สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากให้เพื่อนๆพี่ๆลองฟังเรื่องราวที่เรากำลังเผชิญจากญาติๆฝั่งแม่ดูค่ะ เราอยากทราบความคิดเห็นว่าพวกเขา toxic ไหมคะ
ก่อนอื่นเลยพี่น้องทางฝั่งแม่จะมีด้วยกัน 4 คนค่ะ มีลุง1 ป้าอีก2 และแม่เรา ซึ่งมีเพียงครอบครัวของลุงที่อยู่ต่างจังหวัด ที่เหลืออยู่บ้านติดๆกันเลยค่ะ
เวลามีเรื่องอะไรก็จะถึงกันตลอด แต่พี่น้องควรจะสนิทกันใช่ไหมคะ แต่ครอบครัวเรา สนิทกันแบบแปลกๆ
ป้าคนแรกมีนามสมมติว่า A เป็นพี่คนโต
ป้าคนที่2 ชื่อ B เป็นคนที่2 ส่วนลุงเป็นคนที่3 และแม่เราเป็นคนสุดท้องค่ะ
เราเริ่มสังเกตมาพักใหญ่ๆ เวลาครอบครัวเรามีปัญหาเวลาไปปรึกษากับพวกเขายกเว้นครอบครัวลุงนะคะ ก็จะได้รับแต่คำปรึกษาที่ negative ตลอดเลยค่ะ ด้วยความที่ป้า A ค่อนข้างมีเงินเยอะที่สุดในบรรดาพี่น้อง เขาคอย support เรื่องเงินให้กับครอบครัวเราด้วยค่ะ แต่ครอบครัวเขานินทาครอบครัวเราสนุกปากเลย ชอบบลัฟ อันนี้ปกติของพี่น้องไหมคะ เพราะป้า A มีลูก3คน คนโตไปทำงานตปท. พี่เขานิสัยดีค่ะ คอยช่วยเหลือทางการเงินเหมือนกัน แต่ลูกสาวคนกลางกับคนเล็กเขาชอบนินทาครอบครัวเราตลอดเลย เพราะตอนนี้บ้านเรามีปัญหาด้านการเงิน
พวกพี่ๆเขาว่าทุกอย่างเลยค่ะ เค้าตำหนิเรื่องการเลี้ยงดูของแม่เราว่าเลี้ยงลูกไม่เป็น เลี้ยงเป็นไข่ในหิน ลืมบอกค่ะ เรามีพี่น้องสองคน เราเป็นคนโต พวกพี่ๆเขาเลยว่าซึ่งๆหน้าเลยว่าพวกเลยไม่กล้ากับคน เลยกลัวคน เสียคนไปแล้ว ทำอะไรก็อายคน เราไม่ได้โต้ตอบนะคะ เก็บเงียบตลอดเลย ซึ่งเขาชอบไล่ให้น้องเราซึ่งอายุ16ไปทำงานหาเงินช่วยพ่อแม่ไม่ต้องเรียน เพราะช่วงนี้น้องเราดรอฟไป1ปี จะเข้าม.4ใหม่เพราะเลือกเรียนสายที่ไปต่อไม่ได้ ซึ่งอยู่ในช่วงอ่านหนังสือสอบเข้า แต่พ่อเราบอกเสมอเลยว่าไม่ให้ทำงาน ให้โฟกัสเรื่องการเรียนไปเลย เขาสามารถหาเงินมาsupportเรื่องการเรียนได้ค่ะ
ส่วนครอบครัวป้า B ป้าเค้ามีลูกชายคนโต1 ผู้หญิง2 ซึ่งทั้ง3คนมีครอบครัวหมดแล้วค่ะ เดิมทีอุปนิสัยของป้า B เป็นคนที่ค่อนข้างแปลกค่ะ เค้ามี mindset ที่แปลกมาก เป็นคนพูดตรงแบบขวานผ่าซาก ไม่ไว้หน้าใครเลย ไปไหนด้วยกันทีไรเรารู้สึกอายค่ะ แต่ไม่ค่อยไปด้วยกันบ่อยๆ นานๆที เขาเป็นคนที่ชอบเอาเรื่องในครอบครัวไปพูด เก็บหรือกุมความลับเอาไว้ไม่ได้เลย เป็นคนที่ถ้าได้ชมก็จะปากหวานมาก แต่ลับหลังนินทาฉ่ำ ซึ่งลูกคนกลางเขานี่แหละค่ะ ด่าว่าเราประสาทแ-ก หาว่าเราเรียนเยอะเกิน เก็บตัวไม่ไปไหน ไม่ค่อยออกจากบ้าน ระวังเป็นซึมเศร้า พี่คนนี้อายุ23 ส่วนเราอายุ21ย่าง22 ปีนี้ เค้าใช้ความเป็นพี่ การที่เค้าดูโตกว่ามาสอนเราและน้อง