โดย Zyo: https://www.facebook.com/zyobooks/

รูปที่ 1: ลิสต์หุ้น Top Gainers & Top Losers ในครึ่งปีแรก (6 เดือน) ของปี 2567
ข้อมูลจากแอพ Inno Radar ของ InnovestX

ผ่านไปครึ่งปี 2567 SET แดง จะว่าไปแล้ว แดงตั้งแต่ปี 2566

รูปที่ 2: กราฟ SET รายปี (1 แท่ง = 1 ปี) จาก tradingview.com

ถ้ามอง รูปที่ 2 เผิน ๆ ตลาดหุ้นไทย "แย่แล้ว" "ไร้อนาคต"
แต่ถ้าคุณเงยขึ้นไปมอง รูปที่ 1 ให้ดี จะเห็นว่า มันก็มีหุ้นที่บวกระดับ 50% ขึ้นไป ถึง 28 ตัว (ผมขอเรียกว่า "หุ้นนำตลาด")
โดย 24CS วิ่งขาขึ้นรอบใหญ่ บวกถึง 268%
24CS วิ่งขาขึ้นรอบใหญ่ บวกถึง 134%
TRT วิ่งขาขึ้นรอบใหญ่ บวกถึง 106%
และที่เหลือ ก็บวกระดับ 50% ขึ้นไป 

มันสื่ออะไร?
๑) มันสื่อว่า "แม้ตลาดหุ้น(หรือ SET) จะร่วงลง จะแดงได้แทบทุกวัน แต่หุ้นที่วิ่งให้ให้ได้กำไรงาม ๆ ก็ยังมีอยู่เสมอ"
๒) มันสื่อว่า ถ้าคุณมีกลยุทธ์เทรด/ลงทุน ที่เน้นเลือกหุ้นที่ "เป็นแนวโน้มขาขึ้น" หรือที่เรียกว่า "หุ้นนำตลาด" คุณก็มีโอกาสได้กำไรจาก "หุ้นนำตลาด" เหล่านี้อย่างน้อย ๆ ก็หนึ่งตัว
๓) มันสื่อว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ SET หรือดัชนี แต่มันอยู่ที่ "กลยุทธ์การเทรด/ลงทุนของคุณ" 
ถ้าคุณเทรด/ลงทุนโดยไม่ได้ดูแนวโน้มเลย ซื้อตามชื่อ ซื้อตามสิ่งที่เรียกว่าพื้นฐาน แต่ไม่ได้ดูกราฟเลย คุณก็มีโอกาสได้หุ้น "ตามตลาด(Laggard)" ที่แดงตามดัชนี ซึ่งคุณจะขาดทุนตาม SET ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่มันยังลงต่อ
๔) มันสื่อว่า ถ้าคุณ "เทรด/ลงทุนตามกราฟ" คุณเลือกหุ้นนำตลาด หุ้นที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น คุณมีโอกาสรอดและมีโอกาส "ได้เงิน" มากกว่า "ติดดอย"
๕) มันสื่อว่า กลยุทธ์การเทรด/ลงทุน มีหลากหลาย ไม่ได้มีแค่ท่าเดียว ถ้าคุณเลือกกลยุทธ์ที่ไม่แคร์ ไม่ดูตลาดเลย ไม่มีแต้มต่อ โอกาสแพ้และเจ๊งก็มีสูงครับ
๖) การติดหุ้น ติดดอย ส่วนใหญ่ มาจากการไม่ได้ดูกราฟ และ ถึงแม้ดูกราฟเป็นก็ใจไม่แข็งพอที่จะตัดขาดทุน (เปลี่ยนกลยุทธ์จากการเทรดเป็นถือยาว) พูดง่าย ๆ คือ "ไม่สนใจความเสี่ยงแม้แต่นิดเดียว" ซึ่งมาจากความไม่รู้ และ อีโก้(ความไม่อยากเป็นคนผิด)ของตัวนักเทรด/ลงทุนเอง

