ค่ำคืนแห่งท้องทะเล คือตอนตอนหนึ่งในภาพยนตร์ชุด กลไก หัวใจ ดับสูญ (LOVE DEATH+ROBOTS) เนื้อเรื่องประกอบด้วยตัวละครเพียงสองตัว เหตุการณ์ดำเนินเรื่องเพียงแค่ทั้งคู่ขับรถยนต์ผ่านถนนที่วิ่งตัดผ่านทะเลทรายห่างไกลผู้คน รถยนต์ของทั้งคู่เกิดเสียเดินทางต่อไม่ได้ จากนั้นตัวดำเนินเรื่องก็เปลี่ยนเป็นบทสนทนาของทั้งคู่
ตัวละครหนึ่งเป็นผู้ชายวัยกลางคนเริ่มต้นพร่ำบ่นอาการเสียของรถยนต์พังเหมือนยอดขายของในสัปดาห์ก่อน อาชีพเซลแมนขายของยอดขายตกเมื่อมาเจอแบบนี้ทำให้เขาถึงกับพูดทิ้งท้ายประโยคว่า “พังในพัง” และดูเหมือนวันนี้คงหมดหนทางที่จะทำอะไรได้มากกว่านอนค้างกลางทะเลทราย
ตลอดวันจนถึงเย็นคงไม่มีอะไรทำดีไปกว่าการนั่งเปิดใจคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เซลแมนวัยกลางคนดูเหมือนจะหมดแรงแล้วกับอาชีพนี้ แต่กับอีกคนที่ยังดูหนุ่มแน่นไฟแรงยังคงพูดให้กำลังใจอาชีพเดียวกัน
ตอนนี้ผืนทรายกว้างใหญ่เริ่มดูสงบเพราะแสงแดดจากไปนานแล้ว ผู้มีประสบการณ์เฝ้ามองและเริ่มพูดว่า “มันทำให้ฉันนึกถึงทะเล” แต่คนหนุ่มก็พูดว่า “ผมไม่เคยเห็นทะเล คุณจะพูดอย่างไรผมก็เชื่อ” คนอายุเยอะกว่าเริ่มพูดถึงว่าเมื่อหลายล้านปีก่อนที่นี่เคยเป็นก้นทะเล มีสิ่งชีวิตมากมายอยู่ที่นี่ เป็นโลกเก่าที่มีเพียงแต่ท้องทะเล เขาเริ่มสงสัยและฉุกคิดว่าวิญญาณเมื่อหลายล้านปีก่อนจะเฝ้าวนเวียนเหมือนพวกวิญญาณของคนที่เฝ้าสิงอยู่ตามบ้านเรือนหรือไม่
และค่ำคืนนี้ก็จบลงพร้อมความสงสัยนี้ แต่เซลแมนช่างสงสัยยังจินตนาการว่าสมัยนั้นต้องดีกว่าสมัยนี้แน่ ๆ สิ่งมีชีวิตเพียงแค่ว่ายน้ำไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องสนใจโลก
คืนนั้นเกิดสิ่งอัศจรรย์ บางทีความพิเศษนี้เกิดขึ้นเพียงเพื่อตอบข้อสงสัยของเซลแมนวัยกลางคน แสงประหลาดเริ่มก่อตัวขึ้นทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืนในระหว่างที่ทั้งคู่นอนหลับอยู่ในรถ สัตว์ทะเลดึกดำบรรพ์น้อยใหญ่ปรากฏตัวขึ้นผ่านลำแสงหลากสี ชายวัยกลางคนสัมผัสได้ถึงลำแสงค่อย ๆ ลืมตาพบกับสิ่งมหัศจรรย์ที่เกินจินตนาการ เขาชื่นชมความสวยงามนั่นได้สักครู่จึงรีบปลุกเซลแมนรุ่นน้องให้ตื่นขึ้นมาดู
