สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ตามข่าวลุงทนายแกอายุ 71 ปีแล้ว ก็อาจเป็นไปได้ว่าหลงๆลืมๆ คิดไม่ทันก็เป็นได้ครับ
ส่วนเรื่องจำกัดการใช้แอพเฉพาะคนที่พร้อม อันนี้ถ้าทำจริงคงต้องมีการประเมินสภาพบุคคลกัน จำนวนคนหลายสิบล้าน แล้วจะต้องประเมินกันถี่แค่ไหน คนแก่ๆอาจต้องประเมินกันทุกปี เพราะการพลาดมันอาจเป็นครั้งแรกในชีวิตก็ได้ แต่พลาดครั้งเดียวมันก็หมดเงินที่หามาทั้งชีวิตเลยครับ
ส่วนเรื่องจำกัดการใช้แอพเฉพาะคนที่พร้อม อันนี้ถ้าทำจริงคงต้องมีการประเมินสภาพบุคคลกัน จำนวนคนหลายสิบล้าน แล้วจะต้องประเมินกันถี่แค่ไหน คนแก่ๆอาจต้องประเมินกันทุกปี เพราะการพลาดมันอาจเป็นครั้งแรกในชีวิตก็ได้ แต่พลาดครั้งเดียวมันก็หมดเงินที่หามาทั้งชีวิตเลยครับ
ความคิดเห็นที่ 2
สงสารเขานะ
เราเห็นคนชรา สติไม่อยู่กับตัว ตอนสูญเสียเงินล้านให้มิจฉาชีพ
เราบอกคนที่บ้าน ให้ซ่อนบัญชีใน APP เผื่อพลาด
ตั้งการโอนเงินไม่ให้เกิน 20000 บาท
กรณี ลุงคนนั้น น่าจะไม่ตั้งการจำกัดวงเงิน เพราะวามารถโอนเงินออกหลักล้านได้เลยง่ายๆ แค่สแกนหน้าเจ้าของบัญชี
แต่เราไม่รู้ว่า มิจฉาชีพหลอกให้ปลดล๊อกบัญชีหรือปลดขั้นต่ำการโอนเงินไหม
สิ่งที่ต้องระวัง ใครจะเอาเงินฟรีมาให้ง่ายๆในยุคนี้ ต้องฉุกคิด อย่าอยากได้อะไรแบบนี้ ความเสี่ยงโดนมิจฉาชีพเยอะ
เราเห็นคนชรา สติไม่อยู่กับตัว ตอนสูญเสียเงินล้านให้มิจฉาชีพ
เราบอกคนที่บ้าน ให้ซ่อนบัญชีใน APP เผื่อพลาด
ตั้งการโอนเงินไม่ให้เกิน 20000 บาท
กรณี ลุงคนนั้น น่าจะไม่ตั้งการจำกัดวงเงิน เพราะวามารถโอนเงินออกหลักล้านได้เลยง่ายๆ แค่สแกนหน้าเจ้าของบัญชี
แต่เราไม่รู้ว่า มิจฉาชีพหลอกให้ปลดล๊อกบัญชีหรือปลดขั้นต่ำการโอนเงินไหม
สิ่งที่ต้องระวัง ใครจะเอาเงินฟรีมาให้ง่ายๆในยุคนี้ ต้องฉุกคิด อย่าอยากได้อะไรแบบนี้ ความเสี่ยงโดนมิจฉาชีพเยอะ
แสดงความคิดเห็น
จากข่าวทนายโดนหลอกโอนเงินและเอาอึราดตัวเองที่หน้าธนาคารและจะให้ธนาคารคืนเงิน
ตามคลิปนี้และข่าวนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าเช็คแล้วคือ ทนายโอนเงินออกไปเองและสแกนหน้าโอนเงินเองด้วย
โดยตามที่ธนาคาเช็คมาคือ โจรส่ง คิวอาร์โค๊ดมาให้ ทนายบอกว่าเป็นคิวอาร์โค๊ดรับเงิน ส่งมาเพื่อให้ทนายสแกนจะได้รับเงินคืน
1 พันบาทหรือไงนี่แหละผมไม่แน่ใจ ทนายก็สแกนคิวอาร์โค๊ดนั้น แต่มันเป็นคิวอาร์โค๊ดโอนเงินให้คนร้าย ทนายยังโดนหลอกให้สแกนหน้าอีก