ดังนั้น ถ้าผลงานของคุณในครึ่งปีแรกของปีนี้ "ขาดทุนหนัก" แสดงว่า ปัญหาไม่น่าจะมาจากดัชนี แต่มาจากตัวคุณเอง
อย่าโทษตลาดหลักทรัพย์ อย่าโทษดัชนีครับ อย่าโทษหุ้นที่เป็นขาลงครับ เพราะมันไม่เกี่ยวอะไรเลย
มันลงเพราะคนฉลาดเขาขายออก มันลงเพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากเสี่ยงถือต่อไปอีก
ให้กลับมาตรวจสอบตนเอง ว่า "วิธีการของคุณน่าจะผิดแน่ ๆ"
ซึ่งคุณมี 2 แนวทางคือ 1) อยู่เฉย ๆ(ทนกับสิ่งที่คุณคิดผิด-รอให้ตลาดพลิกกลับมาให้คุณคิดถูก)
กับ 2) เปลี่ยนแนวทางใหม่

ถ้าคุณอยากเปลี่ยนแนวทางใหม่(ซึ่งมีไม่มากหรอก ผมฟันธง เพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากเปลี่ยนแปลง ไม่อยากเสียเวลาเรียนรู้สิ่งใหม่)
แนะนำให้คุณลองศึกษา "การอ่านกราฟ" ดูครับ ถ้าคุณอ่านเป็น คุณอาจจะไม่ติดหุ้น ไม่ติดดอยก็ได้ เพราะกราฟจะช่วยให้คุณ "เลือกหุ้นเป็น" มากขึ้น
ทักษะอ่านกราฟ จะช่วยให้คุณรู้ว่า หุ้นตัวนี้เป็นขาลง - ฉันไม่ซื้อ // หุ้นตัวนี้เป็นขาขึ้น - น่าซื้อมากกว่า
ทักษะอ่านกราฟ + การบริหารความเสี่ยงที่ถ่องแท้ จะช่วยให้คุณไม่ติดหุ้น + มีโอกาสได้หุ้นผู้ชนะวิ่งรอบใหญ่ "1 ใน 28 ตัว" ได้แน่นอน

ถึงกระนั้น ต้องบอกแบบแฟร์ๆ ว่า แค่อ่านกราฟเป็น ยังไม่พอสำหรับการทำเงินจากตลาดหุ้นหรอกนะ คุณต้อง
1- เรียนรู้ที่จะมีวินัย
2- เรียนรู้เรื่องการบริหารความเสี่ยง
3- เรียนรู้เรื่องการบริหารเงินทุน
4- เรียนรู้เรื่องการบริหารผลการเทรด/ลงทุน และ
5- เรียนรู้เรื่องบริหารจิตใจให้สอดคล้องด้วย
(ซึ่งทั้ง 5 เรื่องนี้ ไม่ว่าจะลงทุนแนวพื้นฐาน หรือ เทคนิคอล(ใช้กราฟ) ต่างก็ต้องรเรียนรู้เหมือนกันครับ)

ถ้าคุณสนใจ อยากเรียนรู้เทคนิคอล ไปแหล่งไหนดี?
๑) ลิสต์หุ้นนำตลาด ผมแนะนำเพจ "หุ้นการบ้าน" https://www.facebook.com/stockhomework/ เขาเอาขึ้นทุกวัน คุณสามารถเอาชื่อหุ้น ไปเปิดกราฟดูเพื่อพิจารณาได้เลยครับ 
- แอพ Inno Radar ของ InnovestX
- ศึกษาแทนวทางเทรดหุ้น 52 Week High (แนะนำช่องผมเอง https://www.youtube.com/channel/UCCdlkxZ5iylyRqGp9REGEvQ  )

๒) หนังสือแนะนำแนวทางเทรดหุ้นแนวเทคนิคอล ที่เน้นเทรดขาขึ้น มีมากมายครับ เอาที่ผมอ่านแล้วชอบก็แล้วกัน เช่น
- CANSLIM คัดหุ้นชั้นยอดด้วยระบบชั้นเยี่ยม
- เทรดอย่างพ่อมดตลาดหุ้น
- คิดและเทรดอย่างแชมป์เปี้ยน
- เจาะกลยุทธ์คัดหุ้นรันเทรนด์
- หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่ และ หุ้นซิ่งสวิงเทรด (ของผมเอง)

๓) บทความ อ่านฟรี ของผมเองที่ https://www.zyo71.com/p/index.html
คลิปก็มีครับ ที่ https://www.zyo71.com/p/index-of-zyo.html
ยังมีอีกมากมายครับ ขออภัยที่ไม่ได้เอ่ยถึง ใครอยากแนะนำที่ไหน ก็คอมเมนต์เพิ่มได้เลยครับ