มือใหม่หัดรีวิวค่ะเพื่อนๆ วันนี้อยากถ่ายรูปสวยๆ โซนสุขุมวิท ค้นไปค้นมาเจอคาเฟ่ลับที่ไม่ค่อยมีคนรู้เท่าไหร่ว่าเขามาแอบมาตั้งอยู่ตรงนี้ สำหรับสายถ่ายรูปคาเฟ่อย่างเราพอได้เห็นรีวิวท่านอื่นเลยต้องขอตามมาพิสูจน์เลยว่าร้านจะสวยเหมือนในรีวิวไหม ไม่รอช้าเราเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ

สำหรับการเดินทางเราวางแผนไว้คือเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ลงสถานีพร้อมพงษ์ เข้าซอยสุขุมวิท 33/1 หลังจากนั้นเดินตามทางไปต่อที่สุขุมวิท 39

แต่ก่อนที่เราจะไปคาเฟ่เพื่อถ่ายรูป ขอแวะสัมผัสบรรยากาศแบบเจแปนๆที่ซอยสุขุมวิท 33/1 กันก่อน หลังจากที่ลงจาก BTS เดินมาทางออกที่ 5 เข้าซอยสุขุมวิท 33/1 ในซอยจะให้ฟีลเดินอยู่ญี่ปุ่นสุดๆ ร้านค้าทั้งสองฝั่งจะตกแต่งด้วยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น รูปแมวกวัก และในช่วงนี้มีการห้อยกระดาษสีตกแต่งต้อนรับเทศกาลทานาบาตะด้วยค่ะ

เดินไปอีกประมาณ 50 เมตร จากปากซอย จะเจอร้านขนมเจ้าดังสุดน่ารัก ราคาดีจากญี่ปุ่นชื่อร้าน Custard Nakamura บอกเลยว่าขนมเขาไม่ใช่แค่หน้าตาน่ารักเท่านั้น ราคายังน่ารักสุดๆไปเลยด้วย แล้วเนื่องจากเป็นร้านดัง ขนมบางอย่างขายหมดเร็วมาก ใครเล็งอะไรไว้ อาจจะต้องรีบมานิดนึงนะคะ นอกจากหน้าตาของขนมที่น่ารักแล้ว ราคาก็ยังน่ารักมากด้วย เป็นร้านที่ควรเซฟพิกัดเก็บไว้เลยค่ะ

สำหรับใครที่เดินทางไปในช่วงนี้ ทางร้านมีกิจกรรมทานาบาตะ ให้เราเขียนขอพรแล้วแขวนบนกิ่งไผ่ด้วยนะคะ 

จากนั้นเราไปต่อที่ร้านคาเฟ่ที่เราตั้งใจมาเพื่อถ่ายรูปกันเลย คาเฟ่นั้นก็คือ คาเฟ่ อเมซอน สาขาสุขุมวิท 39 นั้นเองค่ะ เพื่อนๆน่าจะแปลกใจว่าทำไมต้องรีวิว ทั้งที่คาเฟ่อเมซอนเขาชื่อดังอยู่แล้ว ซึ่งจุดนี้เกือบทำให้เราพลาดโลเคชั่นถ่ายรูปสวยๆเช่นกันค่ะ เพราะความโดดเด่นของสาขานี้อยู่ที่ตัวร้านที่ออกแบบตัวอาคารเป็นสไตล์ยุโรป เรียบหรู ดูแพง มีมุมถ่ายรูปสวยๆเพียบ ส่วนตัวเราชอบมุมบันไดวนสองฝั่งของหน้าร้าน ให้ฟีลเป็นลูกคุณมากค่ะ

บรรยากาศภายในร้านก็ตกแต่งได้อย่างสวยงามไม่แพ้หน้าร้านกันเลย ชั้นล่างจะเป็นโซนขายเครื่องดื่มและขนม  มีการแบ่งสัดส่วนร้านได้อย่างลงตัว ความพิเศษของสาขานี้อีกอย่างคือมีเมนูโจ๊กขายด้วยนะคะ 

