สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านเราบ่นเกริ่น ให้ข้ามไปตรงชื่อเรื่องที่เป็นตัวเหลืองค่ะ
จริงๆมีความตั้งใจมาซักพักนึงแล้วที่จะเขียนรีวิวเรื่องนี้ ตั้งแต่ดูจบก็ซักประมาณเดือนนึงได้ จนตอนนี้คิดว่าประจวบเหมาะหลายๆอย่างจึงใช้โอกาสนี้เพื่อมาเขียนรีวิวให้กับอนิเมชั่นจีนเรื่องนี้ค่ะ
เกริ่นเล็กน้อยว่าบังเอิญมากที่ไปเจออนิเมชั่นเรื่องนี้เข้า คือนั่งไล่ YouTube ไปเรื่อยๆ ก็เจอพวกเทรลเลอร์อนิเมชั่นจากชาติต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นงานนอกกระแสที่ตั้งแต่เกิดมาเราเพิ่งเคยได้ยิน แล้วบังเอิญมาเจอเทรลเลอร์ของเรื่องนี้ จึงตัดสินใจเปิดดู (ลิงค์เทรลเลอร์จะอยู่ใน คห. 2 นะคะ) ส่วนตัวชอบงานที่ให้ความรู้สึกเทพนิยาย และชอบธีมจีนโบราณอยู่แล้ว แต่เทรลเลอร์ยังบอกอะไรไม่ได้มาก ทว่าที่น่าเสียใจและน่าเสียดายมากๆคืออคติของบรรดาคอมเมนต์บน YouTube ค่ะ ส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะเป็นชาวตะวันตก ที่ด่าทอว่าเรื่องนี้เป็นงานก๊อปมาจาก Spirited Away โดยหลักๆให้เหตุผลกันว่า “ลายเส้น และ สถานที่ แทบจะลอก Spirited Away มา” ซึ่งเรามองว่าเป็นความเห็นที่โลกแคบมาก ที่ไม่รู้ว่าทรงบ้านโบราณกับฉากสถานที่แบบนี้แหละคือจีนแท้ และเป็นญี่ปุ่นที่รับเอาวัฒนธรรมของจีนมาดัดแปลง ส่วนงานเนื้อเรื่องกับคาแรคเตอร์ดีไซน์นี่ไม่เหมือนเลยค่ะ
อีกเหตุผลหนึ่งที่ตัดสินใจมาเขียนรีวิว ทั้งที่ปกติค่อนข้างขี้เกียจ คือ เรื่องนี้ออกฉายในจีนเมื่อประมาณเดือนนี้ของปีที่แล้ว ใช้เวลาสร้าง 12 ปี และรายได้เยอะมาก ทุนสร้าง 30 ล้านหยวน รายรับ 565 ล้วนหยวน ซึ่งอันนี้คือรายรับจากในประเทศอย่างเดียวนะคะ คิดว่าคงไม่ได้ฉายหลายประเทศนักและปกติเราไม่ตามกระแสหนังจีนจึงไม่ทราบว่ารายได้เท่านี้ถือว่าปกติสำหรับหนังจีนทำในจีนเพื่อคนจีนเป็นหลักรึเปล่า แต่จากตัวเลขก็เยอะอยู่ แต่กระแสในพันทิปเงียบมาก เราค้นแล้วไม่เจอคนพูดถึงเลย (เจอแต่หนัง Big Fish ของ Tim Burton) เลยอยากจะแนะนำให้คนอื่นได้รู้จักค่ะ
大鱼•海棠 (อ่านว่า ต้าหยูไห่ถาง เรียกสั้นๆว่า ต้าไห่) หรือ Big Fish & Begonia บอกเล่าเรื่องราวผ่านชีวิตของตัวละคร 3 ตัวหลักด้วยกัน ซึ่งคือ ชุน (แปลว่า ฤดูใบไม้ผลิ), ชิว (แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง), และ คุน (เป็นชื่อของมัจฉายักษ์ในตำนานของจีน) โดยผูกเนื้อเรื่องโยงเข้ากับตำนานความเชื่อของจีนที่ว่าวิญญาณของมนุษย์นั้นแท้จริงแล้วคือปลาใหญ่ซึ่งว่ายเวียนไปในมหาสมุทร ในสมัยโบราณกาลของโลกนี้มีแต่น้ำและเหล่ามัจฉานั้นก็ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดจนกลายมาเป็นมนุษย์ในที่สุดและใช้ชีวิตอยู่บนผืนดิน แต่ ณ จุดจบของชีวิต วิญญาณมนุษย์ก็จะหวนกลับมาเป็นปลาเพื่อว่ายไปยังสุดขอบมหาสมุทรอีก
คุน ชุน ชิว ตามลำดับ
เริ่มเรื่องจะเป็นการย้อนความของนางเอกในวัยชราที่ค่อยถักถ้อยร้อยความถึงเรื่องราวในวัยสาว ในยุคประมาณปี ค.ศ. 1900 (ไม่มีกล่าวไว้ในเรื่อง แต่ในเรื่องมีเครื่องเล่นแผ่นเสียง จึงน่าจะเป็นช่วงเวลาประมาณนั้น) ในโลกที่ไม่ใช่ทั้งของมนุษย์ และไม่ใช่ของเทพ แต่เป็นโลกของภูต ผู้มีหน้าที่คุ้มครองจิตวิญญาณของมนุษย์และคอยควบคุมกฎเกณฑ์ความเป็นไปของธรรมชาติ เป็นโลกที่มีท้องฟ้าเชื่อมกับทะเลของโลกมนุษย์
ชุน เด็กสาวภูตในวัย 16 เตรียมตัวเข้าสู่พิธีความเป็นผู้ใหญ่ โดยได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังโลกมนุษย์เป็นเวลา 7 วันเพื่อศึกษาความเป็นไปของสรรพสิ่งที่เหล่าภูตเป็นผู้กำหนด โดยมีกฎว่าห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์เป็นอันขาด (ตรงนี้แอบนึกถึงเงือกน้อยฯ) แน่นอนว่าเมื่อมีกฎกล่าวไว้ดังนี้ เชื่อว่าผู้อ่านคงเดาได้แล้วคร่าวๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป 55 ออ ภูตในเรื่องนี้ไม่เป็นอมตะนะคะ มีแก่มีตาย มีอายุขัย
ผ่านวังน้ำวนซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูเชื่อมต่อระหว่างโลกแห่งภูตกับมนุษย์ เหล่าภูตรุ่นเยาว์ต่างก็แปลงกายกลายเป็นปลาโลมาสีแดงเพื่อเข้าไปสำรวจอารยธรรมของมนุษย์อย่างห่างๆ โดยชุนมีครอบครัวมาส่งเข้าพิธีและกำชับหนักแน่นให้กลับมาโดยปลอดภัย และมี
ชิว เด็กหนุ่มผมขาววัย 17 เพื่อนสมัยเด็กผู้ผ่านพิธีสู่ความเป็นผู้ใหญ่ไปเมื่อปีก่อน คอยนั่งดูพิธีอยู่ห่างๆ วังน้ำวนนั้นไปปรากฏอยู่ ณ จุดเดียวกันกับทุกปีที่แล้วมา ใกล้ผาแห่งหนึ่งในโลกมนุษย์ ซึ่งหนุ่มชาวประมงวัย 20 (ไม่ทราบชื่อจริง) และน้องสาว คอยเฝ้าดูอยู่ทุกปี และปีนี้ก็เช่นกัน ซึ่งเขาและน้องสาวต่างก็มีความสนใจในปลาและความรักในท้องทะเล จึงพยายามเฝ้าสังเกตปลาโลมาสีแดง โดยในวันที่ 6 ชุนกลับมายังบริเวณใกล้จุดเกิดตาน้ำซี่งใกล้บ้านของชาวประมง โดยต่างฝ่ายต่างคอยสังเกตกันแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนัก
ในช่วงคืนรอยต่อของวันที่ 6 กับ 7 ระหว่างที่ชุนว่ายเข้าใกล้จุดเกิดตาน้ำมากขึ้น โลกมนุษย์อันสวยงามที่เห็นมา 6 วันก็เป็นอันพลิก เมื่อเจอเข้ากับเรือล่าโลมา นางเอกได้เห็นฝูงโลมาถูกจับในตาข่าย โดนแทงล่า เห็นความหวาดกลัวของฝูงโลมา และความบ้าคลั่งของคลื่นทะเล วันที่ 7 นั้นพายุเข้า ประตูน้ำวนเปิดแล้ว แต่ระหว่างชุนกับประตู กลับมีตาข่ายกั้นเป็นแนวขวางอยู่ ด้วยความกลัวจากเรือล่าโลมาและกลัวกลับไม่ทันทำให้นางเอกยิ่งว่ายยิ่งพุ่งเข้าไปติดในตาข่าย เคราะห์ดีที่หนุ่มชาวประมงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจากบ้านริมผา จึงกระโดดลงไปช่วยพร้อมใช้มีดตัดเชือกให้ขาด แต่เพราะชุนนั้นอยู่ในจุดที่ทั้งกลัวทั้งระแวงมนุษย์แล้ว จึงดิ้นและทำให้โดนมีดบาด เมื่อเชือกหลุดจึงตกใจสะบัดหางกระแทกชาวประมงจนเขาถูกดูดเข้าไปในน้ำวนและโดนดึงไปสู่ก้นทะเล ด้วยความรู้สึกผิด นางเอกจึงว่ายตามลงไปช่วยและพบว่าชายผู้ช่วยตนนั้นเสียชีวิตแล้ว ชุนได้แต่คว้าเอาขลุ่ยโอคาริน่าซึ่งเป็นของประจำตัวของเขาขึ้นมาบนบก ให้กับน้องสาวของชาวประมงซึ่งรออยู่ที่ท่า น้องสาวได้แต่ร้องไห้ ร้องขอให้คืนพี่ชายของตนมา
และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดและความวินาศสันตะโรที่จะตามมา เพราะเมื่อนางเอกกลับมายังโลกแห่งภูตได้อย่างปลอดภัยแล้ว กลับรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลาที่ทำให้ชาวประมงต้องตาย จนวันหนึ่งขณะนั่งระลึกอาลัยอยู่ริมผาพร้อมเป่าขลุ่ยของชาวประมงไปด้วย รูปปั้นสิงห์ซึ่งตั้งอยู่แถวนั้นสามารถรับรู้ได้ว่าขลุ่ยนั้นไม่ใช่วัตถุของโลกนี้ และเมื่อได้ฟังความจากชุน สิงห์นั้นจึงเชื้อเชิญให้ชุนไปเยี่ยมสุสานวิญญาณซึ่งอยู่อีกฟากของทะเลหมอก ณ ที่แห่งนั้น คือสถานที่เก็บดวงวิญญาณทั้งหมดทั้งมวล และวิญญาณของชาวประมงที่ตายเพื่อช่วยเธอก็ถูกกักเก็บไว้ในที่แห่งนั้นด้วย ชุนจึงตัดสินใจขอฝ่ากฎสวรรค์และทำพันธะสัญญากับภูตผู้เฝ้าสุสานวิญญาณเพื่อคืนชีวิตให้กับชาวประมงโดยราคาคือชีวิตครึ่งหนึ่งของเธอ โดยผู้เฝ้าสุสานวิญญาณได้ตักเตือนเธอแล้วว่าการกระทำของเธอจะมีผลตามมาอย่างใหญ่หลวง แต่เธอคิดว่าเพราะเธอเป็นผู้พรากชีวิตของเขาไปก่อนเวลาอันควรจึงเป็นความจำเป็นของเธอที่จะต้องช่วยให้เขาได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เมื่อจ่ายราคาของพันธะเสร็จ ผู้เฝ้าฯจึงแบ่งส่วนหนึ่งของชีวิตชุนที่รับมาให้กับซากของปลาตัวเล็กในโถ ซึ่งคือร่างวิญญาณของหนุ่มชาวประมง โดยผู้เฝ้าฯบอกว่าหลังจากนี้ ชะตาของทั้งสองจะผูกพันกันและชุนจะต้องเลี้ยงปลาตัวนี้ให้ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น จนกว่าจะสามารถส่งผ่านประตูน้ำวนเพื่อกลับไปยังโลกมนุษย์ได้ ชุนตั้งชื่อปลาตัวนั้นว่า
คุน ตามชื่อของมัจฉายักษ์ในมหาสมุทรเหนือซึ่งมีขนาดเหลือประมาณ เมื่อขยับครีบสามารถบดบังท้องฟ้าได้ดั่งเมฆ ด้วยความหวังว่าเธอจะสามารถเลี้ยงวิญญาณชาวประมงให้รอดปลอดภัยและส่งเขากลับไปมีชีวิตอีกครั้งในฐานะมนุษย์ได้
แต่ปัญหาของเรื่องคือ ผู้เฝ้าสุสานวิญญาณบอกเงื่อนไขของการคืนคุนกลับสู่โลกไม่หมด...เพราะราคาของการฝืนธรรมชาตินั้นไม่ใช่แค่ครึ่งชีวิตของชุน และคำว่า ผลที่ตามมาอย่างใหญ่หลวง ที่เขาเตือนเธอ ก็ไม่ได้หมายความแค่กับเธอ ทว่าอาจรวมไปถึงชีวิตของภูตทุกคนที่ต้องมาร่วมชะตากับเธอ
ที่เหลือเชิญรับชมอภิมหาความฉิ*หายวายป่วงต่อในอนิเมชั่นค่ะ เชื่อว่าหาได้ไม่ยากเกินความสามารถชาวพันทิป
(ขอตัดไป คห.1 นะคะ เพราะพยายามจะให้หมดภายในหัวกระทู้ แต่เกินหมื่น)
[Review] Big Fish & Begonia 大鱼•海棠 อนิเมชั่นจีนดีๆที่คนไทย(อาจ)ไม่รู้จัก
จริงๆมีความตั้งใจมาซักพักนึงแล้วที่จะเขียนรีวิวเรื่องนี้ ตั้งแต่ดูจบก็ซักประมาณเดือนนึงได้ จนตอนนี้คิดว่าประจวบเหมาะหลายๆอย่างจึงใช้โอกาสนี้เพื่อมาเขียนรีวิวให้กับอนิเมชั่นจีนเรื่องนี้ค่ะ
เกริ่นเล็กน้อยว่าบังเอิญมากที่ไปเจออนิเมชั่นเรื่องนี้เข้า คือนั่งไล่ YouTube ไปเรื่อยๆ ก็เจอพวกเทรลเลอร์อนิเมชั่นจากชาติต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นงานนอกกระแสที่ตั้งแต่เกิดมาเราเพิ่งเคยได้ยิน แล้วบังเอิญมาเจอเทรลเลอร์ของเรื่องนี้ จึงตัดสินใจเปิดดู (ลิงค์เทรลเลอร์จะอยู่ใน คห. 2 นะคะ) ส่วนตัวชอบงานที่ให้ความรู้สึกเทพนิยาย และชอบธีมจีนโบราณอยู่แล้ว แต่เทรลเลอร์ยังบอกอะไรไม่ได้มาก ทว่าที่น่าเสียใจและน่าเสียดายมากๆคืออคติของบรรดาคอมเมนต์บน YouTube ค่ะ ส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะเป็นชาวตะวันตก ที่ด่าทอว่าเรื่องนี้เป็นงานก๊อปมาจาก Spirited Away โดยหลักๆให้เหตุผลกันว่า “ลายเส้น และ สถานที่ แทบจะลอก Spirited Away มา” ซึ่งเรามองว่าเป็นความเห็นที่โลกแคบมาก ที่ไม่รู้ว่าทรงบ้านโบราณกับฉากสถานที่แบบนี้แหละคือจีนแท้ และเป็นญี่ปุ่นที่รับเอาวัฒนธรรมของจีนมาดัดแปลง ส่วนงานเนื้อเรื่องกับคาแรคเตอร์ดีไซน์นี่ไม่เหมือนเลยค่ะ
อีกเหตุผลหนึ่งที่ตัดสินใจมาเขียนรีวิว ทั้งที่ปกติค่อนข้างขี้เกียจ คือ เรื่องนี้ออกฉายในจีนเมื่อประมาณเดือนนี้ของปีที่แล้ว ใช้เวลาสร้าง 12 ปี และรายได้เยอะมาก ทุนสร้าง 30 ล้านหยวน รายรับ 565 ล้วนหยวน ซึ่งอันนี้คือรายรับจากในประเทศอย่างเดียวนะคะ คิดว่าคงไม่ได้ฉายหลายประเทศนักและปกติเราไม่ตามกระแสหนังจีนจึงไม่ทราบว่ารายได้เท่านี้ถือว่าปกติสำหรับหนังจีนทำในจีนเพื่อคนจีนเป็นหลักรึเปล่า แต่จากตัวเลขก็เยอะอยู่ แต่กระแสในพันทิปเงียบมาก เราค้นแล้วไม่เจอคนพูดถึงเลย (เจอแต่หนัง Big Fish ของ Tim Burton) เลยอยากจะแนะนำให้คนอื่นได้รู้จักค่ะ
大鱼•海棠 (อ่านว่า ต้าหยูไห่ถาง เรียกสั้นๆว่า ต้าไห่) หรือ Big Fish & Begonia บอกเล่าเรื่องราวผ่านชีวิตของตัวละคร 3 ตัวหลักด้วยกัน ซึ่งคือ ชุน (แปลว่า ฤดูใบไม้ผลิ), ชิว (แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง), และ คุน (เป็นชื่อของมัจฉายักษ์ในตำนานของจีน) โดยผูกเนื้อเรื่องโยงเข้ากับตำนานความเชื่อของจีนที่ว่าวิญญาณของมนุษย์นั้นแท้จริงแล้วคือปลาใหญ่ซึ่งว่ายเวียนไปในมหาสมุทร ในสมัยโบราณกาลของโลกนี้มีแต่น้ำและเหล่ามัจฉานั้นก็ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดจนกลายมาเป็นมนุษย์ในที่สุดและใช้ชีวิตอยู่บนผืนดิน แต่ ณ จุดจบของชีวิต วิญญาณมนุษย์ก็จะหวนกลับมาเป็นปลาเพื่อว่ายไปยังสุดขอบมหาสมุทรอีก
เริ่มเรื่องจะเป็นการย้อนความของนางเอกในวัยชราที่ค่อยถักถ้อยร้อยความถึงเรื่องราวในวัยสาว ในยุคประมาณปี ค.ศ. 1900 (ไม่มีกล่าวไว้ในเรื่อง แต่ในเรื่องมีเครื่องเล่นแผ่นเสียง จึงน่าจะเป็นช่วงเวลาประมาณนั้น) ในโลกที่ไม่ใช่ทั้งของมนุษย์ และไม่ใช่ของเทพ แต่เป็นโลกของภูต ผู้มีหน้าที่คุ้มครองจิตวิญญาณของมนุษย์และคอยควบคุมกฎเกณฑ์ความเป็นไปของธรรมชาติ เป็นโลกที่มีท้องฟ้าเชื่อมกับทะเลของโลกมนุษย์ ชุน เด็กสาวภูตในวัย 16 เตรียมตัวเข้าสู่พิธีความเป็นผู้ใหญ่ โดยได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังโลกมนุษย์เป็นเวลา 7 วันเพื่อศึกษาความเป็นไปของสรรพสิ่งที่เหล่าภูตเป็นผู้กำหนด โดยมีกฎว่าห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์เป็นอันขาด (ตรงนี้แอบนึกถึงเงือกน้อยฯ) แน่นอนว่าเมื่อมีกฎกล่าวไว้ดังนี้ เชื่อว่าผู้อ่านคงเดาได้แล้วคร่าวๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป 55 ออ ภูตในเรื่องนี้ไม่เป็นอมตะนะคะ มีแก่มีตาย มีอายุขัย
ผ่านวังน้ำวนซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูเชื่อมต่อระหว่างโลกแห่งภูตกับมนุษย์ เหล่าภูตรุ่นเยาว์ต่างก็แปลงกายกลายเป็นปลาโลมาสีแดงเพื่อเข้าไปสำรวจอารยธรรมของมนุษย์อย่างห่างๆ โดยชุนมีครอบครัวมาส่งเข้าพิธีและกำชับหนักแน่นให้กลับมาโดยปลอดภัย และมี ชิว เด็กหนุ่มผมขาววัย 17 เพื่อนสมัยเด็กผู้ผ่านพิธีสู่ความเป็นผู้ใหญ่ไปเมื่อปีก่อน คอยนั่งดูพิธีอยู่ห่างๆ วังน้ำวนนั้นไปปรากฏอยู่ ณ จุดเดียวกันกับทุกปีที่แล้วมา ใกล้ผาแห่งหนึ่งในโลกมนุษย์ ซึ่งหนุ่มชาวประมงวัย 20 (ไม่ทราบชื่อจริง) และน้องสาว คอยเฝ้าดูอยู่ทุกปี และปีนี้ก็เช่นกัน ซึ่งเขาและน้องสาวต่างก็มีความสนใจในปลาและความรักในท้องทะเล จึงพยายามเฝ้าสังเกตปลาโลมาสีแดง โดยในวันที่ 6 ชุนกลับมายังบริเวณใกล้จุดเกิดตาน้ำซี่งใกล้บ้านของชาวประมง โดยต่างฝ่ายต่างคอยสังเกตกันแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนัก
ในช่วงคืนรอยต่อของวันที่ 6 กับ 7 ระหว่างที่ชุนว่ายเข้าใกล้จุดเกิดตาน้ำมากขึ้น โลกมนุษย์อันสวยงามที่เห็นมา 6 วันก็เป็นอันพลิก เมื่อเจอเข้ากับเรือล่าโลมา นางเอกได้เห็นฝูงโลมาถูกจับในตาข่าย โดนแทงล่า เห็นความหวาดกลัวของฝูงโลมา และความบ้าคลั่งของคลื่นทะเล วันที่ 7 นั้นพายุเข้า ประตูน้ำวนเปิดแล้ว แต่ระหว่างชุนกับประตู กลับมีตาข่ายกั้นเป็นแนวขวางอยู่ ด้วยความกลัวจากเรือล่าโลมาและกลัวกลับไม่ทันทำให้นางเอกยิ่งว่ายยิ่งพุ่งเข้าไปติดในตาข่าย เคราะห์ดีที่หนุ่มชาวประมงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจากบ้านริมผา จึงกระโดดลงไปช่วยพร้อมใช้มีดตัดเชือกให้ขาด แต่เพราะชุนนั้นอยู่ในจุดที่ทั้งกลัวทั้งระแวงมนุษย์แล้ว จึงดิ้นและทำให้โดนมีดบาด เมื่อเชือกหลุดจึงตกใจสะบัดหางกระแทกชาวประมงจนเขาถูกดูดเข้าไปในน้ำวนและโดนดึงไปสู่ก้นทะเล ด้วยความรู้สึกผิด นางเอกจึงว่ายตามลงไปช่วยและพบว่าชายผู้ช่วยตนนั้นเสียชีวิตแล้ว ชุนได้แต่คว้าเอาขลุ่ยโอคาริน่าซึ่งเป็นของประจำตัวของเขาขึ้นมาบนบก ให้กับน้องสาวของชาวประมงซึ่งรออยู่ที่ท่า น้องสาวได้แต่ร้องไห้ ร้องขอให้คืนพี่ชายของตนมา
และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดและความวินาศสันตะโรที่จะตามมา เพราะเมื่อนางเอกกลับมายังโลกแห่งภูตได้อย่างปลอดภัยแล้ว กลับรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลาที่ทำให้ชาวประมงต้องตาย จนวันหนึ่งขณะนั่งระลึกอาลัยอยู่ริมผาพร้อมเป่าขลุ่ยของชาวประมงไปด้วย รูปปั้นสิงห์ซึ่งตั้งอยู่แถวนั้นสามารถรับรู้ได้ว่าขลุ่ยนั้นไม่ใช่วัตถุของโลกนี้ และเมื่อได้ฟังความจากชุน สิงห์นั้นจึงเชื้อเชิญให้ชุนไปเยี่ยมสุสานวิญญาณซึ่งอยู่อีกฟากของทะเลหมอก ณ ที่แห่งนั้น คือสถานที่เก็บดวงวิญญาณทั้งหมดทั้งมวล และวิญญาณของชาวประมงที่ตายเพื่อช่วยเธอก็ถูกกักเก็บไว้ในที่แห่งนั้นด้วย ชุนจึงตัดสินใจขอฝ่ากฎสวรรค์และทำพันธะสัญญากับภูตผู้เฝ้าสุสานวิญญาณเพื่อคืนชีวิตให้กับชาวประมงโดยราคาคือชีวิตครึ่งหนึ่งของเธอ โดยผู้เฝ้าสุสานวิญญาณได้ตักเตือนเธอแล้วว่าการกระทำของเธอจะมีผลตามมาอย่างใหญ่หลวง แต่เธอคิดว่าเพราะเธอเป็นผู้พรากชีวิตของเขาไปก่อนเวลาอันควรจึงเป็นความจำเป็นของเธอที่จะต้องช่วยให้เขาได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เมื่อจ่ายราคาของพันธะเสร็จ ผู้เฝ้าฯจึงแบ่งส่วนหนึ่งของชีวิตชุนที่รับมาให้กับซากของปลาตัวเล็กในโถ ซึ่งคือร่างวิญญาณของหนุ่มชาวประมง โดยผู้เฝ้าฯบอกว่าหลังจากนี้ ชะตาของทั้งสองจะผูกพันกันและชุนจะต้องเลี้ยงปลาตัวนี้ให้ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น จนกว่าจะสามารถส่งผ่านประตูน้ำวนเพื่อกลับไปยังโลกมนุษย์ได้ ชุนตั้งชื่อปลาตัวนั้นว่า คุน ตามชื่อของมัจฉายักษ์ในมหาสมุทรเหนือซึ่งมีขนาดเหลือประมาณ เมื่อขยับครีบสามารถบดบังท้องฟ้าได้ดั่งเมฆ ด้วยความหวังว่าเธอจะสามารถเลี้ยงวิญญาณชาวประมงให้รอดปลอดภัยและส่งเขากลับไปมีชีวิตอีกครั้งในฐานะมนุษย์ได้
แต่ปัญหาของเรื่องคือ ผู้เฝ้าสุสานวิญญาณบอกเงื่อนไขของการคืนคุนกลับสู่โลกไม่หมด...เพราะราคาของการฝืนธรรมชาตินั้นไม่ใช่แค่ครึ่งชีวิตของชุน และคำว่า ผลที่ตามมาอย่างใหญ่หลวง ที่เขาเตือนเธอ ก็ไม่ได้หมายความแค่กับเธอ ทว่าอาจรวมไปถึงชีวิตของภูตทุกคนที่ต้องมาร่วมชะตากับเธอ
ที่เหลือเชิญรับชมอภิมหาความฉิ*หายวายป่วงต่อในอนิเมชั่นค่ะ เชื่อว่าหาได้ไม่ยากเกินความสามารถชาวพันทิป
(ขอตัดไป คห.1 นะคะ เพราะพยายามจะให้หมดภายในหัวกระทู้ แต่เกินหมื่น)