ทั้งคู่ยื่นหน้าออกนอกกระจกรถ มองภาพสัตว์ทะเลที่พวกเขาไม่เคยเห็นเคลื่อนไหวเวียนว่ายไปมา เหมือนกับสิ่งสิ่งนั้นใช้ชีวิตกันตามปกติเหมือนเมื่อโลกใบเก่า ทั้งแมงกระพรุน ปลาหมึกยักษ์ สัตว์ทะเลโบราณ รวมถึงไดโนเสาร์พันธุ์ว่ายน้ำก็เวียนว่ายบนท้องฟ้าเสมือนก้นทะเลในสมัยนั้น ภาพปลานับร้อยรวมตัวว่ายน้ำต่อกันเป็นแนวผ่านสายตาพวกเขา ชายวัยกลางคนทดลองสัมผัสปลาหมึกสายที่ว่ายทะลุฝ่ามือเขา เหล่าสรรพสัตว์เหล่านี้คงเป็นวิญญาณที่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เมื่อหลายล้านปีก่อนตามที่ชายวัยกลางคนคิดไว้ก่อนหน้านี้
ชายหนุ่มตื่นตากับภาพตรงหน้าจนเขาลืมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความจริง หากนี่คือโลกวิญญาณที่ฝ่ามิติมาปรากฏตัวให้มนุษย์ในโลกปัจจุบันเห็น มันก็คงเป็นที่ที่ไม่ใช่สำหรับคนในโลกยุคปัจจุบัน ปลาตัวใหญ่ว่ายทะลุผ่านตัวเขาไป ชายผู้ผ่านโลกมายังไม่มากคิดจะถอดเสื้อผ้าและรองเท้าเพื่อที่จะขึ้นไปแหวกว่ายกับฝูงวิญญาณสัตว์ทะเลยุคโบราณ น่าประหลาดใจยิ่งนักเมื่อร่างชายหนุ่มล่องลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าซึ่งเปรียบเสมือนก้นทะเล เขาแหวกว่ายน้ำทะเลเสมือนเคลื่อนตัวผ่านท่ามกลางวิญญาณสัตว์ทะเล หรือว่าตอนนี้ชายหนุ่มอาจจะกลายเป็นวิญญาณไปแล้วก็ได้
เสียงชายที่ยังมีสติพยายามตะโกนห้ามการกระทำนั้น แต่ชายหนุ่มผู้เข้าไปสู่โลกเก่าอาจจะตัดขาดแล้วกับโลกปัจจุบัน ไม่ได้ยินเสียงร้องเตือนจากเพื่อนร่วมงาน หรือไม่แน่ว่าเขาอาจจะได้ยินแต่ความเย้ายวนของท้องทะเลดึงดูดความสนใจไปหมดแล้ว ชายหนุ่มในภวังค์ทดลองสัมผัสแมงกระพรุน ซึ่งมันตอบสนองต่อสัมผัสมือ นั่นแสดงว่าทั้งคนและสัตว์ทะเลนั้นอยู่ในมิติเดียวกันเรียบร้อยแล้ว
เสียงตะโกนเรียกจากชายวัยกลางคนดังและเร่งเร้าขึ้น เมื่อเขาเห็นปลาโบราณตัวใหญ่ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นปลาชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหาร ปลานักล่ากินเนื้อขนาดใหญ่ดังเคิลออสเตียสค่อย ๆ ว่ายมาอย่างเชื่องช้า ชายหนุ่มไม่ทันมองเห็น ปลาใหญ่อ้าขากรรไกรหนางับขาชายหนุ่ม เลือดสีแดงระบายท้องฟ้าสะท้อนเงาแสงจันทร์
ไม่นานความมืดมิดกลับมายึดครองผืนทะเลทรายดังเดิมเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เหลือแต่เซลแมนชายวัยกลางคนยืนตั้งคำถามในหัวอยู่ตรงนั้นอย่างเดียวดาย
ค่ำคืนแห่งท้องทะเล
ตัวละครหนึ่งเป็นผู้ชายวัยกลางคนเริ่มต้นพร่ำบ่นอาการเสียของรถยนต์พังเหมือนยอดขายของในสัปดาห์ก่อน อาชีพเซลแมนขายของยอดขายตกเมื่อมาเจอแบบนี้ทำให้เขาถึงกับพูดทิ้งท้ายประโยคว่า “พังในพัง” และดูเหมือนวันนี้คงหมดหนทางที่จะทำอะไรได้มากกว่านอนค้างกลางทะเลทราย
