สื่อต่างประเทศชี้ให้เห็นว่า HYBE , SM Entertainment และ JYP Entertainment ซึ่งเป็นผู้นำ 'ความนิยม K-pop' ระดับโลก ควรเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจที่อาศัยยอดขายอัลบั้ม
เนื่องจากจำเป็นต้องตอบสนองต่อยอดขายอัลบั้มทั่วโลกที่ลดลงอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 31 ว่า “วงการเพลงเกาหลีมีปัญหาใหญ่กว่าการหายไปของ BTS และแม้ว่า BTS จะกลับมาในอนาคต แต่ก็ยากที่จะแก้ไขปัญหาพื้นฐาน”
เนื่องจากบริษัทบันเทิงรายใหญ่ของเกาหลีพึ่งพายอดขายอัลบั้มเป็นอย่างมาก มีแนวโน้มลดลงเมื่อเร็วๆ นี้
รอยเตอร์อ้างว่ายอดขายอัลบั้มที่ลดลงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทต่าง ๆ เช่น HYBE และ SM Entertainment ตกต่ำ
แฟนเคป็อปมักจะซื้ออัลบั้ม เช่น ซีดี เพื่อเพิ่มยอดขายอัลบั้มในสัปดาห์แรก ซึ่งถือเป็นการวัดความนิยมของกลุ่มไอดอล แต่ยอดขายกลับลดลงอย่างมากตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว
จากการวิเคราะห์ของธนาคารเพื่อการลงทุน HSBC รอยเตอร์รายงานว่ากำลังซื้อของแฟนเคป๊อปลดลง เนื่องจากผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ และยอดขายอัลบั้มมีแนวโน้มลดลงภายในสิ้นปีนี้
มีการวิเคราะห์ว่า การรับราชการทหารของสมาชิกวงที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง BTS ก็ส่งผลต่อยอดขายอัลบั้ม K-pop ที่ลดลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทบันเทิงเกาหลีจะต้องใช้ความพยายาม เช่น การเพิ่มสัดส่วนของยอดขายสตรีมมิ่งเพลง และการปรับตารางการปล่อยอัลบั้มเพื่อพิจารณาเมื่อเข้ารับราชการทหาร
รอยเตอร์กล่าวเสริมว่า “การมุ่งเน้นไปที่การกำหนดเป้าหมายไปที่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น อาจเป็นกลยุทธ์สำหรับอุตสาหกรรมเพลงเกาหลีที่จะกลายเป็น 'เกราะกันกระสุน' อย่างแท้จริง”
สื่อต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์โครงสร้างธุรกิจบริษัทบันเทิงเกาหลีว่าขึ้นอยู่กับยอดขายอัลบั้ม