ตามหัวข้อเลยครับ
ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าบ้านเราเอาที่วุฒิการศึกษาเป็น Base ในการเจริญเติบโตในหน้าที่การงานมากจนเกินไป
ทำไม เราไม่วัดกันที่ผลงาน ผลสัมฤทธิ์ของการทำงาน ประสบการณ์การทำงาน
ทำไม เราเอาที่วุฒิการศึกษาเป็นหลัก
เช่น
งานราชการ/สายอาชีพครู ===> บางคนจบมาได้บรรจุเลย ใช้เวลา 2 ปี ในตำแหน่งครู่ผู้ช่วย ในระหว่างนี้ก็เรียน ป.โท บริหารการศึกษา ปีที 3 เป็นครู และจบโเรียบร้อย ปีที่ 4 เอาวุฒิการศึกษาเป็นฐานและทำผลงาน(ส่วนมาก Make) ปีที่ 5 ได้ตำแหน่ง ครูชำนาญการ และไปสอบเป็นผู้บริหาร ปีที่ 6 เป็นรอง ผอ และครูชำนาญการพิเศษ ปีที่ 7-8 สอบเป็น ผอ
โดยสรุป ผอ บางคน บรรจุไม่เกิน 10-15 ปี ได้เป็น ผอ ประสบการการทำงานถือว่าน้อยมาก
งานบริษัท
===> บางคนทำงานเป็นสิบปี มีผลงานเป็นที่ประจัก มีผลสัมฤทธ์ของการทำงานดีมาก แต่ไม่สามารถขึ้นเป็น Manager ได้ เพราะวุฒิการศึกษาต่ำ เช่น ปวส ม.6 อนุปริญญา
===> บางคนทำงานได้ 2 ปี จบโท ขึ้นเป็น Manager Senoir Manager ทั้งที่ผลงานไม่เข้าเป้า
มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง........
MindSet ของสังคมบ้านเราทุกวันนี้ถูกต้องหรือไม่ ในเรื่องความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าบ้านเราเอาที่วุฒิการศึกษาเป็น Base ในการเจริญเติบโตในหน้าที่การงานมากจนเกินไป
ทำไม เราไม่วัดกันที่ผลงาน ผลสัมฤทธิ์ของการทำงาน ประสบการณ์การทำงาน
ทำไม เราเอาที่วุฒิการศึกษาเป็นหลัก
เช่น
งานราชการ/สายอาชีพครู ===> บางคนจบมาได้บรรจุเลย ใช้เวลา 2 ปี ในตำแหน่งครู่ผู้ช่วย ในระหว่างนี้ก็เรียน ป.โท บริหารการศึกษา ปีที 3 เป็นครู และจบโเรียบร้อย ปีที่ 4 เอาวุฒิการศึกษาเป็นฐานและทำผลงาน(ส่วนมาก Make) ปีที่ 5 ได้ตำแหน่ง ครูชำนาญการ และไปสอบเป็นผู้บริหาร ปีที่ 6 เป็นรอง ผอ และครูชำนาญการพิเศษ ปีที่ 7-8 สอบเป็น ผอ
โดยสรุป ผอ บางคน บรรจุไม่เกิน 10-15 ปี ได้เป็น ผอ ประสบการการทำงานถือว่าน้อยมาก
งานบริษัท
===> บางคนทำงานเป็นสิบปี มีผลงานเป็นที่ประจัก มีผลสัมฤทธ์ของการทำงานดีมาก แต่ไม่สามารถขึ้นเป็น Manager ได้ เพราะวุฒิการศึกษาต่ำ เช่น ปวส ม.6 อนุปริญญา
===> บางคนทำงานได้ 2 ปี จบโท ขึ้นเป็น Manager Senoir Manager ทั้งที่ผลงานไม่เข้าเป้า
มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง........