ว่างๆ ก็ขุดมาเล่า ขุดมารีวิว เนอะ หนังบางเรื่องอาจจะเก่าจนเกินไป แต่บอกเลยว่าแต่ละเรื่องที่ผมเอามาเล่า เอามารีวิวนี่คือ หนังมาสเตอร์พีซ (สำหรับผมนะ) และเป็นหนังระดับตำนานเกือบทั้งนั้น วันนี้ว่างๆ หลังจากดูหนังคลาสสิคอย่าง Night of the living Dead เวอร์ชั่นปี 1968 ไปแล้ว ก็นึกถึงหนังคลาสสิคแนวเขย่าขวัญอีกเรื่อง ที่ถูกรีเมคไปเมื่อปี 1999 เรื่อง House on Haunted Hill ก็อยากจะพูดถึงเวอร์ชั่นต้นฉบับที่ถูกฉายเมื่อปี 1959
เนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่องก็เหมือนกันทั้งสองเวอร์ชั่น คือเศรษฐีโรคจิตเช่าบ้านผีสิง (เรียกว่าตึกน่าจะง่ายกว่า เพราะมันเป็นตึกเลย) แล้วเชิญคนแปลกหน้า 5 คนมาร่วมงานเลี้ยงสยองขวัญและท้าว่าใครจะอยู่จนถึงเช้าได้ก็จะได้รับรางวัลเป็นเงิน 10,000 USD (สมัยนั้นก็ประมาณ 200,000++ บาท มูลค่าปัจจุบันก็น่าจะหลักล้านเนอะ อันนี้ให้นักการเงินคำนวณดีกว่า) บ้านถูกปิดตายไม่มีใครสามารถออกไปได้เด็ดขาด
เหล่าผู้เข้าร่วมก็จะมี เฟรดเดอริค โลเลน (Vicent Price) แอนนาเบลล์ โลเลน (Carol Ohmart) สองสามีภรรยามหาเศรษฐีผู้เป็นเจ้าภาพจัดงานแข่งขันนี้ แลนซ์ ชโรเดอร์ (Richard Long) นักบินทดสอบเครื่อง, นักข่าว รูธ บริดเจส (Julie Mitchum), จิตแพทย์เดวิด เทรนท์ (Alan Marshal)ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคฮิสทีเรีย (ก็โรคเรียกร้องความสนใจครับ ถ้าว่ากันง่ายๆ), โนรา แมนนิ่ง (Carolyn Craig) พนักงานในบริษัทของ เฟรดเดอริค, และเจ้าของบ้าน วัตสัน พริตชาร์ท (Elisha Cook Jr.)
หนังเริ่มต้นด้วยการที่สองผัวเมียมหาเศรษฐีมีปัญหากันตลอด แอนนาเบลล์สงสัยว่า เฟรดเดอริค วางยาฆ่าภรรยาคนก่อนๆ และคิดว่าฆ่าเธอด้วย ส่วน เฟรดเดอริค เองก็สงสัยว่า แอนนาเบลล์วางยาฆ่าเขาแต่ไม่สำเร็จ ส่วนการจัดงานนี้ตอนแรกก็เป็นความคิดของแอนนาเบลล์ แต่สุดท้ายเธอก็ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม
ขณะที่ทุกคนอยู่ในบ้านหลังนี้ แอนนาเบลล์ก็เตือนแลนซ์ว่า เฟรดเดอริควางแผนจะทำอะไรบางอย่างที่น่ากลัวมาก ขอให้ระวังตัวไว้ ผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกคนจะมีปืนไว้ป้องกันตัวคนละกระบอก โนราคิดจะออกจากการแข่งขันแต่ประตูกลับถูกปิดก่อนเวลาจะเริ่มแข่งขัน ทำให้เธอออกจากที่นี่ไม่ได้
อยู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา แลนซ์กับเดวิด วิ่งไปตามเสียงร้องก็เห็น แอนนาเบลล์แขวนคอตายอยู่ ทุกคนต่างก็ลงความเห็นว่าน่าจะฆ่าตัวตาย แต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้เกิดความคิดแย้งกันขึ้นมาว่าอาจจะมีใครบางคนลงมือ โนราแอบไปคุยกับแลนซ์และเล่าว่าเธอโดนใครบางคนใช้เชือกรัดคอและปล่อยทิ้งไว้เพราะคิดว่าาเธอตายแล้ว แลนซ์บอกให้โนราซ่อนตัวไว้ เพื่อให้คนร้ายเข้าใจว่าเธอตายแล้ว
แลนซ์กับเดวิด เสนอให้ทุกคนอยู่ในห้องตัวเองและยิงใครก็ตามที่คิดจะเข้าไปในห้องของตัวเอง โนราถูกวิญญาณของแอนนาเบลล์ไล่ล่าจนเธอต้องหนีออกจากห้องไปทางห้องใต้ดิน
ไม่อยากเล่าแล้วเดี๋ยวยาว ทุกคนต่างก็สงสัยกันและกัน เฟรดเดอริคก็โดนโนรายิงและล้มลง เดวิดที่แอบอยู่ก็เดินออกมาและจะโยนศพของเฟรดเดอริคลงบ่อน้ำกรด แล้วอยู่ๆ ไฟก็ดับ ส่วนแอนนาเบลล์ก็ปรากฎตัวขึ้นและบอกว่าตัวเองแกล้งตายเพราะกลัวเฟรดเดอริค เธอเดินไปดูศพของเฟรดเดอริคที่ใต้ดินก็โดนโครงกระดูกลุกขึ้นมาและต่อว่าเธอด้วยเสียงของเฟรดเดอริค แล้วฉุดลากลงไปในบ่อน้ำกรด
หลังจากนั้นเฟรดเดอริค ก็ปรากฎตัวออกมาจากเงามืด และเผยตัวว่ายังไม่ตาย และบอกว่า ปืนของโนราใส่กระสุนปลอมไว้ และเขาคิดว่า เดวิด กับ แอนนาแบลล์ ร่วมกันวางแผนที่จะฆ่าเขา และเขาก็พร้อมจะโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไป วัตสัน ยังคงเชื่อว่าบ้านหลังนี้มีผีสิงอยู่ และตอนนี้ในบ้านนี้ก็มี วิญญาณของเดวิด และแอนนาเบลล์อยู่ด้วยแล้ว
รีวิว
ถ้าว่ากันตรงๆ หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นอะไรเยอะ ถ้าเทียบกับหนังสมัยนี้ แต่ด้วยยุคสมัยนั้น การทำหนังแบบนี้ถือว่าล้ำยุค ล้ำสมัยมาก ทั้งการหักมุม การวางแผนฆาตกรรม การใช้เทคนิคพิเศษต่างๆ การตัดต่อภาพ การเดินเรื่อง แสง และเสียง ถูกจัดออกมาได้ดีมาก เนื้อเรื่องหลอกลวงคนดูได้อย่างจริงจังมากๆ ทำให้เรารู้สึกว่า นี่มันหนังผี แต่สุดท้าย เอ้า ทุกอย่างถูกจัดฉากขึ้นมานี่หว่า ไม่มีผี แต่เป็นการวางแผนฆาตกรรมชัดๆ และสุดท้ายก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆ แล้ว แอนนาเบลล์ไม่ดี หรือว่า เฟรดเดอริคกันแน่ ที่ร้าย ปล่อยให้คนดูเก็บไปคิดเอาเอง
นักแสดงคงไม่ต้องพูดถึง เพราะหลายๆ คนอาจจะไม่รู้จักเลย อย่าง Vicent Price ก็ถือเป็นนักแสดงที่โด่งดังมาก มีชื่อเสียงและผลงานที่ติดตราตรึงใจจนถึงทุกวันนี้อย่าง House of Wax (1953) ในบทช่างปั้นหุ่นขี้ผึงที่ถูกฆ่าตาย และกลับมาล้างแค้น The Last Man on Earth (1964) ในบทนักวิทยาศาสตร์ที่เหลือรอดอยู่คนเดียวบนโลก และผู้คนต่างก็ถูกไวรัสกลายเป็นผีดิบกระหายเลือด
ส่วนคนอื่นๆ ก็เป็นดาราที่มีชื่อเสียง และมีความสามารถทางการแสดงในยุคสมัยของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ดังมาถึงเมืองไทย ก็ไม่ขอพูดถึงเนอะ
จะไม่พูดถึงผู้กำกับก็ไม่ได้นะ เพราะถือว่าเป็นสุดยอดผู้กำกับหนังแนวเขย่าขวัญ และกล้าได้กล้าเสียมาก Willliam Castle ผู้กำกับหนังแนวแหวกของยุคนั้น แต่ละเรื่องถูกกล่าวขวัญถึงอย่างมากในประเทศ และถูกนำมารีเมคอย่าง House on the haunted hill, 13 Ghosts
หนังเรื่องนี้ในยุคสมัยนั้นก็ถือว่านำสมัยมากๆ ได้รับการกล่าวขานถึงอย่างแพร่หลาย และถือว่าเป็นต้นแบบให้ผู้กำกับหนังยุคใหม่อีกด้วย
ถ้าจะพูดถึงหนังแนวนี้ในยุคนั้น มีหลายเรื่องเลยนะครับ แต่หนังที่แหวกแนวแบบนี้ก็มีเรื่องนี้ เอามารีเมคเนื้อเรื่อง การเดินเรื่องแทบจะเหมือนเก่าหมดยกเว้นเทคนิคพิเศษที่ดีขึ้น และตอนจบที่ก็กลายเป็นหนังผีซะงั้น ผมชอบตอนจบของเวอร์ชั่นต้นฉบับมากกว่านะ
ถ้าคุณชอบดูหนัง เรียกตัวเองว่านักดูหนัง ต้องหามาดูนะครับ หนังเท่ห์ๆ แบบนี้ มันจะมีสักกี่เรื่องกันละเฟ้ย
[CR] ขุดมาเล่า กับหนังเขย่าขวัญสุดโบร่ำโบราณ House on the Haunted Hill ปี 1959
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้