แชร์ประสบการณ์การซื้อของจากไทวัสดุ
เราได้ไปซื้อชุดโต๊ะกินข้าวจากไทวัสดุ เป็นชุดโต๊ะที่ท็อปด้วยหินอ่อน ราคาหมื่นนิดๆ และเนื่องจากสินค้ามีน้ำหนักมาก จึงไม่สามารถยกตัวที่ประกอบแล้วกลับได้ จึงต้องจ้างช่างเพิ่ม 1,000 บาทเพื่อไปประกอบให้พี่บ้าน สินค้าได้ถูกจัดส่งมาที่บ้านในวันที่ 20 มิ.ย. 67 โดยไม่ได้มีการแกะตรวจสอบใดๆ จากนั้นรอช่างเข้ามาติดตั้งในวันที่ 22 มิ.ย. 67
ในช่วงที่ช่างเข้ามาติดตั้งนั้นจะมีพ่อเป็นคนอยู่บ้าน หลังจากที่ติดตั้งเรียบร้อยแล้วประมาณ 30 นาที เราก็ได้เข้าไปตรวจดูตัวสินค้า ทำให้เราพบเจอรอยตำหนิที่อยู่บนแผ่นหินอ่อน ตามรูปที่แนบมา เราเลยติดต่อไปที่ call center ในตอนแรกพนักงานพูดปัดความรับผิดชอบไปให้กับช่างและบอกว่าลูกค้าควรแจ้งตอนที่ช่างอยู่ ซึ่งพ่อเราคงไม่ได้สังเกตเห็นเพราะก็อายุมากแล้ว เราเลยแจ้งว่าช่างก็เป็นของไทวัสดุที่ส่งมานะคะ สรุปทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบอะไรใช่ไหมคะ เขาก็เลยให้เราส่งรูปในเขาเพิ่มเติมในไลน์และแจ้งว่าจะประสานเจ้าหน้าที่ให้
หลังจากนั้นช่างก็ติดต่อมาแจ้งว่าจะเขามาขัดหินให้ ซึ่งเรามองว่าขัดแล้วมันจะหายเป็นปกติเหมือนตอนที่ไม่มีตำหนิหรอ เราคิดว่าทางบริษัทควรที่จะเปลี่ยนสินค้าให้เราใหม่ เราเลยแจ้งความต้องการกับช่างไป ช่างก็แจ้งว่าต้องเวลานาน อาจจะนานถึง3เดือน เราก็เลยถามว่าบริษัทไม่มีสต็อคสินค้าไว้สำหรับของที่มีตำหนิเหรอคะ
สักพักช่างก็แจ้งว่าจะเข้ามาดูหน้างาน พอเขามาถึงก็บอกให้เราช่วยเขาด้วย ถ้าเราต้องการเปลี่ยนตัวหินอ่อน เขาต้องรับซื้อไปเองซึ่งมันเป็นเงินที่เยอะสำหรับเขา ให้เรายอมรับสินค้าตัวนี้ที่มีรอยตำหนิเราเลยถามว่าทางบริษัทไทวัสดุเขาไม่รับผิดชอบในส่วนนี้เหรอ ช่างบอกว่ามันเป็นความผิดของเขาที่ไม่ตรวจเช็คสินค้าให้ดีก่อนติดตั้งในลูกค้า เราเลยบอกว่าเราเองก็ใช้เงินซื้อของ ราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ เราก็อยากได้ของที่ดีเหมือนกัน แต่สรุปท้ายแม่เราก็เห็นใจช่าง ยอมไม่เปลี่ยนสินค้าและเอาตัวมีตำนินี้ ก่อนหน้านี้ที่เขาบอกจะขัดให้ จริงๆแล้วมันจะยิ่งทำให้รอยแย่ลง เราก็เลยต้องใช้โต๊ะทานข้าวที่มีรอยแบบนี้ต่อไป
ส่วนนึงก็คงเป็นความผิดเราด้วยที่ไม่ได้ตรวจเช็คตั้งแต่ตอนที่ช่างอยู่ แต่เราคิดว่าการจัดการของบริษัทดูผลักภาระไปให้กับช่างมากเกินไป รู้สึกแย่กับการใช้บริการไทวัสดุในครั้งนี้มากๆเลย และก็คงเป็นบทเรียนให้เราอย่างดีในการตรวจสอบของที่จะซื้อ
ในรูปอาจจะดูเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่สำหรับเรามันไม่โอเคมากๆ เราเองก็ใช้เงินซื้อสินค้า เราก็คาดหวังที่จะได้รับสินค้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ผิดหวังกับการซื้อสินค้าจากไทวัสดุ
เราได้ไปซื้อชุดโต๊ะกินข้าวจากไทวัสดุ เป็นชุดโต๊ะที่ท็อปด้วยหินอ่อน ราคาหมื่นนิดๆ และเนื่องจากสินค้ามีน้ำหนักมาก จึงไม่สามารถยกตัวที่ประกอบแล้วกลับได้ จึงต้องจ้างช่างเพิ่ม 1,000 บาทเพื่อไปประกอบให้พี่บ้าน สินค้าได้ถูกจัดส่งมาที่บ้านในวันที่ 20 มิ.ย. 67 โดยไม่ได้มีการแกะตรวจสอบใดๆ จากนั้นรอช่างเข้ามาติดตั้งในวันที่ 22 มิ.ย. 67
ในช่วงที่ช่างเข้ามาติดตั้งนั้นจะมีพ่อเป็นคนอยู่บ้าน หลังจากที่ติดตั้งเรียบร้อยแล้วประมาณ 30 นาที เราก็ได้เข้าไปตรวจดูตัวสินค้า ทำให้เราพบเจอรอยตำหนิที่อยู่บนแผ่นหินอ่อน ตามรูปที่แนบมา เราเลยติดต่อไปที่ call center ในตอนแรกพนักงานพูดปัดความรับผิดชอบไปให้กับช่างและบอกว่าลูกค้าควรแจ้งตอนที่ช่างอยู่ ซึ่งพ่อเราคงไม่ได้สังเกตเห็นเพราะก็อายุมากแล้ว เราเลยแจ้งว่าช่างก็เป็นของไทวัสดุที่ส่งมานะคะ สรุปทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบอะไรใช่ไหมคะ เขาก็เลยให้เราส่งรูปในเขาเพิ่มเติมในไลน์และแจ้งว่าจะประสานเจ้าหน้าที่ให้
หลังจากนั้นช่างก็ติดต่อมาแจ้งว่าจะเขามาขัดหินให้ ซึ่งเรามองว่าขัดแล้วมันจะหายเป็นปกติเหมือนตอนที่ไม่มีตำหนิหรอ เราคิดว่าทางบริษัทควรที่จะเปลี่ยนสินค้าให้เราใหม่ เราเลยแจ้งความต้องการกับช่างไป ช่างก็แจ้งว่าต้องเวลานาน อาจจะนานถึง3เดือน เราก็เลยถามว่าบริษัทไม่มีสต็อคสินค้าไว้สำหรับของที่มีตำหนิเหรอคะ
สักพักช่างก็แจ้งว่าจะเข้ามาดูหน้างาน พอเขามาถึงก็บอกให้เราช่วยเขาด้วย ถ้าเราต้องการเปลี่ยนตัวหินอ่อน เขาต้องรับซื้อไปเองซึ่งมันเป็นเงินที่เยอะสำหรับเขา ให้เรายอมรับสินค้าตัวนี้ที่มีรอยตำหนิเราเลยถามว่าทางบริษัทไทวัสดุเขาไม่รับผิดชอบในส่วนนี้เหรอ ช่างบอกว่ามันเป็นความผิดของเขาที่ไม่ตรวจเช็คสินค้าให้ดีก่อนติดตั้งในลูกค้า เราเลยบอกว่าเราเองก็ใช้เงินซื้อของ ราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ เราก็อยากได้ของที่ดีเหมือนกัน แต่สรุปท้ายแม่เราก็เห็นใจช่าง ยอมไม่เปลี่ยนสินค้าและเอาตัวมีตำนินี้ ก่อนหน้านี้ที่เขาบอกจะขัดให้ จริงๆแล้วมันจะยิ่งทำให้รอยแย่ลง เราก็เลยต้องใช้โต๊ะทานข้าวที่มีรอยแบบนี้ต่อไป
ส่วนนึงก็คงเป็นความผิดเราด้วยที่ไม่ได้ตรวจเช็คตั้งแต่ตอนที่ช่างอยู่ แต่เราคิดว่าการจัดการของบริษัทดูผลักภาระไปให้กับช่างมากเกินไป รู้สึกแย่กับการใช้บริการไทวัสดุในครั้งนี้มากๆเลย และก็คงเป็นบทเรียนให้เราอย่างดีในการตรวจสอบของที่จะซื้อ
ในรูปอาจจะดูเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่สำหรับเรามันไม่โอเคมากๆ เราเองก็ใช้เงินซื้อสินค้า เราก็คาดหวังที่จะได้รับสินค้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด