สวัสดีครับผมมีเรื่องราวอยากมาแชร์ประสบการณ์การรักทางไกลของผมตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี
(ปัจจุบันตอนนี้ผมอายุ 21 กำลังจะอายุ 22 ปี)
ช่วงนั้นผมกำลังเรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัยตอนนั้นอยู่ชั้นปีที่ 2 ชอบลงสตอรี่ IG เกี่ยวกับทำอาหารทำของกินเล่นอยู่ที่ห้องตัวเอง
จนวันหนึ่งมีผู้หญิงปีเดียวกับผมคนนึง reply สตอรี่ผมมาทำให้ได้คุยกันอยู่หลายวันจนเริ่มคุยกันมาตลอดเรื่อยมา จนเกิดเป็นความรู้สึกที่ถูกอกถูกใจกัน
ผมคุยเล่นกับเธอมีความสุขมากจนเราคุยกันได้ประมาณ 1-2 เดือน โดยเธอเป็นฝ่ายขอผมเป็นแฟนโดยการส่งลิ้งค์ที่เธอทำไว้
ตอนที่เปิดผมเข้าไปเป็นการขอผมเป็นแฟน ซึ่งผมตอนนั้นเองก็ลังเลอยู่ระดับหนึ่งแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะตอบตกลง และเราก็ได้เป็นแฟนกันใน
วันที่ 13 ก.ค.2565
แต่อย่างที่ผมบอกเรื่องนี้เป็นรักทางไกลเราซึ่งเรา 2 คนทราบดีตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าเราอาจจะมีโอกาสได้เจอกันน้อยเพราะว่าไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน
ผมอยู่เรียนอยู๋พิษณุโลกส่วนเธอเรียนอยู่เชียงใหม่ ตลอดระยะเวลาที่คบกันผมได้เริ่มปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง เริ่มหาทำงานเสริมเพื่อเก็บเงินไปหาเธอที่เชียงใหม่
ซึ่งผมก็ทำได้ ผมทั้งเรียน ทั้งทำงานหาเงินและทำงานสโมสรนิสิต ผมเหนื่อยมากได้นอนแค่ 4-5 ชั่วโมงต่อวันเพราะตื่นเช้าไปเรียนและทำงาน
แต่พอผมได้ไปหาเธอผมก็หายเหนื่อย เราทั้งคู่ดีใจมากที่ได้ใช้เวลาอยู่กับเธอ เราได้ไปเที่ยวกันหลายที่ในเชียงใหม่ ได้ใช้เวลาร่วมกัน
เวลาอย่างผ่านไปไวมากผมทำทุกอย่างเหมือนเดิม หาเวลาไปหาเธอทุกครั้งที่ทำได้ เราไม่เคยมีเรื่องอะไรทะเลาะกันเลยตอนที่เรายังเป็นแฟนกัน
ผมสบายใจมาก ไม่เคยรู้สึกสบายใจหรืออบอุ่นใจแบบนี้มาก่อน ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ อะไร ๆ ก็ perfect ไปหมด
ทางบ้านผมกับบ้านเธอพวกเราก็ไม่มีปัญหากัน ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายรับรู้มาตั้งแต่ช่วงแรกๆแล้ว ไปบ้านกันและกันมาแล้ว
หลายอย่างลงตัวมากจนทำให้ผมไม่เคยคิดว่าวันนึงเราจะเลิกกันเพราะเหตุผลอะไรที่ไม่ดี
คบต่อมาจนช่วงปี 3 กำลังจะเปิดเทอมขึ้นปี 4 ซึ่งกำลังถึงวันครบรอบ 2 ปีที่เป็นแฟนกันในอีก 1 เดือนข้างหน้า
