เอ็มเค แจงเหตุลูกค้าแพ้อาหาร รับผิดชอบค่ารักษา ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

ลูกชิ้นปู กับ หมูทรงเครื่อง แต่มีเนื้อปลา 

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ลงในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค ระบุว่าได้พาครอบครัวไปทานสุกี้เจ้าดังแห่งหนึ่ง ซึ่งทางครอบครัวทานกันเป็นประจำ เมื่อทานไปได้สักระยะลูกชายเริ่มมีอาการไอและอาเจียน พูดไม่มีเสียง ตนจึงรีบเช็คบิลและพาลูกส่งรพ.เอกชนที่ใกล้เคียงที่สุด เมื่อมาถึงหมอแจ้งว่าดีนะที่มาไว หากช้ากว่านี้สัก 2-3 นาที ลูกชายอาจจะหายใจเองไม่ได้แน่ เพราะว่าตอนที่มาถึงหลอดลมตีบมาก แต่หมอและพยาบาลได้ช่วยเหลือจนได้พ้นขีดอันตราย

จากนั้นทางร้านสุกี้เจ้าดังก็ได้ติดต่อมาสอบถามอาการของลูกชายตน ซึ่งตนก็ได้แจ้งไปว่าลูกชายแพ้ปลา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ทานได้ปกติ แต่รอบนี้คิดว่ามีอยู่ 2 รายการที่สั่งมาคือ “ลูกชิ้นปู” กับ “หมูทรงเครื่อง” ซึ่งทางพนักงานแจ้งมาว่ามีส่วนผสมของเนื้อปลาทั้ง 2 รายการ จนเกิดเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างตามที่ได้นำเสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ล่าสุด ทางบริษัทร้านสุกี้เจ้าดังรายได้กล่าวได้ออกหนังสือชี้แจงโดยระบุเป็นข้อความว่า

“เรื่องชี้แจงความคืบหน้ากรณีบลูกค้าแพ้อาหารในร้านอาหาร MK Restaurants

จากกรณีลูกค้าแพ้อาหารที่เกิดขึ้น ทางบริษัทรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ หากทราบข้อมูลการแพ้อาหารก่อนรับประทาน ทางบริษัทสามารถตรวจสอบส่วนผสมในอาหารทุกรายการอย่างละเอียดและให้ข้อมูลกับลูกค้าก่อนสั่งอาหารได้

ทั้งนี้ทางบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ดำเนินการติดตามอาการของลูกค้า ตั้งแต่ขณะรับประทานที่ร้านจนถึงโรงพยาบาล เข้าเยี่ยมติดตามอาการด้วยกระเช้าดอกไม้และมื้ออาหารสำหรับผู้ปกครองเฝ้าไข้ และดูแลลูกค้าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์อย่างเต็มที่ โดยทางร้านได้ติดต่อกับลูกค้าเพื่อช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

ในส่วนของมาตรการของบริษัทในการป้องกันการแพ้อาหารของลูกค้า ทางบริษัทได้มีการจัดกลุ่มการแพ้อาหารกลุ่มหลัก โดยระบุข้อมูลในรายการอาหารทั้งหมด พร้อมคำแนะนำในเมนูหากลูกค้าแพ้อาหารชนิดใด สามารถแจ้งพนักงานเพื่อตรวจสอบส่วนผสมในรายการอาหารที่ลูกค้าต้องการสั่งได้ อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางบริษัทตั้งใจที่จะปรับปรุงมาตรการให้ดีขึ้นเพื่อดูแลลูกค้าอย่างดีต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด มหาชน”

... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/social/news_4639684
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่