สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องอยากมาแชร์ เพื่อเป็นการเล่าสู่กันฟัง+กึ่งเตือนเพื่อนๆที่กำลังทำบ้านและใช้บริการขนส่งสินค้าที่มาส่งที่บ้านด้วยค่ะ จริงๆเรื่องนี้เราเคลียกับทางโฮมโปรจบไปแล้ว แต่เรายังคงจำไม่ลืม เพราะมันฝังใจมาก และรู้สึกอยากนำออกมาแชร์เพื่อเตือนคนอื่นๆค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า เราได้ซื้อบ้านเพื่อเตรียมสร้างครอบครัวไว้เมื่อกลางปี 66 ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ติดบ้านหลังปัจจุบันซึ่งเป็นบ้านของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ (ซื้อเพราะหวังพึ่งข้าวปลาอาหารบ้านแม่ล้วนๆค่ะ ^.^) และช่วงเดือนเมษา 67 ที่ผ่านมา ก็ได้ฤกษ์งามยามดีในการถลุงเงิน ริเริ่มโครงการปรับปรุงบ้านหลังใหม่กันค่ะ โดยเป็นงานใหญ่พอสมควร เพราะเราลงเสาเข็มรอบบ้านเพื่อเตรียมปูพื้นใหม่ทั้งหมด ช่วงนั้นบอกเลยค่ะ หัวหมุนหมากก แต่ก็ได้ความรู้เรื่องการทำบ้านมาพอสมควรเลย บวกกับสนุกมาก ได้ออกแบบบ้านในแบบที่ตัวเองอยากได้ พูดสั้นๆว่า เหนื่อยแต่ก็มีความสุขค่ะ แต่แล้วววววว เรื่องวุ่นวายก็บังเกิดในช่วงที่เราเลือกซื้อกระเบื้องค่ะ โดยเราได้ไปใช้บริการที่โฮมโปร (ขอไม่บอกสาขานะคะ เพราะเรื่องนี้เราว่าสาขาไม่ผิด) เราและแฟนได้สั่งซื้อกระเบื้องสำหรับปูหน้าบ้านและรอบบ้าน จำนวนประมาณ 80 กล่องค่ะ และนัดให้มาส่งสินค้าที่บ้านใหม่ ในระหว่างนั้นเรามีการขอเลื่อนคิวส่ง 2 ครั้ง เนื่องจากหน้างานยังมีการปรับพื้นไม่เรียบร้อย เรากลัวกระเบื้องเสียหายจึงพยายามกะเวลาการส่งให้มาลงใกล้ๆวันที่จะใช้งานค่ะ ซึ่งพนักงานที่รับเรื่องน่ารักมากค่ะ รับเรื่องและเลื่อนให้อย่างดี โดยคิวที่เราตกลงให้เอาของมาลงคือวันที่ 24 เมษา 67 ค่ะ
เดิมเราเช็คเรียบร้อยแล้วว่าวันนั้นเราสามารถอยู่รับสินค้าได้แน่นอน แต่เนื่องจากคุณแม่เราป่วยและต้องนัดผ่าตัดด้วยคิวที่เร็วที่สุด ซึ่งคิวนั้นดังตรงกับวันที่เรานัดโฮมโปรมาส่งของ ตอนแรกเราตั้งใจจะเลื่อนวันรับของ เพราะเราต้องไปนอนรพ.กับคุณแม่ แต่เราคุยกับช่างและคุณพ่อ ก็ได้ลงความเห็นกันว่าคงต้องให้ของมาส่งวันนี้ เพราะถ้าเลื่อนอีกอาจจะกระทบกับงานของช่างค่ะ (เราจ้างช่างแบบเหมาแค่ค่าแรงค่ะ ค่าของเราสั่งซื้อเอง ฉะนั้น ถ้าของมาลงช้า ช่างก็จะไม่มีของทำงาน และเราก็จะเสียค่าแรงวันนั้นไปฟรีๆ)