ผมกลับมาจากดูหนังรอบดึกประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง หนังฉายเสร็จประมาณ 4-5 ทุ่ม ผมก็บอกเธอว่าหนังจบแล้วกำลังจะกลับห้องนะไม่ต้องห่วง
ผมก็เดินทางกลับมาที่ห้องพักของตัวเองพร้อมกับถ่ายรูปให้เธอดูว่าถึงแล้ว ปลอดภัยดี เธอก็ตอบว่าโอเค เก่งมาก และพิมพ์มาอีกว่ามีเรื่องจะบอกผม
ผมก็ไม่ได้เตรียมใจกับเรื่องอะไรไว้เลย เพราะว่าทุกอย่างปกติมากๆ
เธอพิมพ์มาว่า"เลิกกันไหมรู้สึกว่าไม่ชอบรักทางไกลเลย รู้สึกว่ามีแฟนเหมือนไม่มี เค้าเหงา"
ผมเองก็สตั้นไปพักหนึ่งเพราะผมไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร หัวมันโล่งไปหมด
เธอบอกว่าเนื่องจากปีนึงเราเจอกันไม่กี่ครั้งเเละผมเองก็มีงานเยอะมากที่ต้องทำ
ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 23:38 น.ผมจึงตัดสินใจโทรหาเธอเพื่อที่จะคุยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราใช้เวลาคุยกัน 51 นาที
ผมยื้อเธอไว้ไม่ได้เลย เหมือนเธอหมดใจไปแล้ว ผมพยายามบอกถ้าเราเรียนจบแล้วเราจะมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นแน่นอนแต่ตอนนี้มันติดอยู่ตรงที่ว่า
เราอยู๋ไกลกัน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ผ่านมาด้วยกันได้มาตลอด ซึ่งเธอก็บอกว่ามันนานไปไหม เค้าไม่อยากทนเหงาอีกแล้ว
แล้วผมทำอะไรได้ในเมื่อเขาหมดใจไปแล้ว ความรักเป็นเรื่องของคน 2 คน ผมไม่สามารถเดินไปคนเดียวหรือบังคับอีกคนให้เดินไปด้วยกันได้
ผมจึงเลือกที่จะยอมรับในการตัดสินใจของเธอแม้ว้าผมจะยังยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ก็ตาม
ผมนอนเคว้งในห้องไม่รู้จะทำอะไรจนเวล่ล่วงเลยไปตี 2 - 3 ผมส่งข้อความทิ้งไว้ให้เธอหลายข้อความมากเกี่ยวกับ
ผมทำอะไรผิดหรือเปล่า มีอะไรทำไมถึงไม่บอกกันตั้งแต่แรกๆ เราทั้งคู่ค่อนข้างแตกต่างกันแต่สามารถอยู่ด้วยกันได้เช่น
เธอเป็นคนชอบกินเผ็ด ชอบกินเครื่องใน ผมไม่ได้ชอบกินแนวนั้นแต่ผมสามารถกินได้
ผมสามารถปรับปรุงเพื่อเธอได้ พวกเรามีสิ่งที่เหมือนกันคือไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ชอบดื่มสุรา
มีอะไรอีกไหมที่มันเป็นปัญหานอกจากรักทางไกล เพราะผมเองก็มองหาสาเหตุไม่เจอ
ผมพิมพ์ไว้หลายข้อความมากเธอเลือกตอบกลับข้อความนี้ของผม
"ถ้าความรู้สึกเธอบอกว่าเลิกเพราะว่าเป็นรักทางไกล แต่ว่าจุดเริ่มต้นของเราตอนนั้นเราก็รู้จุดนี้กันอยู่แล้วว่าของเรามันรักทางไกลนะ
