สวัสดีค่ะ เรื่องเพิ่งเกิดสดๆร้อนๆไม่กี่วันมานี่ เลยอยากจะแชร์เรื่องราวไว้ให้เป็น digital footprint
ให้คนที่เจอเหตุการณ์คล้ายๆกันหรือไม่แน่ใจว่าโดนหลอกไม๊ มาเสิร์จแล้วจะได้เจอข้อมูลของกระทู้นี้ค่ะ
คุณพ่อวัยเกษียณของอิชั้น เกือบโดนมิจฉาชีพหลอกดูดเงินจากบัญชี แต่โชคดีที่ไหวตัวทัน สุดท้ายเลยรอดมาได้แบบหวุดหวิดค่ะ
ไปเริ่มกันเลย...
ต้นเรื่องคือ คุณพ่อ อายุ 68ปี เป็นข้าราชการเกษียณมาหลายปีแล้วค่ะ พ่อแม่อยู่กัน 2 คนที่ ตจว. ส่วนเราเป็นลูก อยู่ กทม. ค่ะ
เราค่อนข้างเช็คการใช้โซเชียลหรือพวกแอพต่างๆ ของพ่อแม่อยู่เสมอ สอนใช้บ้าง สมัครให้บ้าง
เตือนเรื่องมิจฉาชีพ แก๊งค์คอลเซนเตอร์อะไรแบบนี้ตลอดเวลา ซึ่งพ่อแม่ก็ทำได้ดีระดับนึง มีอะไรก็บอกก็ถามเราตลอด
และขนาดว่าเราอีพเดตกับพ่อแม่ตลอด ยังเกือบโดนมิจฉาชีพมันหลอกเอาจนได้
เมื่อปลายๆเดือน พ.ค. พ่อได้รับโทรศัพท์จาก
"ฝ่ายธุรการ ของหน่วยงานต้นสังกัด"
โทรมาแจ้งว่ามีเงินเงินบำเหน็จดำรงชีพที่ยังตกค้างอยู่ ประมาณ 2แสน ยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอรับ
ให้เตรียมเอกสารนู่นนี่นั่นมาส่งที่ต้นสังกัด หรือ...
"ทำเรื่องผ่านออนไลน์" ได้เลย แต่ต้องติดต่อส่วนกลางเอาเอง
ส่วนกลางที่ "ฝ่ายธุรการ ของหน่วยงานต้นสังกัด" นั้นบอกมาก็คือ
"เจ้าหน้าที่กองคลัง กรมบัญชีกลาง"
พร้อมบอกชื่อและเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้มาให้ ต่อมาพ่อก็โทรไปตามนั้น
"เจ้าหน้าที่" ที่ว่านี่ บอกว่าเงินนี้สามารถยื่นเรื่องรับทางออนไลน์ได้เลย
แต่ต้องติดตั้งแอพของกรมบัญชีกลางก่อน (นั่นไง โดนแล้วพ่อชั้น
)
และก็ตามสเต็ปมิจฉาอ่ะนะ มันบอกข้อมูลของเราตรงทุกอย่าง ส่งลิ้งค์ติดตั้งแอพ พาลงแอพ
ให้กรอกข้องมูลส่วนตัวทุกอย่าง นั่นรวมถึงผูกบัญชีเงินบำนาญที่พ่อรับทุกเดือนของ ธ.กรุงไทย เข้ากับแอพที่ว่านั่น จนเสร็จเรียบร้อย
เราที่อยู่ กทม. ไม่รู้เรื่องนี้เลย จนตอนเย็นวันนั้น แม่โทรมาคุยเรื่องว่าพ่อจะได้รับเงินบำเหน็จตัวนี้
จะใช้เงินยังไงทำนู่นนี่อะไรยังไงก็คุยกันเรื่อยเปื่อย ตอนนั้นพ่อไม่ว่างเลยได้คุยแต่กับแม่แบบจิปาถะทั่วไป
พอเช้าวันต่อมา เราก็โทรหาพ่อแม่ปกติถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไป เราถามเรื่องเงินตัวนี้ ว่าแบบอะไรยังไง
โดยที่ตอนแรกยังไม่ได้นึกเอะใจอะไรเลยนะ พ่อก็เลยเล่าให้ฟังคร่าวๆ ตามที่เล่าไปข้างบน
ตอนนั้นเราถามว่ามิจฉาไหม สมัยนี้มิจฉาเยอะนะ .. พ่อบอกว่า ไม่น่าใช่มั๊ง
เพราะได้รับการติดต่อจาก
