สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ปัญหาน่าจะอยู่ที่แม่เนี่ยแหล่ะ คุณอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วนะว่าจะใจอ่อนกับแม่ตลอดไปไม่ได้ ในเมื่อตอนนี้สถานการณ์มันกลับกันแล้วคือ คุณถือเงิน = คุณมีอำนาจสุดในบ้าน การตัดสินใจทุกอย่างจึงเป็นของคุณไม่ใช่ของแม่ คุณต้องกล้าบอกแม่ ปฏิเสธ และไม่ให้ความช่วยเหลือ แม้ว่าเขาจะร้องไห้ขนาดไหนก็ตาม ลองนึกภาพสมัยเด็กๆที่คุณอยากได้ของเล่น แล้วคุณลงไปดิ้นๆๆกับพื้นร้องไห้ ตอนนั้นแม่คุณซื้อให้คุณไหม ก็ไม่ ถูกไหมล่ะ เพราะมันไม่คุ้มค่าจะซื้อให้ไง มันคือสถานการณ์เดียวกันว่า คุณจะเอาเงินให้เขาไม่ได้ เพราะมันไม่คุ้มค่าที่จะทำ มันคือหลักการเดียวกันเลยว่า แม่คุณเลยทำกับคุณแบบไหน คุณก็ต้องทำกับเขาแบบนั้นค่ะ
ส่วนเรื่องหนี้ เอาจริงๆ คุณควรจะส่งเงินกลับบ้านเป็นรายเดือนอย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องบอกเขาว่า คุณจะไม่มีเงินพิเศษให้ แปลว่า แม่คุณต้องไปจัดการเงินที่คุณให้เอง มายืมเพิ่มก็ต้องปฏิเสธด้วยหลักการเดียวกันคือ ดิ้นร้องไห้งอแง ก็ไม่ซื้อให้หรอกค่ะ เพราะมันให้ไม่ได้ไงเล่า!
การขอเงินมันง่าย เงินที่ได้มาง่ายๆน่ะ มันจะใช้โดยไม่รู้คุณค่า สุดท้ายถ้าแม่คุณไม่เข็ดกับการใช้เงินที่ขอมาได้ง่ายๆแล้วจะไปกู้ยืมนอกระบบจนพังพินาศ ก็ให้เขารับผิดชอบชีวิตไป ตราบใดที่คุณยังส่งเงินประจำเดือนให้ เขาก็ไม่อดตายหรอกค่ะ เวรกรรมมันเป็นเรื่องของบุคคลค่ะ แม้แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ตาม ถ้าเขาไม่รู้จักสำนึกสิ่งที่เขาทำ เขาก็ควรต้องรับกรรมที่เขาเลือกทำลงไปค่ะ อย่างน้อยคุณก็บอกเขาไปตรงๆว่า คุณจะมีเงินซื้อข้าวให้เขากินตลอดไปไม่อดตายอย่างแน่นอน
ต้องกล้าๆนะ ไม่งั้นมันจะฉุดลงเหวกันไป สุดท้ายคุณเองก็จะลำบากตามพวกเขาไปด้วย เรียกว่าลำบากไปจนถึงวัยแก่ของคุณเชียวแหล่ะ คุณไม่อยากมีชีวิตแบบนั้นหรอกค่ะ เพราะงั้น คุณต้องเริ่มกล้าปฏิเสธไปตั้งแต่วันนี้เลย แล้วแบ่งเงินให้พวกเขาเป็นรายเดือน เดือนละเท่าๆกันไปแทน คุณจะได้คุมค่าใช้จ่ายได้ ทั้งนี้ก็เพื่ออนาคตของคุณด้วยน่ะ
ส่วนเรื่องหนี้ เอาจริงๆ คุณควรจะส่งเงินกลับบ้านเป็นรายเดือนอย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องบอกเขาว่า คุณจะไม่มีเงินพิเศษให้ แปลว่า แม่คุณต้องไปจัดการเงินที่คุณให้เอง มายืมเพิ่มก็ต้องปฏิเสธด้วยหลักการเดียวกันคือ ดิ้นร้องไห้งอแง ก็ไม่ซื้อให้หรอกค่ะ เพราะมันให้ไม่ได้ไงเล่า!
