แม็กซ์ (ไคลฟ์ โอเว่น) ชายหนุ่มรักร่วมเพศที่อาศัยอยู่ในเบอร์ลินช่วงปี 1930 เขาใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจใคร
นั่นทำให้เขาต้องขัดแย้งกับครอบครัวของตัวเอง.. ในค่ำวันหนึ่ง แม็กซ์พาหนุ่มหล่อ กลับมานอนด้วยที่บ้าน
ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรูดี้ แฟนหนุ่มตัวจริงของเขา
และในค่ำคืนนั้นเองได้เกิดปฏิบัติการ ‘คืนมีดยาว’ ขึ้น (เป็นแผนการที่นาซีกลุ่มหนึ่งใช้หักหลังนาซีอีกกลุ่มหนึ่ง)
กลุ่มสังหาร SS ได้ทำการสังหารหน่วยทหาร SA ระดับบน ซึ่งชายที่แม็กซ์พามานี่ล่ะคือ 1 ในทหารหน่วยนี้ที่กำลังถูกตามล่า ..
SA คนดังกล่าวถูกค้นพบและสังหารในที่สุด ขณะที่แม็กซ์และรูดี้ พวกเขาทั้งสองก็ต้องหนีตายจากเบอร์ลินเช่นกัน
ด้วยข้อหาสองอย่างคือ พวกเขาเป็นชาวยิวและเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ...
แม้ว่าเฟรดดี (เอียน แม็คเคลเลน) ลุงของแม็กซ์จะจัดการหาตั๋วให้เขาเดินทางหนีไปยังอัมสเตอร์ดัมแล้วก็ตาม
แต่ด้วยความที่ห่วงแฟนหนุ่มอย่างรูดี้ ทำให้แม็กซ์ปฏิเสธโอกาสของลุงที่จะหนีออกจากเยอรมัน...
สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ถูกทหารนาซีจับกุมตัวในที่สุด ทั้งคู่ถูกพาตัวไปยังค่ายกักกันที่ดาเคา..
บนรถไฟ รูดี้ถูกผู้คุมทำร้ายจนเสียชีวิต.. แม็กซ์ใจสลายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อไปถึงที่ค่ายดังกล่าวเขาพยายามปกปิดตัวเองไม่ให้คนในค่ายรู้ว่าตัวตนของเขานั้นเป็นอย่างไร..
จนกระทั่งเขาก็ได้พบกับ ฮอร์สท์ ชายหนุ่มผู้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นรักร่วมเพศ
และนั่นทำให้แม็กซ์ได้เกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นมาอีกครั้ง
Bent เป็นภาพยนตร์ดราม่า โดยนำเหตุการณ์ช่วงหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ด้วยน้ำมือนาซี
ซึ่งในเรื่องนี้จะเป็นการจับกุมและสังหารเหล่าผู้ที่มีรสนิยมรักร่วมเพศ ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดอย่างร้ายแรงช่วงที่นาซีครองอำนาจ
ผลงานการกำกับของ Sean Mathias จากบทละครชื่อเดียวกันในปี 1979 ซึ่งมาเธียสเป็นนักเขียนบท
และมีผลงานการกำกับละครเวทีมามากมายครับ แต่กับภาพยนตร์นั้น นี่คือเรื่องแรกและเรื่องเดียวของเจ้าตัว
มีการคาดการณ์ครับว่าในช่วงที่นาซีปกครองนั้นมีการจับกุมชายรักร่วมเพศกว่า 1 แสนรายเลยทีเดียวครับ
เมื่อถูกจับและถูกส่งไปในค่ายกักกันนั้น นักโทษชายเหล่านี้ต้องใส่ชุดนอนที่ติดรูปสามเหลี่ยมสีชมพู
เพื่อเป็นการจำแนกประเภทนักโทษ ..และคนที่ได้ตราอันนี้ล่ะครับ คือกลุ่มคนที่จะถูกทารุณมากสุดในค่าย
ทั้งจากผู้คุมและบางครั้งก็คนที่อยู่ในค่ายเดียวกันนั่นเอง
และเนื่องจากกลัวในสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากตราสามเหลี่ยมสีชมพูอันนี้ ทำให้เหล่าชายรักร่วมเพศจึงพยายามปิดบังตัวตน
ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกันกับแม็กซ์ ตัวเอกของเรื่องนี้ ที่กลัวโทษต่างๆที่ตัวเองจะได้รับ
จนกระทั่งเมื่อเขาพบกับ ฮอร์สท์ นักโทษที่ไม่เคยปิดบังในสิ่งที่ตัวเองเป็น.. นั่นทำให้แม็กซ์มีความกล้าหาญมากขึ้น
ในเรื่องนี้ถือเป็นผลงานชิ้นแรกๆของไคลฟ์ โอเว่น (ผลงานที่เป็นที่รู้จักกันดีก็หนังระดับเทพอย่าง Children of Men... Sin City)
ซึ่งเราจะเห็นไคลฟ์ในสภาพหาชมได้ยากยิ่งผอมบักโบรก..เล่นได้โทรมอย่างที่สุด
และหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายให้ทำในค่ายกักกันนั้นก็ไร้เหตุผลสิ้นดี แบบว่า เห้ย.. มันมีงานแบบนี้อยู่จริงๆเหรอเนี่ย
(ต้องไปดูเองครับว่างานที่ไคลฟ์ โอเว่น ทำในค่ายกักกันนั้นคืองานอะไร ให้ตายคุณก็ไม่มีทางเดาถูก!!!)