"ฝ่ายธุรการ ของหน่วยงานต้นสังกัด" ก่อน
แล้วข้อมูลของ
"เจ้าหน้าที่กองคลัง กรมบัญชีกลาง" ก็ได้มาจากเค้า
เรารู้สึกตะหงิดๆใจ เลยขอข้อมูลของ "เจ้าหน้าที่กองคลัง กรมบัญชีกลาง" คนนั้นมา
เดี๋ยวจะเสิร์จกูเกิ้ลดูซิว่า มิจฉาไหม..สมัยนี้ไว้ใจใครไม่ได้หรอกนะ
ข้อมูลที่ว่าคือ ชื่อ
สายฝน (ขอสงวนนามสกุล) เบอร์ติดต่อคือ 081-4xx-xxx เจ้าหน้าที่กองคลัง กรมบัญชีกลาง ว่าซ่านนน
เอ๊ะแรกคือ ทำไมเจ้าหน้าที่ให้เบอร์มือถือส่วนตัว ซึ่งปกติถ้าติดต่อราชการหรือธุรกิจธุรกรรมใดๆ ควรเป็นเบอร์หน่วยงาน ไม่ใช่เบอร์ส่วนตัวใช่ไม๊
เอาล่ะ หลังจากเสิร์จกูเกิ้ลเท่านั้นแหละจ้าาาา... ได้เรื่องเลย
ในเวปของกรมบัญชีกลางไม่มีชื่อของเจ้าหน้าที่ปลอมๆคนนี้ ส่วนเบอร์โทรนี้ก็ไม่มีข้อมูลอะไรใดๆขึ้นมา
และที่โป๊ะแตกแหกกระเจิงก็คือ เราเจอสิ่งนี้เต็มไปหมด...
รายการที่ท่านรองอธิบดีกรมบัญชีกลางมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการป้องกันภัยจากมิจฉาชีพที่แอบอ้าง
สรุปว่าเป็น "มิจฉาชีพ" จ้า มิจตั้งแต่ คนที่โทรมาแล้วอ้างว่าจากต้นสังกัด
จนถึงเจ้าหน้าที่จากกรมบัญชีกลาง ซึ่งก็คงเป็นแก๊งค์เดียวกันนั่นแหละ
หลังจากนั้นก็ตกใจงานเข้าสิ ตาลีตาเหลือกกันทั้งบ้าน พ่อรีบไป "ฝ่ายธุรการ ของหน่วยงานต้นสังกัด" ในทันที
ถามหาเจ้าหน้าที่ชื่อนี้.. เบอร์โทรนั้น.. ที่ติดต่อมาเมื่อวาน และแน่นอนว่า ที่นั่นไม่มีเจ้าหน้าที่ปลอมคนนั้น
และเจ้าหน้าที่ตัวจริงๆ เค้ายังบอกว่า โดนกันไปหลายคนแล้วคุณลุงงงง
เพราะคนวัยเกษียณไม่ค่อยได้ติดต่ออะไรกับหน่วยงานต้นสังกัดแล้ว พอมีคนเอาไปแอบอ้างก็หลงเชื่อกันได้ง่ายๆ
ก็ตัวสั่นงันงก รีบลบแอพมิจฉาที่โดนหลอกให้ติดตั้งออกจากมือถือทันที format เครื่องใหม่ factory reset อะไรใดๆทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
รีบไปธนาคาร อายัดบัญชีไว้ก่อน แต่ยังปิดไม่ได้ เพราะต้องรอเงินบำนาญของเดือนนี้เข้าก่อน เพราะแจ้งเปลี่ยนบัญชีไม่ทัน
วันต่อมาหลังจากเงินบำนาญเข้าแล้ว ก็ปิดบัญชีเดิม เปิดบัญชีใหม่ ไม่ทำบัตรเอทีเอ็ม ไม่ทำแบ้งกิ้ง ถือสมุดไปถอนอย่างเดียวเท่านั้น
เอาเอกสารไปทำเรื่องแจ้งเปลี่ยนบัญชีรับเงินบำเหน็จบำนาญที่หน่วยงานต้นสังกัด
แบบออฟไลน์ไปติดต่อด้วยตัวเองเท่านั้น ห้ามทำธุรกรรมใดๆออนไลน์อีกเป็นอันขาด
โชคยังดี ที่ครอบครัวเรารู้ตัวเร็วว่าโดนหลอกแล้ว ก็เลยรักษาเงินเอาไว้ได้ยังไม่โดนดูดออกไปจากบัญชีค่ะ
แต่ก็เกือบบ้านแตก เพราะพ่อเราก็โดนแม่กับลูกบ่นชุดใหญ่ว่าไปหลงคารมมิจฉาชีพเข้าซะแล้ว
