โดยเฉพาะช่วงป๋าเปรมเป็นนายกที่การตั้งรัฐบาลเป็นรัฐบาลผสมเพราะไม่มีพรรคใดชนะเด็ดขาดประกอบกับช่วงนั้นอิทธิพลของกองทัพค่อนข้างสูงพอสมควร หรือเลือกตั้ง 2/2535 ซึ่งตอนนั้นมี ส.ส.ในสภาทั้งหมด 360 คนที่แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะชนะเลือกตั้งแต่ยังไงก็ตามพรรคชาติไทยที่ได้อันดับ 2 กับมีส.ส.ห่างกันแค่ 2 คน คือ 79 ต่อ 77 แม้ในที่สุดท่านชวน หลีกภัยจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ก่อมาเกิดคดี สปก.-01 ประกอบกับ พรรคความหวังใหม่ถอนตัวจากรัฐบาล ในที่สุดต้องยุบสภาหลังเป็นรัฐบาลได้แค่ 2 ปีเศษ และเลิอกตั้ง 2538 ที่แม้ว่าพรรคชาติไทยที่นำโดยท่านบรรหาร ศิลปอาชาจะมีส.ส.เยอะที่สุด คือ 92 คนจาก 391 คน และก็เป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่ม 16 ด้วย ที่ทำให้รัฐบาลสั่นคลอน ประกอบกับส.ส.ในสภาโดยเฉพาะฝ่ายค้านเรียกร้องให้ท่านบรรหารลาออก แม้ว่าภายหลังท่านบรรหารจะประกาศว่าจะลาออกภายใน 7 วัน แต่ในที่สุดพอรู้ว่ามีการแอบตั้งรัฐบาลที่สนับสนุนพลเอกชวลิต ยงใจยุทธเป็นนายกรัฐมนตรีก็สร้างความไม่พอใจให้แก่ท่านเป็นอย่างมากจนในที่สุดก็ได้ประกาศยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ผลปรากฏว่า พรรความหวังใหม่ได้ส.ส.มาอันดับที่ 1 คือ 125 และพรรคประชาธิปัตย์อันดับที่ 2 ได้ 123 จากทั้งหมด 393 คน พลเอกชวลิตก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เป็นรัฐบาลได้เพียง 1 ปีก็เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งจนสุดท้ายพลเอกชวลิตต้องลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการตั้งรัฐบาลใหม่ ในตอนนั้นพลเอกชวลิตได้สนับสนุนพลเอกชาติไทย ชุณหะวัณเป็นนายกรัฐมนตรีส่วนฝ่ายค้านก็ได้สนับสนุนท่านชวน หลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็ได้มีการดึงงูเห่าพรรคประชากรไทยมาสนับพรรคประชาธิปปัตย์ตั้งรัฐบาล ซึ่งทำให้ท่านชวน หลีกภัยกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง พร้อมกับรัฐธรรมนูญ 2540 และในปี 2544 พรรคไทยรักไทยที่นำโดยท่านทักษิณ ชินวัตรก็กวาดจำนวนส.สไปมากที่สุดแบบเกือบแลนสไลด์คือ 248 จาก 500 ทำให้พรรคไทยรักไทยตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ท่านทักษิณก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปี หลังจากนั้นก็มีการเลือกตั้ง 2548 ที่ทำให้การเมืองไทยเปลี่ยนไปตลอดกาลคือ พรรคไทยรักไทยกวาดจำนวน ส.ส.ไปได้ 377 จาก 500 ทำให้สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นก็มีการยุบสภา และก็เกิดการรัฐประหารจน 2562 ที่พรรคการเมืองกับมาล้นสภาอีกครั้งนึง
ทำไมช่วงก่อน 2540 พรรคการเมืองถึงล้นสภา