สุดท้าย เราก็เลือกให้ของมาลงวันเดิมค่ะ โดยตั้งใจจะให้ทีมช่างช่วยรับของและเช็คของให้แทน (หัวหน้าผู้รับเหมาเป็นญาติกันค่ะ เลยขอร้องเต็มที่ นี่หลานเอง 5555) และเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกค่ะ ในวันรับของ ทีมช่าง รถพัง!!! ทำให้ไม่ได้เข้ามาทำงานในวันนั้นและพึ่งแจ้งเมื่อเช้าช่วง พอเรารู้เรื่องก็เริ่มกังวลเรื่องของที่จะมาส่ง แต่ไม่มีเวลาจัดการอะไรเลยเนื่องจากต้องสนใจการส่งคุณแม่ขึ้นเขียงหาคุงหมอก่อน หลังคุณแม่เข้าห้องผ่าตัดเสร็จ ขนส่งโฮมโปรก็ติดต่อเข้ามาพอดี แจ้งเราว่าอีก 30 นาทีจะถึง เมื่อรับรู้แบบนั้น เราก็คิดว่าคงเลื่อนอะไรไม่ทันแล้ว และด้วยความเชื่อใจในบริษัท เราจึงคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
เราได้โทรแจ้งยามในหมู่บ้านเพื่อแจ้งเรื่องที่จะมีขนส่งเข้ามาส่งของที่บ้าน จากนั้นก็โทรคุยกับทีมขนส่งเพื่อแจ้งรายละเอียดอีกรอบ
----บทสนทนากับพี่ขนส่ง----
me : พี่คะ เดี๋ยวพี่เอาของลงที่บ้านเลขที่ xxx นะคะ เปิดประตูรั้วใหญ่เข้าไปได้เลยค่ะ รบกวนพี่ช่วยนำของไปวางบริเวณลานหน้าประตูบ้านนะคะ เพราะพื้นตรงนั้นเรียบ จะได้ไม่โดนพวกเศษหินเศษปูนค่ะ และตอนนี้ที่หน้างานไม่มีคนอยู่รับของนะคะ เดี๋ยวทางเรากลับไปเช็คของและจะ confirm กับทาง Homepro เองค่ะ พี่วางเอกสารไว้กับสินค้าได้เลยค่ะ
ขนส่ง : ได้ค่ะหนู เดี๋ยวพี่จัดการให้นะ
me : ขอบคุณค่ะ
หลังวางสาย เราได้เปิดดูกล้องวงจรปิด ซึ่งติดอยู่ที่หน้าบ้านคุณพ่อคุณแม่ (บ้านใหม่ยังไม่ได้ติด) ซึ่งโชคดีว่ากล้องส่องเห็นไปถึงบ้านใหม่ เฝ้าดูการทำงานของทีมขนส่งและฟังเสียงจากล้องตลอดเวลา
----เหตุการณ์ตอนขนส่งมาถึง----
(ขนส่งมากัน 2 คน เป็นผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน)
ขนส่ง: //เปิดประตูรั้วใหญ่เข้ามา และเริ่มเอาของลง ระหว่างนั้น พี่ขนส่งผู้ชาย เริ่มมองซ้ายมองขวา และเริ่มเดินดูบ้าน เหมือนเดินดูบ้านที่กำลังซ่อมในโซนต่างๆ เดินตั้งแต่หน้าบ้านไปยังหลังบ้าน อ้อมตั้งแต่ข้างซ้ายจนไปโผล่ทางขวาของบ้าน ส่วนพี่ผู้หญิงยังเอาของลงอยู่
me: // เริ่มกังวลที่พี่เขาเดินไปทั่วรอบบ้าน แต่ยังคงดูกล้องต่อไป เพราะคิดว่าคงแค่อยากแอบเดินดู
ขนส่งผู้หญิง: ปวดท้องจัง อยากเข้าห้องน้ำ (พูดขึ้นมาเหมือนจะพูดลอยๆ แต่ยังคงยกของต่อไป)
----เมื่อยกเกือบเสร็จ----
ขนส่งผู้หญิง: โอย ปวดท้องงง งั้น ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะคะ //พี่ผู้หญิงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง (เหมือนตะโกนขออนุญาต แต่! คุณขอใครคะ เพราะที่บ้านตรงนั้นไม่มีใครอยู่เลย)
// พี่ขนส่งผู้หญิงตะโกนเสร็จก็ไปหมุนลูกบิดเปิดประตูบ้านเราเข้าไป (บ้านไม่ได้ล็อคค่ะ เพราะเดิมเปิดให้ทีมช่างเข้าทำงานวันนั้น)