มีเวลาไม่นานมากที่จะได้อยู่ด้วยกันตอนช่วงเรียน เราก็ผ่านมันมากันได้ตั้งเท่าไหร่ ลองคิดดูอีกครั้งได้ไหม"
เธอตอบกลับมาว่า "แต่เค้าก้อไม่อยากทนต่อไปแล้วไง"
คำตอบนั้นมันทำผมจุกและตันไปหมดได้แต่คิดแล้วก็คิดว่าทำไม
ทำไมทั้งๆที่ทุ่มเท่หลายๆอย่างและรักเธอคนเดียวมาตลอด ไม่เคยว่าหรือทำให้เสียใจเลย
ผมจึงตอบไปว่าเข้าใจแล้ว ขอโทษที่ต้องทำให้รู้สึกเเบบนี้นะ
ขอบคุณที่ผ่านมามากๆเลย เรายังเป็นเพื่อนกันได้ไหม เธอก็ตอบผมว่า "ได้คั้บ"
และหลังจากนนั้นไม่นานสีแชท อิโมจิ ชื่อเล่นที่เราตั้งกันไว้ก็ถูกล้างกลับไปเป็นสีฟ้า
ตกเย็นของวันนั้นด้วยความที่ผมเองก็ยังคงค้างคาในคำถามต่างๆที่ผมเคยถามไว้เมื่อตอนตี 2-3
ผมจึงทักไปถามเธอว่า เธอช่วยพิมพ์อะไรบอกเค้าหน่อยได้มั้ย เธออ่านอาจจะลำคาญเค้าก็ได้
แต่ตอนนี้เค้ารู้สึกแย่มาก มันเหมือนมีอะไรอีกตั้งเยอะแยะที่เค้ายังไม่ได้พูด เรื่องนี้เค้าไม่ได้เตรียมตัวเลยมันแบบมีอะไรที่อยากคุยด้วยเยอะมากๆแต่รู้สึกเหมือนทำอะไรไม่ได้เหมือนว่ามันจะรับได้แต่ก็แอบช้ำๆอยู่ คงต้องใช้เวลาไปอีกสักพักใหญ่เลย
ที่เค้าพิมพ์อะไรไปตั้งเยอะเมื่อคืนเธอจะไม่ตอบอะไรเค้ามาบ้างเลยหรอ
เธอตอบผมกลับมาแค่ว่า
"ไม่มีคั้บ;-; ขอให้มูฟออนได้เร็วๆ อยู่กับเพื่อนเยอะๆ ออกไปข้างนอกบ่อยๆไปเจอคนเยอะๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น"
พร้อมกับสติ๊กเกอร์เศร้าร้องไห้
จากที่ผมเข้มแข็งผมเริ่มจะอ่อนแอในทันที ผมเริ่มมีความรู้สึกเหมือนว่าอยากจะร้องไห้ลึกๆข้างในแต่ก็ไม่สามารถร้องไห้ได้
ผมจึงพิมพ์เพิ่มต่อไปว่า
"เค้าไม่ว่าอะไรเธอนะ แต่ว่าถ้าเธอมีความรักใหม่ในอนาคต
แล้วเกิดมีความรู้สีกแบบนี้อีกเค้าแนะนำให้บอกอีกฝ่ายเลย จะได้ปรับเข้าหากัน
อย่าเก็บสะสมไว้คนเดียวเพราะว่าถ้าเทียบกับเค้าเค้ารับรู้ไม่ได้เลยว่ากำลังจะเสียเธอไป
เค้าไม่มีโอกาสเลยที่จะดึงกลับมาได้เหมือนกับว่าตัดสินใจไปแล้วคิดอะไรไปเองก่อนหน้าแล้ว
เพราะว่าไม่เคยทะเลาะหรือผิดใจอะไรเลย เค้าว่าเค้าก็ทำดีมาหมดทุกอย่าง"
"หรือจริงๆแล้วหมดรักกันแล้วใช่ไหม แบบมันเฉยๆไปแล้ว"
เธอตอบผมมาตรงคำถามที่ผมถามว่าหมดรักแล้วใช่ไหมว่า "ใช่ 🥺"
หลังจากคำนั้นผมก็ไม่คิดจะถามอะไรอีกแล้ว ผมจึงตอบไปว่า
"โอเค"
"เค้าอยากรู้แค่นี้แหละ"
"หางโกลเด้นท์ที่เคยกระดิกดีใจเร็วๆมันหยุดแล้วนะ"
เเละเรื่องราวก็จบลงในวันที่ 3 มิ.ย.2567
สำหรับคนที่อ่านมาจนจบ ขอบคุณมากนะครับ
