แม่ค้าเมืองเลยบ่นอุบ ของแพง ค้าขายซึม โอดรอเงินดิจิทัลเกือบปี สงสัยกระตุ้น ศก.ได้จริงหรือ
https://www.matichon.co.th/region/news_4683287

แม่ค้าเมืองเลยบ่นอุบ ค้าขายเงียบเหงา หวังรอรัฐแจกเงินดิจิทัล ยังไม่รู้จะเอาไปใช้ยังไง
 
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการจับจ่ายซื้อขายในตลาดเช้าเทศบาลเมืองเลย พบว่าไม่ค่อยคึกคักมาก ผู้ซื้อและแม่ค้าต่างบ่นอุบการค้าขายแย่ วัตถุดิบทุกชนิดปรับราคาขึ้น ไม่มีท่าทีจะลดลง หวังรอเงินดิจิทัลจากรัฐบาล 10,000 บาท แม้จะไม่รู้ว่าใช้อย่างไรก็ตาม

นางสุเจือ แม่ค้าขายข้าวแกงในเขตเทศบาลเมืองเลย เผยว่า เป็นแม่ค้าขายข้าวแกงหน้าสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจย่ำแย่มาก สินค้าขึ้นราคาทุกอย่าง ไม่ว่าผัก หมูไก่ แม้กระทั่งเครื่องปรุง น้ำมันพืชก็ขึ้นราคาหมด
 
นางสุเจือกล่าวว่า เมื่อก่อนไข่ขึ้นราคาแต่สักแป๊บก็ลง แต่ปัจจุบันขึ้นแล้วขึ้นเลย ไม่มีลงอีก วันนี้ไข่ไก่เบอร์ศูนย์แผงหนึ่งก็เกือบ 150 บาทไปแล้ว ขายข้าวแกงให้นักศึกษาจะขึ้นราคาก็สงสารเด็กๆ จำเป็นต้องขายราคาเก่า อย่างไข่พะโล้เคยเอาเบอร์ศูนย์ ก็เอาเบอร์ 3-4 มาทำ สินค้าทุกอย่างแพงหมด
 
“วันนี้รอให้รัฐบาลชุดนี้มาช่วยคงยาก ตั้งแต่ขึ้นมาแทนรัฐบาลชุดเก่าสินค้าต่างๆ เรียงหน้าขึ้นราคาหมด และไม่มีท่าทีจะลง ซ้ำเติมชาวบ้าน ยิ่งพวกหาเช้ากินค่ำยิ่งแย่ลงไปใหญ่ คนเคยหวังรัฐบาลชุดนี้เข้ามาจะได้รับแจกเงิน 10,000 บาท ยิ่งฟังยิ่งสับสน บอกว่าจะแจกเป็นเงินดิจิทัล ก็ไม่รู้จะเอาไปใช้ยังไง รอมาเป็นปียังไม่ได้ ยังทะเลาะกันอยู่เลย
 
ล่าสุดเดือนสิงหาคมแน่นอน มันหลายแน่นอนแล้ว แต่ถ้าถามความเห็น เมื่อได้เงินนี้มามันจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มั้ย ตอบเลยว่าไม่ได้ในเมื่อสินค้าทุกชนิดต่างขึ้นราคารอแล้ว รัฐไม่เคยแก้ไขปัญหาสินค้าขึ้นราคาได้เลย ไฟฟ้าก็จะขึ้นอีก น้ำมันอีก เป็นแค่แม่ค้าขายข้าวแกงไม่รู้จะขายได้อีกต่อไปหรือไม่ หากเศรษฐกิจยังคงย่ำแย่แบบนี้” นางสุเจือกล่าว.

---

พิษเศรษฐกิจ กำลังซื้อหาย ‘อสังหา-เต็นท์รถมือ2’ แห่ขายที่ดิน บริหารสภาพคล่อง
https://www.matichon.co.th/economy/news_4683180

พิษเศรษฐกิจ กำลังซื้อหาย ‘อสังหา-เต็นท์รถมือ2’ แห่ขายที่ดิน บริหารสภาพคล่อง
 
แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เริ่มประสบปัญหาธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อบ้างแล้ว หากโครงการมียอดขายไม่ถึง 80% เนื่องจากธนาคารเองก็ต้องการป้องกันความเสี่ยงเรื่องหนี้เสียที่จะเพิ่มขึ้น จึงเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยด้วย จึงทำให้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯปี 2567-2568 แต่ละบริษัทคงแค่ประคับประคองตัวให้รอดจากวิกฤตมากกว่า เพราะตอนนี้กำลังซื้อหายไปจำนวนมากเกือบจะทุกเซ็กเมนต์แล้ว

