เรื่องมีอยู่ว่า ทางผมกับแฟนจะขาย คอนโด กันในราคา 1.9 ล้านบาท โดยที่ยอดปิดธนาคาร กับยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.8 ล้านบาท
เท่ากับว่าผมจะได้ส่วนต่างในการขายคอนโดครั้งนี้ 100,000 บาท
ซึ่งมีคนสนใจซื้อ ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าแผนกธนาคาร TTB มาขอดูห้องทั้งที่ มีผู้เช่าอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ไปเปิดขออนุญาตให้ดู
หลังจากนั้นเขาก็โทรมาว่าจะ ซื้อในราคา 1.5 ล้านซึ่งไม่พอในการปิดและเราไม่ได้อะไรเลย แทบขาดทุน ซึ่งก็บอกไปว่าไม่สามารถขายให้ได้
เขาก็ยื่นขอเสนอมาให้ว่าทางพี่จะให้กู้เงินส่วนต่างเป็นจำนวน 4 แสนบาท ซึ่งดอกเบี้ยตามธนาคาร ซึ่งเราก็ มองว่า โอเค มันจะได้ไม่เป็นภาระในการผ่อนคอนโดต่อไปเลยตกลงกัน หลังจากนั้น เขาก็โทรมาขอลดอีก เป็น 1.4 ล้าน ซึ่งเราก็ไม่ไหว เลยบอกถ้า 1.4 จะได้ต้องกู้เป็น 5 แสนไม่งั้น เราไม่ได้อะไรเลยและต้องผ่อน หลังจากนั้นก็ ตกลงกันไว้อย่างดิบดี หลังจากนั้น วันที่ 29 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ผู้ซื้อท่านนี้ ส่งข้อความมาแจ้งว่า ข่าวร้ายนะ ได้แค่เงิน 4 แสน ซึ่ง รวมแล้วจะได้ 1.8 ล้านบาท ซึ่ง ยังไงก็ไม่พอต่อการปิดหนี้ ธนาคาร และค่าใช้จ่ายในวันโอนที่ดิน เขาเหมือนมัดมือชกให้เราต้อง ขายในราคานั้น
ซึ่งเราตั้งหน้าตั้งตารอแล้ว ว่า วันที่ 30 ทุกอย่างจะจบแล้ว จากนั้นเขาจะหาเรื่องให้เราเป็นคนผิดสัญญา ซึ่งจะต้องคืนเงินมัดจำ จำนวน 50,000 ซึ่ง ตอนแรกที่เรารับจำนวนเงินนั้นมา 50,000 เราได้คุยกับผู้ขายแล้วว่า ที่เขาให้มาเพื่อ
1.ให้เราไปไล่ผู้เช่ารายปี ยกเลิกสัญญา และคืนเงินเขาไป
2.ให้เรานำเงินไปชำระค่าส่วนกลางให้หมด เพื่อเอาไปปลดหนี้ กับทาง นิติ (ซึ่งปกติเรา ชำระ ขั้นต่ำ หรือ จำนวนที่จ่ายไว้อยู่แล้ว)
ทั้งสองค่าใช้จ่ายมีใบเสร็จหลักฐาน
มาต่อแล้วทีนี้เขาก็มีการพูดว่า ถ้าไม่คืนเจอกันโรงพักซึ่งเราอยากบอกตรงเลยว่า กว่าที่จะทำทุกอย่างเพื่อเตรียมขายคอนโดนี้ให้ได้
1.ผู้ซื้ออยู่เฉยไม่เคยออกเดินทางไป จัดการอะไรเลย
2.เราเตรียมเอกสารให้เขาทุกอย่าง ทั้งการเดินทางไป ธนาคาร ประมาณ 4-5 ครั้ง เสียเวลา ลางาน การเดินทาง
3.เราเสียเวลาในการเดินทางไป เคลียร์เอกสารกับกรมที่ดิน เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น
4.เราเสียเงิน ค่าใช้จ่าย ยิบย่อยเยอะมาก เพื่อจะให้ จบเรื่องนี้
สุดท้ายเขามาบอกเราว่า เราผิดสัญญาให้เราเป็นคนยกเลิก ซึ่งเราได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เพื่อแจ้งความประสงค์ว่าเราไม่มีเจตนาจะหลอกลวง เราเป็นฝ่ายที่โดยหลอก ลวง เพราะว่าการคุยพูดจา หรือการพิมแชท เขาเซฟตัวเองหมดเลยไม่ยอมี พิมมักจะโทร Line ซึ่งเราก็ผิดเองที่พลาดในการบันทึกทุกอย่างไว้
ผมไม่อยากให้ใครเจอแบบนี้ครับ ผมมีแจ้งเรื่องกับทางธนาคารแล้ว ว่า มีเจ้าหน้าที่ทำแบบ นี้ถึงระดับหัวหน้า ซึ่งไม่ควร และที่สำคัญ วันที่ผู้เช่าออกวันสุดท้าย ผู้ซื้อคนนั้นรีบมา ดูห้อง ทำเหมือนเป็นของเขาแล้ว รวมถึงเขายังยึดกุญแจ คีย์การ์ดไปทั้งหมด จนเาเอ๊ะใจจึงไป ขอคืนมาตอนแรกไม่ยอมคืนเราเลย
อยากปรึกษาหรือได้คำแนะนำ ใครที่เป็นทนายหรือช่วยเหลือเรื่องนี้ได้ครับ ไม่อยากให้เขาไปทำแบบนี้กับคนที่กำลังเดือดร้อน
