การลงทุนในชีวิตวัยเริ่มทำงาน

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผมมีเรื่องจะมาแบ่งปัน หรือแชร์ประสบการณ์ในการเริ่มลงทุน ก่อนอื่นเลยผมเป็นมนุษย์เงินเดือนปกติทั่วไปครับ แล้วก็มีนิสัยใช้จ่ายทั่วไปเที่ยวบ้างซื้อของที่อยากได้บ้าง แต่พอมาช่วงนึงที่ผมเงินติดตัวเหลืออยู่พันกว่าบาท เลยทำให้ผมคิดว่าผมต้องทำอะไรสักอย่าง ตอนนั้นคือก็ยังคิดได้แค่ว่าต้องเก็บๆๆๆ เงินเท่านั้น อะทีนี้ผมก็เริ่มเก็บก็ไม่ได้มีหลักการเท่าไหร่ก็เก็บเท่าที่เราไหวครับก็เก็บมาเรื่อยๆ สัก 6 เดือน

มีวันนึงผมเกิดคำถามกับตัวเองว่าเราจะเก็บเงินแบบนี้ไปเรื่อยๆเลยหรอ ซึ่งผมก็ลองคำนวณว่าอีก 20 ปีข้างหน้า หรือถึงอายุ 55 ปีเราจะมีเงินเก็บเท่าไหร่ จริงๆมันก็ไม่ได้เยอะเลยนะครับถ้าจะเอาไว้ใช้ตอนหลังเกษียณ ผมเลยคิดว่าเก็บมาทั้งชีวิตสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนทั่วไปนิ

ผมเลยหาวิธีว่าจะมีทางไหนได้บ้างที่จะได้เงินเพิ่ม เท่าที่ผมเจอคือ ลงทุนทำธุระกิจ ลงทุนหุ้น/กองทุน ซึ่งผมใช้เวลาศึกษาประมาณเกือบ 1 ปีครับ เพราะเงินที่ผมเก็บอาจจะยังเป็นเงินที่ยังไม่พร้อมหรือเป็นเงินใช้ตอนฉุกเฉิน
skip
ซึ่งผมก็เริ่มแบ่งเงินออกเป็น 4 ส่วนครับ 1.เงินใช้จ่ายรายเดือน 2.เงินเพื่อลงทุนธุระกิจและเรียนรู้ 3.เงินฉุกเฉิน 4.เงินลงทุนระยะยาว (DCA) การที่จะแบ่งเงินต้องขึ้นอยู่เพื่อนๆด้วยครับว่าไหวเท่าไหร่ ซึ่งผมจะไม่กดดันตัวเองในการเก็บเงินเพราะมันอาจจะทำให้เรากดดันมากเกินไปจนทำให้เราล้มเลิกไปเลยก็ได้อันดับแรกแบ่งตามความสะดวกก่อนครับเพื่อฝึกวินัยครับเป็นสิ่งสำคัญมากๆ

skip ไปตอนลงทุน -> ผมเริ่มการลงทุนในกองทุน ETF ครับ สาเหตุที่เลือก ETF เพราะความเสี่ยงต่ำครับ และสภาพคล่องค่อนข้างดี ซึ่งมันจะทำให้เงินต้นเราอยู่แน่นอนครับ ในการเลือกกองทุนผมจะเลือกดูที่เป็นระยะยาวเลยครับดูไปเลยครับอย่างต่ำ 5Y-10Y ว่ากราฟเป็นยังไงมีแนวโน้มขึ้นเรื่อยๆไหมอาจจะมีตกบ้างเป็นเรื่องปกติครับเพราะเราลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว ถ้ากองไหนตกไปเพราะเจอวิกฤตในช่วงนั้นแล้วกลับมาที่จุดเดิมได้แสดงว่ามีการบริหารกองทุนได้ดีครับ และจากที่ผมได้ลงทุนมาสัก 6 เดือนผมก็มีการเริ่มมาลงทุนในหุ้นครับ ผมจะเอาเงินในการเรียนรู้มาลงทุนครับผมจะไม่เอาเงินระยะยาวมาลงทุนครับ เพราะถ้าติดลบมาจะได้ไม่เสียดายครับเพราะเป็นการเรียนรู้ครับ แต่ก็ต้องศึกษาและวางแผนก่อนนะครับ หลักการลงทุนในหุ้นของผมคือผมจะมองอนาคตอย่างน้อย 5 ปีข้างหน้าจะมีเทรนอะไรบ้างครับ แล้วผมจะจับเทรนนั้นมาวิเคราะห์อีกทีครับว่าสุดท้ายแล้วจะกระทบกับบริษัทอะไร ซึ่งบอกก่อนเลยนะครับว่าผมไม่ได้ใช้หลักการคำนวณค่านุ่นนี้นั้นฮ่าๆ ยกตัวอย่าง 4 week ก่อนผมลงทุนใน nvda เพราะผมเห็นว่า aapl,msft,meta,goog กำลังทำ AI ผมก็เลยคิดว่า AI มันต้องการอะไรบ้างในการใช้งานโชคดีที่ผมเรียน วศ.คอมมา เลยรู้ว่าต้องใช้การประมวลผลที่สูง และ data ซึ่งผมก็ไปดูว่าแล้วบริษัทอะไรหละที่เป็นชิป top 3 แค่นั้นเลยครับ และอีกหลายๆอย่างที่ผมเรียนรู้อาจจะบอกไม่หมดนะครับ เพราะเยอะ

สรุป : สิ่งที่ผมได้จากการปรับ midset ในเรื่องการบริหาร วางแผนชีวิตตัวเอง อนาคต คือ
1.วินัยครับถ้าไม่มีข้อนี้ก็อาจจะไปไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ครับ
2.การเสียเวลาทุ่มเทให้กับสิ่งๆนั้นครับ ไม่มีอะไรที่ได้มาเพราะการฟลุ๊คครับ อาจจะฟลุ๊คได้ครับแต่เราจะควบคุมมันไม่ได้ครับเมื่อเกิดปัญหา
3.การลงทุนเกือบทุกอย่าง ถ้าไม่มีความรู้ไม่ต่างอะไรกับเล่นหวยครับ
4.มีหนึ่งสิ่งที่เพื่อนๆจะมองเห็นอนาคตตังเองได้ สิ่งนั้นคือการวางแผนครับ
5.เมื่อเพื่อนๆเห็นการพัฒนาของเงินที่เราลงทุนไป เราจะเสพติดการลงทุนครับ จะเริ่มสนุกกับมัน และจะเข้าใจคำว่าเงินมากขึ้น
6.ความมั่นคงในการใช้ชีวิต หรือการเงินไมไ่ด้ขึ้นอยู่กับงานครับ ขึ้นอยู่กับตัวเรา
7.อ้ออย่าลืมสุภาพตัวเองครับ สำคัญเหมือนกัน ตายก่อนใช้เงินก็ไม่มีประโยชน์อะไรครับ

ทั้งนี้การที่มาแชร์ประสบการณ์ของผมก็เพื่ออยากให้เพื่อนๆบางคนที่อยากก้าวออกจากวังวนของชีวิตเดิมๆ ให้กล้าที่จะก้าวข้ามความกลัว เช่น ลงทุนหุ้นเสี่ยงนะ ลงทุนแล้วจะได้หรอ ไม่ได้หรอก ข่าวเศรษฐกิจด้านลบๆ 
หวังว่าเพื่อนๆจะได้อะไรดีๆจากกระทู้นี้ไม่มากก็น้อยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่