“รู้สึกภาคภูมิใจในวิชาชีพของตัวเอง แม้ไม่ได้เรียนจบสังคมสงเคราะห์มาโดยตรง แต่ก็เกิดการเรียนรู้ และเติบโตมา อบรมวิชาชีพมากมาย

ละครสะท้อนปัญหาของสังคม เช่นการค้ามนุษย์ บ้านพักฉุกเฉินก็เคยทำงานด้านนี้มา เริ่มต้นตรงนี้มา แรงงานข้ามชาติ ผู้หญิงที่ท้องตอนไม่พร้อม ความรุนแรงที่แสนสาหัส

อย่างที่ตัวละครไหม (เอ๋ มณีรัตน์) พูดบอกว่า ต้องเข็มแข็ง แก่นต้องแข็ง แต่เราก็เป็นมนุษย์ บางทีก็อ่อน มีเอียงไป เราก็ต้องกลับมาดูตัวเราเช่นกัน ก่อนไปช่วยคนอื่น ตามหลักการเราก็ต้องสร้างความไว้วางใจ ให้รู้สึกปลอดภัย

นักสังคมสงเคราะห์จะออกแบบชีวิตให้น้อยที่สุด แต่จะค่อยๆ คืนอำนาจกอบกู้ในตัวตนของผู้หญิง ให้เค้ามีแก่น ตั้งตรง มีอิสระภาพนั้นคือโจทย์

ถ้าดูละคร ทุกคนมีปม ไม่ว่าจะไม้ จะแม่ จะพ่อ หรือตัวนางเอกเอง แต่ปมชีวิต ไม้มีปม แต่เลือกทางบวก ที่จะพยายามเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ อุทิศตนกลับมาช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก ส่วนนางเอกก็มีปม ก็กลับมา เป็นส่วนที่ตัวเองมองและชื่นชอบ แต่กับรุกซ์ก็มีปม แต่กลับไปทำซ้ำภาพเลวร้ายกับผู้หญิง ทุกตัวละครต้องได้รับการเยียวยา

ทุกเคสเราต้องพยายามคว้ามุมบวกให้ได้ การคืนคุณค่าคือสิ่งสำคัญ

คิดช้าคิดเร็วไม่เป็นไร แต่ขอแค่ไปจากบ้านพักแล้วยังมีมุมบวก ทำงานเพื่อสังคม มีอิสระภาพที่โอบอุ้มตัวเอง สร้างครอบครัว ขอแค่ผู้หญิงดีดตัวจากความรุนแรงซ้ำซาก

อย่างที่คุณไหม (ตัวละครเอ๋ มณีรัตน์) ว่า วันนี้ต้องนอนให้อิ่ม กินให้ได้ เพื่อดูแลเคสอย่างดีที่สุด และให้เค้าเดินออกไปอย่างสง่างาม”




กรวิณท์ วรสุข ผู้เชี่ยวชาญงานสังคมสงเคราะห์ บ้านพักฉุกเฉิน