คลังสหรัฐ คว่ำบาตร 3 ชาวจีน-3 บริษัทในไทย แฉขบวนการภัยไซเบอร์ ผุดซื้อคอนโดหรูในไทย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4601894
กระทรวงการคลังสหรัฐ คว่ำบาตร 3 ชาวจีน – 3 บริษัทในไทย ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ โดยใช้บ็อตเน็ต 911 S5 ทำเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์ เปิดขบวนการฟอกเงิน ผุดซื้อคอนโดหรูริมหาดในไทย
กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมระบุว่า สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) หน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรบุคคล 3 ราย ซึ่งทั้งหมดถือสัญชาติจีน อันประกอบด้วย
หวัง หยุนเหอ,
หลิว จิงผิง และ
เจิ้ง ยานนี จากการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ที่ติดมัลแวร์ หรือบ็อตเน็ต (Botnet) ที่เป็นอันตรายซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการพร็อกซีที่อยู่อาศัย (เครื่องมือสำหรับปกปิดที่อยู่ IP) ที่เรียกว่า 911 S5 ในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลสหรัฐเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ OFAC ยังได้คว่ำบาตรนิติบุคคล 3 แห่ง อันได้แก่ บริษัท สไปซี โคด คัมพานี จำกัด, บริษัททิวลิป บิซ พัทยา กรุ๊ป คัมพานี จำกัด และบริษัท ลิลี สวีทส์ คัมพานี ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยมี
หวัง หยุนเหอ เป็นเจ้าของหรือควบคุมการดำเนินงานของบริษัททั้ง 3 แห่งดังกล่าว
นาย
ไบรอัน อี.เนลสัน รองปลัดกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า บุคคลเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบ็อตเน็ตที่เป็นอันตรายในการโจมตีอุปกรณ์ส่วนบุคคล ทำให้อาชญากรทางไซเบอร์ได้รับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และยังใช้เทคโนโลยีบ็อตเน็ตนี้ไปในการคุกคามพลเมืองสหรัฐด้วยการขู่วางระเบิด และว่า กระทรวงการคลังสหรัฐ ที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานในการบังคับใช้กฎหมายและพันธมิตรระหว่างประเทศ จะดำเนินการต่อไปเพื่อขัดขวางอาชญากรทางไซเบอร์และผู้กระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ที่พยายามจะลอบขโมยจากผู้เสียภาษีสหรัฐ
ทั้งนี้ บ็อตเน็ต 911 S5 เป็นบริการที่เป็นอันตรายซึ่งเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของเหยื่อและอนุญาตให้อาชญากรไซเบอร์อาศัยการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ที่ถูกบุกรุกได้ เมื่ออาชญากรทางไซเบอร์ปลอมแปลงเส้นทางดิจิทัลผ่านบ็อตเน็ต 911 S5 การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์เหล่านั้นดูเหมือนจะย้อนกลับไปที่คอมพิวเตอร์ของเหยื่อแทนที่จะเป็นของตัวเอง บ็อตเน็ต 911 S5 ได้บุกรุก IP ประมาณ 19 ล้าน IP และอำนวยความสะดวกในการส่งแอพพลิเคชั่นฉ้อโกงนับหมื่นที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Coronaid Aid, Relief และโครงการต่างๆ ภายใต้รัฐบัญญัติความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลสหรัฐเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
การบริการของ 911 S5 ยังทำให้ผู้ใช้งานสามารถกระทำการฉ้อโกงทางไซเบอร์ในวงกว้าง โดยการใช้คอมพิวเตอร์ของเหยื่อที่ถูกบุกรุกซึ่งเชื่อมโยงกับ IP ที่อยู่อาศัย ซึ่ง IP ที่ถูก 911 S5 บุกรุกยังมีความเชื่อมโยงกับการเหตุขู่วางระเบิดต่อเนื่องที่เกิดขึ้นทั่วสหรัฐในเดือนกรกฎาคมปี 2565 ด้วย
แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุต่อว่า หวัง หยุนเหอ เป็นผู้ดูแลระบบหลักของการบริการ 911 S5 ส่วน
หลิว จิงผิง เป็นผู้สมคบคิดกับ
หวัง หยุนเหอ ในการฟอกเงินจากกระบวนการที่ผิดกฎหมายที่เกิดจากการใช้ 911 S5 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินเสมือน ด้าน นาย
