แฟนหายไปไม่บอกเลิก ความห่างไกลมันน่ากลัว

เรื่องมันมีอยู่ว่า
ผมกับแฟนเราคบกันได้ 2 ปี ผมทำงานแฟนผมไม่ได้ทำงานเราสองคนอยู่กินด้วยกัน เช่าหออยู่ จนมาวันหนึ่งมีเหตุการณ์
ให้เราต้องห่างกัน ผมตกงาน ผมหางานทำจนได้งาน แต่เป็นงานห่างกับที่พักมาก
เราสองคนก็มานั่งคุยกันผมถามเธอว่าโอเคมั้ยที่เราต้องห่างเพราะผมต้องไปทำงาน เธอบอกว่าโอเค งานที่ผมทำอยู่โคราชหอพักผมอยู่แม่สอด จากนั้นมาผมก็ได้ไปทำงานเราคุยโทรศัพท์กันตลอด
มาวันหนึ่งเธอก็บอกผมว่าเธออยากกลับบ้าน ผมบอกไว้ก่อนนะครับว่าแฟนผมไม่ใช่คนไทย(เธอเป็นชาว myanmar)
ผมก็เลยโอนเงินส่วนหนึ่งและยอมให้เธอขายมอเตอร์ไซค์ที่ซื้อร่วมกัน เงินก้อนที่ขายมอเตอร์ไซค์ได้มาผมก็ให้เธอเอากลับบ้าน
พอวันเวลาผ่านไปเราสองคนก็ขาดการติดต่อกัน 4 เดือน จนมาวันหนึ่ง ผมติดต่อเธอได้
แต่เธอเปลี่ยนไป พฤติกรรมการคุย
ผมเป็นคนทักไปตลอด เธออ่านบ้างไม่อ่านบ้าง จากที่เราคุยกันตลอดตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ผมแชทหาเธอหลายข้อความมากแต่เธอไม่ยอมตอบบางครั้งก็ไม่อ่านด้วยซ้ำ เหมือนเธอไม่อยากคุยกับผม เพราะว่าเธอไม่ตอบสนองเลย
เธอเย็นชากับผมมาก จนผมท้อแล้วเหนื่อย
และแล้วความจริงก็ปรากฏ ผมได้เห็นบางอย่าง จากภาพหน้าจอโทรศัพท์ของเธอ
เป็นภาพที่มันทำให้ผมล้มทั้งยืน
เป็นภาพคู่แฟนผมกับชายคนหนึ่งกอดกัน
ผมก็ถามเธอว่าคบกันได้กี่เดือนแล้ว
เธอก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบและลบรูปภาพคู่ทั้งหมดที่เธอมี ผมตื้อจนเธอยอมพูดความจริงกับผม ว่าเธอคบกับผู้ชายคนนั้นมาได้ประมาณเดือนสองเดือนแล้ว แล้วตอนนี้ก็เลิกกันไปแล้ว ผมก็ถามต่อในมุมความคิดของผม (ขอทุกคนอย่าดราม่า นะครับ)
ผมไม่รู้ว่าผู้ชายจะเป็นเหมือนกับผมมั้ย
ผมถามเขาตรงๆว่าได้กันหรือยัง
เธอบอกว่ายังแค่คุยกันเฉยๆ
ต่อจากนั้นมาผมก็คุยรายละเอียดเรื่องเกี่ยวกับที่เธอจะต้องมาไทย
แต่เธอไม่ยอมมาเธอบอกว่าเธอติดธุระที่บ้าน และหลังจากที่เราคุยแล้วตกลงกัน
เธอก็พูดมาคำหนึ่งว่าให้ผมดูแลตัวเองดีๆนะ แล้วเธอก็ยื่นข้อเสนอว่าให้ผมเก็บออมและมาซื้อที่ดินที่บ้านของเธอนี่เป็นบทพิสูจน์ความรักของผมเลย เวลาต่อมาเธอบอกว่าที่ให้เก็บเงินซื้อบ้านที่ดินจริงๆแล้วมันเป็นเพราะเธออยากให้ผมดูแลตัวเอง ไม่ต้องคิดมาก จะได้มีเงินเก็บออมเยอะๆ เพื่ออนาคตของผมในวันที่ไม่มีเธอแล้ว เธอบอกว่าอย่าห่วงเลย เรื่องที่ผ่านมาให้ลืมมันไปซะ เธอบอกว่าให้ลืมเธอให้ได้ จากที่ผมได้ยินสิ่งที่เธอพูดมาทั้งหมดผมก็ล้มทั้งยืนเป็นครั้งที่ 2 พร้อมกับน้ำตาที่มันออกมา
