ตามหัวข้อเลยค่ะ
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อปี2018 ตอนนั้นเป็นนักศึกษายังไม่เคยทำงานจริงจัง พอได้งานนี้เป็นงานพาร์ททามที่ทำหลังเลิกเรียนหรือว่าเสาร์ อาทิตย์ เรารู้สึกชอบมากๆ เราทำมันได้ดี และทำมาเรื่อยๆจนเราเรียนจบก็ยังทำอยู่ จนปีปลายปี2021 มีเหตุจำเป็นต้องลาออกกลับไปทำงานประจำที่บ้านตอนนั้นทำได้ปีกว่า ในช่วงแรกๆเราก็เอ็นจอยกับการทำงานมากๆแต่พักหลังเราทุ่มเทกับการทำงานมากเกินไปจนกระทั่งมันอึดอัดและเราก็ตัดสินใจลาออก ออกมาทำงานงานโรงงานได้6เดือน ณ ตอนนั้นก็เหนื่อยมากๆและโหยหาการทำงานพาร์ททามที่เคยทำสมัยเรียน และตัดสินใจแล้วว่า หรือว่านี่จะเป็นงานที่เราถนัด เป็นงานที่เรารักมาตลอดถึงจะกดดัน เหนื่อยบ้าง ค่าจ้างน้อย เรารับได้ เรารับไหว จนกระทั่งเรากลับมาทำงานพาร์ททามนี้อีกครั้ง ผ่านไป1ปี5เดือน เราก็ได้ปรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ต้องทำงานอยู่2ที่ เรากดดันมากๆ เครียดมากๆ เพราะมันเริ่มมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยว จนกระทั่ง.. มันเข้าเนื้อเราเต็มๆเพราะความไม่รู้ของเรา และเราอยู่ในกะนั้นเราก็ต้องรับผิดชอบ และเรื่องเล็กๆน้อยๆที่สะสมทุกๆวัน จนมันทำให้เราท้อมากๆ รู้สึกผิดหวังกับตัวเอง จนไม่อยากเอาอะไรแล้ว ลืมตาตื่นขึ้นมาร้องไห้ ไม่อยากไปทำงาน และจนกระทั่งเราตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะลาออกอีกครั้ง จนในที่สุดก็ได้ลาออกแบบสมใจอยาก ช่วงเวลาหลังจากออกเราก็เตะฝุ่น หาสมัครงานโรงงาน ในใจก็คิดทบทวนทุกอย่างที่ผ่านมา มันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม เราจะอยู่ที่ใหม่ได้จริงๆใช่ไหม ผ่านไปเดือน มีโรงงานนัดสัมภาษณ์เราก็ไปคิดว่าเออคงได้แล้วแหละ ประจวบเหมาะที่พี่เค้าโทรหาเราบอกว่ายังรออยู่นะถ้าเปลี่ยนใจ เราบอกว่าคงไม่กลับไปแล้วล่ะ จนสุดท้ายเราไม่ผ่านสัมภาษณ์ และนั้น..มันทำให้เราเสียใจกับคำพูดตัวเอง ว่าทำไมยังเอางานนั้นออกไปจากหัวไม่ได้ซักทีนะ นอนคิด นั่งคิด จนสุดท้ายวันนี้เราโทรไปหาพี่เค้าบอกว่าอยากไปทำงาน พี่เค้าก็คงลำบากใจที่พูดว่า " อ้าวหรอ..ไหนบอกไม่กลับมาแล้ว พี่พึ่งแจ้งหนูออกไปเมื่อสองวันที่แล้วนี่เอง พี่ถึงถามไงว่าจะออกหรอ ถ้าหนูบอกว่า อยู่ต่อ พี่ไม่ติดนะ พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้ามาตอนนี้คงจะไม่ได้ ต้องรอเดือนหน้านะ ประมาณกลางเดือนนู้นเลย อีกอย่างการที่หนูเข้าๆออกๆงานบ่อยแบบนี้ มันทำให้พี่ไม่เชื่อใจหนู มันทำลายความเชื่อใจตรงที่หนูลังเล เพราะพี่ก็ไม่รู้ว่าหนูจะออกอีกไหม พี่ถึงบอกว่าอยากให้คิดเยอะๆคิดดีๆก่อน" เราเลยบอกกลับไปว่า "อ่อ..ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะพี่ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หนูจะลองพยายามหางานใหม่ไปเรื่อยๆ " เราพูดเสียงสั่น มันทำให้เราคิดได้ว่า ' ไม่น่าโทรหาพี่เค้าเลย ' เราควรออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว ควรไปเจอที่ใหม่ๆได้แล้ว ถึงตอนนี้เราก็ยังเสียใจกับคำพูดตัวเอง รู้สึกแย่มากๆค่ะ แย่มากๆจนไม่รู้จะคุยกับใครหรือว่าระบายกับใคร
ขอบคุณนะคะที่อ่านจนจบ 🙏