ขอบคุณครับ
ช่วยผมด้วยครับ โดนพนักงานระดับหัวหน้า TTB โกงการซื้อขาย ทำยังไงดีครับ
เท่ากับว่าผมจะได้ส่วนต่างในการขายคอนโดครั้งนี้ 100,000 บาท
ซึ่งมีคนสนใจซื้อ ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าแผนกธนาคาร TTB มาขอดูห้องทั้งที่ มีผู้เช่าอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ไปเปิดขออนุญาตให้ดู
หลังจากนั้นเขาก็โทรมาว่าจะ ซื้อในราคา 1.5 ล้านซึ่งไม่พอในการปิดและเราไม่ได้อะไรเลย แทบขาดทุน ซึ่งก็บอกไปว่าไม่สามารถขายให้ได้
เขาก็ยื่นขอเสนอมาให้ว่าทางพี่จะให้กู้เงินส่วนต่างเป็นจำนวน 4 แสนบาท ซึ่งดอกเบี้ยตามธนาคาร ซึ่งเราก็ มองว่า โอเค มันจะได้ไม่เป็นภาระในการผ่อนคอนโดต่อไปเลยตกลงกัน หลังจากนั้น เขาก็โทรมาขอลดอีก เป็น 1.4 ล้าน ซึ่งเราก็ไม่ไหว เลยบอกถ้า 1.4 จะได้ต้องกู้เป็น 5 แสนไม่งั้น เราไม่ได้อะไรเลยและต้องผ่อน หลังจากนั้นก็ ตกลงกันไว้อย่างดิบดี หลังจากนั้น วันที่ 29 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ผู้ซื้อท่านนี้ ส่งข้อความมาแจ้งว่า ข่าวร้ายนะ ได้แค่เงิน 4 แสน ซึ่ง รวมแล้วจะได้ 1.8 ล้านบาท ซึ่ง ยังไงก็ไม่พอต่อการปิดหนี้ ธนาคาร และค่าใช้จ่ายในวันโอนที่ดิน เขาเหมือนมัดมือชกให้เราต้อง ขายในราคานั้น
ซึ่งเราตั้งหน้าตั้งตารอแล้ว ว่า วันที่ 30 ทุกอย่างจะจบแล้ว จากนั้นเขาจะหาเรื่องให้เราเป็นคนผิดสัญญา ซึ่งจะต้องคืนเงินมัดจำ จำนวน 50,000 ซึ่ง ตอนแรกที่เรารับจำนวนเงินนั้นมา 50,000 เราได้คุยกับผู้ขายแล้วว่า ที่เขาให้มาเพื่อ
1.ให้เราไปไล่ผู้เช่ารายปี ยกเลิกสัญญา และคืนเงินเขาไป
2.ให้เรานำเงินไปชำระค่าส่วนกลางให้หมด เพื่อเอาไปปลดหนี้ กับทาง นิติ (ซึ่งปกติเรา ชำระ ขั้นต่ำ หรือ จำนวนที่จ่ายไว้อยู่แล้ว)
ทั้งสองค่าใช้จ่ายมีใบเสร็จหลักฐาน
มาต่อแล้วทีนี้เขาก็มีการพูดว่า ถ้าไม่คืนเจอกันโรงพักซึ่งเราอยากบอกตรงเลยว่า กว่าที่จะทำทุกอย่างเพื่อเตรียมขายคอนโดนี้ให้ได้
1.ผู้ซื้ออยู่เฉยไม่เคยออกเดินทางไป จัดการอะไรเลย
2.เราเตรียมเอกสารให้เขาทุกอย่าง ทั้งการเดินทางไป ธนาคาร ประมาณ 4-5 ครั้ง เสียเวลา ลางาน การเดินทาง
3.เราเสียเวลาในการเดินทางไป เคลียร์เอกสารกับกรมที่ดิน เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น
4.เราเสียเงิน ค่าใช้จ่าย ยิบย่อยเยอะมาก เพื่อจะให้ จบเรื่องนี้
สุดท้ายเขามาบอกเราว่า เราผิดสัญญาให้เราเป็นคนยกเลิก ซึ่งเราได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เพื่อแจ้งความประสงค์ว่าเราไม่มีเจตนาจะหลอกลวง เราเป็นฝ่ายที่โดยหลอก ลวง เพราะว่าการคุยพูดจา หรือการพิมแชท เขาเซฟตัวเองหมดเลยไม่ยอมี พิมมักจะโทร Line ซึ่งเราก็ผิดเองที่พลาดในการบันทึกทุกอย่างไว้
ผมไม่อยากให้ใครเจอแบบนี้ครับ ผมมีแจ้งเรื่องกับทางธนาคารแล้ว ว่า มีเจ้าหน้าที่ทำแบบ นี้ถึงระดับหัวหน้า ซึ่งไม่ควร และที่สำคัญ วันที่ผู้เช่าออกวันสุดท้าย ผู้ซื้อคนนั้นรีบมา ดูห้อง ทำเหมือนเป็นของเขาแล้ว รวมถึงเขายังยึดกุญแจ คีย์การ์ดไปทั้งหมด จนเาเอ๊ะใจจึงไป ขอคืนมาตอนแรกไม่ยอมคืนเราเลย
อยากปรึกษาหรือได้คำแนะนำ ใครที่เป็นทนายหรือช่วยเหลือเรื่องนี้ได้ครับ ไม่อยากให้เขาไปทำแบบนี้กับคนที่กำลังเดือดร้อน
ขอบคุณครับ