.
ขออนุญาตเกริ่นไว้สักนิด เรามีกระทู้ 0 หยวน ซึ่งส่วนตัวพยายามจะสื่อความหมายว่าไปเมืองจีนเดี๋ยวนี้ไม่มีเงินสดไปเลยก็สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสบายๆ (คุณหมิง, เซี่ยงไฮ้, กว่างโจว - ลองคลิ๊กเข้าไปอ่านกันได้) เผื่อบางท่านอาจบังเอิญเข้ามาอ่านกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก เดี๋ยวจะงงว่า 0 หยวนอะไร?
.
.
เราสามารถสื่อสารด้วยภาษาจีนได้ในระดับพอหากินได้ ไม่หลงทาง จากการเรียนภาษาจีนด้วยตนเองผ่านหนังสือที่มาพร้อม CD และเรียนรู้เพิ่มเติมจากคลิปสอนภาษาจีนที่มีอยู่มากมายในโลกออนไลน์ปัจจุบัน แรงบันดาลใจนอกจากชอบเที่ยวเมืองจีนแล้ว การที่เราหน้าไทยๆ แล้วรู้ภาษาจีนพอสื่อสารได้ คนจีนจะไม่ใจร้ายกับเรา บางครั้งดีมากกับเราเสียด้วยซ้ำ แต่ถ้าถามว่าไม่รู้ภาษาจีนเลยจะเที่ยวจีนได้มั้ย ... เราเจอบ่อยที่คนจีนมาเที่ยวไทยแล้วจะสื่อสารโดยการพูดผ่านแอพฯ แปลภาษาทุกครั้งที่ต้องการสื่อสารกับบุคคลอื่น โดยไม่มีทีท่าเขอะเขินหรือรู้สึกขาดความมั่นใจแต่อย่างใด ใช่ เราอยากให้คนไทยมั่นใจที่จะใช้แอพฯ เหล่านี้เมื่อไปต่างประเทศ
.
มาเริ่มทริปครับ
.
ออกตัวก่อนว่ารูปปกไม่ใช่วิวที่เราพบเจอในทั้งวันที่ไปซวงเฉียวโกวหรือฉางผิงโกว แต่เป็นรูปที่เราถ่ายได้ระหว่างทางที่นั่งรถตู้ออกจากฉางผิงมุ่งหน้าตู้เจียงเยียนในวันสุดท้าย ^^"
.
เพราะ 2 วันนั้นทั้งร่มครึ้มและฉ่ำฝน
.
มีรุ่นพี่ท่านหนึ่งที่เที่ยวจีนด้วยกันบ่อยๆ บอกว่าอยากไปเดิน trekking ที่ภูเขาสี่ดรุณีสักครั้ง ซึ่งจริงๆ เราก็ไม่ได้เป็นขา trekking สายโหดหรอกเป็นเพียง trekking สายชิวเสียมากกว่า ประกอบกับมีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินที่ซื้อผ่านแอพฯ Lazada ช่วงที่มีโค้ดลดราคาหนักๆ ทำให้เราได้ตั๋วการบินไทย สุวรรณภูมิ – เฉิงตู (เทียนฝู) ในราคา 8 พันกว่าบาท ซื้อไว้ตั้งแต่ต้นปีช่วงที่เพิ่งได้เริ่ม visa free กันใหม่ๆ
.
ขาไป 9 พฤษภาคม 2567 TG 618 BKK (สุวรรณภูมิ) – TFU (เฉิงตูเทียนฝู) 10.55 am – 15.05 pm และขากลับ 14 พฤษภาคม 2567 TG 619 TFU – BKK 15.55 pm – 18.00 pm
.
ไม่แลกเงินสดไปเลยแล้ววางแผนการใช้จ่ายอย่างไร?
.
เอาเข้าจริงทริปนี้ก็ต้องโดนตีไข่แตกที่ศูนย์อนุรักษ์แพนด้าที่เฉิงตูตอนจะขึ้นรถบริการด้านในศูนย์ที่ต้องซื้อตั๋วคนละ 30 หยวน ไว้เล่าละเอียดอีกทีละกัน โดยเราอาศัย 2 application หลักๆ คือ Alipay และ wechat (wechat pay) ซึ่งผูกกับบัตรท่องเที่ยว, บัตรเครดิต คราวนี้เราไปกัน 5 คน (ขออนุญาตเปิดชื่อบัตร เพื่อประโยชน์ต่อผู้อ่านและถือเป็นการ feedback การใช้งานให้เจ้าของบัตรได้พัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้นด้วย)
.
1 คนใช้เฉพาะ Alipay ผูกบัตรท่องเที่ยวของ ธ.กรุงศรีฯ ที่สามารถแลกเงินหยวนเก็บไว้ได้ล่วงหน้า ผลคือตัดได้บ้างไม่ได้บ้างจนมีปัญหาเป็นระยะ สุดท้ายต้องหันไปใช้ Alipay บน True money wallet แต่เรทบน True money wallet จะไม่ดีเท่า Alipay โดยตรงและบัตรกรุงศรีฯ ใบนี้เมื่อนำไปใช้รูดบนเครื่อง EDC โดยตรงก็ตัดได้บ้างไม่ได้บ้างเช่นกัน
.
1 คนใช้เฉพาะ Alipay ที่ผูกกับบัตรท่องเที่ยวของ ธ.ไทยพานิชย์ ที่สามารถแลกเงินหยวนเก็บไว้ได้ก่อนล่วงหน้า ค่อนข้างสะดวก คล่องตัว โดยไม่มีปัญหาเรื่องการตัดจ่ายเลยแถมใช้รูดกับเครื่องก็ง่าย แตะจ่ายก็ผ่านฉลุย
.
1 คนใช้เฉพาะ Alipay ที่ผูกกับบัตรเครดิต visa ของ KTC ใช้ได้สะดวกและไม่มีปัญหาไม่ว่าจะสแกนซื้อของ, ขึ้นรถไฟใต้ดิน, ขึ้นรถโดยสารประจำทาง รูดกับเครื่องก็ไม่มีปัญหา
.
ส่วนเรากับพี่อีก 1 คน ใช้ทั้ง Alipay และ Wechat pay ที่ผูกกับบัตรท่องเที่ยว youtrip ที่ไม่สามารถแลกเงินหยวนเก็บไว้ล่วงหน้าได้ ตัดจ่ายแทบไม่มีปัญหา อาจมีบางครั้งเท่านั้นที่จะมีการขอยืนยันการใช้จ่ายก่อน โดยต้องเข้าไปทำการยืนยันยอดจ่ายนั้นๆ บนแอพฯ youtrip แล้วจึงกลับมายืนยันบนแอพ Alipay, Wechat pay ... บัตรใบเดียวผูกได้กับ 2 app
.
อ่านถึงตรงนี้อาจมองว่าถ้าการสแกนจ่ายผ่าน application พวกนี้ มันยุ่งยาก ใช้เงินสดไม่ง่ายกว่าหรือ?
.
จากประสบการณ์ตั้งแต่ทริปคุณหมิง, เซียงไฮ้, กว่างโจว จนมาเฉิงตู การใช้เงินสดกลายเป็นเรื่องแปลกของคนจีนไปแล้ว และการจะหยิบหาเงินทอนกลายเป็นเรื่องยุ่งยากและเสียเวลา เหมือนตอนที่เราซื้อตั๋วรถในศูนย์อนุรักษ์แพนด้านั่นแหล่ะ เราลุ้นกันแทบแย่ว่าน้องเขาจะมีเงินทอนให้เรามั้ย ชะเง้อไปดูในลิ้นชักเก็บเงิน แทบไม่มีเงินสดอยู่ในนั้นสักเท่าไหร่เลย และการที่น้องเขามัวก้มหน้าก้มตาค้นหาเงินทอนอยู่นั้น คิวของนักท่องเที่ยวอื่นที่ต่อเราก็ลุ้นกันจนตาเขียวไปหมด ไม่ก็ตอนไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตซึ่งมีนักท่องเที่ยวท่านหนึ่งพยายามจะใช้เงินสดแบงค์ใหญ่ พนักงานก็วิ่งวุ่นเพื่อหาเงินทอนเช่นกัน
.
.
ที่เฉิงตูเราพักที่โรงแรม Dorsett hotel chengdu (成都帝盛酒店)2 คืนแรกและคืนก่อนกลับไทย อยู่กลางเมืองตึกใหญ่เห็นชัดเจน อยู่ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวกโดยอาศัยรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 1 หรือสาย 4 สถานี luomashi (骡马市) exit F ออกมาก็เห็นตึกของโรงแรมเดินประมาณ 20 เมตร กรณีขึ้นรถโดยสารประจำทางจะต้องเดินไกลกว่า
.
จริงๆ โรงแรม Dorsett ก็เป็นโรงแรมสัญชาติจีนที่ให้บริการแบบมาตรฐานนานาชาติ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ระดับดีโดยเฉพาะฟอนท์ หลายครั้งเราจะเลือกพักโรงแรมนี้เป็นอันดับแรกๆ เมื่อไปจีน พักที่นี่ 2 คืน ฝากกระเป๋าไว้ 2 คืน แล้วกลับมาเช็คอินอีกครั้งเพื่อพักอีก 1 คืนสุดท้าย
.
เราอาศัยรถไฟฟ้าใต้ดิน (ที่บางช่วงเป็นลอยฟ้า) สาย 18 เดินทางจากสนามบินเข้าเมืองและขากลับก็เช่นกัน รถไฟฟ้าสายนี้ที่วิ่งระหว่างสนามบินเฉิงตูเทียนฝูกับเมืองเฉิงตู จะมีแบบด่วนทุก 1 ชั่วโมง จอดเฉพาะต้นทางกับปลายทางเท่านั้น (south railway station - 火车南站 และ Tianfu international airport north - 天府机场北) ส่วนเวลาอื่นๆ จะจอดตามปกติ คิดค่าโดยสารปกติ
.
รูปล่างคือตารางเดินรถจาก south railway station ถ้าจากสนามบิน tianfu ก็จะเป็นทุกต้นชั่วโมง (xx:03) เช่นกัน
.
เรื่องการตรวจคนเข้าเมือง ปัจจุบันเหมือนกับเราต้องทำการเก็บลายนิ้วมือที่เครื่องอัตโนมัติที่สนามบินก่อน เครื่องพวกนี้จะตั้งไว้ระหว่างทางเดินจากประตูลงเครื่องมายังจุดตรวจคนเข้าเมือง (เป็นเครื่องอัตโนมัติที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้า เราต้องทำเองทั้งหมด) เราเคยเก็บไปแล้วตั้งแต่ทริปคุนหมิงเมื่อช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาทำให้ทุกครั้งที่เราเข้าเมืองจีนและแวะที่ตู้นี้อีก จะเพียงสแกนพาสปอร์ตระบบก็จะปริ้นกระดาษที่ระบุว่าเราได้เก็บลายนิ้วมือไว้แล้วให้เรา ส่วนใครที่ยังไม่เคยทำก็ทำไปตามคำแนะนำ ทำตรงนี้แล้วเมื่อถึงจุด ตม. จะค่อนข้างประหยัดเวลาไปเยอะ เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ทำ (อันนี้จากการสังเกตุของเราเอง) อ่อ ... และใบเข้าเมืองก็ยังคงต้องกรอกอยู่ ทำให้เรียบร้อยก่อนถึง ตม. ครับ จะได้ไม่โดนดุ
.
คราวนี้ ตม. ไม่ถามอะไรเราสักคำ ปั้มพาสปอร์ตให้เราที่หน้าท้ายเล่ม ^^"
.
2 วันแรกเที่ยวในเฉิงตูโดยอาศัยการขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินและรถโดยสารประจำทาง ผ่านการสแกน Alipay (ต้องเปิดบัตรโดยสารใน application ก่อน) โดยระหว่างที่อยู่เฉิงตูเราได้วางแผนไปซื้อตั๋วรถเพื่อเดินทางไปหมู่บ้านฉางผิง (长坪村)ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวภูเขาสี่ดรุณีตามที่เราตั้งใจและเราพักที่นั่น 2 คืน
.
เราอ่านรีวิวมาหลายฉบับพอควรเรื่องการเดินทางจากเฉิงตูมาที่ภูเขาสี่ดรุณี จุดเริ่มต้นที่เฉิงตูมีทั้งการซื้อตั๋วรถบัสระยะไกลคันใหญ่และออกเดินทางจากสถานีรถบัสฉาเตี้ยนจือ (茶店子客运站) ที่สามารถเดินทางได้สะดวกโดยรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 แบบนี้ราคาจะถูกที่สุดลงที่เมืองเสี่ยวจินแล้วนั่งแท็กซี่ต่อ (小金) และที่สถานีขนส่งแห่งนี้นอกจากรถบัสคันใหญ่ก็จะมีรถตู้คันเล็ก 8 ที่นั่ง ที่สามารถไปส่งเราได้ใกล้กว่านั้น ในราคาที่แพงกว่า (จากที่อ่านรีวิวอยู่ที่ 120 หยวน)
.
อีกทางเลือกที่เราเลือกคือการนั่งรถตู้ 8 ที่นั่งจากสถานีขนส่งซินหนานเหมิน (新南门汽车站)(รถไฟฟ้าใต้ดินสาย 3 สถานี xinnanmen (新南门) ในราคาค่ารถคนละ 130 หยวน โดยรถไปส่งเราถึงหน้าโรงแรมที่ฉางผิงโดยไม่ต้องเหมาแท็กซี่เพิ่ม แต่จริงๆ แล้วเรามารู้ทีหลังว่าการเริ่มต้นนั่งรถตู้จากซินหนานเหมิน รถจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเนื่องจากรถติดในช่วงเช้าไปพักรถที่ชาเตี้ยนจือก่อนจะมุ่งหน้าออกเมืองเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง
.
หมายความว่า ถ้าให้เราแนะนำ ... ไปขึ้นรถตู้ 8 ที่นั่งที่ชาเตี้ยนจือเลยก็ได้ มันคือเส้นทางเดียวกัน เปรียบง่ายๆ เหมือนเราจะไปพัทยาแต่ดันไปขึ้นรถที่สายใต้ใหม่ แทนที่จะเป็นที่เอกมัย
.
เราซื้อตั๋วล่วงหน้า 1 วัน เดินเข้าไปในสถานีขนส่งซินหนานเหมิน แจ้งเจ้าหน้าที่เลยว่าเราจะไปสี่ดรุณี (四姑娘山)วันนั้นเรามุ่งหน้าไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์,ติดต่อสอบถาม ที่มีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ก่อนเลย น้องๆเขายินดีบริการ เขาจะตรวจสอบก่อนว่ามีที่ว่างมั้ยใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราได้รอบ 8.20 น. ในวันรุ่งขึ้น (เราเข้าไปซื้อวันที่ 10/5/67 เดินทางวันที่ 11/5/67) เวลาซื้อก็ยื่นพาสปอร์ตและสแกนจ่ายผ่าน Alipay ไม่ก็ Wechat pay ที่ช่องขายตั๋ว รถตู้ถูกต้องมีตั๋วชัดเจนจากช่องขายตั๋วไม่ใช่รถตู้ผีแบบที่เรากลัวๆ กัน ในตั๋วจะระบุทั้งเลขที่พาสปอร์ตและชื่อ (นามสกุล)
.
.
------------------
คุณหมูยอ
เดินทาง 9-14 พฤษภาคม 2567
บันทึก 30 พฤษภาคม 2567
------------------
ทริป 0 หยวน เฉิงตู และภูเขาสี่ดรุณี 9-14 พฤษภาคม 2567