การขอเงินมันง่าย เงินที่ได้มาง่ายๆน่ะ มันจะใช้โดยไม่รู้คุณค่า สุดท้ายถ้าแม่คุณไม่เข็ดกับการใช้เงินที่ขอมาได้ง่ายๆแล้วจะไปกู้ยืมนอกระบบจนพังพินาศ ก็ให้เขารับผิดชอบชีวิตไป ตราบใดที่คุณยังส่งเงินประจำเดือนให้ เขาก็ไม่อดตายหรอกค่ะ เวรกรรมมันเป็นเรื่องของบุคคลค่ะ แม้แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ตาม ถ้าเขาไม่รู้จักสำนึกสิ่งที่เขาทำ เขาก็ควรต้องรับกรรมที่เขาเลือกทำลงไปค่ะ อย่างน้อยคุณก็บอกเขาไปตรงๆว่า คุณจะมีเงินซื้อข้าวให้เขากินตลอดไปไม่อดตายอย่างแน่นอน
ต้องกล้าๆนะ ไม่งั้นมันจะฉุดลงเหวกันไป สุดท้ายคุณเองก็จะลำบากตามพวกเขาไปด้วย เรียกว่าลำบากไปจนถึงวัยแก่ของคุณเชียวแหล่ะ คุณไม่อยากมีชีวิตแบบนั้นหรอกค่ะ เพราะงั้น คุณต้องเริ่มกล้าปฏิเสธไปตั้งแต่วันนี้เลย แล้วแบ่งเงินให้พวกเขาเป็นรายเดือน เดือนละเท่าๆกันไปแทน คุณจะได้คุมค่าใช้จ่ายได้ ทั้งนี้ก็เพื่ออนาคตของคุณด้วยน่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
-อนาคตมันจะลำบากนะ
-นึกถึงตอนแก่อายุ 60 ปี ไม่มีเงิน เพื่อนๆเค้าปลดเกษียณไปท่องเที่ยว ส่วนคุณยังต้องทำงานจนตาย น่ากลัวนะ
-ล่าสุด แม่ผมไปเจอเพื่อน อายุ 67 ปี ต้องเข้นรถขายของหน้าเซเว่น ดูแล้วน่าสงสาร ทำได้แค่ช่วยชื้อ
-หลังเกษียณถ้าใช้เงิน วันละ 500 บาท
1 เดือน 15000 บาท
1 ปี 180000 บาท
10 ปี 1.8ล้าน
20 ปี 3.6 ล้าน
(ยังไม่ได้คำนวนเงินเฟ้อ ซึ่งอนาคตข้าวคงจานละ 70-100บาท)
*ซื้อของด้วยเงินสดทุกชนิด(โดยผ่านบัตรเครดิตและจ่ายเต็ม)*
*ทำบัญชีรายรับ-จ่าย*
*อย่าค้ำประกัน*
*อย่าให้ใครยืมตัง*
*ลงทุนตามความชำนาญของตัวเรา*
*ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ*
*คบเพื่อนที่นำพาไปในสิ่งที่ดี*
*ลด ละ เลิก สิ่งไม่ดีทุกชนิด*
*รู้จักพอ ใช้ชีวิตตามฐานะ*
โชคดีครับ
-นึกถึงตอนแก่อายุ 60 ปี ไม่มีเงิน เพื่อนๆเค้าปลดเกษียณไปท่องเที่ยว ส่วนคุณยังต้องทำงานจนตาย น่ากลัวนะ
-ล่าสุด แม่ผมไปเจอเพื่อน อายุ 67 ปี ต้องเข้นรถขายของหน้าเซเว่น ดูแล้วน่าสงสาร ทำได้แค่ช่วยชื้อ
-หลังเกษียณถ้าใช้เงิน วันละ 500 บาท
1 เดือน 15000 บาท
1 ปี 180000 บาท
10 ปี 1.8ล้าน
20 ปี 3.6 ล้าน
(ยังไม่ได้คำนวนเงินเฟ้อ ซึ่งอนาคตข้าวคงจานละ 70-100บาท)
*ซื้อของด้วยเงินสดทุกชนิด(โดยผ่านบัตรเครดิตและจ่ายเต็ม)*
*ทำบัญชีรายรับ-จ่าย*
*อย่าค้ำประกัน*
*อย่าให้ใครยืมตัง*
*ลงทุนตามความชำนาญของตัวเรา*
*ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ*
*คบเพื่อนที่นำพาไปในสิ่งที่ดี*
*ลด ละ เลิก สิ่งไม่ดีทุกชนิด*
*รู้จักพอ ใช้ชีวิตตามฐานะ*
โชคดีครับ
ความคิดเห็นที่ 8
ใจแข็งพอมั้ยอะคะ
ถ้าใจแข็งพอ บอกจากนี้ไปผมไม่ให้พ่อกับแม่ยืมแล้วนะครับ เพราะผมต้องใช้หนี้บัตรเครดิตที่ติดไว้
แล้วก็ตัดทางติดต่อ เปลี่ยนเบอร์ไป
ถ้าจะส่ง ส่งให้แต่เงินเดือนเขาที่เราพอจะแบ่งได้อะค่ะ โอนไปให้