นอกจากนี้ซีนที่ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าจดจำอย่างยิ่งของโลกภาพยนตร์นั่นก็คือ ฉากเลิฟซีน ที่ตัวเอกทั้ง 2 ของเรื่อง
พระเอกและนายเอก ไม่ได้สัมผัส ไม่ได้แตะตัวกันเลยสักนิด แถมหน้าก็ไม่ได้มองกันอีก ยืนห่างกันน่าจะราว 2 คืบได้
แต่ด้วยบทสนทนาและอารมณ์ที่แสดงออกมาทางสีหน้า มันคือซีน 18+ ที่เร้าอารมณ์ sexy ชวนสยิวอย่างถึงที่สุดจริงๆครับ
และเรื่องนี้ดาราที่มาร่วมแจมนี่มากมายจริงๆครับ บางคนถ้าดูไม่ดีนี่ ไม่เห็นจริงๆนะ
อาทิเช่น มิก แจ็กเกอร์ นักร้องนำวงโรลลิ่งสโตนส์ในบทที่เห็นแล้วต้องว้าวว.. จู๊ด ลอว์ ก็มาแบบประโยคเดียวได้...
แถมยังมีราเชลส์ ไวซ์ ในบทผ่านตาแค่แวบเดียวจริงๆ.. (คือถ้าไม่สังเกต ก็ไม่เห็นล่ะครับ)
โดยสรุป Bent คือ 1 ในหนังที่ถ่ายทอดความโหดร้ายที่นาซีกระทำต่อกลุ่มคนรักร่วมเพศ
และผลของมันนั้นก็ส่งผลต่อเนื่องในเชิงกฎหมายของเยอรมันต่อไปแม้ว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 จะจบลงไปแล้วก็ตาม
ซึ่งถือเป็นความอยุติธรรมที่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่สมควรจะต้องมาได้รับอะไรแบบนี้เลย...
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม และการยอมรับในตัวตนที่เราเป็นก็ถือเป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่เรามีต่อตัวเองด้วยเช่นกัน
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Bent (1997) ชะตากรรมของชายรักชาย..ในค่ายนรกนาซี ==
แม็กซ์ (ไคลฟ์ โอเว่น) ชายหนุ่มรักร่วมเพศที่อาศัยอยู่ในเบอร์ลินช่วงปี 1930 เขาใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจใคร
นั่นทำให้เขาต้องขัดแย้งกับครอบครัวของตัวเอง.. ในค่ำวันหนึ่ง แม็กซ์พาหนุ่มหล่อ กลับมานอนด้วยที่บ้าน
ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรูดี้ แฟนหนุ่มตัวจริงของเขา
และในค่ำคืนนั้นเองได้เกิดปฏิบัติการ ‘คืนมีดยาว’ ขึ้น (เป็นแผนการที่นาซีกลุ่มหนึ่งใช้หักหลังนาซีอีกกลุ่มหนึ่ง)
กลุ่มสังหาร SS ได้ทำการสังหารหน่วยทหาร SA ระดับบน ซึ่งชายที่แม็กซ์พามานี่ล่ะคือ 1 ในทหารหน่วยนี้ที่กำลังถูกตามล่า ..
SA คนดังกล่าวถูกค้นพบและสังหารในที่สุด ขณะที่แม็กซ์และรูดี้ พวกเขาทั้งสองก็ต้องหนีตายจากเบอร์ลินเช่นกัน
ด้วยข้อหาสองอย่างคือ พวกเขาเป็นชาวยิวและเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ...
แม้ว่าเฟรดดี (เอียน แม็คเคลเลน) ลุงของแม็กซ์จะจัดการหาตั๋วให้เขาเดินทางหนีไปยังอัมสเตอร์ดัมแล้วก็ตาม
แต่ด้วยความที่ห่วงแฟนหนุ่มอย่างรูดี้ ทำให้แม็กซ์ปฏิเสธโอกาสของลุงที่จะหนีออกจากเยอรมัน...
สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ถูกทหารนาซีจับกุมตัวในที่สุด ทั้งคู่ถูกพาตัวไปยังค่ายกักกันที่ดาเคา..
บนรถไฟ รูดี้ถูกผู้คุมทำร้ายจนเสียชีวิต.. แม็กซ์ใจสลายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อไปถึงที่ค่ายดังกล่าวเขาพยายามปกปิดตัวเองไม่ให้คนในค่ายรู้ว่าตัวตนของเขานั้นเป็นอย่างไร..