เจิ้ง ยานนี ทำหน้าที่เป็นทนายที่ได้รับมอบอำนาจจาก
หวัง หยุนเหอ และบริษัท สไปซี โคด ของนาย
หวัง
นอกจากนี้ นาย
เจิ้งยังมีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมทางธุรกิจมากมาย การชำระเงินและการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในนามของนาย
หวัง หยุนเหอ ที่รวมถึงการซื้อคอนโดมิเนียมหรูริมหาดในไทย
สำหรับบริษัท สไปซี โคด ถูกนายหวังใช้ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ส่วนบริษัททิวลิป บิซ พัทยา กรุ๊ป และบริษัท ลิลี สวีทส์ คัมพานี เป็นอีก 2 บริษัทในไทยที่นาย
หวังเข้าซื้อเอาไว้เพื่อใช้ในดำเนินงานหรือควบคุมดำเนินการไม่ว่าในทางตรงหรือทางอ้อม
จากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ดังกล่าว ส่งผลให้ทางการสหรัฐดำเนินการอายัดทรัพย์สินและผลประโยชน์ในทรัพย์สินของบุคคลและบริษัทที่ถูกระบุนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรืออยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของบุคคลในสหรัฐและให้มีการรายงานต่อ OFAC ต่อไป
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงยุติธรรม(ดีโอเจ)ของสหรัฐ เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่าได้มีการจับกุมคนสัญชาติจีนในปฏิบัติการข้ามชาติ ในข้อกล่าวหา สร้างและใช้มัลแวร์ที่ใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์ การฉ้อโกงขนานใหญ่และการแสวงหาประโยชน์จากเยาวชน โดยรอยเตอร์อ้างหนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทม์สของสิงคโปร์ ตีพิมพ์ในวันที่ 30 พฤษภาคมระบุว่า คนสัญชาติจีนที่ถูกจับกุมคือนาย
หวัง หยุนเหอ อายุ 35 ปี ซึ่งถูกจับกุมในสิงคโปร์เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม
การจับกุมนายหวังมีขึ้นหลังจากมีการกวาดล้างพลเมืองชาวจีน 10 คนที่ถือสัญชาติต่างๆ ในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยถูกตั้งข้อหาฟอกเงินมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านศูนย์กลางการเงินของเอเชียแห่งนี้
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุในแถลงการณ์ลงวันที่ 29 พฤษภาคมว่า นายหวังและคนอื่นๆ ถูกกล่าวหาว่าสร้างและปล่อยมัลแวร์เพื่อโจมตีและรวบรวมเครือข่ายของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์สจำนวนหลายล้านเครื่องทั่วโลก โดยดีโอเจระบุว่านับจากปี 2561ถึงเดือนกรกฎาคมปี 2565 นายหวังได้เงินจากการขาย IP Address ที่ขโมยมา มีมูลค่า 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรูปแบบของคริปโทเคอร์เรนซี และว่า อาชญากรทางไซเบอร์ที่ซื้อการเข้าถึง IP Address ที่ขโมยมา จากนั้นได้ตัดตอนระบบการตรวจจับการฉ้อโกงทางการเงิน และได้ขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปจากสถาบันการเงินต่างๆ ผู้ออกบัตรเครดิต และโครงการกู้ยืมของภาครัฐ ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงเงินมูลค่า 5,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากผู้ขอรับเงินประกันการว่างงาน โดยผ่าน IP Address ของผู้ขอรับเงินประกันดังกล่าว
แถลงการณ์ของดีโอเจ ระบุว่า นายหวังได้ใช้เงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา เซนคิตส์ และเนวิส จีน สิงคโปร์ ไทย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ของนาย
หวัง ยังรวมไปถึงสปอร์ตคาร บัญชีธนาคารทั้งในและต่างประเทศนับสิบบัญชี กระเป๋าเงินคริปโตอีกกว่า 20 กระเป๋า นาฬิกาหรู และทรัพย์สินต่างๆในหลายประเทศ
ดีโอเจ ระบุด้วยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันของหลายฝ่าย ที่นำโดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ไทย และเยอรมนี
ส.ส.อยุธยา ยื่น กมธ. ขอกรมศิลป์ขุดพิสูจน์ ‘อโยธยา’ เก่ากว่าสุโขทัย? ห่วงสปีดเทรนกระทบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4602937
ส.ส.อยุธยา ยื่น กมธ. ขอกรมศิลป์ขุดพิสูจน์ ‘อโยธยา’ เก่ากว่าสุโขทัย? ห่วงสปีดเทรนกระทบ
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่อาคารรัฐสภา เขตดุสิต กรุงเทพฯ นาย
ทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เข้ายื่นหนังสือต่อ นาย
อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ประธานอนุกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการประชุมอนุกรรมาธิการ ครั้งที่ 2 เรื่อง ขอให้จัดประชุมเพื่อพิจารณาและติดตามกระบวนการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณพื้นที่ที่คาดว่าเป็นเมืองอโยธยา และขอให้พิจารณาการประเมินผลกระทบและแนวทางป้องกันผลกระทบจากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงกระบวนการการอนุรักษ์โบราณสถานในอนาคต
โดยข้อความหนังสือระบุว่า เนื่องจากในปัจจุบัน โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ได้เริ่มก่อสร้างเส้นทางรางรถไฟยกระดับ แต่คงดำเนินการต่อด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากเกิดข้อกังวลและความเห็นจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization / UNESCO) ว่าโครงการการก่อสร้างรางรถไฟและสถานีรถไฟอยุธยาอาจมีความเสี่ยงในการเกิดผลกระทบต่อแหล่งโบราณสถานบนดิน และแหล่งโบราณสถานที่ยังไม่มีการขุดค้นพบ หรือเกิดกระบวนการการอนุรักษ์ที่มาตรฐานทางโบราณคดี รวมถึงนักโบราณคดีและนักวิชาการอิสระจากหลากหลายฝ่ายได้ร่วมกันแสดงความกังวลกับการก่อสร้างนี้
เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่พื้นที่การก่อสร้างสถานีและรางรถไฟในอดีตเป็นที่ตั้งของชุมชน หรือเมืองในสมัยก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ภายใต้ชื่อ “
เมืองอโยธยา” และมีข้อสันนิษฐานว่ามีความเก่าแก่มากกว่าอาณาจักรสุโขทัย
จึงขอให้จัดประชุมเพื่อพิจารณาและติดตาม ขอให้กรมศิลปากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินการ กระบวนการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณพื้นที่ที่คาดว่าเป็นที่ตั้งของชุมชน หรือเมืองในสมัยก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ภายใต้ชื่อ “
เมืองอโยธยา” และมีข้อสันนิษฐานว่ามีความเก่าแก่มากกว่าอาณาจักรสุโขทัย เพื่อพิสูจน์ช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของ “
เมืองอโยธยา” ว่ามีความเก่าแก่มากกว่าอาณาจักรสุโขทัย จริงหรือไม่
รวมถึงเพื่อสำรวจและค้นหาหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐาน และช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่แท้จริงเพิ่มเติมจากโบราณสถานเดิมที่อยู่เหนือดินในปัจจุบัน และขอให้มีการพิจารณาหากมีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ดังกล่าวจะมีผลกระทบอย่างไร และต้องเตรียมความพร้อมในการป้องกันผลกระทบอย่างไร ต่อโบราณสถานและหลักฐานทางประวัติศาสตร์
และขอให้พิจารณาถึงกระบวนการอนุรักษ์สถานีรถไฟอยุธยา (เดิม) ในอนาคตว่าจะมีกระบวนการอย่างไร เนื่องจากมีการประกาศเป็นโบราณสถาน จึงขอความอนุเคราะห์ให้คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม เชิญกรมศิลปากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนหาแนวทางดำเนินการกระบวนการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณพื้นที่ที่คาดว่าเป็นที่ตั้งของ “เมืองอโยธยา” และศึกษาผลกระทบ รวมถึงแนวทางการรับมือผลกระทบ และกระบวนการอนุรักษ์โบราณสถานในอนาคต
ขึ้นอีกแล้วพรุ่งนี้! ดีเซล 50 สตางค์/ลิตร พุ่ง 32.94 บาท เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ เท่าเดิม
https://siamrath.co.th/n/540259
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซล และพรีเมียมดีเซล เพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด คงเดิม มีผล 31 พ.ค. 2567 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป
ราคาขายปลีกจะเป็น ดังนี้ เบนซิน ลิตรละ 46.04, แก๊สโซฮอล์95 ลิตรละ 38,15, แก๊สโซฮอล์E20 ลิตรละ 36.04, แก๊สโซฮอล์91ลิตรละ 37.78, ดีเซล ลิตรละ 32.94 ราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
เกษตรกรวอนเข้าใจ ไข่ขึ้นลงตามกลไกตลาด ขี้ช่วงนี้อากาศแปรปรวนผลผลิตน้อย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4602706
เกษตรกรวอนผู้บริโภคเข้าใจ ไข่ขึ้นลงตามกลไกตลาด ขี้ช่วงนี้อากาศแปรปรวนผลผลิตน้อย คาดอีกไม่นานเข้าสู่ภาวะปกติ
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม นาย
พัสธนภูมิ แตงอ่อน เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 4 บาท เป็นราคาเดียวกับช่วงกลางปีของปีก่อน ซึ่งเกิดจากปัจจัยที่มากระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะอากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน ทำให้แม่ไก่สุขภาพไม่ดี ออกไข่น้อยลงและมีขนาดเล็กลง บางฟาร์มของเกษตรกรรายย่อยมีแม่ไก่ไข่เสียหาย 7-10%
“
แม่ไก่ไข่ในฟาร์มเกษตรกรรายย่อยหลายรายเสียหายไปพอสมควรจากอากาศแปรปรวน ส่วนแม่ไก่ที่ยังออกไข่ได้ก็ให้ผลผลิตลดลงและฟองเล็กลง นับเป็นเรื่องปกติของการเลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต หากสภาพอากาศดีขึ้น แม่ไก่ปรับตัวได้ดีขึ้น ผลผลิตไข่จะออกมามากขึ้น ขณะที่ราคาที่เพิ่มขึ้นเพียง 20 สต./ฟอง เมื่อคำนวณจากอัตราบริโภคของคนไทยที่ 240 ฟอง/คน/ปีนั้น พบว่าเป็นรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นในครอบครัวเพียงคนละ 4 บาท/เดือนเท
JJNY : 5in1 คลังสหรัฐคว่ำบาตร│ส.ส.อยุธยายื่นกมธ.│ขึ้นอีกแล้ว! ดีเซล│ไข่ขึ้นลงตามกลไกตลาด│กูเกิลประกาศลงทุนในมาเลเซีย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4601894
กระทรวงการคลังสหรัฐ คว่ำบาตร 3 ชาวจีน – 3 บริษัทในไทย ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ โดยใช้บ็อตเน็ต 911 S5 ทำเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์ เปิดขบวนการฟอกเงิน ผุดซื้อคอนโดหรูริมหาดในไทย
กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมระบุว่า สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) หน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรบุคคล 3 ราย ซึ่งทั้งหมดถือสัญชาติจีน อันประกอบด้วย หวัง หยุนเหอ, หลิว จิงผิง และเจิ้ง ยานนี จากการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ที่ติดมัลแวร์ หรือบ็อตเน็ต (Botnet) ที่เป็นอันตรายซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการพร็อกซีที่อยู่อาศัย (เครื่องมือสำหรับปกปิดที่อยู่ IP) ที่เรียกว่า 911 S5 ในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลสหรัฐเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ OFAC ยังได้คว่ำบาตรนิติบุคคล 3 แห่ง อันได้แก่ บริษัท สไปซี โคด คัมพานี จำกัด, บริษัททิวลิป บิซ พัทยา กรุ๊ป คัมพานี จำกัด และบริษัท ลิลี สวีทส์ คัมพานี ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยมีหวัง หยุนเหอ เป็นเจ้าของหรือควบคุมการดำเนินงานของบริษัททั้ง 3 แห่งดังกล่าว
