คือ.....เราตั้งครรภ์ กับคนที่เราไม่ได้ตกลกเป็นแฟนกัน แต่เรามีแฟนที่อยู่ห่างไกลกันและกำลังจะเลิกขาดกัน แต่แฟนเรารักเรามากแต่ก็ไม่มีเวลาให้เรา บ้างาน โฟกัสเรื่องงาน จนบกพร่องเรื่องความรัก ส่วนเราก็เป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตตัวคนเดียว ไม่เคยแอบนอกใจ จนเหนื่อยกับอยู่ตัวคนเดียว บวกกับแฟนไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ เลยคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง พูดคุยกันและนัดเจอ รู้จักกันประมาณหนึ่ง เค้าก็ให้เราไปหาที่บ้านเค้าอยู่บ่อยๆ ก็มีความสัมพันธ์ แต่ไม่มีความคิดที่จะคบกันแบบจริงๆจังๆ เค้าชอบจับผิดคิดว่าเราอยู่กับผู้ชายคนอื่นอยู่ตลอด เราทำงาน อยู่กับครอบครัวตลอด ไปต่างจังหวัดก็ไปกับคนในครอบครัว เค้าก็คิดว่าเราอยู่กับผู้ชายอื่น
จนกระทั่ง....รู้จักกันมาได้ 3 เดือน เราตรวจพบว่ามีการตั้งครรภ์ ซึ่งเค้าบอกกับเราว่าเค้าได้มีการทำหมันแล้ว เราเครียดมาก ก่อนที่เราจะมาเจอเขา ก่อนหน้านี้ 1 เดือนเรามีอะไรกับแฟนก่อนที่จะห่างๆกันไป ช่วงระยะห่างคือ 1 เดือนนิดๆ เราเลยไปอัลตร้าซาวด์ ซึ่งช่วงระยะเวลาการตั้งครรภ์มันไม่ใช่ของแฟนเราแน่ๆ แต่คนที่เรากำลังคุยอยู่ เค้าก็บอกว่าทำหมัน เรามั่นใจว่าหมันเขามีโกกาสที่จะหลุด เราคงเป็นผู้โชคร้าย เป็นคนในเปอร์เซ็นส์ส่วนน้อยที่จะเจอแบบนี้ เเล้วช่วงระยะการตั้งครรภ์ก็เป็นของเค้า แต่เค้าไม่ยอมรับการเป็นพ่อเด็ก โดยให้เหตุผลเราว่า เราโกหก หาว่าเราไปมีผู้ชายอื่นระหว่างที่คุยกับเขา ซึ่งเราไม่เคยไปอยู่กับใครเลยนอกจากเขา เขาบอกว่าถ้าเราจะนำเด็กออก เขาจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่ถ้าเก็บเด็กไว้ ต้องรอให้เด็กคลอด และตรวจ DNA เขาถึงจะยอมรับผิดชอบ ซึ่งระหว่างนี้คือเราต้องดูเเลตัวเอง โดยที่เค้าไม่สนใจว่าจะเป็นลูกตัวเองจริงๆหรือไม่ เรากับเขาตกลกกันไว้ว่าเราจะไม่ใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะเราไม่ได้รักกัน แต่เราดันพลาดเอง เราให้เค้าไปตรวจสอบการทำหมัน เค้าก็ให้เหตุผลว่าต้องรอกลับไปเช็คกับหมอคนที่เขาไปทำมา ซึ่งอยู่เกาหลี อันนี้คือเขาไปทำที่เกาหลีจริงๆ เราก็ขอให้เขาไปเช็คกับหมอที่ไทย เพื่อที่จะได้รู้ไวๆว่าหมันเขาหลุดหรือเปล่า เขาก็จะรอกลับไปตรวจที่เกาหลี