ผิดไหมที่ลาออกจากงาน ได้งานใหม่ก็ไม่โอเค แล้วกลับไปทำงานเดิมจนลาออกอีก
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อปี2018 ตอนนั้นเป็นนักศึกษายังไม่เคยทำงานจริงจัง พอได้งานนี้เป็นงานพาร์ททามที่ทำหลังเลิกเรียนหรือว่าเสาร์ อาทิตย์ เรารู้สึกชอบมากๆ เราทำมันได้ดี และทำมาเรื่อยๆจนเราเรียนจบก็ยังทำอยู่ จนปีปลายปี2021 มีเหตุจำเป็นต้องลาออกกลับไปทำงานประจำที่บ้านตอนนั้นทำได้ปีกว่า ในช่วงแรกๆเราก็เอ็นจอยกับการทำงานมากๆแต่พักหลังเราทุ่มเทกับการทำงานมากเกินไปจนกระทั่งมันอึดอัดและเราก็ตัดสินใจลาออก ออกมาทำงานงานโรงงานได้6เดือน ณ ตอนนั้นก็เหนื่อยมากๆและโหยหาการทำงานพาร์ททามที่เคยทำสมัยเรียน และตัดสินใจแล้วว่า หรือว่านี่จะเป็นงานที่เราถนัด เป็นงานที่เรารักมาตลอดถึงจะกดดัน เหนื่อยบ้าง ค่าจ้างน้อย เรารับได้ เรารับไหว จนกระทั่งเรากลับมาทำงานพาร์ททามนี้อีกครั้ง ผ่านไป1ปี5เดือน เราก็ได้ปรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ต้องทำงานอยู่2ที่ เรากดดันมากๆ เครียดมากๆ เพราะมันเริ่มมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยว จนกระทั่ง.. มันเข้าเนื้อเราเต็มๆเพราะความไม่รู้ของเรา และเราอยู่ในกะนั้นเราก็ต้องรับผิดชอบ และเรื่องเล็กๆน้อยๆที่สะสมทุกๆวัน จนมันทำให้เราท้อมากๆ รู้สึกผิดหวังกับตัวเอง จนไม่อยากเอาอะไรแล้ว ลืมตาตื่นขึ้นมาร้องไห้ ไม่อยากไปทำงาน และจนกระทั่งเราตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะลาออกอีกครั้ง จนในที่สุดก็ได้ลาออกแบบสมใจอยาก ช่วงเวลาหลังจากออกเราก็เตะฝุ่น หาสมัครงานโรงงาน ในใจก็คิดทบทวนทุกอย่างที่ผ่านมา มันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม เราจะอยู่ที่ใหม่ได้จริงๆใช่ไหม ผ่านไปเดือน มีโรงงานนัดสัมภาษณ์เราก็ไปคิดว่าเออคงได้แล้วแหละ ประจวบเหมาะที่พี่เค้าโทรหาเราบอกว่ายังรออยู่นะถ้าเปลี่ยนใจ เราบอกว่าคงไม่กลับไปแล้วล่ะ จนสุดท้ายเราไม่ผ่านสัมภาษณ์ และนั้น..มันทำให้เราเสียใจกับคำพูดตัวเอง ว่าทำไมยังเอางานนั้นออกไปจากหัวไม่ได้ซักทีนะ นอนคิด นั่งคิด จนสุดท้ายวันนี้เราโทรไปหาพี่เค้าบอกว่าอยากไปทำงาน พี่เค้าก็คงลำบากใจที่พูดว่า " อ้าวหรอ..ไหนบอกไม่กลับมาแล้ว พี่พึ่งแจ้งหนูออกไปเมื่อสองวันที่แล้วนี่เอง พี่ถึงถามไงว่าจะออกหรอ ถ้าหนูบอกว่า อยู่ต่อ พี่ไม่ติดนะ พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้ามาตอนนี้คงจะไม่ได้ ต้องรอเดือนหน้านะ ประมาณกลางเดือนนู้นเลย อีกอย่างการที่หนูเข้าๆออกๆงานบ่อยแบบนี้ มันทำให้พี่ไม่เชื่อใจหนู มันทำลายความเชื่อใจตรงที่หนูลังเล เพราะพี่ก็ไม่รู้ว่าหนูจะออกอีกไหม พี่ถึงบอกว่าอยากให้คิดเยอะๆคิดดีๆก่อน" เราเลยบอกกลับไปว่า "อ่อ..ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะพี่ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หนูจะลองพยายามหางานใหม่ไปเรื่อยๆ " เราพูดเสียงสั่น มันทำให้เราคิดได้ว่า ' ไม่น่าโทรหาพี่เค้าเลย ' เราควรออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว ควรไปเจอที่ใหม่ๆได้แล้ว ถึงตอนนี้เราก็ยังเสียใจกับคำพูดตัวเอง รู้สึกแย่มากๆค่ะ แย่มากๆจนไม่รู้จะคุยกับใครหรือว่าระบายกับใคร
ขอบคุณนะคะที่อ่านจนจบ 🙏