อายุ33 ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เพราะแม่ชอบบงการชีวิต

บางทีเห็นคนอื่นที่เขาอายุเท่ากัน ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากใช้ ได้ไปเที่ยว ไปกินโน่นนี่ แต่เรากลับไปไหนไม่ค่อยได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เราทำอะไรที่เราชอบบ่อยๆ เช่น ออกกำลังกาย เราจะมีปัญหากับแม่ทันที แล้วก็พูดกับเราว่า เมื่อไหร่จะเลิกออกสักที ออกอีกละหรอ หรือแม้กระทั่งตอนนี้ เราลงเรียนแบดมินตันเพราะมันเปนความฝันของเราตั้งแต่เด็ก เราเลยอยากลองเรียน ละเรามีความสุขกับมันมาก นั่งนับวันรอเรียน (แต่แม่เอาแต่ถามว่าเมื่อไหร่จะจบคอร์สสักที และพูดจาประชดใส่เรา) จนโค๊ชก็บอกว่าเรามีพรสวรรค์ ทำไมไม่เรียนให้เร็วกว่านี้ เราก็กลับมานั่งคิดนะ ที่ผ่านมาที้เราไม่ได้ทำตามความฝันเพราะแม่เรานี่แหล่ะ ที่ขวางไว้ ไม่ให้เรียน บอกว่าไร้สาระ

เราเคยพูดตรงๆถึงนิสัยแม่ ว่าอยากให้ลดเรื่องการบังคับ  ให้เราทำในสิ่งที่เราอยากทำบ้าง การพูดจาเสียดสี ประชดประชัน แม่ก็งัดไม้ตายมาเลยว่า …. แม่ให้กำเนิดมานะ แม่ไม่ได้เลี้ยงให้โตมาแล้วมาว่าแม่แบบนี้ ซึ่งเราไม่ได้ว่า แค่พูดตรงๆ น้ำเสียงเย็นๆตามประสาของเรา

หลังจากนั้น เราก็ไม่คิดจะพูดตรงๆกับแม่ในทุกๆเรื่องอีกเลย เพราะแม่เรารับความจริงไม่ได้


จนตอนนี้เราเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง แต่ก็บอกใครไม่ได้นอกจากแฟน และเพื่อนที่ทำงานในกลุ่ม เพราะแม่เคยเห็นแม่ดูข่าวเกี่ยวกับซึมเศร้า แม่เราพูดในเชิงติดลบ เราต้องแอบลางานไปหาหมอ หมอบอกว่าเกิดจากปัญหาในครอบครัว เราต้องแอบกินยาแล้วต้องโกหกว่าเป็นวิตามิน

ทุกครั้งที้เราดีขึ้นจากการรักษา เราจะกลับมาพังและต้องเริ่มต้นใหม่แบบนี้ตลอด ซึ่งมันก็หลายปีแล้ว เราไม่รุ้เลยว่าจะหาทางออกให้เรื่องนี้ยังไง เพราะเรายังอยู่บ้านเดียวกัน

เรารู้สึกโกรธและเกลียดทุกครั้งที่ต้องเกิดมาเจออะไรแบบนี้ เราไม่ได้อยากเกิดมาแล้วต้องมานั่งเป็นหุ่นเชิด หรือที่รองรับอารมณ์แม่เลย

เราจะทำยังไงดี

ปล. เราอายุ33 มีการงานที่มั่นคง มีเงินเดือนนะ เดี๋ยวบางคนจะคิดว่าเรายังไม่มีงานทำเลยยังต้องพึ่งพาแม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่