ที่ว่าอนาสเตเซีย ซึ่งก็ยัง 50/50 ว่าตัวจริงหรือปลอมจากการพิสูจน์ของพระญาติพระวงศ์และขบวนการทางวิทยาศาสตร์ (แต่คนใกล้ชิดสุดกลับโดนอุบ ไม่ให้มาพิสูจน์หรือรับปากคำใดๆ เหมือนต้องการปกปิดความลับยิ่งยอด)
แต่เรื่องเจ้าชายอเล็กซิส ที่โตเป็นหนุ่มแบบสามัญชนชั้นกลางค่อนล่าง เป็นช่างทำรองเท้า
แต่พีคคือพูดฝรั่งเศส ละตีน กรีก ได้แบบชนชั้นสูงในยุโรป และความสามารถและรสนิยมอื่นๆ
แถมพอตายไปแล้ว มีการนำศพจากหลุมเค้าไปพิสูจน์ และยืนยันว่าเป็นอเล็กซิสพระองค์จริง
________________________________________________
เรื่องเจ้าหญิงอนาสตาเซียยังไม่ตาย ได้อ่านตั้งแต่เด็กค่ะที่เป็นนิยายและตอนที่สร้างเป็นหนังด้วย
แต่เรื่องเจ้าชายอเล็กเซย์ นี่ไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงเท่าไหร่ แต่เมื่อหลายปีมาแล้วเคยอ่านเรื่องหนึ่งที่อ้างอิงถึง
การยังมีชีวิตอยู่ของเจ้าชายอเล็กเซย์ ตัดตอนมาเฉพาะบางย่อหน้าค่ะ
บทความนี้อ้างอิงจากวารสาร ศิลปวัฒนธรรม (ในเครือมติชน) 27, 5 (มี.ค. 2549) : 118-133
บทความของ คุณไกรฤกษ์ นานา ชื่อเรื่อง พลิกฟื้นคืนชีพ คดีดัง"อเล็กเซย์" โอรสซาร์รัสเซีย"รอดชีวิต" จากการถูกปลงพระชนม์
ขออนุญาติผู้เขียนด้วยนะคะ
เพิ่มเติมเนื้อหาค่ะ
http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&No=6188
กระทู้ในพันทิพก็เคยมีคนกล่าวถึงหนังสือเล่มนี้นะคะ จากหนังสือ The escape of Alexei
http://ppantip.com/topic/31191488
...................................................................
ตุลาคม ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ที่เมืองอาสตราคาน นาย "วาสิลี ฟิลาตอฟ" ครูสอนวิชาภูมิศาสตร์ได้เปิดเผยตัวเองต่อหน้าครอบครัวว่า เขาคือ "อเล็กเซย์ โรมานอฟ" มกุฎราชกุมารแห่งราชสำนักรัสเซียผู้รอดชีวิตจากคืนวันสังหาร ด้วยการช่วยเหลือของจากตำรวจ 2 นาย
หากคำบอกเล่าของนายวาสิลีเป็นจริง นั้นแสดงว่ามกุฎราชกุมารรัสเซียมีพระชนมายุ ถึง 84 ปี กระนั้นหรือ? แล้วช่วงเวลา 70 ปี ที่รอดชีวิตนั้นอเล็กเซย์หรือวาสิลีดำเนินชีวิตอย่างไร?
วาสิลีเล่าให้ครอบครัวฟังถึงการรอดชีวิตของเขาว่า "ระหว่างขนย้ายผู้เคราะห์ร้าย...มกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ ซึ่งหมดสติอยู่หลังรถพลันตื่นขึ้นจากเม็ดฝนที่โปรยลงบนใบหน้า ท่ามกลางร่างของพ่อแม่พี่น้องที่แน่นิ่งอยู่รอบข้าง เขาสลัดตัวออกจากรถบรรทุกแล้วคลานเข้าไปซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานเล็กๆ เมื่อท้องฟ้าสว่างขึ้นเขาก็คลานต่อไปตามทางรถไฟจนกระทั่งถึงสถานีรถไฟชาร์ทาช
พี่น้องตระกูลสเตรโคตินซึ่งได้รับคำสั่งให้ออกติดตามผู้สูญหาย...ได้นำมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์หลบหนีและไปฝากไว้กับครอบครัวฟิลาตอฟ ที่พวกเขารู้จักในเมืองชาดริงค์ ซึ่งอยู่ถัดออกไป...หัวหน้าครอบครัวผู้มีนามว่า "คเซโนฟอนต์ ฟิลาตอฟ" เคยมีบุตรชายคนหนึ่งแต่ได้เสียชีวิตไปด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ มกุฎราชกุมารอเล็กเซย์จึงได้สวมรอยเด็กคนนั้นอย่างปลอดภัย"
เจ้าชายชาวนาวาสิลีเติบโตด้วยการใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ด้วยการประกอบอาชีพเป็นช่างทำรองเท้า
และครูสอนวิชาภูมิศาสตร์ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับความรู้ความสามารถของเขากับคนรัสเซียในชนบททั่วไป ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการพูดภาษาต่างๆ (เยอรมัน, กรีก, ละติน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส) ความรู้ในวิชาประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และดนตรีคลาสสิคชั้นสูง นับว่าเหนือชั้นกว่าบุคคลทั่วไป ข้อมูลเหล่านี้ถูกเปิดเผยจากครอบครัวฟิลาตอฟ ภายหลังการเสียชีวิตของวิสิลี
หลายท่านคงคิดเหมือนกันว่า :
บทสรุปของหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ครั้งนี้คงต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการค้นหาและยืนยันความจริงกับข้อมูลใหม่ชุดนี้
มีการตรวจสอบนิติวิทยาศาสตร์ด้วยกัน 2 ครั้ง
คือ
1) การตรวจดีเอ็นเอจากเลือดของบุตรและธิดาของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ ที่ครอบครัวอ้างว่าเป็นเขาคือ
อเล็กเซย์ โรมานอฟ
2) การการตรวจดีเอ็นเอจากอวัยวะบางส่วน เช่น ผม ฟัน กระดูก ฯลฯ ของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ
*****ผลสรุป คือ สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในวงการนิติวิทยาศาสตร์*****
ซึ่งภายหลังการทดสอบของผู้เชี่ยวชาญชาวฟินแลนด์และรัสเซีย โดยการตรวจดีเอ็นเอจากเลือดของบุตรและธิดาของวาสิลี ฟิลาตอฟ ในปี ค.ศ. 1996
___แสดงผลว่าพวกเขาเป็นผู้สืบสายโลหิตมาจากราชวงศ์โรมานอฟจริง___
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นและเป็นไคลแมกซ์ของเรื่อง คือการที่ครอบครัวฟิลาตอฟร้องขอความเป็นธรรมไปยังศาลโลก ณ กรุงเฮกให้เข้าแทรกแซงในขั้นตอนการพิสูจน์
(เพราะรัสเซียไม่อนุญาต คหสต.คงกลัวสั่นคลอนความมั่นคงประเทศ)
ในที่สุดรัฐบาลรัสเซียจึงอนุญาตในปี ค.ศ. 1997 ให้มีการตรวจดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนอวัยวะของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ ผู้วายชนม์ จากกระดูก เส้นผม ฟัน และเล็บ ตามระบบนิติเวชวิทยา รวมถึงการคำนวณส่วนประกอบของใบหน้า ตามอายุขัยในวัยต่างๆ ด้วยระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่
💐💐💐DNA ผลปรากฏว่า วาสิลี ฟิลาตอฟ คือบุคคลเดียวกันกับมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ โรมานอฟ💐💐💐
ปริศนาที่เป็นเรื่องเล่าอย่างสม่ำเสมอในครอบครัวฟิลาตอฟ คือการที่วาสิลีเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน แต่ความสามารถพิเศษที่ติดตัวเขามาไม่สามารถปิดบังไว้ได้นาน เช่น ความจัดเจนในการพูดภาษาเยอรมัน กรีก สโลวานิก ละติน อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างคล่องแคล่ว มีความรู้ทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ พงศาวดารรัสเซีย และการเมืองในยุโรปอย่างกว้างขวาง ดีกว่าคนรัสเซียชนบททั่วไป ตลอดจนความช่ำชองในการเล่นเปียโน และความรอบรู้เกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคของสังคมชั้นสูง สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ได้ใกล้ชิดเขาจนตลอดชีวิต เขารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ?
ไม่ทราบว่าเรื่องของเจ้าชายอเล็กเซย์และนายวาสิลีนี้ยังเรียกว่าเป็นปริศนาได้อยู่หรือเปล่าเมื่อมีผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาแบบนี้
ถ้าใครเคยอ่านหนังสือเล่มนี้รบกวนขอข้อมมูลเพิ่มเติมด้วยนะคะ
สรุปสังหารหมู่ครอบครัวพระเจ้าซาร์ กะผู้รอดชีวิตนี่ดำมืดมาถึงทุกวันนี้รึเปล่าคะ!
นอกจากอนาสเตเซียรอดแล้วยังมีเจ้าชายอเล็กซิสรอดจากการสังหารหมู่ครอบครัวพระเจ้าซาร์รัสเซียด้วยเหรอคะ
แต่เรื่องเจ้าชายอเล็กซิส ที่โตเป็นหนุ่มแบบสามัญชนชั้นกลางค่อนล่าง เป็นช่างทำรองเท้า
แต่พีคคือพูดฝรั่งเศส ละตีน กรีก ได้แบบชนชั้นสูงในยุโรป และความสามารถและรสนิยมอื่นๆ
แถมพอตายไปแล้ว มีการนำศพจากหลุมเค้าไปพิสูจน์ และยืนยันว่าเป็นอเล็กซิสพระองค์จริง
________________________________________________
เรื่องเจ้าหญิงอนาสตาเซียยังไม่ตาย ได้อ่านตั้งแต่เด็กค่ะที่เป็นนิยายและตอนที่สร้างเป็นหนังด้วย
แต่เรื่องเจ้าชายอเล็กเซย์ นี่ไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงเท่าไหร่ แต่เมื่อหลายปีมาแล้วเคยอ่านเรื่องหนึ่งที่อ้างอิงถึง
การยังมีชีวิตอยู่ของเจ้าชายอเล็กเซย์ ตัดตอนมาเฉพาะบางย่อหน้าค่ะ
บทความนี้อ้างอิงจากวารสาร ศิลปวัฒนธรรม (ในเครือมติชน) 27, 5 (มี.ค. 2549) : 118-133
บทความของ คุณไกรฤกษ์ นานา ชื่อเรื่อง พลิกฟื้นคืนชีพ คดีดัง"อเล็กเซย์" โอรสซาร์รัสเซีย"รอดชีวิต" จากการถูกปลงพระชนม์
ขออนุญาติผู้เขียนด้วยนะคะ
เพิ่มเติมเนื้อหาค่ะ
http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&No=6188
กระทู้ในพันทิพก็เคยมีคนกล่าวถึงหนังสือเล่มนี้นะคะ จากหนังสือ The escape of Alexei
http://ppantip.com/topic/31191488
...................................................................
ตุลาคม ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ที่เมืองอาสตราคาน นาย "วาสิลี ฟิลาตอฟ" ครูสอนวิชาภูมิศาสตร์ได้เปิดเผยตัวเองต่อหน้าครอบครัวว่า เขาคือ "อเล็กเซย์ โรมานอฟ" มกุฎราชกุมารแห่งราชสำนักรัสเซียผู้รอดชีวิตจากคืนวันสังหาร ด้วยการช่วยเหลือของจากตำรวจ 2 นาย
หากคำบอกเล่าของนายวาสิลีเป็นจริง นั้นแสดงว่ามกุฎราชกุมารรัสเซียมีพระชนมายุ ถึง 84 ปี กระนั้นหรือ? แล้วช่วงเวลา 70 ปี ที่รอดชีวิตนั้นอเล็กเซย์หรือวาสิลีดำเนินชีวิตอย่างไร?
วาสิลีเล่าให้ครอบครัวฟังถึงการรอดชีวิตของเขาว่า "ระหว่างขนย้ายผู้เคราะห์ร้าย...มกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ ซึ่งหมดสติอยู่หลังรถพลันตื่นขึ้นจากเม็ดฝนที่โปรยลงบนใบหน้า ท่ามกลางร่างของพ่อแม่พี่น้องที่แน่นิ่งอยู่รอบข้าง เขาสลัดตัวออกจากรถบรรทุกแล้วคลานเข้าไปซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานเล็กๆ เมื่อท้องฟ้าสว่างขึ้นเขาก็คลานต่อไปตามทางรถไฟจนกระทั่งถึงสถานีรถไฟชาร์ทาช
พี่น้องตระกูลสเตรโคตินซึ่งได้รับคำสั่งให้ออกติดตามผู้สูญหาย...ได้นำมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์หลบหนีและไปฝากไว้กับครอบครัวฟิลาตอฟ ที่พวกเขารู้จักในเมืองชาดริงค์ ซึ่งอยู่ถัดออกไป...หัวหน้าครอบครัวผู้มีนามว่า "คเซโนฟอนต์ ฟิลาตอฟ" เคยมีบุตรชายคนหนึ่งแต่ได้เสียชีวิตไปด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ มกุฎราชกุมารอเล็กเซย์จึงได้สวมรอยเด็กคนนั้นอย่างปลอดภัย"
เจ้าชายชาวนาวาสิลีเติบโตด้วยการใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ด้วยการประกอบอาชีพเป็นช่างทำรองเท้า
และครูสอนวิชาภูมิศาสตร์ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับความรู้ความสามารถของเขากับคนรัสเซียในชนบททั่วไป ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการพูดภาษาต่างๆ (เยอรมัน, กรีก, ละติน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส) ความรู้ในวิชาประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และดนตรีคลาสสิคชั้นสูง นับว่าเหนือชั้นกว่าบุคคลทั่วไป ข้อมูลเหล่านี้ถูกเปิดเผยจากครอบครัวฟิลาตอฟ ภายหลังการเสียชีวิตของวิสิลี
หลายท่านคงคิดเหมือนกันว่า :
บทสรุปของหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ครั้งนี้คงต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการค้นหาและยืนยันความจริงกับข้อมูลใหม่ชุดนี้
มีการตรวจสอบนิติวิทยาศาสตร์ด้วยกัน 2 ครั้ง
คือ
1) การตรวจดีเอ็นเอจากเลือดของบุตรและธิดาของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ ที่ครอบครัวอ้างว่าเป็นเขาคือ
อเล็กเซย์ โรมานอฟ
2) การการตรวจดีเอ็นเอจากอวัยวะบางส่วน เช่น ผม ฟัน กระดูก ฯลฯ ของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ
*****ผลสรุป คือ สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในวงการนิติวิทยาศาสตร์*****
ซึ่งภายหลังการทดสอบของผู้เชี่ยวชาญชาวฟินแลนด์และรัสเซีย โดยการตรวจดีเอ็นเอจากเลือดของบุตรและธิดาของวาสิลี ฟิลาตอฟ ในปี ค.ศ. 1996
___แสดงผลว่าพวกเขาเป็นผู้สืบสายโลหิตมาจากราชวงศ์โรมานอฟจริง___
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นและเป็นไคลแมกซ์ของเรื่อง คือการที่ครอบครัวฟิลาตอฟร้องขอความเป็นธรรมไปยังศาลโลก ณ กรุงเฮกให้เข้าแทรกแซงในขั้นตอนการพิสูจน์
(เพราะรัสเซียไม่อนุญาต คหสต.คงกลัวสั่นคลอนความมั่นคงประเทศ)
ในที่สุดรัฐบาลรัสเซียจึงอนุญาตในปี ค.ศ. 1997 ให้มีการตรวจดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนอวัยวะของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ ผู้วายชนม์ จากกระดูก เส้นผม ฟัน และเล็บ ตามระบบนิติเวชวิทยา รวมถึงการคำนวณส่วนประกอบของใบหน้า ตามอายุขัยในวัยต่างๆ ด้วยระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่
💐💐💐DNA ผลปรากฏว่า วาสิลี ฟิลาตอฟ คือบุคคลเดียวกันกับมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ โรมานอฟ💐💐💐
ปริศนาที่เป็นเรื่องเล่าอย่างสม่ำเสมอในครอบครัวฟิลาตอฟ คือการที่วาสิลีเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน แต่ความสามารถพิเศษที่ติดตัวเขามาไม่สามารถปิดบังไว้ได้นาน เช่น ความจัดเจนในการพูดภาษาเยอรมัน กรีก สโลวานิก ละติน อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างคล่องแคล่ว มีความรู้ทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ พงศาวดารรัสเซีย และการเมืองในยุโรปอย่างกว้างขวาง ดีกว่าคนรัสเซียชนบททั่วไป ตลอดจนความช่ำชองในการเล่นเปียโน และความรอบรู้เกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคของสังคมชั้นสูง สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ได้ใกล้ชิดเขาจนตลอดชีวิต เขารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ?
ไม่ทราบว่าเรื่องของเจ้าชายอเล็กเซย์และนายวาสิลีนี้ยังเรียกว่าเป็นปริศนาได้อยู่หรือเปล่าเมื่อมีผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาแบบนี้
ถ้าใครเคยอ่านหนังสือเล่มนี้รบกวนขอข้อมมูลเพิ่มเติมด้วยนะคะ
สรุปสังหารหมู่ครอบครัวพระเจ้าซาร์ กะผู้รอดชีวิตนี่ดำมืดมาถึงทุกวันนี้รึเปล่าคะ!