราสาทของพระราชาในสมัยโบราณจะมีทางลับหนีไปที่ไกลโพ้น ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หากเราดูโครงการอวกาศของจีน มันค่อนข้างต่างจากเมกาคือจีนค่อนไปทางรีบตั้งบ้านบนดวงจันทร์ นั่นเพราะจีนเป็นฝ่ายอาจจะแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สามมากกว่าเมกา แต่เมื่อจีนไปต่างดาว สหรัฐเมกาก็ต้องไปต่างดาวเช่นกัน
8.1 ประชากรบางส่วนจะถูกบังคับให้กลายเป็นมนุษย์ดาวอังคารหรือมนุษย์ดวงจันทร์ เพราะประชากรส่วนใหญ่กลายเป็นทาสเงินของรัฐบาลและกุ่มมหามหาเศรษฐี เขาสั่งอะไรก็ต้องไปทำ หรือไม่งั้นเขาตัดเงินก็คืออดตาย
8.2 สงครามร้อนๆจะปะทุบ่อยขึ้นตามประเทศที่มีอำนาจเงินอำนาจทหารน้อย ในลักษณะสงครามตัวแทน คนจำนวนมากจะตายในสงครามอีก
----------------------------------------------------------------
โดยสรุป โลกในอนาคตจะเป็นโลกที่คนที่เหลือจำนวนน้อยนิด อาจจะแค่500ล้านคนทั้งโลก จะกลายเป็นทาสของกลุ่มทุนที่รวมตัวกับรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลและกลุ่มทุนของประเทศมหาอำนาจ ต้องขึ้นอยู่กับ / พึ่งพา กลุ่มทุนในการมีชีวิต อาจจะต้องอายุขัยสั้นลง แต่ในขณะเดียวกัน ก็กินฟรีอยู่ฟรี ทำงานเฉพาะถ้าต้องการมีลูกมีเมีย แต่ถ้าไม่ต้องการมีลูกเมียก็มีหุ่นยนต์ทำงาน/บริการ แต่แลกกับการที่ต้องเชื่อฟังรัฐบาลหรือกลุ่มทุนแบบ100%
นั่นคือระบบ คอมมิวนิสต์/สังคมนิยมสำหรับคนทั่วไป แต่เป็นระบบทุนนิยม สำหรับกลุ่มมหามหาเศรษฐีและคนจำนวนน้อยที่ได้รับการเลือกให้เป็นพนักงานของกลุ่มทุน
เดาอนาคต: ยิ่งพัฒนาเทคโนโลยี ยิ่งวิ่งหาระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์/สังคมนิยม
(1) Riding Google's NEW Waymo Driverless taxi in LA!
(2) Luobu kuaipao Wuhan Driverless Taxi
อีกไม่นาน การกลายเป็นหุ่นยนต์ของรถตัก รถไถ รถบด เครื่องบิน เครน สายการผลิต ล้วนไม่ใช้คน หรือใช้แค่คนเดียว
ก่อให้เกิดปัญหาว่า แล้วคนจะเอาเงินที่ไหนทำกิน
ถ้างั้นคนก็ไปทำเกษตรสิ
แต่อีกไม่นาน โรงเรือนหุ่นยนต์ก็จะมาอีก การทำเกษตรแบบโรงงานและกลายเป็นระบบอัตโนมัติก็จะมาอีก ทำให้การเกษตรเพื่อการค้าของรายย่อยต้องแพ้พ่ายไปอีก
ผลที่ตามมาคือ
1. ประชากรลด เมื่อโลกยังคงใช้ระบบทุนนิยม เมื่อมนุษย์ตีคุณค่าตัวเองด้วยเงิน หรือความสามารถในการหาเงิน เมื่อตำแหน่งทั่วไปลดลง คุณค่าของมนุษย์ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงานอัตโนมัติเหล่านั้นก็ลดลง ไม่มีเงินก็ฆ่าตัวตาย หรือถ้ามีเงินเพียงพอแค่ตัวเองก็ไม่มีลูก
2. สินค้าจะราคาถูกมาก ทำงานวันเดียวก็ได้รถยนต์ ทำงาน5วันก็ได้บ้าน ปัญหาคือไม่มีงานให้ทำ
