ผมพบกับผู้หญิงคนนึง เธออายุ 19 ปี ส่วนตัวผมอายุ 24 ซึ่งห่างกัน 5 ปีเลย ผู้หญิงคนนี้กำลังเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีในตอนแรก เธอรับข้อเสียของผมได้หลายอย่างแบบที่ไม่เคยมีใครคนไหนทำได้เลย ผมเคยติดคุกคดีครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด 3 ปี 4 เดือน พ้นโทษก็ทำงานเป็นช่างร้านยาง ล้อแม็กซ์ทำมาได้ 4 ปีวันนึงผมเดินเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใกล้ๆบ้านก็เห็นน้องคนนี้เป็นพนักงานอยู่ที่ร้านแห่งนั้นผมเห็นครั้งแรกก็ตกหลุมรักเธอมากจนผมเริ่มเข้ามาซื้อของบ่อยขึ้นแล้วบังเอิญมีรุ่นพี่ทำงานอยู่ที่เดียวกันกับเธอ ผมเลยขอดูโปรไฟล์เธอจากรุ่นพี่แล้วก็รวบรวมใจลองทักข้อความหาเธอคนนั้นดู ก็ไม่คิดว่าจะตอบแล้วเริ่มต้นบทสนทนากันจนหาเวลาจากวันหยุดมาเจอและเริ่มมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นๆทุกวัน ผมทำทุกอย่างเพียงเพราะอยากให้เธอรับรู้ว่าผมตั้งใจเข้ามาหาเธอดี เวลาเธอเลิกเรียนแล้วกลับมาหา ผมจะรอถอดรองเท้า ถุงเท้าให้เธอ ผมจะคอยซื้อขนมมาเก็บตุนเอาไว้ในตู้เย็นแบบเยอะมากเพราะกลัวเธอจะหิวเวลากลับมาจากเรียนหรือคอยถามเสมอว่าอยากกินอะไรพี่จะไปซื้อให้
ถ้าเธอไม่เอาอะไรเธอก็จะขึ้นมานอนบนเตียงแล้วโน้มตัวลงนอน ผมก็จะเดินไปนั่งข้างๆตัวเธอแล้วบีบนวดคลายความเหนื่อยล้าให้เธอจนหลับด้วยซ้ำบางครั้ง พอเธอจะกลับผมก็จะคอยมานั่งใส่ถุงเท้าให้เธอแม้จะดึงมือผมออกแต่ผมก็จะใส่ให้เธอ เธอแทบไม่ต้องทำอะไรเพราะผมจะจัดการเตรียมไว้ให้เกือบทุกอย่าง ทั้งหมดเป็นมาได้ 2 เดือน เราแทบไม่ห่างจากโทรศัพท์เพื่อตอบข้อความหากันเลย จนมาถึงวันนี้เธอบอกว่าเธอใกล้จะสอบ ติดทำงาน ถ่ายงาน
ทำโปรเจ็คช่วงใกล้สอบจะไม่มีเวลา ผมเริ่มกระวนกระวายคิดเล็กคิดน้อยไปหมด ความคิดฟุ้งซ่านมากๆ คิดไปต่างๆนาๆ ปกติหลังเลิกเรียนถ้าเธอเลิกเรียนเร็วก็จะรอผมไปเดินตลาดแถวๆนั้น เดินดูของกินของใช้ผมก็เป็นคนซื้อให้เธอ เธอไม่เคยเสียเงินซื้อเองเลยเพราะผมจะตัดหน้าจ่ายให้ตลอดทุกครั้ง ถึงแม้เธอจะปฏิเสธของบางอย่างว่าไม่เป็นไร
แต่ผมก็ยินดีทำทุกอย่างเพียงอยากเห็นรอยยิ้ม ผมทำงานเหนื่อยมากแค่ไหน ตากแดด ตากฝนบางครั้งก็ไม่เคยแสดงอาการเหนื่อยล้ามาให้เธอเห็นเลย ผมรักเธอมาก รักแบบไม่เคยรู้สึกอะไรมากขนาดนี้กับใครเสียด้วยซ้ำ เธอเริ่มบอกไม่ค่อยมีเวลา ครั้งล่าสุดชวนเธอไปเดินตลาดเพราะเห็นว่าเลิกเรียนเร็ว เธอตอบผมว่า เว้นก่อนนะคะ ผมก็รู้สึกน้อยใจบ้างตามประสา ผมซื้อตุ๊กตาให้เธอแต่เธอก็ไม่ได้เอากลับเพราะบอกว่ายังไม่อยากให้ที่บ้านรู้เพราะพึ่งเลิกกับคนเก่าของเธอไปยังไม่อยากให้เขารู้ว่ามีผม กำไลข้อมือผมสั่งซื้อมาเป็นของทำมือ ผมแทนสัญลักษณ์เธอเป็นผีเสื้อ ส่วนผมเป็นพระจันทร์เสี้ยว เธอใส่ให้ผมแต่เธอไม่ได้ใส่ เธอบอกว่าเดี๋ยวเอากลับไปใส่เองที่บ้าน หลังจากนั้นผมก็ลองสังเกตุดูข้อมือเธอเวลาลงรูป เวลาเจอกัน เธอไม่ได้ใส่กำไลที่ผมซื้อให้ แต่ผมไม่กล้าถามเพราะกลัวจะมีปัญหาหรือกลัวเธอเสียความรู้สึกอะไรแม้ผมจะเริ่มรู้สึกน้อยใจมากขึ้นๆทุกวันก็ตาม เมื่อวานคือเรื่องราวที่ทำให้ความคิดผมเปลี่ยนแปลงไปสิ้นเชิง
ด้วยประโยคสนทนาที่เธอบอกว่า เธอจะไปหัวหินกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึงของเธอ ไป 2 วัน ผมไม่พอใจมากๆที่ไม่ให้ผมไปเมื่อผมแกล้งบอกว่า งั้นพี่ก็ไปด้วยได้สิ เธอบอกว่าไม่ให้ไปจะไปกับเพื่อน 2 คนเท่านั้นจะรีบกลับ ผมทำอะไรไม่ได้ ผมคิดฟุ้งซ่านอยู่แล้วก็ทวีคูณเพิ่มมากกว่าเดิม เธอบอกว่าคุยกับเพื่อนแล้วนัดกันไว้ตั้งแต่ต้นเดือน แต่ผมก็มารู้จากปากตอนที่เธอใกล้จะไปกัน คุยกันได้สักพักผมเห็นสตอรี่เพื่อนเธอลงมา ทริปสาวโสด ผมเสียใจ เลยทักข้อความหาเธอแล้วบอกไปว่า ทริปสาวโสดหรอ เธอตอบผมว่า "เพื่อนเธอก็โสด ส่วนเธอก็โสด" ผมนี่จะล้มทั้งยืนเลย ขาไม่มีเเรงจะเดิน สมองตันตื้อไปหมดเหมือนโลกกับลังจะบีบบี้หัวใจของผม
#ผมอยาปรู้ควรทำอย่างไรต่อ หรือผมคิดมากไปเอง
บอกรักกัน มีความสัมพันธ์ที่พอจะเรียกว่าเป็น "แฟน"
ถ้าเธอไม่เอาอะไรเธอก็จะขึ้นมานอนบนเตียงแล้วโน้มตัวลงนอน ผมก็จะเดินไปนั่งข้างๆตัวเธอแล้วบีบนวดคลายความเหนื่อยล้าให้เธอจนหลับด้วยซ้ำบางครั้ง พอเธอจะกลับผมก็จะคอยมานั่งใส่ถุงเท้าให้เธอแม้จะดึงมือผมออกแต่ผมก็จะใส่ให้เธอ เธอแทบไม่ต้องทำอะไรเพราะผมจะจัดการเตรียมไว้ให้เกือบทุกอย่าง ทั้งหมดเป็นมาได้ 2 เดือน เราแทบไม่ห่างจากโทรศัพท์เพื่อตอบข้อความหากันเลย จนมาถึงวันนี้เธอบอกว่าเธอใกล้จะสอบ ติดทำงาน ถ่ายงาน
