ในการเทรดในตลาดที่เต็มไปด้วยความผันผวนและไม่แน่นอน บางครั้งความอดทนที่พยายามจะเทรด แม้จะอยู่ในห้วงเวลาที่เลวร้าย กลับไม่เป็นผลดีต่อตัวเราเลย
ในทางตรงกันข้าม เราต้องหาจังหวะอยู่นอกสนามเทรดบ้าง การอยู่ข้างสนามไม่ได้แปลว่าเราขี้เกียจ ในความเป็นจริง การนั่งดูตลาดโดยไม่เข้าเทรดคือการตัดสินใจ ในการเทรดรูปแบบหนึ่ง
และนี่คือสถานการณ์หลักๆ 4 สถานการณ์ที่เราควรจะอยู่ข้างสนามด้วยความอดทนมากกว่ากระโจนเข้าไปในตลาด
1.เมื่อเรารู้สึกว่าจับจังหวะของตลาดไม่ได้
ยอมรับมันซะว่า มีบางวันที่เราไม่ได้อยู่ในมาตรฐานการเทรดของตนเอง ตลาดเหมือนจะพยายามต่อต้านการวิเคราะห์และทัศนคติของเรา ในห้วงเวลาเช่นนี้ มีเทรดเดอร์จำนวนหนึ่งที่คิดว่าเขาคิดและวางแผนอย่างมีเหตุผล ตลาดเองต่างหากที่ผิด
ความจริง คือ เราไม่สามารถวิเคราะห์ได้ครอบคลุมทุกๆปัจจัยในตลาด และต้องถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว เพื่อประเมิน และวิเคราะห์การเทรดใหม่อีกครั้ง
อย่าปล่อยให้ความภาคภูมิใจในการเทรดผลักเราให้เข้าสู่เส้นทางนี้ อาจจะดีกว่าหากเราจะหยุดพักในวันนั้น จนกว่าเราจะรู้สึกเคลื่อนไหวเป็นจังหวะเดียวกันกับตลาดเสียก่อน ค่อยเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง
2.เรากำลังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
มีหลายๆครั้งที่เรายู่ในห้วงสถานการณ์ที่ยากลำบาก จับการเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของตลาดไม่ได้เลย ซึ่งอาจจะนำมาซึ่งการจัดการความเสี่ยงที่แย่ และการตัดสินใจที่ผิดพลาดต่อเนื่อง หากเรายังยืนยันว่าการวิเคราะห์ของตนเองถูกต้องและตลาดต่างหากที่ผิด การเทรดของเราจะดำดิ่งสู่ความเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก
ในกรณีนี้เราต้องหยุด และประเมินการเทรดก่อนหน้านี้อีกครั้ง ค้นหาว่าเราทำอะไรพลาดลงไป การจดบันทึกการเทรดที่ละเอียดจะช่วยเราได้ดียิ่งขึ้น หากพบจุดผิดพลาดแล้วเราก็สามารถปรับแก้ไขให้ถูกต้องได้
3.มีความไม่แน่นอนมากเกินไปมาเกี่ยวข้องในตลาด
เทรดเดอร์ที่เทรดข่าว หลังจากทดสอบย้อนหลังและมั่นใจในรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาในข่าวที่เหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่า เทรดเดอร์จะต้องเข้าเทรดเสมอไป
ในการเทรดเหตุการณ์ หรือข่าวสาร เราต้องวิเคราะห์มากพอและรอบด้านในทุกมุมมองด้วยการสังเกตุการณ์อย่างรอบคอบ
เราได้ประเมินสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปนอกเหนือจากนี้หรือไม่? และเราวางแผนรองรับไว้เช่นไร ? และมันเคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่? แล้วมันส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาอย่างไร?
หากเรายังไม่สามารถหาคำตอบได้ทั้งหมด
อาจจะเป็นการดีกว่าที่เราจะนั่งอยู่ข้างๆตลาด แล้วทำการบันทึกการเปลี่ยนแปลงของราคาต่อข่าวนั้นอีกครั้ง
4.ความได้เปรียบในตลาด อยู่ตรงข้ามเราอย่างต่อเนื่อง
เทรดเดอร์จำนวนมากที่เข้าเทรดแม้ว่า อัตรากำไร/ความเสี่ยง อยู่ในระดับต่ำมากๆ
โปรดจำเอาไว้ว่า เป้าหมายในการเทรด คือทำกำไรบนระบบที่มีความน่าจะเป็นที่สูง แล้วทำไมเราต้องเข้าเทรดด้วยเงินที่หามาอย่างยากลำบากเมื่อโอกาสชนะมีน้อยมากๆด้วยหล่ะ จริงมั้ยครับ
หากมีสัญญาณข้อมูลด้านเทคนิคและพื้นฐาน ส่งออกมาไม่ได้ดีมากพอ มันจะเป็นการดีกว่าที่เราจะนั่งอยู่ข้างตลาด
การหาจุดได้เปรียบในตลาด คือประเด็นหลักในการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่การเข้าเทรดเพราะว่าเราต้องการจะเทรดเท่านั้น
บ่อยครั้งที่การนั่งอยู่ข้างตลาดส่งผลดีต่อตัวเราและพอร์ตการลงทุน เพื่อรอและมองหาโอกาสที่ดีที่สุดในการเข้าถือสถานะ