พี่คนนี้พูดจาตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้าใครเหมือนแม่เค้าเลย คิดอะไรพูด ซึ่งเค้าคอยว่าครอบครัวเราตลอด พูดถึงการเลี้ยงดูของแม่เรา พูดเหมือนกับพี่ที่เป็นลูกป้า A เปี๊ยบเลย พูดถึงการเงินว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้ รายได้ไม่พอ ก็ควรช่วยกันหาเงิน เพราะเราอยู่ในช่วงเรียนจบแล้วกำลังรอรับปริญญาค่ะ ไม่ใช่ว่าเราไม่หางานนะ เราหาตลอดเลย พาร์ทไทม์ก็ทำนะคะ เค้าว่าเรื่องการแต่งตัวเรา หาว่าแต่งตัวเหมือนป้า จริงๆมันเป็นสไตล์ที่ชาว lemon 8 ก็ใส่กันนะคะ เพราะเราชอบหยิบมาให้มันดูแมชกัน เพราะลุคส่วนใหญ่ชอบใส่เสื้อoversize ตัวใหญ่ๆกับกระโปรง แล้วก็หาไอเทมตามวัยรุ่นเค้าแต่งตัวกันค่ะ แต่พี่เค้ามองว่าเราแปลก
ไม่ใช่แค่นี้นะคะ พี่เค้ายังบังคับให้เรากับน้องแต่งหน้าตามสไตล์ที่เค้าคิดว่าดีค่ะ แต่เราไม่ได้ชอบเลย ซึ่งเราคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำเพราะเรามีสิทธิ์คนเดียวกับใบหน้าเรา เค้าพยายามหาสไตล์ที่เค้าชอบมาปรับแต่งให้เรากับน้อง โทนหน้าที่เค้าชอบแต่งเราคิดว่ามันเข้มไปหมดเลยค่ะ เราไม่ค่อยเห็นด้วยกับโทนนั้น ซึ่งเค้าคิดว่าเรากับน้องแต่งตัวไม่เป็น แต่งหน้าไม่เป็น ซึ่งเค้าคิดผิดค่ะ แต่งหน้ากันฉ่ำมากในห้อง หาเสื้อผ้าถ่ายรูปลงไอจีซึ่งเป็นแบบแอคเคาท์ที่เขาไม่ได้ติดตาม เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนด้วย เค้าเลยไม่เห็นกันค่ะ
ตรงนี้ขอเสริมเรื่องการเรียนน้องเรานะคะ เขาคิดว่าน้องเราไม่สนใจการเรียนแล้ว ให้ไปทำงานสร้างอาชีพเลยมาช่วยครอบครัว ตอนนี้พยายามดันเรื่องที่ไปเรียนเอาแค่วุฒิจบค่ะ เค้าบอกให้ไปเรียนตามเค้า (การศึกษานอก)เรียนให้จบพอได้ความรู้มาไปมีอาชีพของตัวเองเลย ซึ่งน้องเราไม่สนใจค่ะ เพราะแกอยากไปสายสามัญมากกว่า เราปวดหัวกับพวกเขามากเลย
อันนี้คือเรื่องปกติของคนเป็นพี่น้องกันไหมคะ มีอะไรก็ต่อว่ากันซึ่งๆหน้าขึ้นกู (ชื่อมีให้เรียกก็ไม่เรียก) นินทาแบบเหมือนแอนตี้มากเลยค่ะ ซึ่งตรงนี้รู้ได้ไง รู้จากน้องเราเองเพราะเค้าคิดว่าน้องเราเป็นคนเด๋อๆไม่รู้อะไรมาก อยากจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่น้องเราไม่ใช่แบบนั้นเลย แกมีความคิดของแกเอง แกเอาสิ่งที่พี่ๆพูดมาบอกเราทุกอย่างเลยค่ะ