นายไบรอัน อี.เนลสัน รองปลัดกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า บุคคลเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบ็อตเน็ตที่เป็นอันตรายในการโจมตีอุปกรณ์ส่วนบุคคล ทำให้อาชญากรทางไซเบอร์ได้รับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และยังใช้เทคโนโลยีบ็อตเน็ตนี้ไปในการคุกคามพลเมืองสหรัฐด้วยการขู่วางระเบิด และว่า กระทรวงการคลังสหรัฐ ที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานในการบังคับใช้กฎหมายและพันธมิตรระหว่างประเทศ จะดำเนินการต่อไปเพื่อขัดขวางอาชญากรทางไซเบอร์และผู้กระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ที่พยายามจะลอบขโมยจากผู้เสียภาษีสหรัฐ
ทั้งนี้ บ็อตเน็ต 911 S5 เป็นบริการที่เป็นอันตรายซึ่งเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของเหยื่อและอนุญาตให้อาชญากรไซเบอร์อาศัยการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ที่ถูกบุกรุกได้ เมื่ออาชญากรทางไซเบอร์ปลอมแปลงเส้นทางดิจิทัลผ่านบ็อตเน็ต 911 S5 การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์เหล่านั้นดูเหมือนจะย้อนกลับไปที่คอมพิวเตอร์ของเหยื่อแทนที่จะเป็นของตัวเอง บ็อตเน็ต 911 S5 ได้บุกรุก IP ประมาณ 19 ล้าน IP และอำนวยความสะดวกในการส่งแอพพลิเคชั่นฉ้อโกงนับหมื่นที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Coronaid Aid, Relief และโครงการต่างๆ ภายใต้รัฐบัญญัติความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลสหรัฐเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
การบริการของ 911 S5 ยังทำให้ผู้ใช้งานสามารถกระทำการฉ้อโกงทางไซเบอร์ในวงกว้าง โดยการใช้คอมพิวเตอร์ของเหยื่อที่ถูกบุกรุกซึ่งเชื่อมโยงกับ IP ที่อยู่อาศัย ซึ่ง IP ที่ถูก 911 S5 บุกรุกยังมีความเชื่อมโยงกับการเหตุขู่วางระเบิดต่อเนื่องที่เกิดขึ้นทั่วสหรัฐในเดือนกรกฎาคมปี 2565 ด้วย
แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุต่อว่า หวัง หยุนเหอ เป็นผู้ดูแลระบบหลักของการบริการ 911 S5 ส่วน หลิว จิงผิง เป็นผู้สมคบคิดกับหวัง หยุนเหอ ในการฟอกเงินจากกระบวนการที่ผิดกฎหมายที่เกิดจากการใช้ 911 S5 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินเสมือน ด้าน นายเจิ้ง ยานนี ทำหน้าที่เป็นทนายที่ได้รับมอบอำนาจจากหวัง หยุนเหอ และบริษัท สไปซี โคด ของนายหวัง
นอกจากนี้ นายเจิ้งยังมีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมทางธุรกิจมากมาย การชำระเงินและการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในนามของนายหวัง หยุนเหอ ที่รวมถึงการซื้อคอนโดมิเนียมหรูริมหาดในไทย
สำหรับบริษัท สไปซี โคด ถูกนายหวังใช้ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ส่วนบริษัททิวลิป บิซ พัทยา กรุ๊ป และบริษัท ลิลี สวีทส์ คัมพานี เป็นอีก 2 บริษัทในไทยที่นายหวังเข้าซื้อเอาไว้เพื่อใช้ในดำเนินงานหรือควบคุมดำเนินการไม่ว่าในทางตรงหรือทางอ้อม
จากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ดังกล่าว ส่งผลให้ทางการสหรัฐดำเนินการอายัดทรัพย์สินและผลประโยชน์ในทรัพย์สินของบุคคลและบริษัทที่ถูกระบุนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรืออยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของบุคคลในสหรัฐและให้มีการรายงานต่อ OFAC ต่อไป
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงยุติธรรม(ดีโอเจ)ของสหรัฐ เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่าได้มีการจับกุมคนสัญชาติจีนในปฏิบัติการข้ามชาติ ในข้อกล่าวหา สร้างและใช้มัลแวร์ที่ใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์ การฉ้อโกงขนานใหญ่และการแสวงหาประโยชน์จากเยาวชน โดยรอยเตอร์อ้างหนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทม์สของสิงคโปร์ ตีพิมพ์ในวันที่ 30 พฤษภาคมระบุว่า คนสัญชาติจีนที่ถูกจับกุมคือนายหวัง หยุนเหอ อายุ 35 ปี ซึ่งถูกจับกุมในสิงคโปร์เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม
การจับกุมนายหวังมีขึ้นหลังจากมีการกวาดล้างพลเมืองชาวจีน 10 คนที่ถือสัญชาติต่างๆ ในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยถูกตั้งข้อหาฟอกเงินมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านศูนย์กลางการเงินของเอเชียแห่งนี้
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุในแถลงการณ์ลงวันที่ 29 พฤษภาคมว่า นายหวังและคนอื่นๆ ถูกกล่าวหาว่าสร้างและปล่อยมัลแวร์เพื่อโจมตีและรวบรวมเครือข่ายของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์สจำนวนหลายล้านเครื่องทั่วโลก โดยดีโอเจระบุว่านับจากปี 2561ถึงเดือนกรกฎาคมปี 2565 นายหวังได้เงินจากการขาย IP Address ที่ขโมยมา มีมูลค่า 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรูปแบบของคริปโทเคอร์เรนซี และว่า อาชญากรทางไซเบอร์ที่ซื้อการเข้าถึง IP Address ที่ขโมยมา จากนั้นได้ตัดตอนระบบการตรวจจับการฉ้อโกงทางการเงิน และได้ขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปจากสถาบันการเงินต่างๆ ผู้ออกบัตรเครดิต และโครงการกู้ยืมของภาครัฐ ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงเงินมูลค่า 5,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากผู้ขอรับเงินประกันการว่างงาน โดยผ่าน IP Address ของผู้ขอรับเงินประกันดังกล่าว
แถลงการณ์ของดีโอเจ ระบุว่า นายหวังได้ใช้เงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา เซนคิตส์ และเนวิส จีน สิงคโปร์ ไทย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ของนายหวัง ยังรวมไปถึงสปอร์ตคาร บัญชีธนาคารทั้งในและต่างประเทศนับสิบบัญชี กระเป๋าเงินคริปโตอีกกว่า 20 กระเป๋า นาฬิกาหรู และทรัพย์สินต่างๆในหลายประเทศ
ดีโอเจ ระบุด้วยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันของหลายฝ่าย ที่นำโดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ไทย และเยอรมนี
ส.ส.อยุธยา ยื่น กมธ. ขอกรมศิลป์ขุดพิสูจน์ ‘อโยธยา’ เก่ากว่าสุโขทัย? ห่วงสปีดเทรนกระทบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4602937
ส.ส.อยุธยา ยื่น กมธ. ขอกรมศิลป์ขุดพิสูจน์ ‘อโยธยา’ เก่ากว่าสุโขทัย? ห่วงสปีดเทรนกระทบ
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่อาคารรัฐสภา เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เข้ายื่นหนังสือต่อ นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ประธานอนุกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการประชุมอนุกรรมาธิการ ครั้งที่ 2 เรื่อง ขอให้จัดประชุมเพื่อพิจารณาและติดตามกระบวนการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณพื้นที่ที่คาดว่าเป็นเมืองอโยธยา และขอให้พิจารณาการประเมินผลกระทบและแนวทางป้องกันผลกระทบจากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงกระบวนการการอนุรักษ์โบราณสถานในอนาคต
โดยข้อความหนังสือระบุว่า เนื่องจากในปัจจุบัน โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ได้เริ่มก่อสร้างเส้นทางรางรถไฟยกระดับ แต่คงดำเนินการต่อด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากเกิดข้อกังวลและความเห็นจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization / UNESCO) ว่าโครงการการก่อสร้างรางรถไฟและสถานีรถไฟอยุธยาอาจมีความเสี่ยงในการเกิดผลกระทบต่อแหล่งโบราณสถานบนดิน และแหล่งโบราณสถานที่ยังไม่มีการขุดค้นพบ หรือเกิดกระบวนการการอนุรักษ์ที่มาตรฐานทางโบราณคดี รวมถึงนักโบราณคดีและนักวิชาการอิสระจากหลากหลายฝ่ายได้ร่วมกันแสดงความกังวลกับการก่อสร้างนี้
เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่พื้นที่การก่อสร้างสถานีและรางรถไฟในอดีตเป็นที่ตั้งของชุมชน หรือเมืองในสมัยก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ภายใต้ชื่อ “เมืองอโยธยา” และมีข้อสันนิษฐานว่ามีความเก่าแก่มากกว่าอาณาจักรสุโขทัย
จึงขอให้จัดประชุมเพื่อพิจารณาและติดตาม ขอให้กรมศิลปากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินการ กระบวนการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณพื้นที่ที่คาดว่าเป็นที่ตั้งของชุมชน หรือเมืองในสมัยก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ภายใต้ชื่อ “เมืองอโยธยา” และมีข้อสันนิษฐานว่ามีความเก่าแก่มากกว่าอาณาจักรสุโขทัย เพื่อพิสูจน์ช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของ “เมืองอโยธยา” ว่ามีความเก่าแก่มากกว่าอาณาจักรสุโขทัย จริงหรือไม่
รวมถึงเพื่อสำรวจและค้นหาหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐาน และช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่แท้จริงเพิ่มเติมจากโบราณสถานเดิมที่อยู่เหนือดินในปัจจุบัน และขอให้มีการพิจารณาหากมีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ดังกล่าวจะมีผลกระทบอย่างไร และต้องเตรียมความพร้อมในการป้องกันผลกระทบอย่างไร ต่อโบราณสถานและหลักฐานทางประวัติศาสตร์
และขอให้พิจารณาถึงกระบวนการอนุรักษ์สถานีรถไฟอยุธยา (เดิม) ในอนาคตว่าจะมีกระบวนการอย่างไร เนื่องจากมีการประกาศเป็นโบราณสถาน จึงขอความอนุเคราะห์ให้คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม เชิญกรมศิลปากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนหาแนวทางดำเนินการกระบวนการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณพื้นที่ที่คาดว่าเป็นที่ตั้งของ “เมืองอโยธยา” และศึกษาผลกระทบ รวมถึงแนวทางการรับมือผลกระทบ และกระบวนการอนุรักษ์โบราณสถานในอนาคต
ขึ้นอีกแล้วพรุ่งนี้! ดีเซล 50 สตางค์/ลิตร พุ่ง 32.94 บาท เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ เท่าเดิม
https://siamrath.co.th/n/540259
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซล และพรีเมียมดีเซล เพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด คงเดิม มีผล 31 พ.ค. 2567 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป
ราคาขายปลีกจะเป็น ดังนี้ เบนซิน ลิตรละ 46.04, แก๊สโซฮอล์95 ลิตรละ 38,15, แก๊สโซฮอล์E20 ลิตรละ 36.04, แก๊สโซฮอล์91ลิตรละ 37.78, ดีเซล ลิตรละ 32.94 ราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
เกษตรกรวอนเข้าใจ ไข่ขึ้นลงตามกลไกตลาด ขี้ช่วงนี้อากาศแปรปรวนผลผลิตน้อย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4602706
เกษตรกรวอนผู้บริโภคเข้าใจ ไข่ขึ้นลงตามกลไกตลาด ขี้ช่วงนี้อากาศแปรปรวนผลผลิตน้อย คาดอีกไม่นานเข้าสู่ภาวะปกติ
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม นายพัสธนภูมิ แตงอ่อน เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 4 บาท เป็นราคาเดียวกับช่วงกลางปีของปีก่อน ซึ่งเกิดจากปัจจัยที่มากระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะอากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน ทำให้แม่ไก่สุขภาพไม่ดี ออกไข่น้อยลงและมีขนาดเล็กลง บางฟาร์มของเกษตรกรรายย่อยมีแม่ไก่ไข่เสียหาย 7-10%
“แม่ไก่ไข่ในฟาร์มเกษตรกรรายย่อยหลายรายเสียหายไปพอสมควรจากอากาศแปรปรวน ส่วนแม่ไก่ที่ยังออกไข่ได้ก็ให้ผลผลิตลดลงและฟองเล็กลง นับเป็นเรื่องปกติของการเลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต หากสภาพอากาศดีขึ้น แม่ไก่ปรับตัวได้ดีขึ้น ผลผลิตไข่จะออกมามากขึ้น ขณะที่ราคาที่เพิ่มขึ้นเพียง 20 สต./ฟอง เมื่อคำนวณจากอัตราบริโภคของคนไทยที่ 240 ฟอง/คน/ปีนั้น พบว่าเป็นรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นในครอบครัวเพียงคนละ 4 บาท/เดือนเท