เท่ากับว่า เคสนี้ ทนายโอนเอง สแกนหน้าเองอีก ผมงงมากเลย แกจบมาเป็นทนายความไม่มีการสงสัยหรือครับ
อีกอย่างตอนฟังแกบอกนักข่าวบอกว่า ให้ธนาคารหาโปรแกรมเมอร์ที่เก่งกว่าโจรมาทำแอพ ผมยิ่งงงหนักเลย มันไม่ได้เกี่ยวกับแอพ มันเกี่ยวกับว่า
ทนายแกโอนเอง สแกนหน้าเอง พูดง่ายๆคือ โอนเงินให้โจรเองกับมือ
และแกยังจะให้ธนาคารคืนเงินให้แกอีกผมว่า มันชักจะไปกันใหญ่มีการขู่จะฆ่าตัวตายอีกถ้าไม่คืนเงิน
ผมว่า ต่อไปธนาคารต้อง ยกเลิกแอพธนาคารสำหรับบุคคล ที่ไม่พร้อมใช้งาน คือคนไทยส่วนใหญ่ ไม่พร้อมจะใช้งานแอพธนาคารหรือโอนเงินผ่านแอพ
แต่ตอนนี้มันเป็นแฟชั่น เห่ออยากใช้ จนโดนหลอกกันใหญ่ จริงๆพวกที่ไม่พร้อมใช้แอพธนาคารก็ให้ไปทำธุรการเงินที่หน้าเค้าเตอร์ ซะ
ผมมีแอพธนาคาร เกือบทุกธนาคา ลงแอพในมือถือเครื่องเดียว เอาไว้เวลากดเงินไม่ใช้บัตร หรือ ซื้อของ ตั้งแต่ใช้มา 10 กว่าปี ยังไม่เคยโดนแอบดูดเงินหรืออะไรเลย
วิธีแก้ง่ายๆ คือ ตอนลงแอพธนาคารในมือถือก็ใช้เน็ทจากซิมที่ลงทะเบียนไว้กับธนาคาร ผมมีหลายธนาคาร ผมก็ใช้เบอร์เดียวทุกธนาคาร ตอนลงแอพครั้งแรกก็ใส่ซิมที่ลงทะเบียนไว้กับธนาคาร และใช้net จากซิมนั้น พอแอพลงทะเบียนและแอคติเวทจนใช้งานได้ทุกแอพธนาคาร
ผมก็ถอดซิมที่ลงทะเบียนออกมาใส่กับมือถืออีกเครื่องนึงที่ไม่มีแอพธนาคาร โดยเอาไว้แค่รับOTP เวลาโอนเงินในแอพ ส่วนมือถือเครื่องที่ลงแอพธนาคาร
ผมก็ใช้ซิมอีกเบอร์นึง เอาไว้ซึ่งซิมที่ใส่ในมือถือที่ลงแอพธนาคารผมก็ใช้พวกซิมเทพ ที่มีโปร 1 ปีใช้เน็ทและโทรฟรี พอครบปีก็เปลี่ยนเบอร์ใหม่ ผมก็ใช้เน็ทจากซิมนี้ เวลาใช้แอพธนาคาร
ส่วนซิมที่ลงทะเบียนไว้กับธนาคารก็เอาไว้อีกเครื่องนึง ไปไหนก็พกสองเครื่อง เวลาถ้าโอนเงินเยอะหรือจะเปลี่ยนวงเงินในแอพ มันจะต้องใช้ OTP มันก็จะส่ง OTPมาอีกเครื่องนึง แล้วผมค่อยเอา OTP มาใส่ในเครื่องที่มีแอพธนาคาร แค่นี้ก็ปลอดภัยแล้ว ในแอพธนาคารผมก็ตั้งวงเงินโอนต่ำๆแค่ไม่เกินวันละ พันทุกแอพธนาคาร ถ้าจะโอนเยอะกว่านั้นก็ค่อยเปลี่ยนวงเงินมันก็จะส่ง OTP มาอีกเครื่องผมก็เอา OTP มาใส่ในเครื่องที่มีแอพธนาคาร แค่นี้เวลาถ้าเครื่องมีแอพธนาคารโดนโจรมันส่งโทรจันมา มันก็โอนได้แค่ 1 พันบาท มันจะเอา OTP เพื่อเปลี่ยนวงเงินไม่ได้เพราะว่าเบอร์ผูกกับธนาคารอยู่อีกเครื่องนึง
นอกจากเราบอก OTP ไปก็อีกเรื่องนึง