และพี่ๆเพื่อนๆหลายคนอาจจะสงสัยว่าพี่ๆเขาทั้ง3คนที่ว่าบ้านเราเค้ามีback up อะไรที่สามารถว่าเรา ก็คือทั้ง3คน ไม่มีใครเรียนจบเลยค่ะ เลือกมีหลัวกันหมด เค้าโตกว่าเรา ห่างกว่ากันหลายปีแต่วุฒิภาวะไม่มีเลยค่ะ ทุกวันนี้ทั้ง3คนยังใช้อารมณ์แก้ไขปัญหาอยู่เลย เอะอะก็ใช้กำลังค่ะ ใช้กำลังในการแก้ปัญหา พวกเค้า3คนพยายามสอนให้ทำตามพวกเค้าเรื่องการใช้ชีวิต เค้าบอกให้กล้าเหมือนพวกเขา จริงๆคนเราไม่ต้องรีบโตก็ได้นี่คะ เราถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน เลี้ยงแบบบ้านเค้ากับบ้านเราก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
ถ้าพูดถึงเรื่องเทสการแต่งตัว พวกเค้าก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง เราไม่เคยว่าไม่เคยยุ่งเรื่องการแต่งตัวเขาเลยค่ะ เพราะความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน พวกเค้าแต่งตัวเหมือนกับวัยรุ่นรถแห่ค่ะ
อีกอย่างที่เค้าพูดถึงคือที่เราชอบศิลปินเกาหลีค่ะ เค้าบอกว่าไปชอบพวกทำศัลยกรรมทำไม หน้าก็เหมือนกันหมด ไม่เห็นจะมีอะไรน่าชอบ ในขณะที่หน้าพี่ๆเค้า2คนทำศัลยกรรมทั้งหน้าเลยค่ะ เค้าอยากให้ตัวเค้าเองกับเราและน้องตรงตาม beauty standard ซึ่งเราคิดว่าไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้นี่คะ เรางงกับmindset พวกเค้า เค้าหาว่าเราไม่รู้โลกภายนอกเป็นยังไง เป็นเค้ามากกว่าไหมคะ อยู่แต่ในโลกของตนเอง บูลลี่ความชอบของคนอื่น ความชอบของเรามันทำให้เรามีกำลังใจใช้ชีวิต ทำอะไรที่มันมีความสุขก็ทำไปไม่ดีกว่าหรอคะ
วันไหนที่เหนื่อย ท้อ เศร้า มีศิลปินเกาหลีมาฮีลใจก็โอเคมากๆแล้ว
สิ่งที่เค้าว่าเราสองพี่น้องมันไม่พ้นจากตัวพวกเค้าเองเลยค่ะ
เรื่องการเรียน เรากำลังสำเร็จการศึกษาในขณะที่พวกเค้าทั้ง3ไม่มีใครเรียนถึงเราสักคนเลยค่ะ เค้าพยายามสอนเรื่องเรียนทั้งๆที่ตัวพวกเขาเองเอาไม่รอด
เรื่องการใช้ชีวิต ยอมรับค่ะบางสิ่งบางอย่างเค้าเตือนมันโอเคเลย เรารับฟัง เค้าหวังดี แต่เรื่องการแต่งตัว ความชอบ เค้าดูแอนตี้เรามาก
สไตล์การแต่งตัวที่เค้าชอบคือแบบวัยรุ่นรถแห่ค่ะ เค้าชอบของเค้า
เรื่องความรักเค้าก็สอนนะคะ แต่มันเหมือนไม่พ้นตัวเองเลย เค้าแนะนำให้เรากับน้องหาแฟน คนคุยดู จะได้ไม่เครียดมากเกินไป เราไม่สนใจค่ะ ตรงนี้เราตอบกลับไปในเชิงที่ว่าเราต้องดูแลตัวเองให้ได้ก่อน มีเงินเอง มีความรู้ รู้จักวางแผนอนาคต ความรักเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องรีบเลย พวกพี่ๆเขายังไม่รู้เลยว่าความรักมันคืออะไร พวกเขายังอยู่ในความสัมพันธ์แบบ toxic relationship อยู่เลยค่ะ ซึ่งแฟนพี่ๆเค้าก็เป็นแบบ red flag เราอยู่แบบเงียบๆคอยดูพวกพี่เค้าค่ะว่าเค้าจะทำยังไงต่อไป
อันนี้เป็นแบบคร่าวๆค่ะ เลยอยากทราบความคิดเห็นจากพี่ๆเพื่อนๆว่าอันนี้เราที่toxic หรือพวกพี่ๆเค้า ใครที่ประสาทมากกว่ากันคะ
