สวัสดีทุกคนนะคะที่หลงเข้ามาอ่านรีวิวอียิปต์ ขอออกตัวก่อนค่ะว่าทริปนี้เป็นทริปในฝันที่อยากไปมาเนิ่นนานแต่ไม่ได้ไปสักที ติดนู่นนี่นั่น ที่สำคัญคือเงินค่ะ เพราะถ้าจะเดินทางไปอียิปต์เนี่ย ค่าเดินทางจะแพงมากถ้าเอาแบบไปครบทุกเมืองนะคะ เราเลยตัดปัญหาไม่ให้งบบายปลายเลยเลือกซื้อทัวร์ค่ะ 

ก่อนไปคิดว่าแค่ซื้อทัวร์ง่ายๆ จ่ายตัง เก็บเป๋าไปเลย แต่ๆๆๆ นี่รอมา 3-4 เดือนค่ะเนื่องจากคนไม่เต็ม ออกเดินทางไม่ได้ เลื่อนแล้วเลื่อนอีก สุดท้าย ฝันเป็นจริงแล้วค่ะ กำหนดวันเดินทางออกมาคือ 22-29 มีนาคม 2024 สนับสนุนเวลาทั้งหมด 8 วัน 5คืน แบบเก็บครบทุกจุดไฮไลท์

ทริปนี้เราเดินทางจาก Cairo-Saqqara-Aswan-Abusimbel-Edfu-Luxor รวมบินในประเทศ1ขาค่ะ

เริ่มกันเลยนะคะ
Day1 22 Mar 24
ออกเดินทางโดยสายการบิน Emirate airline ค่ะ กินหรูอยู่สบายนิดนึง แต่ต้องเสียเวลาไปต่อเครื่องที่ดูไบ และสนามบินดูไบคือใหญ่มาก เวลาต่อเครื่องประมาณ 2 ชม. วิ่งลงลิฟท์ ลงบันไดเลื่อน ต่อรถไฟระหว่าง terminal คือหมดเวลาค่ะ เหนื่อยกันสุด ขอตัดข้ามมาที่ไคโรเลยแล้วกันนะคะ

Day2 23 Mar 24
ถึงไคโรแล้ว เรามากับทัวร์ดีอย่างนึงคือเค้าจะจัดการให้หมดทุกอย่างรวมถึงวีซ่าด้วย พอถึงสนามบินเค้าจะมี Visa man มาจัดการให้เสร็จสรรพคือทัวร์จากเมืองไทยเค้าจะส่งชื่อคนเดินทางมาให้ทางฝั่งแลนด์ที่อียิปต์ล่วงหน้าเพื่อขออนมุติวีซ่า มาถึงเค้าก็จะเอาสติ๊กเกอร์วีซ่ามาจัดการแปะหน้าพาสปอตเราค่ะ แล้วก็เดินผ่านตม. แบบสบายใจ ง่ายสุด

แล้วเราก็มารับกระเป๋า แลกเงินกันค่ะ ที่นี่เราแลกเงินดอลล่ามานะคะ เพราะเงินปอนด์อียิปต์ไม่มีที่ไทยค่ะ ตอนนี้ค่าเงินลดค่ะ มีแต่คนอยากได้ดอลล่า แนะนำว่าไม่ต้องแลกมาเยอะนะคะ ใช้ดอลล่าซื้อของได้เลย วันนี้เรามาถึงก็เกือบๆเที่ยงแล้วเป็นช่วงรอมฎอนด้วย เพราะฉะนั้น สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดจะเปิดช้าและปิดเร็วมาก เราต้องทำเวลากันมาก ถ้าไกด์บอกกี่โมงคือต้องตามนั้น ห้ามเลทเลย เรามาถึงเค้าก็จะพาไปทานข้าวกลางวันกันก่อนค่ะ อาหารก็ดูดีเลยตามนี้ค่ะ มีขนมทุกมื้อหลังอาหาร

หลังจากทานกันอิ่มแล้ว ที่แรกเราก็รีบตรงมาที่สุเหร่าโมฮัมเม็ดอาลี MOHAMMED ALI MOSQUE เป็นสุเหร่าที่ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงไคโร สร้างจากหินอลาบาสเตอร์ (Alabaster) ตามแบบจาก Blue Mosque ในเมืองอิลตันบูล


ด้านในจะมีนาฬิกาที่เป็นของขวัญในการแลกเปลี่ยนกับเสาโอบิลิสก์ของฟาโรห์รามเซสที่สอง เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างอียิปต์และฝรั่งเศส แต่ปัจจุบันคือนาฬิกาไม่เคยเดินเลย คุ้มไหมเนี่ย

ภายในสุเหร่าค่ะ 

เสร็จจากสุเหร่า เราก็รีบตรงไป CAIRO MUSEUM พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์กันเลยค่ะ เพราะวันนี้ไกด์บอกปิดเร็วค่ะ 4 โมงและไฮไลท์คือเราต้องเข้าไปชมห้องเก็บสมบัติของตุตันคาเมนให้ได้