ผ่านไปได้อาทิตย์นึง ผมก็ได้ปรึกษากับกับที่ปรึกษาของผม ที่ปรึกษาบอกว่าสิ่งที่ผมเจอเขาเจอมาก่อนผมแล้วเขาเจอหนักกว่าผมด้วย
เขาบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่ผมได้เจอ
มันจะทำให้ตัวผมเองแข็งแกร่งในด้านหัวใจ
จากนั้นมาผมก็ down ผมเริ่มไม่เป็นอันทำงานแล้วผมก็ใช้ยา ประมาณเดือนนึงผมก็อยู่กับความเจ็บปวด
วันเวลาผ่านไปผมเริ่มเรียนรู้ความเจ็บปวดจนผมดีขึ้น แผลใจเริ่มหายหัวใจของผมดีขึ้นเป็นลำดับ และแล้ววันนั้นก็มาถึง
สิ่งที่ผมคิดไว้ก็ได้เกิดขึ้น
คือเธอขอกลับมาหาผม เธอมาเล่าให้ฟังที่บ้านเธองานไม่มีทำ ที่บ้านเธอเกิดสงคราม เธออยากจะมาที่ไทยและให้ผมหางานให้ เธออยากกลับมาหาผม ไม่มีเงินกลับมาเธอขอให้ผมโอนเงินให้
ผมก็ถามเธอว่าทำไมเธอถึงได้กลับมาคบกับผมอีก เธอบอกผมว่าเธอยังรักและยังลืมผมไม่ได้ ผมก็ทำข้อตกลงกับเธอมีแค่ สิ่งเดียวที่ผมขอจากเธอ
คือถ้ารักผมจริงถ้ายังรักผมอยู่ให้ผมควบคุมโทรศัพท์ระยะไกลของเธอได้มั้ย
ถ้าไม่รักผมก็ไม่ต้องดาวน์โหลดAppควบคุมระยะไกลให้ผม (อ่อ ผมลืมบอกไปช่วงเวลาที่ผมขอให้เธอดาวน์โหลด appมันเป็นช่วงเวลาที่เธอยากกลับมา ถึงตอนนั้นหัวใจผมก็เริ่มเฉยๆแล้ว
ผมก็คุยเฉยๆไม่ได้คิดอะไรมาก คือผมต้องการที่จะรู้อะไรบางอย่าง ผมรู้นิสัยเธอดีผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอดี ที่ผมให้ทำโหลด app ผมอยากรู้ว่าเธอจะปิดอะไรผมมั้ยปิดบังอะไรผมป่าว)ทุกวันนี้เธอก็ยังไม่ดาวน์โหลด app เธอบอกผมว่าโหลดไปเพื่ออะไรแล้วทำไมต้องโหลดมันเป็นคำพูดที่มันทำให้รู้เลยว่าเธอเองไม่จริงใจกับผม
บทสนทนาสุดท้ายในการจบการสนทนา
ผมบอกเธอว่าถ้ารักกันน่ะแค่โหลด app
ถ้าไม่รักก็ไม่ต้องโหลด App จบ.


*ทุกคนรู้ไหมครับ app ที่ผมให้เธอโหลดเธอก็รู้นะครับไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้เธอรู้อยู่เต็มอกว่าผมต้องการอะไรจากสิ่งนั้น
เธอก็รู้อยู่นะครับแต่เธอเลือกที่จะปิดและเลือกที่จะไม่โหลด ผมจะบอกให้นะครับไอ้คำว่าไม่เชื่อใจกันหรอที่เธอพูดกับผมทุกๆครั้งที่เธอทำผิดและในทุกครั้งที่ผมเองรู้ความจริง จริงๆแล้วไอ้คำว่าไม่เชื่อใจกันหรอ มันเป็นสิ่งที่ผมต้องควรพูดกับเธอนะครับ เพราะว่าเธอไม่ยอมให้ผมดูโทรศัพท์ของเธอเลยเพราะเราห่างกันเป็นประเทศนะครับเราไม่ได้ห่างกันแค่จังหวัด


แล้วจะให้ผมทำยังไงครับช่วยผมด้วย😢😥😢😓


แล้วสุดท้ายนะครับ
ใครที่ว่าผมเห็นแก่ตัวนะครับ
ผมเป็นผู้ถูกกระทำ เป็นผู้ถูกทอดทิ้งนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่