ผมจะเข้มแข็งขึ้น จะเลิกเศร้าให้ได้เร็วๆนี้ ก้าวต่อไป ดูแลตัวเองมากขึ้น
วันนึงถ้ามันใช่คงจะได้กลับมาพบกันใหม่
แต่ผมคงไม่คาดหวังแล้วเพราะจากที่เธอพูดมามันก็เป็นไปได้ยากมาก
วันนึงผมจะผ่านจุดนี้ไปได้ เหมือนกับเรื่องอื่นๆ
ขอบคุณครับ
รักแท้ที่ทุ่มเท มาเเพ้ให้กับคนที่หมดใจ
(ปัจจุบันตอนนี้ผมอายุ 21 กำลังจะอายุ 22 ปี)
ช่วงนั้นผมกำลังเรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัยตอนนั้นอยู่ชั้นปีที่ 2 ชอบลงสตอรี่ IG เกี่ยวกับทำอาหารทำของกินเล่นอยู่ที่ห้องตัวเอง
จนวันหนึ่งมีผู้หญิงปีเดียวกับผมคนนึง reply สตอรี่ผมมาทำให้ได้คุยกันอยู่หลายวันจนเริ่มคุยกันมาตลอดเรื่อยมา จนเกิดเป็นความรู้สึกที่ถูกอกถูกใจกัน
ผมคุยเล่นกับเธอมีความสุขมากจนเราคุยกันได้ประมาณ 1-2 เดือน โดยเธอเป็นฝ่ายขอผมเป็นแฟนโดยการส่งลิ้งค์ที่เธอทำไว้
ตอนที่เปิดผมเข้าไปเป็นการขอผมเป็นแฟน ซึ่งผมตอนนั้นเองก็ลังเลอยู่ระดับหนึ่งแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะตอบตกลง และเราก็ได้เป็นแฟนกันใน
วันที่ 13 ก.ค.2565
แต่อย่างที่ผมบอกเรื่องนี้เป็นรักทางไกลเราซึ่งเรา 2 คนทราบดีตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าเราอาจจะมีโอกาสได้เจอกันน้อยเพราะว่าไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน
ผมอยู่เรียนอยู๋พิษณุโลกส่วนเธอเรียนอยู่เชียงใหม่ ตลอดระยะเวลาที่คบกันผมได้เริ่มปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง เริ่มหาทำงานเสริมเพื่อเก็บเงินไปหาเธอที่เชียงใหม่
ซึ่งผมก็ทำได้ ผมทั้งเรียน ทั้งทำงานหาเงินและทำงานสโมสรนิสิต ผมเหนื่อยมากได้นอนแค่ 4-5 ชั่วโมงต่อวันเพราะตื่นเช้าไปเรียนและทำงาน
แต่พอผมได้ไปหาเธอผมก็หายเหนื่อย เราทั้งคู่ดีใจมากที่ได้ใช้เวลาอยู่กับเธอ เราได้ไปเที่ยวกันหลายที่ในเชียงใหม่ ได้ใช้เวลาร่วมกัน
เวลาอย่างผ่านไปไวมากผมทำทุกอย่างเหมือนเดิม หาเวลาไปหาเธอทุกครั้งที่ทำได้ เราไม่เคยมีเรื่องอะไรทะเลาะกันเลยตอนที่เรายังเป็นแฟนกัน
ผมสบายใจมาก ไม่เคยรู้สึกสบายใจหรืออบอุ่นใจแบบนี้มาก่อน ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ อะไร ๆ ก็ perfect ไปหมด
ทางบ้านผมกับบ้านเธอพวกเราก็ไม่มีปัญหากัน ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายรับรู้มาตั้งแต่ช่วงแรกๆแล้ว ไปบ้านกันและกันมาแล้ว
หลายอย่างลงตัวมากจนทำให้ผมไม่เคยคิดว่าวันนึงเราจะเลิกกันเพราะเหตุผลอะไรที่ไม่ดี
คบต่อมาจนช่วงปี 3 กำลังจะเปิดเทอมขึ้นปี 4 ซึ่งกำลังถึงวันครบรอบ 2 ปีที่เป็นแฟนกันในอีก 1 เดือนข้างหน้า
ผมกลับมาจากดูหนังรอบดึกประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง หนังฉายเสร็จประมาณ 4-5 ทุ่ม ผมก็บอกเธอว่าหนังจบแล้วกำลังจะกลับห้องนะไม่ต้องห่วง
ผมก็เดินทางกลับมาที่ห้องพักของตัวเองพร้อมกับถ่ายรูปให้เธอดูว่าถึงแล้ว ปลอดภัยดี เธอก็ตอบว่าโอเค เก่งมาก และพิมพ์มาอีกว่ามีเรื่องจะบอกผม
ผมก็ไม่ได้เตรียมใจกับเรื่องอะไรไว้เลย เพราะว่าทุกอย่างปกติมากๆ
เธอพิมพ์มาว่า"เลิกกันไหมรู้สึกว่าไม่ชอบรักทางไกลเลย รู้สึกว่ามีแฟนเหมือนไม่มี เค้าเหงา"
ผมเองก็สตั้นไปพักหนึ่งเพราะผมไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร หัวมันโล่งไปหมด
เธอบอกว่าเนื่องจากปีนึงเราเจอกันไม่กี่ครั้งเเละผมเองก็มีงานเยอะมากที่ต้องทำ
เราอยู๋ไกลกัน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ผ่านมาด้วยกันได้มาตลอด ซึ่งเธอก็บอกว่ามันนานไปไหม เค้าไม่อยากทนเหงาอีกแล้ว
แล้วผมทำอะไรได้ในเมื่อเขาหมดใจไปแล้ว ความรักเป็นเรื่องของคน 2 คน ผมไม่สามารถเดินไปคนเดียวหรือบังคับอีกคนให้เดินไปด้วยกันได้
ผมจึงเลือกที่จะยอมรับในการตัดสินใจของเธอแม้ว้าผมจะยังยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ก็ตาม
ผมนอนเคว้งในห้องไม่รู้จะทำอะไรจนเวล่ล่วงเลยไปตี 2 - 3 ผมส่งข้อความทิ้งไว้ให้เธอหลายข้อความมากเกี่ยวกับ
ผมทำอะไรผิดหรือเปล่า มีอะไรทำไมถึงไม่บอกกันตั้งแต่แรกๆ เราทั้งคู่ค่อนข้างแตกต่างกันแต่สามารถอยู่ด้วยกันได้เช่น
เธอเป็นคนชอบกินเผ็ด ชอบกินเครื่องใน ผมไม่ได้ชอบกินแนวนั้นแต่ผมสามารถกินได้
ผมสามารถปรับปรุงเพื่อเธอได้ พวกเรามีสิ่งที่เหมือนกันคือไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ชอบดื่มสุรา
มีอะไรอีกไหมที่มันเป็นปัญหานอกจากรักทางไกล เพราะผมเองก็มองหาสาเหตุไม่เจอ
ผมพิมพ์ไว้หลายข้อความมากเธอเลือกตอบกลับข้อความนี้ของผม
"ถ้าความรู้สึกเธอบอกว่าเลิกเพราะว่าเป็นรักทางไกล แต่ว่าจุดเริ่มต้นของเราตอนนั้นเราก็รู้จุดนี้กันอยู่แล้วว่าของเรามันรักทางไกลนะ
มีเวลาไม่นานมากที่จะได้อยู่ด้วยกันตอนช่วงเรียน เราก็ผ่านมันมากันได้ตั้งเท่าไหร่ ลองคิดดูอีกครั้งได้ไหม"
เธอตอบกลับมาว่า "แต่เค้าก้อไม่อยากทนต่อไปแล้วไง"
คำตอบนั้นมันทำผมจุกและตันไปหมดได้แต่คิดแล้วก็คิดว่าทำไม