แล้วมีวิธีการรับมืออย่างไรบ้างคะ ควรปรึกษาพวกเค้าต่อในอนาคตหรือพอแค่นี้คะ
แบบนี้เรียกว่า Toxic cousin ไหมคะ
ก่อนอื่นเลยพี่น้องทางฝั่งแม่จะมีด้วยกัน 4 คนค่ะ มีลุง1 ป้าอีก2 และแม่เรา ซึ่งมีเพียงครอบครัวของลุงที่อยู่ต่างจังหวัด ที่เหลืออยู่บ้านติดๆกันเลยค่ะ
เวลามีเรื่องอะไรก็จะถึงกันตลอด แต่พี่น้องควรจะสนิทกันใช่ไหมคะ แต่ครอบครัวเรา สนิทกันแบบแปลกๆ
ป้าคนแรกมีนามสมมติว่า A เป็นพี่คนโต
ป้าคนที่2 ชื่อ B เป็นคนที่2 ส่วนลุงเป็นคนที่3 และแม่เราเป็นคนสุดท้องค่ะ
เราเริ่มสังเกตมาพักใหญ่ๆ เวลาครอบครัวเรามีปัญหาเวลาไปปรึกษากับพวกเขายกเว้นครอบครัวลุงนะคะ ก็จะได้รับแต่คำปรึกษาที่ negative ตลอดเลยค่ะ ด้วยความที่ป้า A ค่อนข้างมีเงินเยอะที่สุดในบรรดาพี่น้อง เขาคอย support เรื่องเงินให้กับครอบครัวเราด้วยค่ะ แต่ครอบครัวเขานินทาครอบครัวเราสนุกปากเลย ชอบบลัฟ อันนี้ปกติของพี่น้องไหมคะ เพราะป้า A มีลูก3คน คนโตไปทำงานตปท. พี่เขานิสัยดีค่ะ คอยช่วยเหลือทางการเงินเหมือนกัน แต่ลูกสาวคนกลางกับคนเล็กเขาชอบนินทาครอบครัวเราตลอดเลย เพราะตอนนี้บ้านเรามีปัญหาด้านการเงิน
พวกพี่ๆเขาว่าทุกอย่างเลยค่ะ เค้าตำหนิเรื่องการเลี้ยงดูของแม่เราว่าเลี้ยงลูกไม่เป็น เลี้ยงเป็นไข่ในหิน ลืมบอกค่ะ เรามีพี่น้องสองคน เราเป็นคนโต พวกพี่ๆเขาเลยว่าซึ่งๆหน้าเลยว่าพวกเลยไม่กล้ากับคน เลยกลัวคน เสียคนไปแล้ว ทำอะไรก็อายคน เราไม่ได้โต้ตอบนะคะ เก็บเงียบตลอดเลย ซึ่งเขาชอบไล่ให้น้องเราซึ่งอายุ16ไปทำงานหาเงินช่วยพ่อแม่ไม่ต้องเรียน เพราะช่วงนี้น้องเราดรอฟไป1ปี จะเข้าม.4ใหม่เพราะเลือกเรียนสายที่ไปต่อไม่ได้ ซึ่งอยู่ในช่วงอ่านหนังสือสอบเข้า แต่พ่อเราบอกเสมอเลยว่าไม่ให้ทำงาน ให้โฟกัสเรื่องการเรียนไปเลย เขาสามารถหาเงินมาsupportเรื่องการเรียนได้ค่ะ
ส่วนครอบครัวป้า B ป้าเค้ามีลูกชายคนโต1 ผู้หญิง2 ซึ่งทั้ง3คนมีครอบครัวหมดแล้วค่ะ เดิมทีอุปนิสัยของป้า B เป็นคนที่ค่อนข้างแปลกค่ะ เค้ามี mindset ที่แปลกมาก เป็นคนพูดตรงแบบขวานผ่าซาก ไม่ไว้หน้าใครเลย ไปไหนด้วยกันทีไรเรารู้สึกอายค่ะ แต่ไม่ค่อยไปด้วยกันบ่อยๆ นานๆที เขาเป็นคนที่ชอบเอาเรื่องในครอบครัวไปพูด เก็บหรือกุมความลับเอาไว้ไม่ได้เลย เป็นคนที่ถ้าได้ชมก็จะปากหวานมาก แต่ลับหลังนินทาฉ่ำ ซึ่งลูกคนกลางเขานี่แหละค่ะ ด่าว่าเราประสาทแ-ก หาว่าเราเรียนเยอะเกิน เก็บตัวไม่ไปไหน ไม่ค่อยออกจากบ้าน ระวังเป็นซึมเศร้า พี่คนนี้อายุ23 ส่วนเราอายุ21ย่าง22 ปีนี้ เค้าใช้ความเป็นพี่ การที่เค้าดูโตกว่ามาสอนเราและน้อง พี่คนนี้พูดจาตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้าใครเหมือนแม่เค้าเลย