ระหว่างที่เราตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน แฟนที่เราพยายามห่าง เขาก็ทักมาตลอด พยายามง้อ เราเครียดและอึดอัดใจมาก และเค้าก็ไม่รู้ว่าเราไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่น เค้าเชื่อใจเรามาก คิดว่าเราทำแต่งานคงไม่มีเวลาไปมีคนอื่น เราเลยบอกกับเขาว่าเราตั้งครรภ์ ได้ 3 เดือน เขาไม่ถามและไม่สงสัยอะไรในตัวเรา เขาคิดว่ายังไงก็ลูกของเขาแบบ 100% ด้วยความที่เค้าอยากมีครอบครัวกับเราคาดหวัง เค้าดีใจที่จะไม่ต้องเลิกกันเพราะมีลูก เค้าพร้อมบอกคนในครอบครัว และพร้อมใช้ชีวิตกับเรา
แต่..... เราอึดอัดใจ เรื่องพ่อของลูก เราลังเล กลัวว่าถ้าไม่ใช่ลูกของแฟนเรา ในอนาคตจะมีปัญหา และคนคุยเราที่บอกว่าทำหมัน หากลูกเกิดมา แล้วเค้าตรวจ DNA เป็นลูกเค้าจริงๆ เราควรทำอย่างไร เเถมเค้าเคยนัดคุยเรื่ิองลูก ขอเอกสารสำคัญทุกอย่าง และมีทนายมาเกี่ยวข้อง และเค้ามีทุกอย่างเพียบพร้อมที่จะดูแลเด็กได้ หากเป็นลูกเค้า
ตอนนี้สับสนมาก เพื่อนบอกให้เราตัดขาดกับคนคุยซะ จะได้ไม่ต้องมีพันธะอะไรใดๆต่อกัน แล้วให้เราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับแฟนตัวเอง ถ้าเราเลือกแบบนั้น ในเร็วๆนี้เค้าจะมาขอเราแต่งงาน และจะทะเบียนสมรส มันทำให้เรารู้สึกกล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าตัดสินใจที่จะทำอะไร มัวรอท้องก็คงจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เรื่ิองยาวและซับซ้อนมาก รายละเอียดบางอย่างอธิบายได้ไม่หมด เท่าที่เล่ามา ทุกมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ เราพูดและปรึกษาเรื่องนี้กับใครไม่ได้จริงๆ เราเป็นคนคนหนึ่งที่ทุกคนคาดหวัง และไว้วางใจ ว่าเราจัดการชีวิตตัวเองได้ดี มันเลยพูดไม่ได้
มีใครอยากจะแนะนำ จะชี้แนะ บ่น ว่าเตือน เรายอมรับทุกความคิดเห็น จริงๆเราอยากได้คำปรึกษาที่เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรา และกับแฟนเรา รวมถึงเด็กด้วยค่ะ 🥹🥹🥹
ตั้งครรภ์ พ่อเด็กไม่ยอมรับ ให้รอตรวจ DNA ตอนเด็กเกิด จนเรื่องราวซับซ้อน
จนกระทั่ง....รู้จักกันมาได้ 3 เดือน เราตรวจพบว่ามีการตั้งครรภ์ ซึ่งเค้าบอกกับเราว่าเค้าได้มีการทำหมันแล้ว เราเครียดมาก ก่อนที่เราจะมาเจอเขา ก่อนหน้านี้ 1 เดือนเรามีอะไรกับแฟนก่อนที่จะห่างๆกันไป ช่วงระยะห่างคือ 1 เดือนนิดๆ เราเลยไปอัลตร้าซาวด์ ซึ่งช่วงระยะเวลาการตั้งครรภ์มันไม่ใช่ของแฟนเราแน่ๆ แต่คนที่เรากำลังคุยอยู่ เค้าก็บอกว่าทำหมัน เรามั่นใจว่าหมันเขามีโกกาสที่จะหลุด เราคงเป็นผู้โชคร้าย เป็นคนในเปอร์เซ็นส์ส่วนน้อยที่จะเจอแบบนี้ เเล้วช่วงระยะการตั้งครรภ์ก็เป็นของเค้า แต่เค้าไม่ยอมรับการเป็นพ่อเด็ก โดยให้เหตุผลเราว่า เราโกหก หาว่าเราไปมีผู้ชายอื่นระหว่างที่คุยกับเขา ซึ่งเราไม่เคยไปอยู่กับใครเลยนอกจากเขา เขาบอกว่าถ้าเราจะนำเด็กออก เขาจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่ถ้าเก็บเด็กไว้ ต้องรอให้เด็กคลอด และตรวจ DNA เขาถึงจะยอมรับผิดชอบ ซึ่งระหว่างนี้คือเราต้องดูเเลตัวเอง โดยที่เค้าไม่สนใจว่าจะเป็นลูกตัวเองจริงๆหรือไม่ เรากับเขาตกลกกันไว้ว่าเราจะไม่ใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะเราไม่ได้รักกัน แต่เราดันพลาดเอง เราให้เค้าไปตรวจสอบการทำหมัน เค้าก็ให้เหตุผลว่าต้องรอกลับไปเช็คกับหมอคนที่เขาไปทำมา ซึ่งอยู่เกาหลี อันนี้คือเขาไปทำที่เกาหลีจริงๆ เราก็ขอให้เขาไปเช็คกับหมอที่ไทย เพื่อที่จะได้รู้ไวๆว่าหมันเขาหลุดหรือเปล่า เขาก็จะรอกลับไปตรวจที่เกาหลี
ระหว่างที่เราตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน แฟนที่เราพยายามห่าง เขาก็ทักมาตลอด พยายามง้อ เราเครียดและอึดอัดใจมาก และเค้าก็ไม่รู้ว่าเราไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่น เค้าเชื่อใจเรามาก คิดว่าเราทำแต่งานคงไม่มีเวลาไปมีคนอื่น เราเลยบอกกับเขาว่าเราตั้งครรภ์ ได้ 3 เดือน เขาไม่ถามและไม่สงสัยอะไรในตัวเรา เขาคิดว่ายังไงก็ลูกของเขาแบบ 100% ด้วยความที่เค้าอยากมีครอบครัวกับเราคาดหวัง เค้าดีใจที่จะไม่ต้องเลิกกันเพราะมีลูก เค้าพร้อมบอกคนในครอบครัว และพร้อมใช้ชีวิตกับเรา
แต่..... เราอึดอัดใจ เรื่องพ่อของลูก เราลังเล กลัวว่าถ้าไม่ใช่ลูกของแฟนเรา ในอนาคตจะมีปัญหา และคนคุยเราที่บอกว่าทำหมัน หากลูกเกิดมา แล้วเค้าตรวจ DNA เป็นลูกเค้าจริงๆ เราควรทำอย่างไร เเถมเค้าเคยนัดคุยเรื่ิองลูก ขอเอกสารสำคัญทุกอย่าง และมีทนายมาเกี่ยวข้อง และเค้ามีทุกอย่างเพียบพร้อมที่จะดูแลเด็กได้ หากเป็นลูกเค้า
ตอนนี้สับสนมาก เพื่อนบอกให้เราตัดขาดกับคนคุยซะ จะได้ไม่ต้องมีพันธะอะไรใดๆต่อกัน แล้วให้เราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับแฟนตัวเอง ถ้าเราเลือกแบบนั้น ในเร็วๆนี้เค้าจะมาขอเราแต่งงาน และจะทะเบียนสมรส มันทำให้เรารู้สึกกล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าตัดสินใจที่จะทำอะไร มัวรอท้องก็คงจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เรื่ิองยาวและซับซ้อนมาก รายละเอียดบางอย่างอธิบายได้ไม่หมด เท่าที่เล่ามา ทุกมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ เราพูดและปรึกษาเรื่องนี้กับใครไม่ได้จริงๆ เราเป็นคนคนหนึ่งที่ทุกคนคาดหวัง และไว้วางใจ ว่าเราจัดการชีวิตตัวเองได้ดี มันเลยพูดไม่ได้
มีใครอยากจะแนะนำ จะชี้แนะ บ่น ว่าเตือน เรายอมรับทุกความคิดเห็น จริงๆเราอยากได้คำปรึกษาที่เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรา และกับแฟนเรา รวมถึงเด็กด้วยค่ะ 🥹🥹🥹