3. ความมั่งคั่งไปสะสมอยู่ที่แต่ละประเทศคนไม่กี่คน และกระจุกตัวอยู่ไม่กี่ประเทศ คนเหล่านี้จะรวยล้นฟ้า ล้นล้นฟ้า มหามหาเศรษฐี ในขณะที่ประชากรทั่วไป ถ้าหางานได้ ก็จะมีรายได้เยอะมาก ถ้าตกงานก็ไม่มีรายได้เลย ไม่มีคำว่า เงินเดือนน้อย มีแค่เงินเดือนเยอะมาก กับตกงาน (เพราะหุ่นยนต์แม่บ้าน หุ่นยนต์ทุกอย่างตอบสนองความต้องการของพนักงานของคนรวยเหล่านี้
4. ไม่นาน คนรวยมหามหาเศรษฐีเหล่านี้ก็จะเข้าไปแต่งงานกับกลุ่มคนมีอำนาจทางทหารของแต่ละประเทศ ก่อให้เกิด อำนาจแต่งงานกับเงินรวมตัวกลายเป็นคนกลุ่มเดียวกันในที่สุด เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว กรณีของญีุ่่ปุ่นก่อนสงครามโลกเรียกว่ากลุ่มไซบัทสึ กรณีเกาหลีเรียกว่าแชรโบล (คำนี้ผมเข้าใจว่าแปลว่า กลุ่มทุน)
5. แต่มหามหาเศรษฐีกับคนมีอำนาจเหล่านี้ ยังคงต้องการคนจน เพราะต้องการพนักงาน ยิ่งรวยยิ่งติดสบาย ต้องการคนอื่นมาดูแล และเพราะว่าสงครามอาจจะเกิดเมื่อได้ก็ได้ สงครามในอนาคตจะเป็นสงครามหุ่นยนต์ก็จริง แต่เป้าหมายสงครามยังคงเป็นการสังหารมนุษย์ ผู้ชนะจะชนะที่การมีคนเหลือเยอะกว่า ดังนั้นจะต้องให้ประชากรส่วนใหญ่อยู่รอด งั้นจะทำอย่างไร
5.1 มาร์ค ซัคเคอร์เบอร์ก*, World economic forum คุณสวจ๊วบ ได้เฉลยออกมาแล้ว*(3,4) คือการแจกเงินให้คนทั่วไป วิธีการนี้ฟังเหมือนดี แต่ความจริงแล้ว เมื่อไหร่ที่ใครต้องพึ่งเงินคนอื่นเพื่ออยู่รอด นั่นคือ คนๆนั้นก็เป็นทาสเงินของผู้อื่นไปแล้ว แต่นั่นแหละ นอกจากวิธีนี้แล้วยังไม่มีวิธีอื่นที่ผมคิดออก จนกระทั่งการมาถึงของปลาหมอคางดำหรือปลานีลคางดำ ที่อาจจะเป็นทางรอดของผู้ที่ต้องการอยู่อย่างไม่พึ่งพาเงินพวกมหามหาเศรษฐี
(3) มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก: Universal Basic Income
(4) WEF Klaus Schwab: You will own nothing and be happy
5.2 ตกลงแล้ว โลกแบบนี้ดีหรือไม่ดี? ไม่ต้องทำงานก็มีกิน มีหุ่นยนต์ทำงานให้ทุกอย่าง แต่ถ้าต้องการมากกว่าการมีกิน ถ้าต้องการการรักษาโรค การมีใช้ด้วย ถ้าต้องการการแต่งงาน มีลูก ก็ต้องทำงาน ถ้าต้องการมีเซ็กส์ ก็มีหุ่นยนต์บริการอีก
6. การมาถึงของมดลูกเทียม ในที่สุด มดลูกเทียมก็จะถูกคิดค้นขึ้น และเหล่ามหามหาเศรษฐี ก็จะมีลูกหลานคนละหมื่นละแสนคน แก้ไขปัญหาประชากรขาดแคลนในที่สุด และพนักงานเงินเดือนสูงของเหล่ามหามหาเศรษฐีก็จะได้ใช้ด้วย
7. แล้วมหามหาเศรษฐี เจอกับมหามหาเศรษฐีด้วยกันจะเกิดไรขึ้น? เกิดการแข่งขันครับ แข่งขันทำอะไร
7.1 ล้มฝ่ายตรงข้ามด้วยการแฮ็คข้อมูลโรงงานอีกฝ่าย เมื่อทุกอย่างทำด้วยหุ่นยนต์ นั่นหมายความว่าถ้าผมแฮ็คระบบโรงงานคุณได้ ผมรู้ทุกอย่าง คู่ค้าคุณเป็นใคร กระบวนการผลิตยังไงรู้ทุกเสี้ยววินาที ถ้าผมขโมย source code ของโรงงานคุณได้ ผมก็ทำโรงงานแข่งได้เลย