ทำโปรเจ็คช่วงใกล้สอบจะไม่มีเวลา ผมเริ่มกระวนกระวายคิดเล็กคิดน้อยไปหมด ความคิดฟุ้งซ่านมากๆ คิดไปต่างๆนาๆ ปกติหลังเลิกเรียนถ้าเธอเลิกเรียนเร็วก็จะรอผมไปเดินตลาดแถวๆนั้น เดินดูของกินของใช้ผมก็เป็นคนซื้อให้เธอ เธอไม่เคยเสียเงินซื้อเองเลยเพราะผมจะตัดหน้าจ่ายให้ตลอดทุกครั้ง ถึงแม้เธอจะปฏิเสธของบางอย่างว่าไม่เป็นไร
แต่ผมก็ยินดีทำทุกอย่างเพียงอยากเห็นรอยยิ้ม ผมทำงานเหนื่อยมากแค่ไหน ตากแดด ตากฝนบางครั้งก็ไม่เคยแสดงอาการเหนื่อยล้ามาให้เธอเห็นเลย ผมรักเธอมาก รักแบบไม่เคยรู้สึกอะไรมากขนาดนี้กับใครเสียด้วยซ้ำ เธอเริ่มบอกไม่ค่อยมีเวลา ครั้งล่าสุดชวนเธอไปเดินตลาดเพราะเห็นว่าเลิกเรียนเร็ว เธอตอบผมว่า เว้นก่อนนะคะ ผมก็รู้สึกน้อยใจบ้างตามประสา ผมซื้อตุ๊กตาให้เธอแต่เธอก็ไม่ได้เอากลับเพราะบอกว่ายังไม่อยากให้ที่บ้านรู้เพราะพึ่งเลิกกับคนเก่าของเธอไปยังไม่อยากให้เขารู้ว่ามีผม กำไลข้อมือผมสั่งซื้อมาเป็นของทำมือ ผมแทนสัญลักษณ์เธอเป็นผีเสื้อ ส่วนผมเป็นพระจันทร์เสี้ยว เธอใส่ให้ผมแต่เธอไม่ได้ใส่ เธอบอกว่าเดี๋ยวเอากลับไปใส่เองที่บ้าน หลังจากนั้นผมก็ลองสังเกตุดูข้อมือเธอเวลาลงรูป เวลาเจอกัน เธอไม่ได้ใส่กำไลที่ผมซื้อให้ แต่ผมไม่กล้าถามเพราะกลัวจะมีปัญหาหรือกลัวเธอเสียความรู้สึกอะไรแม้ผมจะเริ่มรู้สึกน้อยใจมากขึ้นๆทุกวันก็ตาม เมื่อวานคือเรื่องราวที่ทำให้ความคิดผมเปลี่ยนแปลงไปสิ้นเชิง
ด้วยประโยคสนทนาที่เธอบอกว่า เธอจะไปหัวหินกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึงของเธอ ไป 2 วัน ผมไม่พอใจมากๆที่ไม่ให้ผมไปเมื่อผมแกล้งบอกว่า งั้นพี่ก็ไปด้วยได้สิ เธอบอกว่าไม่ให้ไปจะไปกับเพื่อน 2 คนเท่านั้นจะรีบกลับ ผมทำอะไรไม่ได้ ผมคิดฟุ้งซ่านอยู่แล้วก็ทวีคูณเพิ่มมากกว่าเดิม เธอบอกว่าคุยกับเพื่อนแล้วนัดกันไว้ตั้งแต่ต้นเดือน แต่ผมก็มารู้จากปากตอนที่เธอใกล้จะไปกัน คุยกันได้สักพักผมเห็นสตอรี่เพื่อนเธอลงมา ทริปสาวโสด ผมเสียใจ เลยทักข้อความหาเธอแล้วบอกไปว่า ทริปสาวโสดหรอ เธอตอบผมว่า "เพื่อนเธอก็โสด ส่วนเธอก็โสด" ผมนี่จะล้มทั้งยืนเลย ขาไม่มีเเรงจะเดิน สมองตันตื้อไปหมดเหมือนโลกกับลังจะบีบบี้หัวใจของผม
#ผมอยาปรู้ควรทำอย่างไรต่อ หรือผมคิดมากไปเอง