คิดอะไรพูด ซึ่งเค้าคอยว่าครอบครัวเราตลอด พูดถึงการเลี้ยงดูของแม่เรา พูดเหมือนกับพี่ที่เป็นลูกป้า A เปี๊ยบเลย พูดถึงการเงินว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้ รายได้ไม่พอ ก็ควรช่วยกันหาเงิน เพราะเราอยู่ในช่วงเรียนจบแล้วกำลังรอรับปริญญาค่ะ ไม่ใช่ว่าเราไม่หางานนะ เราหาตลอดเลย พาร์ทไทม์ก็ทำนะคะ เค้าว่าเรื่องการแต่งตัวเรา หาว่าแต่งตัวเหมือนป้า จริงๆมันเป็นสไตล์ที่ชาว lemon 8 ก็ใส่กันนะคะ เพราะเราชอบหยิบมาให้มันดูแมชกัน เพราะลุคส่วนใหญ่ชอบใส่เสื้อoversize ตัวใหญ่ๆกับกระโปรง แล้วก็หาไอเทมตามวัยรุ่นเค้าแต่งตัวกันค่ะ แต่พี่เค้ามองว่าเราแปลก
ไม่ใช่แค่นี้นะคะ พี่เค้ายังบังคับให้เรากับน้องแต่งหน้าตามสไตล์ที่เค้าคิดว่าดีค่ะ แต่เราไม่ได้ชอบเลย ซึ่งเราคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำเพราะเรามีสิทธิ์คนเดียวกับใบหน้าเรา เค้าพยายามหาสไตล์ที่เค้าชอบมาปรับแต่งให้เรากับน้อง โทนหน้าที่เค้าชอบแต่งเราคิดว่ามันเข้มไปหมดเลยค่ะ เราไม่ค่อยเห็นด้วยกับโทนนั้น ซึ่งเค้าคิดว่าเรากับน้องแต่งตัวไม่เป็น แต่งหน้าไม่เป็น ซึ่งเค้าคิดผิดค่ะ แต่งหน้ากันฉ่ำมากในห้อง หาเสื้อผ้าถ่ายรูปลงไอจีซึ่งเป็นแบบแอคเคาท์ที่เขาไม่ได้ติดตาม เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนด้วย เค้าเลยไม่เห็นกันค่ะ
ตรงนี้ขอเสริมเรื่องการเรียนน้องเรานะคะ เขาคิดว่าน้องเราไม่สนใจการเรียนแล้ว ให้ไปทำงานสร้างอาชีพเลยมาช่วยครอบครัว ตอนนี้พยายามดันเรื่องที่ไปเรียนเอาแค่วุฒิจบค่ะ เค้าบอกให้ไปเรียนตามเค้า (การศึกษานอก)เรียนให้จบพอได้ความรู้มาไปมีอาชีพของตัวเองเลย ซึ่งน้องเราไม่สนใจค่ะ เพราะแกอยากไปสายสามัญมากกว่า เราปวดหัวกับพวกเขามากเลย
อันนี้คือเรื่องปกติของคนเป็นพี่น้องกันไหมคะ มีอะไรก็ต่อว่ากันซึ่งๆหน้าขึ้นกู (ชื่อมีให้เรียกก็ไม่เรียก) นินทาแบบเหมือนแอนตี้มากเลยค่ะ ซึ่งตรงนี้รู้ได้ไง รู้จากน้องเราเองเพราะเค้าคิดว่าน้องเราเป็นคนเด๋อๆไม่รู้อะไรมาก อยากจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่น้องเราไม่ใช่แบบนั้นเลย แกมีความคิดของแกเอง แกเอาสิ่งที่พี่ๆพูดมาบอกเราทุกอย่างเลยค่ะ
และพี่ๆเพื่อนๆหลายคนอาจจะสงสัยว่าพี่ๆเขาทั้ง3คนที่ว่าบ้านเราเค้ามีback up อะไรที่สามารถว่าเรา ก็คือทั้ง3คน ไม่มีใครเรียนจบเลยค่ะ เลือกมีหลัวกันหมด เค้าโตกว่าเรา ห่างกว่ากันหลายปีแต่วุฒิภาวะไม่มีเลยค่ะ ทุกวันนี้ทั้ง3คนยังใช้อารมณ์แก้ไขปัญหาอยู่เลย เอะอะก็ใช้กำลังค่ะ ใช้กำลังในการแก้ปัญหา พวกเค้า3คนพยายามสอนให้ทำตามพวกเค้าเรื่องการใช้ชีวิต เค้าบอกให้กล้าเหมือนพวกเขา จริงๆคนเราไม่ต้องรีบโตก็ได้นี่คะ เราถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน เลี้ยงแบบบ้านเค้ากับบ้านเราก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