“ปัจจุบันมีหลายบริษัทอสังหาริมทรัพย์อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เริ่มปรับแผน เพื่อบริหารสภาพคล่อง ลดภาระหนี้ นำสต๊อกคงเหลือมาขายเป็นบิ๊กลอต เพื่อเร่งปิดโครงการ นำที่ดินที่ซื้อเก็บไว้เป็นแลนด์แบงก์ในหลายทำเล ออกมาขายมากขึ้น” แหล่งข่าวกล่าว
 
แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การขายที่ดินยังลามไปถึงธุรกิจเต้นท์รถมือสอง ที่ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่หายไป ต้องปิดกิจการ ทางเจ้าของก็ได้นำที่ดินมาเสนอขายให้กับผู้ประกอบการอสังหาฯ รวมถึงแลนด์ลอร์ดผู้ที่ซื้อที่ดินเพื่อขายทำกำไร เริ่มนำที่ดินออกมาขายมากขึ้นเช่นกัน โดยราคาที่เสนอขายก็ที่ไม่สูงมากและเป็นราคาเดิมที่เคยเสนอขายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขณะเดียวกันมีปรับเงื่อนไขให้เจรจาซื้อขายกันง่ายมากขึ้น

---

 
ขอนแก่น ฝนถล่มตลอดทั้งคืน น้ำท่วมขัง พ่อให้ลูกขี่หลังลุยน้ำ ไปส่งขึ้นรถโรงเรียน
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_777777834905

ขอนแก่น ฝนถล่มตลอดทั้งคืน ทำน้ำท่วมขังถนนหลายสาย พ่อให้ลูกขี่หลังเดินลุยน้ำ ไปส่งขึ้นรถโรงเรียน เตือนฝนยังหนักไปถึงปลายสัปดาห์
 
วันที่ 16 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ทำให้ผู้ปกครองรายหนึ่ง ต้องนำลูกขี่หลังสวมใส่ชุดกันฝน เดินลุยน้ำที่สูงกว่า 50 เซนติเมตร ออกจากหมู่บ้าน เพื่อนำลูกมาขึ้นรถรับส่งนักเรียน หลังไม่สามารถขับรถออกจากหมู่บ้านได้ เนื่องจากมีน้ำที่ท่วมสูงหน้าหมู่บ้าน บริเวณถนนบ้านคำไฮ-บ้านโคกฟันโปง ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น
 
โดยที่บริเวณถนนดังกล่าว ตั้งแต่หน้าสถานีบริการน้ำมัน ไปจนถึงหน้าร้านสะดวกซื้อบ้านคำไฮ ระยะทางกว่า 500 เมตร มีน้ำท่วมสูง ทำให้รถขนาดเล็กสัญจรผ่านด้วยความลำบาก เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลตำบลบ้านเป็ด เร่งสูบน้ำลงบึงหนองโคตรเพื่อลดปริมาณน้ำที่ท่วมขังแล้ว หากไม่มีฝนตกลงมาคาดว่าในช่วงบายวันนี้ ปริมาณน้ำที่ท่วมขังจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
 
ส่วนที่ถนนบ้านกอก หน้าวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เทศบาลนครขอนแก่น ต้องนำป้ายห้ามรถเล็กผ่าน หลังมีน้ำท่วมขังผิวจาจรสูงกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้รถขนาดเล็กรวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า ไม่สามารถสัญจรผ่านได้

เนื่องจากเมื่อกลางดึกได้เกิดฝนตกลงมาต่อเนื่องจนถึงตอนเช้า ทำให้ปริมาณน้ำฝนปริมาณมาก ไม่สามารถที่จะไหลระบายลงสู่ระบบระบายน้ำได้ทัน ขณะที่ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว ต้องยอมขับรถจักรยานยนต์ลุยน้ำ เพื่อไปส่งลูกไปโรงเรียนให้ทันเวลา
 
นายสันติพงษ์ แดงวิชัย อายุ 50 ปี บอกว่า ตนเองมาอาศัยที่บริเวณนี้มาตั้งแต่ปี 2540 พบว่าหลังจากที่มีฝนตกหนักเป็นเวลา จะทำให้มีน้ำรอการระบายทุกครั้ง ทำให้ต้องนำกระสอบทรายมาปิดกั้นหน้าบ้าน เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้านตลอดเวลาที่อาศัยมากว่า 27 ปี ตนเองก็ชินไปแล้ว
 
อยากให้มีการแก้ไขปัญหาน้ำรอการระบายอย่างจริงจัง เพราะบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีนักศึกษาจำนวนมาก เมื่อจะไปเรียนช่วงน้ำท่วมจะลำบาก รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน เพราะถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจอีกจุดของจังหวัดขอนแก่น
 
ด้าน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระบุในช่วงวันที่ 16-18 ก.ค. 67 ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อม ความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้าง แรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ อ่าวไทย ภาคกลาง และภาคตะวันออก
 
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนใน บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม รวมทั้งเพิ่มความ ระมัดระวังในการสัญจรผ่าน บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย.