ขออนุญาตเล่าลำดับเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ค่ะ
- ช่วงเดือนตุลาคม 65 ยื่นเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ (เป็นการรวมหนี้ และชำระยอดเดียวผ่านโครงการค่ะ)
- ขณะนั้นมียอดหนี้ค้างชำระ 3 รายการคือ อิออน, บัตรเครดิตscb, บัตรกดเงินสดscb
- ตัวแทน บ.กฏหมายติดต่อมา เสนอยอดปิดบัตร (ได้รับเอกสาร 18 พย 65)
[[[[ (สมมติ) ระบุเลขท้ายบัตร abcd ]]]]
- 26 พย 65 เราได้นำเอกสารดังกล่าว ไปชำระปิดยอดที่ธนาคารไทยพาณิชย์
[[[[ ได้รับสลิป ที่ระบุเลขท้ายบัตร กขคง ]]]]
*** เลขท้ายบัตร abcd และ กขคง คือบัตรเดียวกัน
แต่เป็นเลขอ้างอิงและเลขหน้าบัตร (เราเพิ่งมาทราบภายหลัง) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาที่เกิด
- 2 ธค 65 คลินิกแก้หนี้นัดทำสัญญา โดยแจ้งว่ามี 2 ยอดที่ร่วมโครงการ
คืออิออน และ scb 1 รายการ ((ไม่มีการระบุว่าคือบัตรรายการใด แต่ใช้เลขท้ายบัตรในการอ้างอิง))
- วันทำสัญญา เรานำสลิปที่ระบุเลขท้ายบัตร กขคง ไปตรวจสอบตอนเซ็นสัญญา
ซึ่งในสัญญาของคลินิกแก้หนี้ระบุเป็นเลขท้าย abcd
ทำให้เราเข้าใจว่า เราได้ดำเนินการรับผิดชอบหนี้ทั้ง 3 รายการครบหมดแล้ว เพื่อปลดภาระหนี้ทั้งหมด
คือปิดยอด scb 1 รายการ และ scb อีกรายการกับบัตรอิออน ไปชำระกับคลินิกแก้หนี้
- เราผ่อนชำระตามเงื่อนไขของคลินิกแก้หนี้มาตามปกติทุกเดือน
- จนเดือน กพ 67 ได้รับเอกสารติดตามทวงหนี้จาก cardX(ของscb)
ว่าเราไม่เคยชำระค่างวดของบัตรเตรดิต ค้างชำระมากกว่า 300 วัน
โดยระหว่างที่ชำระกับคลินิกแก้หนี้มา เราไม่เคยโดนทวงติดตามแจ้งยอดค้างชำระเลย
- เราจึงแจ้งให้ทราบว่ามีอะไรผิดพลาดรึเปล่า เพราะเราปิดไป 1 ยอด และผ่อนชำระอีกยอดกับคลินิกแก้หนี้แล้ว
- เราไม่ได้รับคำตอบใดๆจากทางธนาคารเลย มีการต่อสายสลับไปมา ระหว่าง
scb ส่วนบัตรกดเงินสด/ scb ส่วนบัตรเครดิต/ และ cardX (ฝ่ายติดตามทวงหนี้)
ทุกฝ่ายแจ้งว่าไม่สามารถเข้าดูประวัติทุกอย่างตามที่เราแจ้งได้ จะประสานงานให้ แต่ก็เงียบไปเลย
- เราร้อนใจ เพราะเข้าใจว่าหมดภาระหนี้ไปแล้ว และก็ยังดำเนินชำระส่วนที่เหลือตามเงื่อนไข ไม่เคยผิดสัญญา
จึงเช็คเครดิตบูโรมาตรวจสอบด้วยตนเอง เพราะกังวลว่าอาจถูกกรณีโดนมิจฉาชีพ
แต่เมื่อตรวจสอบจึงพบว่า ยอดปิดบัญชีที่ชำระไป ได้ถูกปิดบัญชีไปแล้วจริง
แต่.. รายการที่ทำสัญญาผ่อนกับคลินิกแก้หนี้ เป็นรายการที่ปิดบัญชีไปแล้ว
- ระหว่างนั้นเราก็โดนติดตามทวงหนี้จาก scb อีก เราจึงแจ้งเรื่องทั้งหมดให้ทราบ
ว่าแล้วแบบนี้ คือเราผ่อนจ่ายให้ใคร ในเมื่อบัญชียอดนี้มันปิดไปแล้ว
และมีคำถามว่า ในเมื่อเราปิดบัญชีแล้วเหตุใดจึงยังได้เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้อีก
((( ได้รับคำตอบจาก จนท ว่า.. แล้วคุณไปเซ็นสัญญาจ่ายซ้ำทำไม!!! )))
แล้วแจ้งว่าจะประสานงานส่วนเกี่ยวข้องให้ แล้วจะติดต่อกลับ แต่ก็หายไปเลย
- ส่วนคลินิกแก้หนี้ รับทราบเรื่องราวแล้ว จึงแจ้งว่าให้ติดต่อธนาคาร เพราะทางคลินิกแก้หนี้
เป็นเพียงตัวกลางในการทำสัญญารวมหนี้ ไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้
(ซึ่งเราค่อนข้างเข้าใจ เพราะยอดหนี้และดอกเบี้ยจะคิดรวมกับรายการของธนาคารอื่น)
- ติดต่อกลับไป scb แจ้งความจำนงว่า ในเมื่อเกิดความผิดพลาด
ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากเราที่ไม่รู้ว่าเลขแต่ละบัตรมีหลายเลข แล้วเข้าใจผิดไปเอง
หรือด้วยระยะเวลาปิดบัญชี และการทำสัญญาจะคาบเกี่ยวกัน จนเกิดปัญหา แต่ ณ วันนี้ เราต้องการทางออกแล้ว
จึงเสนอขอเรียกยอดที่ปิดบัญชีไปกับ scb คืน (เพื่อจะนำมาชำระอีกยอด) ที่scb ก็ติดตามทวงหนี้
ก็ได้คำตอบว่า .... จะประสานงานให้นะคะ แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้คืนรึเปล่า!!!
ซึ่ง... เราก็แจ้งกลับไป ว่าตอบแบบนี้ได้ยังไง เราจ่ายหนี้ให้คุณ แต่เกิดความผิดพลาดเราต้องจ่ายซ้ำซ้อน
เราก็ไม่เรียกร้องใดๆ ขอเพียงแนวทางแก้ปัญหา เพราะเราถือเป็นความผิดพลาดร่วมกัน ที่เราเองก็ไม่จำ!! เลขบัตรทุกใบ
แล้วเงินเราหายไปไหน เราจ่ายให้ scb แล้วยังโดน scb ทวงหนี้ซ้ำอีก
เราจะเอาความไว้ใจจากไหน ไปปิดยอดอีกรายการอีก ในเมื่อความพยายามในการรับผิดชอบหนี้ของเรา
เทียบเท่าเงินลอยหายไปในอากาศ โดยไม่ได้รับคำตอบและความรับผิดชอบใดๆเลย
และยังไม่รวมประวัติเครดิตบูโร ที่กลายเป็นหนี้เสีย ค้างชำระมากกว่า 300 วัน
วันนี้เราเดินทางไปธนาคาร พี่ๆจนท ก็ช่วยประสานงานสอบถามให้
ก็ได้คำตอบเช่นเดิม คือรอติดต่อกลับ
เราออกมาถามหาคำตอบและความรับผิดชอบเพื่อหาทางออกในการชำระหนี้
ในฐานะของลูกหนี้ที่มีความรับผิดชอบ อยากจะชำระหนี้ให้เรียบร้อย
แต่กลับได้รับคำตอบเพียงจะประสานงานให้ และติดต่อกลับ
ซึ่งเราไม่รู้ว่า หมายฟ้องจากธนาคารให้ชำระหนี้ กับคำตอบจากธนาคารว่าเงินเราหายไปไหน อะไรจะมาก่อน
ถ้าเรามีกำลังมากพอ เราก็คงแค่ปิดยอดที่ถูกทวงถาม
แล้วเงินส่วนที่หาคำตอบไม่ได้ว่าเงินไปไหน ก็รอไปเรื่อยๆได้อย่างไม่ร้อนใจ
ซึ่งสถานะการเงินเราไม่ใช่แบบนั้น
และเราไม่เหลือความไว้วางใจอีกแล้ว ว่าเงินที่เราต้องชำระไป จะหายไปแบบหาคำตอบไม่ได้อีกรึเปล่าค่ะ
มีท่านสมาชิกท่านใด เคยเจอเหตุการณ์กรณีเดียวกันมั้ยคะ
หรือมีคำแนะนำในการดำเนินการใดๆต่อไป เพื่อให้ได้ทางออกของปัญหา รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