ถ้าพูดถึงเรื่องเทสการแต่งตัว พวกเค้าก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง เราไม่เคยว่าไม่เคยยุ่งเรื่องการแต่งตัวเขาเลยค่ะ เพราะความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน พวกเค้าแต่งตัวเหมือนกับวัยรุ่นรถแห่ค่ะ
อีกอย่างที่เค้าพูดถึงคือที่เราชอบศิลปินเกาหลีค่ะ เค้าบอกว่าไปชอบพวกทำศัลยกรรมทำไม หน้าก็เหมือนกันหมด ไม่เห็นจะมีอะไรน่าชอบ ในขณะที่หน้าพี่ๆเค้า2คนทำศัลยกรรมทั้งหน้าเลยค่ะ เค้าอยากให้ตัวเค้าเองกับเราและน้องตรงตาม beauty standard ซึ่งเราคิดว่าไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้นี่คะ เรางงกับmindset พวกเค้า เค้าหาว่าเราไม่รู้โลกภายนอกเป็นยังไง เป็นเค้ามากกว่าไหมคะ อยู่แต่ในโลกของตนเอง บูลลี่ความชอบของคนอื่น ความชอบของเรามันทำให้เรามีกำลังใจใช้ชีวิต ทำอะไรที่มันมีความสุขก็ทำไปไม่ดีกว่าหรอคะ
วันไหนที่เหนื่อย ท้อ เศร้า มีศิลปินเกาหลีมาฮีลใจก็โอเคมากๆแล้ว
สิ่งที่เค้าว่าเราสองพี่น้องมันไม่พ้นจากตัวพวกเค้าเองเลยค่ะ
เรื่องการเรียน เรากำลังสำเร็จการศึกษาในขณะที่พวกเค้าทั้ง3ไม่มีใครเรียนถึงเราสักคนเลยค่ะ เค้าพยายามสอนเรื่องเรียนทั้งๆที่ตัวพวกเขาเองเอาไม่รอด
เรื่องการใช้ชีวิต ยอมรับค่ะบางสิ่งบางอย่างเค้าเตือนมันโอเคเลย เรารับฟัง เค้าหวังดี แต่เรื่องการแต่งตัว ความชอบ เค้าดูแอนตี้เรามาก
สไตล์การแต่งตัวที่เค้าชอบคือแบบวัยรุ่นรถแห่ค่ะ เค้าชอบของเค้า
เรื่องความรักเค้าก็สอนนะคะ แต่มันเหมือนไม่พ้นตัวเองเลย เค้าแนะนำให้เรากับน้องหาแฟน คนคุยดู จะได้ไม่เครียดมากเกินไป เราไม่สนใจค่ะ ตรงนี้เราตอบกลับไปในเชิงที่ว่าเราต้องดูแลตัวเองให้ได้ก่อน มีเงินเอง มีความรู้ รู้จักวางแผนอนาคต ความรักเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องรีบเลย พวกพี่ๆเขายังไม่รู้เลยว่าความรักมันคืออะไร พวกเขายังอยู่ในความสัมพันธ์แบบ toxic relationship อยู่เลยค่ะ ซึ่งแฟนพี่ๆเค้าก็เป็นแบบ red flag เราอยู่แบบเงียบๆคอยดูพวกพี่เค้าค่ะว่าเค้าจะทำยังไงต่อไป
อันนี้เป็นแบบคร่าวๆค่ะ เลยอยากทราบความคิดเห็นจากพี่ๆเพื่อนๆว่าอันนี้เราที่toxic หรือพวกพี่ๆเค้า ใครที่ประสาทมากกว่ากันคะ
แล้วมีวิธีการรับมืออย่างไรบ้างคะ ควรปรึกษาพวกเค้าต่อในอนาคตหรือพอแค่นี้คะ