มีคนมาฟ้อง เมื่อฟังข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่าย
สรุปคือ คนโดนฟ้องทำอะไรสักอย่างที่ก้ำกึ่งว่าผิดหรือไม่ผิด
เราที่รู้จักทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าไอ้คนโดนฟ้องมีเจตนาไม่ดีแน่ๆ ดูจากประวัติและการคลุกคลี
แต่ฝั่งผิดสู้ด้วยการอธิบายว่า ผมไม่มีเจตนาไม่ดี และ ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ชัดว่าผมเจตนาไม่ดีสักอย่าง
แต่ไอ้คนโดนฟ้องมันก็โดนรุมจากคนรอบตัวว่าต้องเป็นไอ้นี่แน่ๆ ถึงไม่มีหลักฐานแต่คนส่วนใหญ่ที่คลุกคลีมั่นใจว่ามีเจตนาไม่ดีแน่ๆ
รวมทั้งเราที่เป็นคนคุมกฎก็คิดเหมือนกัน
(ตอนนี้คนโดนฟ้องมีสภาพเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ)
แต่ถ้าต้องคิดในแง่ที่ว่า เราเป็นกลางห้ามเอาความรู้สึกส่วนตัวเข้ามารวม
คือเขาขาดหลักฐานว่ามีเจตนาไม่ดีจริงๆ ไม่มีอะไรชี้ชัดว่าเขามีเจตนาไม่ดีนอกจากความคุ้นเคยนิสัยที่เคยอยู่ร่วมกันมา
ถ้าท่านเป็นคนคุมกฎท่านจะตัดอารมณ์ความรู้สึก ความเคยชินที่คุ้นเคยนิสัยคนๆนี้ออกหรือไม่ โดยไม่เอามารวมในการตัดสิน
ถ้าท่านเป็นคนคุมกฎ กรณีแบบนี้ท่านจะตัดสินยังไง
สรุปคือ คนโดนฟ้องทำอะไรสักอย่างที่ก้ำกึ่งว่าผิดหรือไม่ผิด
เราที่รู้จักทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าไอ้คนโดนฟ้องมีเจตนาไม่ดีแน่ๆ ดูจากประวัติและการคลุกคลี
แต่ฝั่งผิดสู้ด้วยการอธิบายว่า ผมไม่มีเจตนาไม่ดี และ ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ชัดว่าผมเจตนาไม่ดีสักอย่าง
แต่ไอ้คนโดนฟ้องมันก็โดนรุมจากคนรอบตัวว่าต้องเป็นไอ้นี่แน่ๆ ถึงไม่มีหลักฐานแต่คนส่วนใหญ่ที่คลุกคลีมั่นใจว่ามีเจตนาไม่ดีแน่ๆ
รวมทั้งเราที่เป็นคนคุมกฎก็คิดเหมือนกัน
(ตอนนี้คนโดนฟ้องมีสภาพเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ)
แต่ถ้าต้องคิดในแง่ที่ว่า เราเป็นกลางห้ามเอาความรู้สึกส่วนตัวเข้ามารวม
คือเขาขาดหลักฐานว่ามีเจตนาไม่ดีจริงๆ ไม่มีอะไรชี้ชัดว่าเขามีเจตนาไม่ดีนอกจากความคุ้นเคยนิสัยที่เคยอยู่ร่วมกันมา
ถ้าท่านเป็นคนคุมกฎท่านจะตัดอารมณ์ความรู้สึก ความเคยชินที่คุ้นเคยนิสัยคนๆนี้ออกหรือไม่ โดยไม่เอามารวมในการตัดสิน