จ่ายปิดบัญชีหนี้บัตร scb ไปแล้ว แต่ยังเป็นหนี้ ที่ผ่อนชำระอยู่จนวันนี้ โดยไม่ได้คำตอบค่ะ
- ช่วงเดือนตุลาคม 65 ยื่นเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ (เป็นการรวมหนี้ และชำระยอดเดียวผ่านโครงการค่ะ)
- ขณะนั้นมียอดหนี้ค้างชำระ 3 รายการคือ อิออน, บัตรเครดิตscb, บัตรกดเงินสดscb
- ตัวแทน บ.กฏหมายติดต่อมา เสนอยอดปิดบัตร (ได้รับเอกสาร 18 พย 65)
[[[[ (สมมติ) ระบุเลขท้ายบัตร abcd ]]]]
- 26 พย 65 เราได้นำเอกสารดังกล่าว ไปชำระปิดยอดที่ธนาคารไทยพาณิชย์
[[[[ ได้รับสลิป ที่ระบุเลขท้ายบัตร กขคง ]]]]
*** เลขท้ายบัตร abcd และ กขคง คือบัตรเดียวกัน
แต่เป็นเลขอ้างอิงและเลขหน้าบัตร (เราเพิ่งมาทราบภายหลัง) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาที่เกิด
- 2 ธค 65 คลินิกแก้หนี้นัดทำสัญญา โดยแจ้งว่ามี 2 ยอดที่ร่วมโครงการ
คืออิออน และ scb 1 รายการ ((ไม่มีการระบุว่าคือบัตรรายการใด แต่ใช้เลขท้ายบัตรในการอ้างอิง))
- วันทำสัญญา เรานำสลิปที่ระบุเลขท้ายบัตร กขคง ไปตรวจสอบตอนเซ็นสัญญา
ซึ่งในสัญญาของคลินิกแก้หนี้ระบุเป็นเลขท้าย abcd
ทำให้เราเข้าใจว่า เราได้ดำเนินการรับผิดชอบหนี้ทั้ง 3 รายการครบหมดแล้ว เพื่อปลดภาระหนี้ทั้งหมด
คือปิดยอด scb 1 รายการ และ scb อีกรายการกับบัตรอิออน ไปชำระกับคลินิกแก้หนี้
- เราผ่อนชำระตามเงื่อนไขของคลินิกแก้หนี้มาตามปกติทุกเดือน
- จนเดือน กพ 67 ได้รับเอกสารติดตามทวงหนี้จาก cardX(ของscb)
ว่าเราไม่เคยชำระค่างวดของบัตรเตรดิต ค้างชำระมากกว่า 300 วัน
โดยระหว่างที่ชำระกับคลินิกแก้หนี้มา เราไม่เคยโดนทวงติดตามแจ้งยอดค้างชำระเลย
- เราจึงแจ้งให้ทราบว่ามีอะไรผิดพลาดรึเปล่า เพราะเราปิดไป 1 ยอด และผ่อนชำระอีกยอดกับคลินิกแก้หนี้แล้ว
- เราไม่ได้รับคำตอบใดๆจากทางธนาคารเลย มีการต่อสายสลับไปมา ระหว่าง
scb ส่วนบัตรกดเงินสด/ scb ส่วนบัตรเครดิต/ และ cardX (ฝ่ายติดตามทวงหนี้)
ทุกฝ่ายแจ้งว่าไม่สามารถเข้าดูประวัติทุกอย่างตามที่เราแจ้งได้ จะประสานงานให้ แต่ก็เงียบไปเลย
- เราร้อนใจ เพราะเข้าใจว่าหมดภาระหนี้ไปแล้ว และก็ยังดำเนินชำระส่วนที่เหลือตามเงื่อนไข ไม่เคยผิดสัญญา
จึงเช็คเครดิตบูโรมาตรวจสอบด้วยตนเอง เพราะกังวลว่าอาจถูกกรณีโดนมิจฉาชีพ
แต่เมื่อตรวจสอบจึงพบว่า ยอดปิดบัญชีที่ชำระไป ได้ถูกปิดบัญชีไปแล้วจริง
แต่.. รายการที่ทำสัญญาผ่อนกับคลินิกแก้หนี้ เป็นรายการที่ปิดบัญชีไปแล้ว
- ระหว่างนั้นเราก็โดนติดตามทวงหนี้จาก scb อีก เราจึงแจ้งเรื่องทั้งหมดให้ทราบ
ว่าแล้วแบบนี้ คือเราผ่อนจ่ายให้ใคร ในเมื่อบัญชียอดนี้มันปิดไปแล้ว