// พี่ขนส่งผู้ชายเดินตามเข้าบ้านไปด้วย และไปลากพัดลมในบ้านเราออกมาเปิดและนั่งตากลมอยู่ตรงล้านหน้าประตูบ้าน
me: //ตกใจมากที่พี่เขากล้าเปิดเข้าบ้าน และรีบกดโทรหายามที่หมู่บ้าน แจ้งให้พี่ยามรีบไปที่บ้านหน่อย ช่วยไปเอาพวกเขาออกจากบ้านที
---พี่ยามไปถึงที่บ้าน----
พี่ยาม: พวกคุณมาทำอะไร เข้าไปในบ้านเขาได้ไง
พี่ขนส่งผู้ชาย: พวกผมมาส่งของครับ
พี่ยาม: แล้วพวกคุณเข้าไปในบ้านเขาทำไม ลูกบ้านเขาโทรมาแจ้งให้ผมรีบมาดูพวกคุณ
พี่ขนส่งผู้หญิง: ขอโทษค่ะพี่ พอดีหนูปวดท้อง เลยขอเข้าห้องน้ำหน่อย // เดินออกมาจากในบ้านพอดี
พี่ยาม: แต่เจ้าของบ้านเขาไม่อยู่ พวกคุณเปิดประตูเข้าไปได้ไง แล้วลากพัดลมเขาออกมาใช้อีก พวกคุณรีบเก็บของออกเลยครับ เก็บพัดลมให้เจ้าของบ้านด้วยครับ เขาเห็นพวกคุณผ่านกล้องอยู่นะครับ
//พี่ยามยืนคุมให้ทีมขนส่งเก็บของ ปิดบ้าน และขึ้นรถ จากนั้นพี่ยามจึงค่อยๆปั่นจักรยานกลับป้อม
---ทีมขนส่งเก็บของขึ้นรถเรียบร้อย แล้วพี่ผู้หญิงก็โทรกลับมาหาเรา---
พี่ขนส่งผู้หญิง : ฮัลโหล หนู พี่ขอโทษนะคะ
me: ขอโทษเรื่องที่พี่เข้าบ้านหนูโดยภาระการใช่มั้ยคะ พี่มีสิทธิ์อะไรเปิดเข้าไปคะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : พี่ขอโทษค่ะ พอดีพี่ปวดท้อง เลยจะขอเข้าห้องน้ำ
me: หนูแจ้งพี่แล้วนะคะ ว่าหน้างานไม่มีคนอยู่ แล้วพี่ขอใครเข้าคะ หรือพี่ตั้งใจคะ ถ้าหนูไม่มีกล้อง หนูคงไม่รู้เลยว่าพี่เข้าบ้าน แถมพี่ผู้ชายก็เดินดูรอบบ้านเลย เดินทำไมคะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : พี่ผู้ชายเดินหาไม้กวาดค่ะ จะกวาดพื้นบริเวณที่จะลงของ เพราะมันมีเศษหิน
me: แล้วหนูแจ้งพี่ให้พี่เอาของลงหน้าประตูลานหน้าบ้าน เพราะตรงนั้นไม่มีเศษหิน ทำไมพี่ไม่เอาลงตรงนั้นคะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : พี่ขอโทษค่ะ แต่ของที่พี่ลงตรงนี้ ไม่เกะกะขวางทางนะคะ
me: ทราบค่ะว่าไม่เกะกะ แต่บริเวณนั้นเดี๋ยวจะมีปูนมาส่งอีก หนูเลยไม่ต้องการให้วางตรงนั้นไงคะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : อ้อ พี่จัดแล้ว ของลงต่อจากพี่ได้ค่ะ วางได้ๆ
me: //ไม่รู้จะทำยังไง เพราะของวางหมดแล้ว และอยากให้เขารีบออกไปให้เร็วที่สุด//
me: ค่ะ งั้นถ้าเรียบร้อยแล้ว พี่กลับไปได้เลยค่ะ ที่เหลือเดี๋ยวหนูโทรคุยกับโฮมโปรเองค่ะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : พี่ต้องขอโทษจริงๆนะคะ พี่ปวดท้องมากจริงๆ
me: รับคำขอโทษค่ะ แต่ถ้าพี่โทรมาแจ้งหนูสักนิด หนูก็จะได้บอกพี่ว่าที่สวนสาธารณะมีห้องน้ำ ให้ไปตรงนู้น อีกทั้งตอนนี้บ้านหนูปิดน้ำซ่อมท่อที่แตกอยู่ ฉะนั้นใช้น้ำไม่ได้ค่ะ พวกพี่รีบออกไปนะคะ หนูจะให้ยามรายงานตอนพวกพี่ออกไปแล้วอีกรอบค่ะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : ค่ะๆ ขอโทษจริงๆค่ะ //กดวางสาย