จนกระทั่งเขาก็ได้พบกับ ฮอร์สท์ ชายหนุ่มผู้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นรักร่วมเพศ
และนั่นทำให้แม็กซ์ได้เกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นมาอีกครั้ง
Bent เป็นภาพยนตร์ดราม่า โดยนำเหตุการณ์ช่วงหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ด้วยน้ำมือนาซี
ซึ่งในเรื่องนี้จะเป็นการจับกุมและสังหารเหล่าผู้ที่มีรสนิยมรักร่วมเพศ ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดอย่างร้ายแรงช่วงที่นาซีครองอำนาจ
ผลงานการกำกับของ Sean Mathias จากบทละครชื่อเดียวกันในปี 1979 ซึ่งมาเธียสเป็นนักเขียนบท
และมีผลงานการกำกับละครเวทีมามากมายครับ แต่กับภาพยนตร์นั้น นี่คือเรื่องแรกและเรื่องเดียวของเจ้าตัว
มีการคาดการณ์ครับว่าในช่วงที่นาซีปกครองนั้นมีการจับกุมชายรักร่วมเพศกว่า 1 แสนรายเลยทีเดียวครับ
เมื่อถูกจับและถูกส่งไปในค่ายกักกันนั้น นักโทษชายเหล่านี้ต้องใส่ชุดนอนที่ติดรูปสามเหลี่ยมสีชมพู
เพื่อเป็นการจำแนกประเภทนักโทษ ..และคนที่ได้ตราอันนี้ล่ะครับ คือกลุ่มคนที่จะถูกทารุณมากสุดในค่าย
ทั้งจากผู้คุมและบางครั้งก็คนที่อยู่ในค่ายเดียวกันนั่นเอง
และเนื่องจากกลัวในสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากตราสามเหลี่ยมสีชมพูอันนี้ ทำให้เหล่าชายรักร่วมเพศจึงพยายามปิดบังตัวตน
ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกันกับแม็กซ์ ตัวเอกของเรื่องนี้ ที่กลัวโทษต่างๆที่ตัวเองจะได้รับ
จนกระทั่งเมื่อเขาพบกับ ฮอร์สท์ นักโทษที่ไม่เคยปิดบังในสิ่งที่ตัวเองเป็น.. นั่นทำให้แม็กซ์มีความกล้าหาญมากขึ้น
ในเรื่องนี้ถือเป็นผลงานชิ้นแรกๆของไคลฟ์ โอเว่น (ผลงานที่เป็นที่รู้จักกันดีก็หนังระดับเทพอย่าง Children of Men... Sin City)
ซึ่งเราจะเห็นไคลฟ์ในสภาพหาชมได้ยากยิ่งผอมบักโบรก..เล่นได้โทรมอย่างที่สุด
และหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายให้ทำในค่ายกักกันนั้นก็ไร้เหตุผลสิ้นดี แบบว่า เห้ย.. มันมีงานแบบนี้อยู่จริงๆเหรอเนี่ย
(ต้องไปดูเองครับว่างานที่ไคลฟ์ โอเว่น ทำในค่ายกักกันนั้นคืองานอะไร ให้ตายคุณก็ไม่มีทางเดาถูก!!!)
นอกจากนี้ซีนที่ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าจดจำอย่างยิ่งของโลกภาพยนตร์นั่นก็คือ ฉากเลิฟซีน ที่ตัวเอกทั้ง 2 ของเรื่อง
พระเอกและนายเอก ไม่ได้สัมผัส ไม่ได้แตะตัวกันเลยสักนิด แถมหน้าก็ไม่ได้มองกันอีก ยืนห่างกันน่าจะราว 2 คืบได้
แต่ด้วยบทสนทนาและอารมณ์ที่แสดงออกมาทางสีหน้า มันคือซีน 18+ ที่เร้าอารมณ์ sexy ชวนสยิวอย่างถึงที่สุดจริงๆครับ
และเรื่องนี้ดาราที่มาร่วมแจมนี่มากมายจริงๆครับ บางคนถ้าดูไม่ดีนี่ ไม่เห็นจริงๆนะ
อาทิเช่น มิก แจ็กเกอร์ นักร้องนำวงโรลลิ่งสโตนส์ในบทที่เห็นแล้วต้องว้าวว.. จู๊ด ลอว์ ก็มาแบบประโยคเดียวได้...
แถมยังมีราเชลส์ ไวซ์ ในบทผ่านตาแค่แวบเดียวจริงๆ.. (คือถ้าไม่สังเกต ก็ไม่เห็นล่ะครับ)
โดยสรุป Bent คือ 1 ในหนังที่ถ่ายทอดความโหดร้ายที่นาซีกระทำต่อกลุ่มคนรักร่วมเพศ
และผลของมันนั้นก็ส่งผลต่อเนื่องในเชิงกฎหมายของเยอรมันต่อไปแม้ว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 จะจบลงไปแล้วก็ตาม
ซึ่งถือเป็นความอยุติธรรมที่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่สมควรจะต้องมาได้รับอะไรแบบนี้เลย...
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม และการยอมรับในตัวตนที่เราเป็นก็ถือเป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่เรามีต่อตัวเองด้วยเช่นกัน
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===