ไม่ต้องกังวลครับ ตลาดมีโอกาสมากมายให้เราเสมอ เพื่อทำกำไรให้พอร์ตเติบโต เราต้องรอโอกาสนั้นให้ได้ครับ
เมื่อไหร่? ที่เราควรจะนั่งอยู่ข้างๆตลาด
ในทางตรงกันข้าม เราต้องหาจังหวะอยู่นอกสนามเทรดบ้าง การอยู่ข้างสนามไม่ได้แปลว่าเราขี้เกียจ ในความเป็นจริง การนั่งดูตลาดโดยไม่เข้าเทรดคือการตัดสินใจ ในการเทรดรูปแบบหนึ่ง
และนี่คือสถานการณ์หลักๆ 4 สถานการณ์ที่เราควรจะอยู่ข้างสนามด้วยความอดทนมากกว่ากระโจนเข้าไปในตลาด
1.เมื่อเรารู้สึกว่าจับจังหวะของตลาดไม่ได้
ยอมรับมันซะว่า มีบางวันที่เราไม่ได้อยู่ในมาตรฐานการเทรดของตนเอง ตลาดเหมือนจะพยายามต่อต้านการวิเคราะห์และทัศนคติของเรา ในห้วงเวลาเช่นนี้ มีเทรดเดอร์จำนวนหนึ่งที่คิดว่าเขาคิดและวางแผนอย่างมีเหตุผล ตลาดเองต่างหากที่ผิด
ความจริง คือ เราไม่สามารถวิเคราะห์ได้ครอบคลุมทุกๆปัจจัยในตลาด และต้องถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว เพื่อประเมิน และวิเคราะห์การเทรดใหม่อีกครั้ง
อย่าปล่อยให้ความภาคภูมิใจในการเทรดผลักเราให้เข้าสู่เส้นทางนี้ อาจจะดีกว่าหากเราจะหยุดพักในวันนั้น จนกว่าเราจะรู้สึกเคลื่อนไหวเป็นจังหวะเดียวกันกับตลาดเสียก่อน ค่อยเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง
2.เรากำลังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
มีหลายๆครั้งที่เรายู่ในห้วงสถานการณ์ที่ยากลำบาก จับการเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของตลาดไม่ได้เลย ซึ่งอาจจะนำมาซึ่งการจัดการความเสี่ยงที่แย่ และการตัดสินใจที่ผิดพลาดต่อเนื่อง หากเรายังยืนยันว่าการวิเคราะห์ของตนเองถูกต้องและตลาดต่างหากที่ผิด การเทรดของเราจะดำดิ่งสู่ความเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก
ในกรณีนี้เราต้องหยุด และประเมินการเทรดก่อนหน้านี้อีกครั้ง ค้นหาว่าเราทำอะไรพลาดลงไป การจดบันทึกการเทรดที่ละเอียดจะช่วยเราได้ดียิ่งขึ้น หากพบจุดผิดพลาดแล้วเราก็สามารถปรับแก้ไขให้ถูกต้องได้
3.มีความไม่แน่นอนมากเกินไปมาเกี่ยวข้องในตลาด
เทรดเดอร์ที่เทรดข่าว หลังจากทดสอบย้อนหลังและมั่นใจในรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาในข่าวที่เหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่า เทรดเดอร์จะต้องเข้าเทรดเสมอไป
ในการเทรดเหตุการณ์ หรือข่าวสาร เราต้องวิเคราะห์มากพอและรอบด้านในทุกมุมมองด้วยการสังเกตุการณ์อย่างรอบคอบ
เราได้ประเมินสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปนอกเหนือจากนี้หรือไม่? และเราวางแผนรองรับไว้เช่นไร ? และมันเคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่? แล้วมันส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาอย่างไร?
หากเรายังไม่สามารถหาคำตอบได้ทั้งหมด
อาจจะเป็นการดีกว่าที่เราจะนั่งอยู่ข้างๆตลาด แล้วทำการบันทึกการเปลี่ยนแปลงของราคาต่อข่าวนั้นอีกครั้ง
4.ความได้เปรียบในตลาด อยู่ตรงข้ามเราอย่างต่อเนื่อง
เทรดเดอร์จำนวนมากที่เข้าเทรดแม้ว่า อัตรากำไร/ความเสี่ยง อยู่ในระดับต่ำมากๆ
โปรดจำเอาไว้ว่า เป้าหมายในการเทรด คือทำกำไรบนระบบที่มีความน่าจะเป็นที่สูง แล้วทำไมเราต้องเข้าเทรดด้วยเงินที่หามาอย่างยากลำบากเมื่อโอกาสชนะมีน้อยมากๆด้วยหล่ะ จริงมั้ยครับ
หากมีสัญญาณข้อมูลด้านเทคนิคและพื้นฐาน ส่งออกมาไม่ได้ดีมากพอ มันจะเป็นการดีกว่าที่เราจะนั่งอยู่ข้างตลาด
การหาจุดได้เปรียบในตลาด คือประเด็นหลักในการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่การเข้าเทรดเพราะว่าเราต้องการจะเทรดเท่านั้น
บ่อยครั้งที่การนั่งอยู่ข้างตลาดส่งผลดีต่อตัวเราและพอร์ตการลงทุน เพื่อรอและมองหาโอกาสที่ดีที่สุดในการเข้าถือสถานะ
ไม่ต้องกังวลครับ ตลาดมีโอกาสมากมายให้เราเสมอ เพื่อทำกำไรให้พอร์ตเติบโต เราต้องรอโอกาสนั้นให้ได้ครับ