-----อีกประมาณ 10 นาที ขนส่งจึงขับรถกลับไป-----
จากเรื่องทั้งหมดนี้ เราได้โทรไป complaint กับทาง Homepro 2 รอบ
รอบแรก เราเล่าเรื่องที่พนักงานขนส่งเปิดประตูบ้านเข้าไปโดยภาระการ พนักงานรับเรื่องนึกว่าเปิดแค่ประตูรั้วใหญ่ เลยเหมือนจะแค่รับฟังละจบ
รอบสอง เราโทรไปอีกรอบเพื่ออธิบายให้ชัดเจนว่า 'พนักงานขนส่ง เข้า ไป ใน ตัว บ้าน!!!' พนักงานรับเรื่องถึงกับบอกเราว่า พูดไม่ออกเลยค่ะ และประสานเรื่องเราไปที่หัวหน้าทีมขนส่ง
เราได้คุยกับหัวหน้าทีมขนส่ง เขารับฟังและสั่งลงโทษโดยการสั่งพักงานและเรียกอบรม และนัดเข้ามาพบเราที่บ้านเพื่อเช็คความเสียหายที่เกิดขึ้น
ในช่วงแรกเราและแฟนโกรธมาก แต่ก็ได้ปรึกษากัน และสรุปได้ว่า ถึงทีมขนส่งจะโดนสั่งพักงาน แต่ตัวเราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร แถมอาจจะทำให้เกิดอะไรที่แย่มากกว่าเดิม (เช่น พี่เขาตกงาน ไม่มีงาน ไปก่อเหตุไม่ดี หรือย้อนกลับมาทำร้ายเรางี้ //ไม่รู้กลัวเกินไปรึเปล่า) สุดท้ายเราเลยแจ้งกับหัวหน้าทีมขนส่งว่า เราขอไม่เอาเรื่องไปมากกว่านี้ ให้มันจบเท่านี้ ไม่ต้องมาลงพื้นที่ และไม่ต้องสั่งพักงานพี่เขา แต่อบรบเพิ่มอันนั้นสมควรทำแล้ว และต่อจากนี้ ห้ามขนส่งเจ้านี้เข้ามาส่งสินค้าใดๆก็ตามที่บ้านของเราอีก และไม่ต้องให้เขาติดต่อมาด้วยช่องทางใดๆทั้งสิ้น หากติดต่อมา เราจะถือว่ามีเจตนาไม่ดี
สุดท้ายนี้ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราไม่โทษใครเลยค่ะนอกจากความประมาทของตัวเราเอง และเราอยากให้เรื่องนี้เป็นกรณีให้เพื่อนๆที่ใช้บริการเรื่องการส่งสินค้า ไม่ว่าจะเจ้าไหน ไม่ว่าบริษัทจะน่าเชื่อถือมากแค่ไหน ระมัดระวังกันมากขึ้นนะคะ จะได้ไม่เจอเหตุการณ์แบบเรา เราโชคดีที่ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรไปมากกว่าแค่ "ขอเข้าห้องน้ำ" แต่เราคิดไม่ออกเลยค่ะ ว่าถ้าบ้านเราไม่มีกล้อง และไม่ได้มีพี่ยามวิ่งไปช่วยดู มันจะเกิดอะไรที่มากกว่าแค่เข้าห้องน้ำมั้ย ขอให้ทุกๆคนระมัดระวังกันนะคะ
ปล.1 ขนส่งของโฮมโปร เป็นบริษัทเอ้าซอสนะคะ หรือก็คือเป็นคนนอกที่มารับงานจากโฮมโปร และได้ผ่านการอบรมโดยโฮมโปร แต่ไม่ใช่พนักงานของโฮมโปรโดยตรง เราก็พึ่งทราบ และต่อไปจะระวังเยอะๆเลยค่ะ
ปล.2 ตอนขนส่งรู้ว่าเราเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างผ่านกล้อง ดูจะตกใจมากค่ะ และรีบหันไปรอบๆเพื่อหากล้อง แต่หาไม่เจอ เพราะเขาไม่รู้ว่าบ้านข้างๆก็คือบ้านเราค่ะ คิดไม่ออกจริงๆว่าถ้าไม่มีกล้องจะเป็นยังไง