และมีคำถามว่า ในเมื่อเราปิดบัญชีแล้วเหตุใดจึงยังได้เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้อีก
((( ได้รับคำตอบจาก จนท ว่า.. แล้วคุณไปเซ็นสัญญาจ่ายซ้ำทำไม!!! )))
แล้วแจ้งว่าจะประสานงานส่วนเกี่ยวข้องให้ แล้วจะติดต่อกลับ แต่ก็หายไปเลย
- ส่วนคลินิกแก้หนี้ รับทราบเรื่องราวแล้ว จึงแจ้งว่าให้ติดต่อธนาคาร เพราะทางคลินิกแก้หนี้
เป็นเพียงตัวกลางในการทำสัญญารวมหนี้ ไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้
(ซึ่งเราค่อนข้างเข้าใจ เพราะยอดหนี้และดอกเบี้ยจะคิดรวมกับรายการของธนาคารอื่น)
- ติดต่อกลับไป scb แจ้งความจำนงว่า ในเมื่อเกิดความผิดพลาด
ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากเราที่ไม่รู้ว่าเลขแต่ละบัตรมีหลายเลข แล้วเข้าใจผิดไปเอง
หรือด้วยระยะเวลาปิดบัญชี และการทำสัญญาจะคาบเกี่ยวกัน จนเกิดปัญหา แต่ ณ วันนี้ เราต้องการทางออกแล้ว
จึงเสนอขอเรียกยอดที่ปิดบัญชีไปกับ scb คืน (เพื่อจะนำมาชำระอีกยอด) ที่scb ก็ติดตามทวงหนี้
ก็ได้คำตอบว่า .... จะประสานงานให้นะคะ แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้คืนรึเปล่า!!!
ซึ่ง... เราก็แจ้งกลับไป ว่าตอบแบบนี้ได้ยังไง เราจ่ายหนี้ให้คุณ แต่เกิดความผิดพลาดเราต้องจ่ายซ้ำซ้อน
เราก็ไม่เรียกร้องใดๆ ขอเพียงแนวทางแก้ปัญหา เพราะเราถือเป็นความผิดพลาดร่วมกัน ที่เราเองก็ไม่จำ!! เลขบัตรทุกใบ
แล้วเงินเราหายไปไหน เราจ่ายให้ scb แล้วยังโดน scb ทวงหนี้ซ้ำอีก
เราจะเอาความไว้ใจจากไหน ไปปิดยอดอีกรายการอีก ในเมื่อความพยายามในการรับผิดชอบหนี้ของเรา
เทียบเท่าเงินลอยหายไปในอากาศ โดยไม่ได้รับคำตอบและความรับผิดชอบใดๆเลย
และยังไม่รวมประวัติเครดิตบูโร ที่กลายเป็นหนี้เสีย ค้างชำระมากกว่า 300 วัน
วันนี้เราเดินทางไปธนาคาร พี่ๆจนท ก็ช่วยประสานงานสอบถามให้
ก็ได้คำตอบเช่นเดิม คือรอติดต่อกลับ
เราออกมาถามหาคำตอบและความรับผิดชอบเพื่อหาทางออกในการชำระหนี้
ในฐานะของลูกหนี้ที่มีความรับผิดชอบ อยากจะชำระหนี้ให้เรียบร้อย
แต่กลับได้รับคำตอบเพียงจะประสานงานให้ และติดต่อกลับ
ซึ่งเราไม่รู้ว่า หมายฟ้องจากธนาคารให้ชำระหนี้ กับคำตอบจากธนาคารว่าเงินเราหายไปไหน อะไรจะมาก่อน
ถ้าเรามีกำลังมากพอ เราก็คงแค่ปิดยอดที่ถูกทวงถาม
แล้วเงินส่วนที่หาคำตอบไม่ได้ว่าเงินไปไหน ก็รอไปเรื่อยๆได้อย่างไม่ร้อนใจ
ซึ่งสถานะการเงินเราไม่ใช่แบบนั้น
และเราไม่เหลือความไว้วางใจอีกแล้ว ว่าเงินที่เราต้องชำระไป จะหายไปแบบหาคำตอบไม่ได้อีกรึเปล่าค่ะ
มีท่านสมาชิกท่านใด เคยเจอเหตุการณ์กรณีเดียวกันมั้ยคะ
หรือมีคำแนะนำในการดำเนินการใดๆต่อไป เพื่อให้ได้ทางออกของปัญหา รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