ตลอดวันจนถึงเย็นคงไม่มีอะไรทำดีไปกว่าการนั่งเปิดใจคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เซลแมนวัยกลางคนดูเหมือนจะหมดแรงแล้วกับอาชีพนี้ แต่กับอีกคนที่ยังดูหนุ่มแน่นไฟแรงยังคงพูดให้กำลังใจอาชีพเดียวกัน
ตอนนี้ผืนทรายกว้างใหญ่เริ่มดูสงบเพราะแสงแดดจากไปนานแล้ว ผู้มีประสบการณ์เฝ้ามองและเริ่มพูดว่า “มันทำให้ฉันนึกถึงทะเล” แต่คนหนุ่มก็พูดว่า “ผมไม่เคยเห็นทะเล คุณจะพูดอย่างไรผมก็เชื่อ” คนอายุเยอะกว่าเริ่มพูดถึงว่าเมื่อหลายล้านปีก่อนที่นี่เคยเป็นก้นทะเล มีสิ่งชีวิตมากมายอยู่ที่นี่ เป็นโลกเก่าที่มีเพียงแต่ท้องทะเล เขาเริ่มสงสัยและฉุกคิดว่าวิญญาณเมื่อหลายล้านปีก่อนจะเฝ้าวนเวียนเหมือนพวกวิญญาณของคนที่เฝ้าสิงอยู่ตามบ้านเรือนหรือไม่
และค่ำคืนนี้ก็จบลงพร้อมความสงสัยนี้ แต่เซลแมนช่างสงสัยยังจินตนาการว่าสมัยนั้นต้องดีกว่าสมัยนี้แน่ ๆ สิ่งมีชีวิตเพียงแค่ว่ายน้ำไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องสนใจโลก
ทั้งคู่ยื่นหน้าออกนอกกระจกรถ มองภาพสัตว์ทะเลที่พวกเขาไม่เคยเห็นเคลื่อนไหวเวียนว่ายไปมา เหมือนกับสิ่งสิ่งนั้นใช้ชีวิตกันตามปกติเหมือนเมื่อโลกใบเก่า ทั้งแมงกระพรุน ปลาหมึกยักษ์ สัตว์ทะเลโบราณ รวมถึงไดโนเสาร์พันธุ์ว่ายน้ำก็เวียนว่ายบนท้องฟ้าเสมือนก้นทะเลในสมัยนั้น ภาพปลานับร้อยรวมตัวว่ายน้ำต่อกันเป็นแนวผ่านสายตาพวกเขา ชายวัยกลางคนทดลองสัมผัสปลาหมึกสายที่ว่ายทะลุฝ่ามือเขา เหล่าสรรพสัตว์เหล่านี้คงเป็นวิญญาณที่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เมื่อหลายล้านปีก่อนตามที่ชายวัยกลางคนคิดไว้ก่อนหน้านี้
ชายหนุ่มตื่นตากับภาพตรงหน้าจนเขาลืมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความจริง หากนี่คือโลกวิญญาณที่ฝ่ามิติมาปรากฏตัวให้มนุษย์ในโลกปัจจุบันเห็น มันก็คงเป็นที่ที่ไม่ใช่สำหรับคนในโลกยุคปัจจุบัน ปลาตัวใหญ่ว่ายทะลุผ่านตัวเขาไป ชายผู้ผ่านโลกมายังไม่มากคิดจะถอดเสื้อผ้าและรองเท้าเพื่อที่จะขึ้นไปแหวกว่ายกับฝูงวิญญาณสัตว์ทะเลยุคโบราณ น่าประหลาดใจยิ่งนักเมื่อร่างชายหนุ่มล่องลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าซึ่งเปรียบเสมือนก้นทะเล เขาแหวกว่ายน้ำทะเลเสมือนเคลื่อนตัวผ่านท่ามกลางวิญญาณสัตว์ทะเล หรือว่าตอนนี้ชายหนุ่มอาจจะกลายเป็นวิญญาณไปแล้วก็ได้