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ หากเขียนงง ขออภัยด้วยค่า
เล่าประสบการณ์การใช้บริการขนส่งสินค้าของโฮมโปร
เรื่องมีอยู่ว่า เราได้ซื้อบ้านเพื่อเตรียมสร้างครอบครัวไว้เมื่อกลางปี 66 ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ติดบ้านหลังปัจจุบันซึ่งเป็นบ้านของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ (ซื้อเพราะหวังพึ่งข้าวปลาอาหารบ้านแม่ล้วนๆค่ะ ^.^) และช่วงเดือนเมษา 67 ที่ผ่านมา ก็ได้ฤกษ์งามยามดีในการถลุงเงิน ริเริ่มโครงการปรับปรุงบ้านหลังใหม่กันค่ะ โดยเป็นงานใหญ่พอสมควร เพราะเราลงเสาเข็มรอบบ้านเพื่อเตรียมปูพื้นใหม่ทั้งหมด ช่วงนั้นบอกเลยค่ะ หัวหมุนหมากก แต่ก็ได้ความรู้เรื่องการทำบ้านมาพอสมควรเลย บวกกับสนุกมาก ได้ออกแบบบ้านในแบบที่ตัวเองอยากได้ พูดสั้นๆว่า เหนื่อยแต่ก็มีความสุขค่ะ แต่แล้วววววว เรื่องวุ่นวายก็บังเกิดในช่วงที่เราเลือกซื้อกระเบื้องค่ะ โดยเราได้ไปใช้บริการที่โฮมโปร (ขอไม่บอกสาขานะคะ เพราะเรื่องนี้เราว่าสาขาไม่ผิด) เราและแฟนได้สั่งซื้อกระเบื้องสำหรับปูหน้าบ้านและรอบบ้าน จำนวนประมาณ 80 กล่องค่ะ และนัดให้มาส่งสินค้าที่บ้านใหม่ ในระหว่างนั้นเรามีการขอเลื่อนคิวส่ง 2 ครั้ง เนื่องจากหน้างานยังมีการปรับพื้นไม่เรียบร้อย เรากลัวกระเบื้องเสียหายจึงพยายามกะเวลาการส่งให้มาลงใกล้ๆวันที่จะใช้งานค่ะ ซึ่งพนักงานที่รับเรื่องน่ารักมากค่ะ รับเรื่องและเลื่อนให้อย่างดี โดยคิวที่เราตกลงให้เอาของมาลงคือวันที่ 24 เมษา 67 ค่ะ
เดิมเราเช็คเรียบร้อยแล้วว่าวันนั้นเราสามารถอยู่รับสินค้าได้แน่นอน แต่เนื่องจากคุณแม่เราป่วยและต้องนัดผ่าตัดด้วยคิวที่เร็วที่สุด ซึ่งคิวนั้นดังตรงกับวันที่เรานัดโฮมโปรมาส่งของ ตอนแรกเราตั้งใจจะเลื่อนวันรับของ เพราะเราต้องไปนอนรพ.กับคุณแม่ แต่เราคุยกับช่างและคุณพ่อ ก็ได้ลงความเห็นกันว่าคงต้องให้ของมาส่งวันนี้ เพราะถ้าเลื่อนอีกอาจจะกระทบกับงานของช่างค่ะ (เราจ้างช่างแบบเหมาแค่ค่าแรงค่ะ ค่าของเราสั่งซื้อเอง ฉะนั้น ถ้าของมาลงช้า ช่างก็จะไม่มีของทำงาน และเราก็จะเสียค่าแรงวันนั้นไปฟรีๆ)
สุดท้าย เราก็เลือกให้ของมาลงวันเดิมค่ะ โดยตั้งใจจะให้ทีมช่างช่วยรับของและเช็คของให้แทน (หัวหน้าผู้รับเหมาเป็นญาติกันค่ะ เลยขอร้องเต็มที่ นี่หลานเอง 5555) และเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกค่ะ ในวันรับของ ทีมช่าง รถพัง!!! ทำให้ไม่ได้เข้ามาทำงานในวันนั้นและพึ่งแจ้งเมื่อเช้าช่วง พอเรารู้เรื่องก็เริ่มกังวลเรื่องของที่จะมาส่ง แต่ไม่มีเวลาจัดการอะไรเลยเนื่องจากต้องสนใจการส่งคุณแม่ขึ้นเขียงหาคุงหมอก่อน หลังคุณแม่เข้าห้องผ่าตัดเสร็จ ขนส่งโฮมโปรก็ติดต่อเข้ามาพอดี แจ้งเราว่าอีก 30 นาทีจะถึง เมื่อรับรู้แบบนั้น เราก็คิดว่าคงเลื่อนอะไรไม่ทันแล้ว และด้วยความเชื่อใจในบริษัท เราจึงคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
เราได้โทรแจ้งยามในหมู่บ้านเพื่อแจ้งเรื่องที่จะมีขนส่งเข้ามาส่งของที่บ้าน จากนั้นก็โทรคุยกับทีมขนส่งเพื่อแจ้งรายละเอียดอีกรอบ
----บทสนทนากับพี่ขนส่ง----
me : พี่คะ เดี๋ยวพี่เอาของลงที่บ้านเลขที่ xxx นะคะ เปิดประตูรั้วใหญ่เข้าไปได้เลยค่ะ รบกวนพี่ช่วยนำของไปวางบริเวณลานหน้าประตูบ้านนะคะ เพราะพื้นตรงนั้นเรียบ จะได้ไม่โดนพวกเศษหินเศษปูนค่ะ และตอนนี้ที่หน้างานไม่มีคนอยู่รับของนะคะ เดี๋ยวทางเรากลับไปเช็คของและจะ confirm กับทาง Homepro เองค่ะ พี่วางเอกสารไว้กับสินค้าได้เลยค่ะ
ขนส่ง : ได้ค่ะหนู เดี๋ยวพี่จัดการให้นะ
me : ขอบคุณค่ะ
หลังวางสาย เราได้เปิดดูกล้องวงจรปิด ซึ่งติดอยู่ที่หน้าบ้านคุณพ่อคุณแม่ (บ้านใหม่ยังไม่ได้ติด) ซึ่งโชคดีว่ากล้องส่องเห็นไปถึงบ้านใหม่ เฝ้าดูการทำงานของทีมขนส่งและฟังเสียงจากล้องตลอดเวลา
----เหตุการณ์ตอนขนส่งมาถึง----
(ขนส่งมากัน 2 คน เป็นผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน)
ขนส่ง: //เปิดประตูรั้วใหญ่เข้ามา และเริ่มเอาของลง ระหว่างนั้น พี่ขนส่งผู้ชาย เริ่มมองซ้ายมองขวา และเริ่มเดินดูบ้าน เหมือนเดินดูบ้านที่กำลังซ่อมในโซนต่างๆ เดินตั้งแต่หน้าบ้านไปยังหลังบ้าน อ้อมตั้งแต่ข้างซ้ายจนไปโผล่ทางขวาของบ้าน ส่วนพี่ผู้หญิงยังเอาของลงอยู่
me: // เริ่มกังวลที่พี่เขาเดินไปทั่วรอบบ้าน แต่ยังคงดูกล้องต่อไป เพราะคิดว่าคงแค่อยากแอบเดินดู
ขนส่งผู้หญิง: ปวดท้องจัง อยากเข้าห้องน้ำ (พูดขึ้นมาเหมือนจะพูดลอยๆ แต่ยังคงยกของต่อไป)
----เมื่อยกเกือบเสร็จ----
ขนส่งผู้หญิง: โอย ปวดท้องงง งั้น ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะคะ //พี่ผู้หญิงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง (เหมือนตะโกนขออนุญาต แต่! คุณขอใครคะ เพราะที่บ้านตรงนั้นไม่มีใครอยู่เลย)
// พี่ขนส่งผู้หญิงตะโกนเสร็จก็ไปหมุนลูกบิดเปิดประตูบ้านเราเข้าไป (บ้านไม่ได้ล็อคค่ะ เพราะเดิมเปิดให้ทีมช่างเข้าทำงานวันนั้น)
// พี่ขนส่งผู้ชายเดินตามเข้าบ้านไปด้วย และไปลากพัดลมในบ้านเราออกมาเปิดและนั่งตากลมอยู่ตรงล้านหน้าประตูบ้าน