7.2 เนื่องจากมหามหาเศรษฐีต้องทำงานเพื่อประเทศ เพราะแต่งงงานไปแล้วกับพวกอำนาจทหาร จะก่อให้เกิดสิ่งต่อไปนี้ข้อ 8
7.3 หาเงินจากมหามหาเศรษฐีด้วยกัน แล้วจะหาเงินยังไง? การชลอความชรา หรือการยืดอายุคือคำตอบ นั่นก่อให้เกิดการลงทุนในเรื่องของการวิจัยหาทางไม่แก่ หรืออายุยืน200ปี ผลของมันจะทำให้มหามหาเศรษฐีกลายเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ของมนุษย์ที่ดัดแปลงพันธุกรรม เป็นคนเหนือคนที่อายุยืน200ปี
7.4 จากข้อด้านบน มหามหาเศรษฐีที่โหดร้ายบางคนจะวิจัยให้ประชาชนทั่วไปโดนแปลงพันธุกรรมให้อายุสั้นลงด้วย เพราะการแบ่งชนชั้นที่ดีที่สุดคือแบ่งพันธุกรรมไปเลย คนทั่วไปอาจจะต้องกินอาหารที่ปนเปื้อนสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงยีนส์ให้อายุสั้นลง
8. การเตรียมการของสงครามโลก และการหนีไปดาวดวงอื่น มนุษย์เรา พระเจ้าดูเหมือนจะกำหนดให้ต้องรบกันตลอดไป เพราะผู้ชนะสงครามยึดครองทุกอย่าง มีอำนาจออกกฏ ผู้แพ้ต้องสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ นั่นจะทำให้ประเทศที่เตรียมทำสงครามหาทางหนีไปดาวดวงอื่นหากแพ้ ถ้าคุณดูประวัติศาสตร์คุณจะพบว่าปราสาทของพระราชาในสมัยโบราณจะมีทางลับหนีไปที่ไกลโพ้น ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หากเราดูโครงการอวกาศของจีน มันค่อนข้างต่างจากเมกาคือจีนค่อนไปทางรีบตั้งบ้านบนดวงจันทร์ นั่นเพราะจีนเป็นฝ่ายอาจจะแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สามมากกว่าเมกา แต่เมื่อจีนไปต่างดาว สหรัฐเมกาก็ต้องไปต่างดาวเช่นกัน
8.1 ประชากรบางส่วนจะถูกบังคับให้กลายเป็นมนุษย์ดาวอังคารหรือมนุษย์ดวงจันทร์ เพราะประชากรส่วนใหญ่กลายเป็นทาสเงินของรัฐบาลและกุ่มมหามหาเศรษฐี เขาสั่งอะไรก็ต้องไปทำ หรือไม่งั้นเขาตัดเงินก็คืออดตาย
8.2 สงครามร้อนๆจะปะทุบ่อยขึ้นตามประเทศที่มีอำนาจเงินอำนาจทหารน้อย ในลักษณะสงครามตัวแทน คนจำนวนมากจะตายในสงครามอีก
----------------------------------------------------------------
โดยสรุป โลกในอนาคตจะเป็นโลกที่คนที่เหลือจำนวนน้อยนิด อาจจะแค่500ล้านคนทั้งโลก จะกลายเป็นทาสของกลุ่มทุนที่รวมตัวกับรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลและกลุ่มทุนของประเทศมหาอำนาจ ต้องขึ้นอยู่กับ / พึ่งพา กลุ่มทุนในการมีชีวิต อาจจะต้องอายุขัยสั้นลง แต่ในขณะเดียวกัน ก็กินฟรีอยู่ฟรี ทำงานเฉพาะถ้าต้องการมีลูกมีเมีย แต่ถ้าไม่ต้องการมีลูกเมียก็มีหุ่นยนต์ทำงาน/บริการ แต่แลกกับการที่ต้องเชื่อฟังรัฐบาลหรือกลุ่มทุนแบบ100%
นั่นคือระบบ คอมมิวนิสต์/สังคมนิยมสำหรับคนทั่วไป แต่เป็นระบบทุนนิยม สำหรับกลุ่มมหามหาเศรษฐีและคนจำนวนน้อยที่ได้รับการเลือกให้เป็นพนักงานของกลุ่มทุน