ทำไมทั้งๆที่ทุ่มเท่หลายๆอย่างและรักเธอคนเดียวมาตลอด ไม่เคยว่าหรือทำให้เสียใจเลย
ผมจึงตอบไปว่าเข้าใจแล้ว ขอโทษที่ต้องทำให้รู้สึกเเบบนี้นะ
ขอบคุณที่ผ่านมามากๆเลย เรายังเป็นเพื่อนกันได้ไหม เธอก็ตอบผมว่า "ได้คั้บ"
และหลังจากนนั้นไม่นานสีแชท อิโมจิ ชื่อเล่นที่เราตั้งกันไว้ก็ถูกล้างกลับไปเป็นสีฟ้า
ตกเย็นของวันนั้นด้วยความที่ผมเองก็ยังคงค้างคาในคำถามต่างๆที่ผมเคยถามไว้เมื่อตอนตี 2-3
ผมจึงทักไปถามเธอว่า เธอช่วยพิมพ์อะไรบอกเค้าหน่อยได้มั้ย เธออ่านอาจจะลำคาญเค้าก็ได้
แต่ตอนนี้เค้ารู้สึกแย่มาก มันเหมือนมีอะไรอีกตั้งเยอะแยะที่เค้ายังไม่ได้พูด เรื่องนี้เค้าไม่ได้เตรียมตัวเลยมันแบบมีอะไรที่อยากคุยด้วยเยอะมากๆแต่รู้สึกเหมือนทำอะไรไม่ได้เหมือนว่ามันจะรับได้แต่ก็แอบช้ำๆอยู่ คงต้องใช้เวลาไปอีกสักพักใหญ่เลย
ที่เค้าพิมพ์อะไรไปตั้งเยอะเมื่อคืนเธอจะไม่ตอบอะไรเค้ามาบ้างเลยหรอ
เธอตอบผมกลับมาแค่ว่า
"ไม่มีคั้บ;-; ขอให้มูฟออนได้เร็วๆ อยู่กับเพื่อนเยอะๆ ออกไปข้างนอกบ่อยๆไปเจอคนเยอะๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น"
พร้อมกับสติ๊กเกอร์เศร้าร้องไห้
จากที่ผมเข้มแข็งผมเริ่มจะอ่อนแอในทันที ผมเริ่มมีความรู้สึกเหมือนว่าอยากจะร้องไห้ลึกๆข้างในแต่ก็ไม่สามารถร้องไห้ได้
ผมจึงพิมพ์เพิ่มต่อไปว่า
"เค้าไม่ว่าอะไรเธอนะ แต่ว่าถ้าเธอมีความรักใหม่ในอนาคต
แล้วเกิดมีความรู้สีกแบบนี้อีกเค้าแนะนำให้บอกอีกฝ่ายเลย จะได้ปรับเข้าหากัน
อย่าเก็บสะสมไว้คนเดียวเพราะว่าถ้าเทียบกับเค้าเค้ารับรู้ไม่ได้เลยว่ากำลังจะเสียเธอไป
เค้าไม่มีโอกาสเลยที่จะดึงกลับมาได้เหมือนกับว่าตัดสินใจไปแล้วคิดอะไรไปเองก่อนหน้าแล้ว
เพราะว่าไม่เคยทะเลาะหรือผิดใจอะไรเลย เค้าว่าเค้าก็ทำดีมาหมดทุกอย่าง"
"หรือจริงๆแล้วหมดรักกันแล้วใช่ไหม แบบมันเฉยๆไปแล้ว"
เธอตอบผมมาตรงคำถามที่ผมถามว่าหมดรักแล้วใช่ไหมว่า "ใช่ 🥺"
หลังจากคำนั้นผมก็ไม่คิดจะถามอะไรอีกแล้ว ผมจึงตอบไปว่า
"โอเค"
"เค้าอยากรู้แค่นี้แหละ"
"หางโกลเด้นท์ที่เคยกระดิกดีใจเร็วๆมันหยุดแล้วนะ"
เเละเรื่องราวก็จบลงในวันที่ 3 มิ.ย.2567
สำหรับคนที่อ่านมาจนจบ ขอบคุณมากนะครับ
ผมจะเข้มแข็งขึ้น จะเลิกเศร้าให้ได้เร็วๆนี้ ก้าวต่อไป ดูแลตัวเองมากขึ้น
วันนึงถ้ามันใช่คงจะได้กลับมาพบกันใหม่
แต่ผมคงไม่คาดหวังแล้วเพราะจากที่เธอพูดมามันก็เป็นไปได้ยากมาก
วันนึงผมจะผ่านจุดนี้ไปได้ เหมือนกับเรื่องอื่นๆ
ขอบคุณครับ