me: //ตกใจมากที่พี่เขากล้าเปิดเข้าบ้าน และรีบกดโทรหายามที่หมู่บ้าน แจ้งให้พี่ยามรีบไปที่บ้านหน่อย ช่วยไปเอาพวกเขาออกจากบ้านที
---พี่ยามไปถึงที่บ้าน----
พี่ยาม: พวกคุณมาทำอะไร เข้าไปในบ้านเขาได้ไง
พี่ขนส่งผู้ชาย: พวกผมมาส่งของครับ
พี่ยาม: แล้วพวกคุณเข้าไปในบ้านเขาทำไม ลูกบ้านเขาโทรมาแจ้งให้ผมรีบมาดูพวกคุณ
พี่ขนส่งผู้หญิง: ขอโทษค่ะพี่ พอดีหนูปวดท้อง เลยขอเข้าห้องน้ำหน่อย // เดินออกมาจากในบ้านพอดี
พี่ยาม: แต่เจ้าของบ้านเขาไม่อยู่ พวกคุณเปิดประตูเข้าไปได้ไง แล้วลากพัดลมเขาออกมาใช้อีก พวกคุณรีบเก็บของออกเลยครับ เก็บพัดลมให้เจ้าของบ้านด้วยครับ เขาเห็นพวกคุณผ่านกล้องอยู่นะครับ
//พี่ยามยืนคุมให้ทีมขนส่งเก็บของ ปิดบ้าน และขึ้นรถ จากนั้นพี่ยามจึงค่อยๆปั่นจักรยานกลับป้อม
---ทีมขนส่งเก็บของขึ้นรถเรียบร้อย แล้วพี่ผู้หญิงก็โทรกลับมาหาเรา---
พี่ขนส่งผู้หญิง : ฮัลโหล หนู พี่ขอโทษนะคะ
me: ขอโทษเรื่องที่พี่เข้าบ้านหนูโดยภาระการใช่มั้ยคะ พี่มีสิทธิ์อะไรเปิดเข้าไปคะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : พี่ขอโทษค่ะ พอดีพี่ปวดท้อง เลยจะขอเข้าห้องน้ำ
me: หนูแจ้งพี่แล้วนะคะ ว่าหน้างานไม่มีคนอยู่ แล้วพี่ขอใครเข้าคะ หรือพี่ตั้งใจคะ ถ้าหนูไม่มีกล้อง หนูคงไม่รู้เลยว่าพี่เข้าบ้าน แถมพี่ผู้ชายก็เดินดูรอบบ้านเลย เดินทำไมคะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : พี่ผู้ชายเดินหาไม้กวาดค่ะ จะกวาดพื้นบริเวณที่จะลงของ เพราะมันมีเศษหิน
me: แล้วหนูแจ้งพี่ให้พี่เอาของลงหน้าประตูลานหน้าบ้าน เพราะตรงนั้นไม่มีเศษหิน ทำไมพี่ไม่เอาลงตรงนั้นคะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : พี่ขอโทษค่ะ แต่ของที่พี่ลงตรงนี้ ไม่เกะกะขวางทางนะคะ
me: ทราบค่ะว่าไม่เกะกะ แต่บริเวณนั้นเดี๋ยวจะมีปูนมาส่งอีก หนูเลยไม่ต้องการให้วางตรงนั้นไงคะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : อ้อ พี่จัดแล้ว ของลงต่อจากพี่ได้ค่ะ วางได้ๆ
me: //ไม่รู้จะทำยังไง เพราะของวางหมดแล้ว และอยากให้เขารีบออกไปให้เร็วที่สุด//
me: ค่ะ งั้นถ้าเรียบร้อยแล้ว พี่กลับไปได้เลยค่ะ ที่เหลือเดี๋ยวหนูโทรคุยกับโฮมโปรเองค่ะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : พี่ต้องขอโทษจริงๆนะคะ พี่ปวดท้องมากจริงๆ
me: รับคำขอโทษค่ะ แต่ถ้าพี่โทรมาแจ้งหนูสักนิด หนูก็จะได้บอกพี่ว่าที่สวนสาธารณะมีห้องน้ำ ให้ไปตรงนู้น อีกทั้งตอนนี้บ้านหนูปิดน้ำซ่อมท่อที่แตกอยู่ ฉะนั้นใช้น้ำไม่ได้ค่ะ พวกพี่รีบออกไปนะคะ หนูจะให้ยามรายงานตอนพวกพี่ออกไปแล้วอีกรอบค่ะ
พี่ขนส่งผู้หญิง : ค่ะๆ ขอโทษจริงๆค่ะ //กดวางสาย