แต่เราก็บ่นตามสมควร เพราะเห็นใจพ่อแก่แล้ว ตามอิมิจมันไม่ทัน เพราะมันมีข้อมูลของเราทั้งหมดเลย
ชื่อนามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรติดต่อ จำนวนเงินที่จะได้รับ เงินจะเข้าเมื่อไหร่ มันรู้หมดทุกอย่าง
ขนาดคนหนุ่มคนสาว ตั้งแต่ด๊อกเตอร์จนถึงคนเดินดินหาเช้ากินค่ำ ยังโดนมิจหลอกได้ทุกวี่ทุกวัน แล้วคนแก่ๆโลวเทคจะไปตามทันได้ยังไง้
ซึ่งข้อมูลส่วนตัวแบบ exclusive แบบนี้มันไปตกอยู่ในมือพวกมิจฉาชีพได้ยังไง ก็น่าขบคิดเนอะ
===============================
เอาล่ะ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ขอสรุปประเด็นสำคัญๆดังนี้ค่ะ
1.
กรมบัญชีกลาง ไม่มีนโยบายติดต่อโดยตรงกับผู้รับบำเหน็จบำนาญ จะติดต่อผ่านต้นสังกัดเท่านั้น
ถ้าเปลี่ยนเบอร์โทรเปลี่ยนที่อยู่ อย่าลืมแจ้งต้นสังกัดทันที และต่อให้ได้รับการติดต่อจากต้นสังกัด
ก็ควรตรวจสอบก่อนว่าจริงหรือไม่โดยการเดินทางไปด้วยตัวเองดีที่สุด
2. ถ้าให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชื่อนั้นชื่อนี้ เบอร์ติดต่อนั้นนี้ ให้เสิร์ชดูก่อนว่า หน่วยงานนั้นๆ มีชื่อเจ้าหน้าที่คนนี้จริงไหม
ค้นจากเวปไซต์ หรือจะโทรไปคอลเซนเตอร์ของหน่วยงานเพื่อสอบถามก็ได้ และโดยปกติการติดต่อแบบทางการ มักไม่ใช้เบอร์มือถือส่วนตัว
3. ปกติแล้วหน่วยงานราชการจะไม่ติดต่อประชาชนทั่วไปโดนตรงถ้าไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ
ซึ่งปกติจะส่งจดหมายตราครุฑมา(ปลอมก็เยอะ ก็ต้องระวัง) ยิ่งมาอำนวยความสะดวกผ่านออนไลน์นี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย
4. ถ้าเป็นเรื่องเงินๆทองๆ โปรดจำไว้ว่ายิ่งสะดวกยิ่งอันตราย สมัยนี้มิจฉาชีพเยอะมาก ระแวงไว้ก่อนไม่เสียหาย
5. อย่าปล่อยผู้สูงอายุไว้กับอินเตอร์เนตมากเกินไป ลูกๆหลานๆควรเป็นหูเป็นตา ถามไถ่ ให้ความรู้ พูดคุยแชร์ข้อมูลต่างๆกับพวกท่านบ่อยๆ
ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง หัวดื้อบ้างอวดเก่งบ้าง ก็ทนๆกันไป ถกเถียงกันวันนี้ ดีกว่ามานั่งทะเลาะกันตอนเงินหายหมดเกลี้ยงบัญชี
ไม่ได้ตั้งกระทู้ยาวๆนานมาก ขอบคุณพันทิปที่ให้พื้นที่ค่ะ
กระทู้เตือนภัย คนแก่วัยเกษียณ เกือบโดนมิจฉาชีพหลอกดูดเงินหมดบัญชี
ให้คนที่เจอเหตุการณ์คล้ายๆกันหรือไม่แน่ใจว่าโดนหลอกไม๊ มาเสิร์จแล้วจะได้เจอข้อมูลของกระทู้นี้ค่ะ
คุณพ่อวัยเกษียณของอิชั้น เกือบโดนมิจฉาชีพหลอกดูดเงินจากบัญชี แต่โชคดีที่ไหวตัวทัน สุดท้ายเลยรอดมาได้แบบหวุดหวิดค่ะ
ไปเริ่มกันเลย...
ต้นเรื่องคือ คุณพ่อ อายุ 68ปี เป็นข้าราชการเกษียณมาหลายปีแล้วค่ะ พ่อแม่อยู่กัน 2 คนที่ ตจว. ส่วนเราเป็นลูก อยู่ กทม. ค่ะ
เราค่อนข้างเช็คการใช้โซเชียลหรือพวกแอพต่างๆ ของพ่อแม่อยู่เสมอ สอนใช้บ้าง สมัครให้บ้าง
เตือนเรื่องมิจฉาชีพ แก๊งค์คอลเซนเตอร์อะไรแบบนี้ตลอดเวลา ซึ่งพ่อแม่ก็ทำได้ดีระดับนึง มีอะไรก็บอกก็ถามเราตลอด
และขนาดว่าเราอีพเดตกับพ่อแม่ตลอด ยังเกือบโดนมิจฉาชีพมันหลอกเอาจนได้
เมื่อปลายๆเดือน พ.ค. พ่อได้รับโทรศัพท์จาก "ฝ่ายธุรการ ของหน่วยงานต้นสังกัด"
โทรมาแจ้งว่ามีเงินเงินบำเหน็จดำรงชีพที่ยังตกค้างอยู่ ประมาณ 2แสน ยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอรับ
ให้เตรียมเอกสารนู่นนี่นั่นมาส่งที่ต้นสังกัด หรือ... "ทำเรื่องผ่านออนไลน์" ได้เลย แต่ต้องติดต่อส่วนกลางเอาเอง
ส่วนกลางที่ "ฝ่ายธุรการ ของหน่วยงานต้นสังกัด" นั้นบอกมาก็คือ "เจ้าหน้าที่กองคลัง กรมบัญชีกลาง"
พร้อมบอกชื่อและเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้มาให้ ต่อมาพ่อก็โทรไปตามนั้น
"เจ้าหน้าที่" ที่ว่านี่ บอกว่าเงินนี้สามารถยื่นเรื่องรับทางออนไลน์ได้เลย แต่ต้องติดตั้งแอพของกรมบัญชีกลางก่อน (นั่นไง โดนแล้วพ่อชั้น)
และก็ตามสเต็ปมิจฉาอ่ะนะ มันบอกข้อมูลของเราตรงทุกอย่าง ส่งลิ้งค์ติดตั้งแอพ พาลงแอพ
ให้กรอกข้องมูลส่วนตัวทุกอย่าง นั่นรวมถึงผูกบัญชีเงินบำนาญที่พ่อรับทุกเดือนของ ธ.กรุงไทย เข้ากับแอพที่ว่านั่น จนเสร็จเรียบร้อย
เราที่อยู่ กทม. ไม่รู้เรื่องนี้เลย จนตอนเย็นวันนั้น แม่โทรมาคุยเรื่องว่าพ่อจะได้รับเงินบำเหน็จตัวนี้
จะใช้เงินยังไงทำนู่นนี่อะไรยังไงก็คุยกันเรื่อยเปื่อย ตอนนั้นพ่อไม่ว่างเลยได้คุยแต่กับแม่แบบจิปาถะทั่วไป
พอเช้าวันต่อมา เราก็โทรหาพ่อแม่ปกติถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไป เราถามเรื่องเงินตัวนี้ ว่าแบบอะไรยังไง
โดยที่ตอนแรกยังไม่ได้นึกเอะใจอะไรเลยนะ พ่อก็เลยเล่าให้ฟังคร่าวๆ ตามที่เล่าไปข้างบน
ตอนนั้นเราถามว่ามิจฉาไหม สมัยนี้มิจฉาเยอะนะ .. พ่อบอกว่า ไม่น่าใช่มั๊ง
เพราะได้รับการติดต่อจาก "ฝ่ายธุรการ ของหน่วยงานต้นสังกัด" ก่อน
แล้วข้อมูลของ "เจ้าหน้าที่กองคลัง กรมบัญชีกลาง" ก็ได้มาจากเค้า
เรารู้สึกตะหงิดๆใจ เลยขอข้อมูลของ "เจ้าหน้าที่กองคลัง กรมบัญชีกลาง" คนนั้นมา
เดี๋ยวจะเสิร์จกูเกิ้ลดูซิว่า มิจฉาไหม..สมัยนี้ไว้ใจใครไม่ได้หรอกนะ
ข้อมูลที่ว่าคือ ชื่อ สายฝน (ขอสงวนนามสกุล) เบอร์ติดต่อคือ 081-4xx-xxx เจ้าหน้าที่กองคลัง กรมบัญชีกลาง ว่าซ่านนน
เอ๊ะแรกคือ ทำไมเจ้าหน้าที่ให้เบอร์มือถือส่วนตัว ซึ่งปกติถ้าติดต่อราชการหรือธุรกิจธุรกรรมใดๆ ควรเป็นเบอร์หน่วยงาน ไม่ใช่เบอร์ส่วนตัวใช่ไม๊
เอาล่ะ หลังจากเสิร์จกูเกิ้ลเท่านั้นแหละจ้าาาา... ได้เรื่องเลย
ในเวปของกรมบัญชีกลางไม่มีชื่อของเจ้าหน้าที่ปลอมๆคนนี้ ส่วนเบอร์โทรนี้ก็ไม่มีข้อมูลอะไรใดๆขึ้นมา
และที่โป๊ะแตกแหกกระเจิงก็คือ เราเจอสิ่งนี้เต็มไปหมด...
รายการที่ท่านรองอธิบดีกรมบัญชีกลางมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการป้องกันภัยจากมิจฉาชีพที่แอบอ้าง
สรุปว่าเป็น "มิจฉาชีพ" จ้า มิจตั้งแต่ คนที่โทรมาแล้วอ้างว่าจากต้นสังกัด
จนถึงเจ้าหน้าที่จากกรมบัญชีกลาง ซึ่งก็คงเป็นแก๊งค์เดียวกันนั่นแหละ
หลังจากนั้นก็ตกใจงานเข้าสิ ตาลีตาเหลือกกันทั้งบ้าน พ่อรีบไป "ฝ่ายธุรการ ของหน่วยงานต้นสังกัด" ในทันที
ถามหาเจ้าหน้าที่ชื่อนี้.. เบอร์โทรนั้น.. ที่ติดต่อมาเมื่อวาน และแน่นอนว่า ที่นั่นไม่มีเจ้าหน้าที่ปลอมคนนั้น
และเจ้าหน้าที่ตัวจริงๆ เค้ายังบอกว่า โดนกันไปหลายคนแล้วคุณลุงงงง
เพราะคนวัยเกษียณไม่ค่อยได้ติดต่ออะไรกับหน่วยงานต้นสังกัดแล้ว พอมีคนเอาไปแอบอ้างก็หลงเชื่อกันได้ง่ายๆ
ก็ตัวสั่นงันงก รีบลบแอพมิจฉาที่โดนหลอกให้ติดตั้งออกจากมือถือทันที format เครื่องใหม่ factory reset อะไรใดๆทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
รีบไปธนาคาร อายัดบัญชีไว้ก่อน แต่ยังปิดไม่ได้ เพราะต้องรอเงินบำนาญของเดือนนี้เข้าก่อน เพราะแจ้งเปลี่ยนบัญชีไม่ทัน
วันต่อมาหลังจากเงินบำนาญเข้าแล้ว ก็ปิดบัญชีเดิม เปิดบัญชีใหม่ ไม่ทำบัตรเอทีเอ็ม ไม่ทำแบ้งกิ้ง ถือสมุดไปถอนอย่างเดียวเท่านั้น
เอาเอกสารไปทำเรื่องแจ้งเปลี่ยนบัญชีรับเงินบำเหน็จบำนาญที่หน่วยงานต้นสังกัด
แบบออฟไลน์ไปติดต่อด้วยตัวเองเท่านั้น ห้ามทำธุรกรรมใดๆออนไลน์อีกเป็นอันขาด
โชคยังดี ที่ครอบครัวเรารู้ตัวเร็วว่าโดนหลอกแล้ว ก็เลยรักษาเงินเอาไว้ได้ยังไม่โดนดูดออกไปจากบัญชีค่ะ