แล้วค่อยกลับไปเยี่ยมเฉพาะช่วงหยุดยาว
ถ้าเขาถามถึงบัตรอีก บอกไม่มีแล้วครับ เลิกใช้ไปแล้ว เพราะหนี้เก่ายังค้างอยู่เลย
ถ้าใจแข็งพอ บอกจากนี้ไปผมไม่ให้พ่อกับแม่ยืมแล้วนะครับ เพราะผมต้องใช้หนี้บัตรเครดิตที่ติดไว้
แล้วก็ตัดทางติดต่อ เปลี่ยนเบอร์ไป
ถ้าจะส่ง ส่งให้แต่เงินเดือนเขาที่เราพอจะแบ่งได้อะค่ะ โอนไปให้
แล้วค่อยกลับไปเยี่ยมเฉพาะช่วงหยุดยาว
ถ้าเขาถามถึงบัตรอีก บอกไม่มีแล้วครับ เลิกใช้ไปแล้ว เพราะหนี้เก่ายังค้างอยู่เลย
แสดงความคิดเห็น
พ่อกับแม่กำลังดึงผมให้การเงินติดลบไปด้วย ทำยังไงดีครับ
ต้นเหตุมันมาจากการที่แม่ผมลาออกนี่แหละครับ เขาอยากทำธุรกิจเป็นของตัวเองแต่ว่าเป็นคนที่บริหารเงินไม่ดีครับ ไม่คำนวณต้นทุน กำไร ขาดทุน เน้นมีหมุนใช้ไปเป็นวันๆ ปัจจุบันค้าขายตามตลาดนัดและสถานที่ท่องเที่ยว แต่ถ้าหมุนไม่ทันก็จะมาหยิบยืมจากพ่อ เดิมพ่อเคยมีให้แต่ตอนนี้กลายเป็นหมุนไม่ทันตามไปด้วยครับ ติดลบทั้งคู่ โดยนิสัยแล้วแม่ผมเป็นคนมีอีโก้ เขาเชื่อมั่นในตนเองสูง ส่วนพ่อผมเขาอยากอยู่กับแม่อย่างสบายใจ ไม่อยากทะเลาะกันเรื่องเงิน ก็เลยไปหยิบยืมคนอื่นให้แม่จนติดลบตามกันไป
ผมเพิ่งเรียนจบทำงานต่างจังหวัด ไม่มีเวลาอยู่กับทั้งสองเท่าไร ผมดันหลวมตัวไปบอกเขาว่าผมมีบัตรเครดิต/บัตรกดเงินสด เวลาทั้งคู่หายืมใครไม่ได้ผมเลยจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เขาจะมาขอ ผมก็ดึงเงินจากบัตรมาให้เขา และแน่นอนครับว่าเขาไม่ค่อยจะมาคืนผมสักเท่าไร ให้ไปแล้วก็ไปเลย กลายเป็นว่าผมใช้หนี้บัตรเครดิตเอง ส่วนทางด้านน้องชายผมเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ผมสงสารน้องครับ น้องก็โดนยืมเงินและไม่คืนเหมือนกัน มันอาจจะไม่มากแต่มันเป็นน้ำพักน้ำแรงของน้อง สงสารครับทำงานหนักเรียนหนักแต่ไม่ได้ใช้เงิน ไม่มีกินก็โทรมาขอผมอีกที
ตอนนี้ค่าใช้จ่ายสำหรับบัตรเครดิตผมพอจะจ่ายไหวครับ(สามารถจ่ายเกินขั้นต่ำได้ประมาณ 4-5 เท่า) แต่ใจกลัวว่าถ้ายังเป็นแบบเดิมอยู่หนี้ไม่หมดแน่ๆครับ เพราะจ่ายของเก่าเดี๋ยวก็อาจจะมีของใหม่มาเพิ่ม กลัวจะถึงวันที่ผมติดลบไปด้วย และน้องชายผมจะเรียนไม่จบเอา เป้าหมายสูงสุดผมอยากให้น้องชายผมเรียนจบครับ ใครมีแนวทางการบริหารจัดการหนี้บัตรเครดิตผมขอคำแนะนำครับ
ส่วนเรื่องปัญหาครอบครัว ผมเคยยื่นคำขาดไปเพราะผมไม่อยากช่วยแบบไม่จบไม่สิ้น แต่ความเป็นลูกมันค้ำคออ่ะครับ เวลาเขามาร้องห่มร้องไห้ขอเงินผม ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นลูกอกตัญญูถ้าผมไม่ให้ แข็งใส่ได้ไม่นานผมก็ดึงจากบัตรมาโอนให้(เวลาเงินเดือนออกผมแบ่งจ่ายหนี้และแบ่งใช้จ่าย ส่วนใช้จ่ายผมค่อนข้างจะตึงมือเลยครับ) ผมอยากส่งเงินให้เขานะครับแต่ลำพังที่จ่ายหนี้แทนไปก็แทบจะเอาตัวไม่รอด ต้องทำโอทีเพื่อให้มีเงินใช้ตามเป้า ใครที่มีปัญหาแบบผมทำยังไงกันบ้างครับ อยากช่วยทางบ้านครับแต่รู้สึกว่าเขาไม่เห็นใจผมเลย ผมควรทำยังไงดีครับ