-----อีกประมาณ 10 นาที ขนส่งจึงขับรถกลับไป-----
จากเรื่องทั้งหมดนี้ เราได้โทรไป complaint กับทาง Homepro 2 รอบ
รอบแรก เราเล่าเรื่องที่พนักงานขนส่งเปิดประตูบ้านเข้าไปโดยภาระการ พนักงานรับเรื่องนึกว่าเปิดแค่ประตูรั้วใหญ่ เลยเหมือนจะแค่รับฟังละจบ
รอบสอง เราโทรไปอีกรอบเพื่ออธิบายให้ชัดเจนว่า 'พนักงานขนส่ง เข้า ไป ใน ตัว บ้าน!!!' พนักงานรับเรื่องถึงกับบอกเราว่า พูดไม่ออกเลยค่ะ และประสานเรื่องเราไปที่หัวหน้าทีมขนส่ง
เราได้คุยกับหัวหน้าทีมขนส่ง เขารับฟังและสั่งลงโทษโดยการสั่งพักงานและเรียกอบรม และนัดเข้ามาพบเราที่บ้านเพื่อเช็คความเสียหายที่เกิดขึ้น
ในช่วงแรกเราและแฟนโกรธมาก แต่ก็ได้ปรึกษากัน และสรุปได้ว่า ถึงทีมขนส่งจะโดนสั่งพักงาน แต่ตัวเราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร แถมอาจจะทำให้เกิดอะไรที่แย่มากกว่าเดิม (เช่น พี่เขาตกงาน ไม่มีงาน ไปก่อเหตุไม่ดี หรือย้อนกลับมาทำร้ายเรางี้ //ไม่รู้กลัวเกินไปรึเปล่า) สุดท้ายเราเลยแจ้งกับหัวหน้าทีมขนส่งว่า เราขอไม่เอาเรื่องไปมากกว่านี้ ให้มันจบเท่านี้ ไม่ต้องมาลงพื้นที่ และไม่ต้องสั่งพักงานพี่เขา แต่อบรบเพิ่มอันนั้นสมควรทำแล้ว และต่อจากนี้ ห้ามขนส่งเจ้านี้เข้ามาส่งสินค้าใดๆก็ตามที่บ้านของเราอีก และไม่ต้องให้เขาติดต่อมาด้วยช่องทางใดๆทั้งสิ้น หากติดต่อมา เราจะถือว่ามีเจตนาไม่ดี
สุดท้ายนี้ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราไม่โทษใครเลยค่ะนอกจากความประมาทของตัวเราเอง และเราอยากให้เรื่องนี้เป็นกรณีให้เพื่อนๆที่ใช้บริการเรื่องการส่งสินค้า ไม่ว่าจะเจ้าไหน ไม่ว่าบริษัทจะน่าเชื่อถือมากแค่ไหน ระมัดระวังกันมากขึ้นนะคะ จะได้ไม่เจอเหตุการณ์แบบเรา เราโชคดีที่ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรไปมากกว่าแค่ "ขอเข้าห้องน้ำ" แต่เราคิดไม่ออกเลยค่ะ ว่าถ้าบ้านเราไม่มีกล้อง และไม่ได้มีพี่ยามวิ่งไปช่วยดู มันจะเกิดอะไรที่มากกว่าแค่เข้าห้องน้ำมั้ย ขอให้ทุกๆคนระมัดระวังกันนะคะ
ปล.1 ขนส่งของโฮมโปร เป็นบริษัทเอ้าซอสนะคะ หรือก็คือเป็นคนนอกที่มารับงานจากโฮมโปร และได้ผ่านการอบรมโดยโฮมโปร แต่ไม่ใช่พนักงานของโฮมโปรโดยตรง เราก็พึ่งทราบ และต่อไปจะระวังเยอะๆเลยค่ะ
ปล.2 ตอนขนส่งรู้ว่าเราเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างผ่านกล้อง ดูจะตกใจมากค่ะ และรีบหันไปรอบๆเพื่อหากล้อง แต่หาไม่เจอ เพราะเขาไม่รู้ว่าบ้านข้างๆก็คือบ้านเราค่ะ คิดไม่ออกจริงๆว่าถ้าไม่มีกล้องจะเป็นยังไง
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ หากเขียนงง ขออภัยด้วยค่า