แต่ก็เกือบบ้านแตก เพราะพ่อเราก็โดนแม่กับลูกบ่นชุดใหญ่ว่าไปหลงคารมมิจฉาชีพเข้าซะแล้ว
แต่เราก็บ่นตามสมควร เพราะเห็นใจพ่อแก่แล้ว ตามอิมิจมันไม่ทัน เพราะมันมีข้อมูลของเราทั้งหมดเลย
ชื่อนามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรติดต่อ จำนวนเงินที่จะได้รับ เงินจะเข้าเมื่อไหร่ มันรู้หมดทุกอย่าง
ขนาดคนหนุ่มคนสาว ตั้งแต่ด๊อกเตอร์จนถึงคนเดินดินหาเช้ากินค่ำ ยังโดนมิจหลอกได้ทุกวี่ทุกวัน แล้วคนแก่ๆโลวเทคจะไปตามทันได้ยังไง้
ซึ่งข้อมูลส่วนตัวแบบ exclusive แบบนี้มันไปตกอยู่ในมือพวกมิจฉาชีพได้ยังไง ก็น่าขบคิดเนอะ
===============================
เอาล่ะ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ขอสรุปประเด็นสำคัญๆดังนี้ค่ะ
1. กรมบัญชีกลาง ไม่มีนโยบายติดต่อโดยตรงกับผู้รับบำเหน็จบำนาญ จะติดต่อผ่านต้นสังกัดเท่านั้น
ถ้าเปลี่ยนเบอร์โทรเปลี่ยนที่อยู่ อย่าลืมแจ้งต้นสังกัดทันที และต่อให้ได้รับการติดต่อจากต้นสังกัด
ก็ควรตรวจสอบก่อนว่าจริงหรือไม่โดยการเดินทางไปด้วยตัวเองดีที่สุด
2. ถ้าให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชื่อนั้นชื่อนี้ เบอร์ติดต่อนั้นนี้ ให้เสิร์ชดูก่อนว่า หน่วยงานนั้นๆ มีชื่อเจ้าหน้าที่คนนี้จริงไหม
ค้นจากเวปไซต์ หรือจะโทรไปคอลเซนเตอร์ของหน่วยงานเพื่อสอบถามก็ได้ และโดยปกติการติดต่อแบบทางการ มักไม่ใช้เบอร์มือถือส่วนตัว
3. ปกติแล้วหน่วยงานราชการจะไม่ติดต่อประชาชนทั่วไปโดนตรงถ้าไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ
ซึ่งปกติจะส่งจดหมายตราครุฑมา(ปลอมก็เยอะ ก็ต้องระวัง) ยิ่งมาอำนวยความสะดวกผ่านออนไลน์นี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย
4. ถ้าเป็นเรื่องเงินๆทองๆ โปรดจำไว้ว่ายิ่งสะดวกยิ่งอันตราย สมัยนี้มิจฉาชีพเยอะมาก ระแวงไว้ก่อนไม่เสียหาย
5. อย่าปล่อยผู้สูงอายุไว้กับอินเตอร์เนตมากเกินไป ลูกๆหลานๆควรเป็นหูเป็นตา ถามไถ่ ให้ความรู้ พูดคุยแชร์ข้อมูลต่างๆกับพวกท่านบ่อยๆ
ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง หัวดื้อบ้างอวดเก่งบ้าง ก็ทนๆกันไป ถกเถียงกันวันนี้ ดีกว่ามานั่งทะเลาะกันตอนเงินหายหมดเกลี้ยงบัญชี
ไม่ได้ตั้งกระทู้ยาวๆนานมาก ขอบคุณพันทิปที่ให้พื้นที่ค่ะ