บุกค้นเซฟเฮ้าส์แก๊งคอลฯ เช่ายาว 6 เดือน ติดตั้ง SIM BOX 2 ตัวๆละใส่ซิมได้ 128 เบอร์ ใช้โทรหลอกคนไทย

ครอบครองซิมเป็นร้อยได้ไง อมยิ้ม07

บุกค้นเซฟเฮ้าส์แก๊งคอลฯ เช่ายาว 6 เดือน ติดตั้ง SIM BOX ใช้โทรหลอกคนไทย

ตำรวจสระแก้วและสอบสวนกลาง บุกค้นเซฟเฮ้าส์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.อรัญประเทศ เช่ารีสอร์ทยาว 6 เดือน เพื่อติดตั้งอุปกรณ์เครื่อง "SIM BOX" 2 เครื่อง ใส่ซิมได้เครื่องละ 128 ซิม ไว้ใช้สำหรับส่งสัญญาณโทรหลอกลวงคนไทย ขณะเข้าตรวจค้นยังเปิดใช้งานโทรปลอกคนไทยอยู่
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 สั่งการให้ พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ,พ.ต.ท.ตฤณ ลีลานุช สว.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ( กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ), ชุดสืบสวน สภ.คลองลึก, ตำรวจ บก.ปอท. และตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระแก้ว โดยสนธิกำลังร่วมกันนำหมายค้นเลขที่ ค113/2567 ของศาลจังหวัดสระแก้ว บุกเข้าตรวจค้นรีสอร์ทแห่งหนึ่งชื่อว่า คำเสียงรีสอร์ท เลขที่ 178 (ห้อง 10) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากริมชายแดนประมาณ 1 กม.เศษ พื้นที่หมู่ 6 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ. สระแก้ว โดยมี นายเกียรติศักดิ์ คำเสียง เจ้าของรีสอร์ทดังกล่าวและพนักงานรีสอร์ท นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว

โดยการบุกเข้าตรวจค้นเซฟเฮ้าส์ดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และชุดสืบ สภ.คลองลึก ได้รับแจ้งจากประชาชนโดยให้ข้อมูลว่า ถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ซึ่งได้ใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือในประเทศไทย โทรติดต่อเข้ามาหาและพยายามหลอกลวงตามขั้นตอนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทาง พ.ต.อ.จตุรภัทรฯ จึงสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ ชุดสืบสวน สภ.คลองลึก ร่วมกับ ตำรวจ บก.ปอท. ออกสืบสวนหาข่าว จนกระทั่งสามารถตรวจสอบพบว่า สัญญาณโทรศัพท์ดังกล่าว ได้มีการส่งจากพื้นที่บริเวณห้องเช่าของรีสอร์ท ห้องเช่าเลขที่ 178 (ห้อง10) ของคำเสียงรีสอร์ท ซึ่งเป็นแหล่งเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์ขนาดใหญ่จุดหนึ่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมีการกระทำความผิดกฎหมาย 

จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดสระแก้ว และเปิดปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้น พบเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์ Sim Box (GSM Gateways) จำนวน 2 เครื่อง โดยแต่ละเครื่อง สามารถใส่ซิมการ์ดได้มากถึง 128 ซิม รวม 2 เครื่อง สามารถใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์ได้ถึง 256 ซิม พร้อมกับมี เราเตอร์ไวไฟอินเตอร์เน็ต จำนวน 1 เครื่อง ที่ติดตั้งและเปิดสัญญาณอยู่ภายในห้องตลอดเวลา โดยระหว่างเข้าตรวจสอบมีการออนไลน์สัญญาณโทรหลอกลวงคนไทยอยู่ ซึ่งมีการต่อกล้องวงจรปิดไว้ด้วย แต่ไม่พบผู้อยู่อาศัย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและ ปอท. จึงร่วมกันตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดมาตรวจสอบที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว

พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เผยว่า ระบบของเครื่องแปลงสัญญานโทรศัพท์ หรือ Sim Box ทั้ง 2 เครื่อง และเราเตอร์ไวไฟอินเตอร์เน็ต ที่ตรวจพบและทำการตรวจยึดได้ในรีสอร์ท บริเวณชายแดน ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เชื่อว่า เป็นอุปกรณ์ของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยได้ส่งคนมาขอเช่าห้องพัก แล้วติดตั้งสัญญานอินเตอร์เน็ต เพื่อกระจายสัญญานเข้าซิมบ็อก แล้วแปลงสัญญานมาเป็นสัญญานโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้เบอร์ที่โทรออกเป็นเบอร์ในประเทศไทย สำหรับใช้โทรหลอกลวงคนไทยในฝั่งประเทศไทย ซึ่งซิมบ็อกแต่ละเครื่องสามารถใส่ซิมการ์ดได้ถึงเครื่องละ 128 ซิม รวม 2 เครื่อง ใส่ซิมการ์ดได้ถึง 256 ซิม สามารถโทรเข้าไปหลอกคนไทยได้ครั้งทีเดียว 256 เบอร์ หรือโทรหลอกประชาชนได้หลายแสนครั้งใน 1 ต่อเดือน ด้วยเบอร์มือถือในประเทศปกติ ทั้งที่พวกนี้อยู่ในฝั่งกัมพูชา สร้างความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ผ่านทางอินเตอร์เน็ตนี้ มีมูลค่าชุดละประมาณ 70,000 บาท คาดว่า จะมีการติดตั้ง Sim Box ลักษณะนี้ไว้ในพื้นที่รีสอร์ทหรือห้องเช่าบริเวณชายแดนอีกหลายจุด

จากการสอบถาม นายเกียรติศักดิ์ คำเสียง เจ้าของรีสอร์ทดังกล่าว และพนักงานหญิงผู้ดูแลรีสอร์ท ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ที่มาติดเช่าห้องดังกล่าวชื่อว่า น.ส.จิรสุตา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี เป็นชาว อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยมาติดต่อเช่าห้องเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.67 และมีคนเข้ามาดู 2 คน ในวันที่ 23 มิ.ย.67 จากนั้นในช่วงปลายเดือน ได้มีคนนำอุปกรณ์เข้ามาแต่ไม่รู้ว่า เป็นอะไรแล้วเข้าไปติดตั้ง โดยขอติดตั้งอินเตอร์เนตของตัวเอง อ้างว่า ไวไฟของรีสอร์ทไม่แรง จากนั้นก็ปิดห้องไว้จนกระทั้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งผู้เช่าขอเช่าห้องเป็นเวลา 6 เดือน ค่าเช่าเดือนละ 3,500 บาท รวมจ่ายเงินล่วงหน้าไว้ เป็นเงิน 23,000 บาทรวมค่ามัดจำ ซึ่งตั้งแต่เข้ามาปิดห้องและนำของเข้ามาติดตั้ง เคยเห็นเข้ามาเพียงครั้งเดียว ซึ่งไม่ทราบว่า เขามาเปิดห้องไว้ทำอะไรบ้าง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเจ้าของรีสอร์ทและพนักงานหญิงผู้ดูแลรีสอร์ทเพื่อสืบสวนขยายผลจับกุมต่อไป เนื่องจากมีภาพจากกล้องวงจรปิด การเข้ามาดำเนินการดังกล่าวของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไว้เป็นหลักฐานด้วย

ทางด้าน พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 ได้ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานของตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สภ.คลองลึก และตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ให้ก่อเหตุกับคนไทย ซึ่งเราเจอซิมบ๊อก 2 ตัว สามารถบรรจุซิมได้ถึงเครื่องละ 128 ซิม หรือ 256 ซิม ซึ่งขณะจับกุมซิมบ๊อกยังทำงานอยู่และมีการโทรหลอกคนอยู่ ซึ่งเรากำลังเอาข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ของ ปอท.นำข้อมูลไปขยายผลต่อ หลังจากนี้เราจะดำเนินการกับผู้ที่ดำเนินการและครอบครองอุปกรณ์ตามข้อหาความผิดตามกฏหมาย กสทช.

ขณะนี้เราพอทราบกลุ่มเครือข่ายและขบวนการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้แล้ว เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวละครที่เกี่ยวข้องอยู่ ซึ่งเราได้ร่วมกับ บช.ก., ตม. และภาค 2 สืบเนื่องจากมีเบอร์โทรเข้าไปในเบอร์ของเจ้าหน้าที่ของเราด้วย จึงไล่เช็คจนพบจัดที่มีการติดตั้งซิมบ๊อกนี้ ซึ่งเราต้องรีบดำเนินการเพราะหากทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์รู้ตัว จะสามารถเคลื่อนย้ายได้เร็ว และปัจจุบันไปสร้างความเสียหายและก่อความเดือดร้อนให้กับประชาชนเยอะ ตำรวจจึงพยายามแก้ไขและยับยั้งให้เร็วที่สุด.

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/3650294/

20 ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่