โซนชั้นสอง ขึ้นจากทางบันไดวนหน้าร้าน เนื่องจากเพดานภายในร้านค่อนข้างสูง ส่วนของผนังร้านเป็นกระจกที่เปิดรับแสงเกือบรอบทิศทาง ทำให้บรรยากาศในร้านดูไม่แออัด โล่ง โปร่ง นั่งแล้วรู้สึกสบายมาก แถมสาขานี้มีห้องน้ำในตัวบนชั้นสองด้วยนะ ทั้งนี้ทั้งนั้นทางร้านก็ไม่ได้ทิ้งกิมมิคของแบรนด์ ด้วยการตกแต่งร้านด้วยใบไม้สีเขียว บวกกับไฟสีวอร์มไลท์ ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายใจเหมือนอยู่บ้านอีกด้วย

มาที่พระเอกนางเอกของเราในวันนี้กัน เห็นเมนูนี้โฆษณาหลายวัน วันนี้มีโอกาศเลยลองสั่งมาชิมซักหน่อยสงสัยมากว่าขนมไทยจะไปสุดที่ตรงไหน ล่าสุด Cafe Amazon ออกเมนูใหม่มาสองตัวคือ Iced Piek Poon Café Latte  และ Piek Poon Milk Frappe

เริ่มที่เมนูแรกกันเลย Iced Piek Poon Café Latte กาแฟนม บวกความละมุนของครีมเปียกปูน ออนท็อปด้วยมะพร้าวอบกรอบ เป็นการเพิ่มแท็กเจอร์เล็กๆให้ไม่น่าเบื่อ ส่วนตัวไม่ใช่สายดื่มกาแฟ แต่เมนูนี้มีความลงตัวระหว่างนมกับกาแฟเหมือนกินนมรสกาแฟมากกว่า ความหวานกำลังพอดี ครีมเปียกปูนมีความเบา หอมกลิ่นเปียกปูนมาก เก็บเป็นเมนูในใจอีกตัว

มาต่อที่เมนูที่สอง Piek Poon Milk Frappe นมเปียกปูนปั่น บวกครีมมะพร้าวและท็อปปิ้งด้วยมะพร้าวอบกรอบเคี้ยวกรุบ เมนูนี้คือเลิฟมากกกก ก ไก่ล้านตัวเลยค่ะ ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบกินเมนูชาใส่นมอยู่แล้ว มาเจอการจับคู่ของนมกับเปียกปูน มันดี มันลงตัวมาก เหมือนเดิมความหวานกำลังพอดี ความกลมกล่อมพอดี กลิ่นและความนัวพอกับตัวแรก ส่วนครีมมะพร้าวหอมมาก ไม่เลี่ยนเลยค่ะ  กดไลค์รัวๆไปเลย

ลืมบอกเลยทั้งสองเมนูราคาแค่ 79 บาทเอง เราใช้แอป xplORe สแกนจ่ายเพื่อสะสมคะแนน blueplus+ ไปในตัว แล้วยังมีดีลกับส่วนลดในแอปเยอะมาก สะดวก คุ้มแบบนี้ แนะนำให้เพื่อนๆมีติดมือถือกันไว้ แล้วอย่าลืม เมนู Iced Piek Poon Café Latte  และ Piek Poon Milk Frappe จะมีขายถึงแค่ 31 กรกฎาคม รีบไปลองชิมกันเยอะๆนะคะ

จริงๆโซนนี้มีร้านอาหาร คาเฟ่ และไลฟ์สไตล์อื่นๆให้มาแวะพักผ่อนในวันหยุดอีกเพียบเลยค่ะ ใครมีจุดไหนแนะนำอยากให้รีวิวเพิ่มเติมคอมเม้นต์บอกกันไว้ได้นะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านกันมาจนจบค่ะ ครั้งหน้าจะหาอะไรมารีวิวให้ได้ชมกันอีกนะคะ ฝากรอติดตามชมกันด้วยงับ

ปล.แปะพิกัดร้านไว้ให้ตรงนี้นะคะ ใครอยู่โซนใกล้ๆอย่าลืมแวะไปน้าาา