พิพิธภัณฑ์ที่นี่ไฮไลท์คือสมบัติของฟาโรห์ตุตันคามุนที่เพิ่งค้นพบเมื่อประมาณปี1922 สมบัติประมาณ 5,000 กว่าชิ้น แบบสุดยอดแล้วคือโจรหาไม่เจอ ทุกอย่างเลยอยู่ครบ จริงๆอยากถ่ายรูปมาให้ดูมากๆแต่เค้าห้ามถ่าย มองด้วยตาตัวเองจริงๆ น้ำตาจะไหลตอนเห็นหน้ากากทองคำของตุตันคามุนค่ะทุกคน เราเลยได้แต่ถ่ายรูปชิ้นอื่นๆมาที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ ขอบอกเลยว่าขนลุกทุกชิ้นเพราะด้วยอายุของของโบราณเราก็ยังแอบสงสัยไม่ได้ว่าเค้าแกะสลักมาได้อย่างไร
ตัวอย่างบางชิ้นที่เราถ่ายมาจากในพิพิธภัณฑ์นะคะ

อีกไฮไลท์นึงที่สามารถถ่ายรูปมาให้ทุกคนมาชมได้นะคะคือบัลลังก์ของฟาโรห์ตุตันคามุนที่เจอในหลุมศพ เป็นไม้ปิดด้วยทองคำ ตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม พนักพิงด้านหลังเป็นรูปของตุตันคามุน และมเหสี Ankhesenamun คือทึ่งมาก 3,000กว่าปีแล้วสภาพยังได้ขนาดนี้ ขอคาราวะค่ะ

เดินถัดไปชั้น2 อีกห้องนึง ยังมีจัดแสดงมัมมี่อยู่นะคะ แต่แค่ไม่ใช่มัมมี่ราชวงศ์เพราะทางการอียิปต์ได้ย้ายไปจัดแสดงอีกที่นึง ที่นี่เราเลยได้เห็นแค่นี้ค่ะ คือมัมมี่“ยูยา” (Yuya) และ “ธูยา” (Thuya) มัมมี่ทั้ง2 เป็นพระบิดาและพระมารดาของราชินีตียี (Queen Tiye) แห่งฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่ 3 (Amenhotep III) และยังเป็นตา-ยายของฟาโรห์อาเคนาเตน (Akhenaten) และเป็นทวดของฟาโรห์ตุตันคามุน (Tutankhamun) ค่ะ


กระดาษปาปิรุสค่ะ ต้นฉบับเลย จะเขียนบอกเล่าเรื่องราวในอดีต กระดาษปาปิรุสจะทำมาจากต้นกกปาปิรุสค่ะเอามาแช่น้ำ ตากแห้ง บดทับ ให้เขียนแทนกระดาษและคงทนมาก ผ่านมาหลายพันปีแล้วยังคงอยู่เลยค่ะ

ยังไม่ทันจะสี่โมง พนักงานก็เริ่มมาไล่แล้วค่ะ ไม่ให้ถ่ายรูป ให้เดินออกอย่างเดียว หลังจากชมเสร็จ เราก็นั่งรถกลับมาที่โรงแรมกันค่ะ คืนนี้ที่ไคโรเราจะนอนกันที่ Holiday Inn Cairo Maadi อากาศช่วงนี้คือ15องศา กลางคืนเย็นๆ สบายๆค่ะ ชอบมาก 

วิวสระว่ายน้ำกับระเบียงที่รร.ค่ะ ชมแม่น้ำไนล์ยามเย็น ฟินสุดๆ

 
Day3 24 Mar 24
เช้าวันที่ 3 วันนี้ เรานั่งรถจากรร. ก็รีบตรงดิ่งมาที่กีซ่าก่อนเลยค่ะ ประเด็นแรกคือต้องมาเก็บไอไลท์สำคัญๆก่อน กลัวไปไกลๆแล้วเย็นๆกลับมาเก็บไม่ทันปิดเร็วอีก วันนี้ตื่นกันแต่เช้าเลยค่ะ มาถึงประตูหน้าทางเข้ากีซ่า 8โมงตรง คือฉันต้องได้เข้าคนแรก

จุดแรกที่ไกด์พามานะคะคือพีระมิดคูฟู พีระมิดอันใหญ่ที่สุดใน3อัน สร้างโดยฟาโรห์คูฟู นั่นเอง ทุกคนเราอยากจะบอกว่ามันยิ่งใหญ่มากและเราไม่คิดไม่ฝันว่าวันนึงเราจะได้ยืนอยู่ตรงหน้าพีระมิดแบบนี้ ทุกคนลองดูนะคะ ขนาดเรากับหินที่พีระมิดคือเกือบสูงเท่ากัน และก็ยังแอบสงสัยไม่ได้อีกเช่นเคยว่าเค้าสร้างขึ้นมาได้ยังไง การออกแบบ การยกหินขึ้นให้ได้องศาที่พอดีแบบนี้ ปวดหัวแทน ก็ยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้


เราลองยืนเทียบกับหินดูค่ะ

โพสท่าสะหน่อยค่ะ

และเราก็นั่งรถต่อไปอีกจุดนึงค่ะ เป็นจุดที่คนนิยมมาขี่อูฐกันเพราะด้านหลังจะเป็นพีระมิดทั้ง3ลูกพร้อมกันคือ พีระมิดของฟาโรห์คูฟู KHUFU,ฟาโรห์คาเฟร่ KHAFREและฟาโรห์เมนคูเร MENKAURE ที่นี่ไกด์จะบอกก่อนเลยค่ะ ให้ทิปแค่ 1-2ดอลพอ ถ้าเค้าขอไม่หยุดก็เดินมึนๆออกมาค่ะ ไม่ต้องไปสนใจ

น้องอูฐมานั่งรอ นอนรอแล้วค่ะ


น้องอูฐ

หลังจากขี่อูฐกันนำใจแล้ว เราก็นั่งรถไปยังจัดถัดไปค่ะ เพื่อไปดูมหาสฟิงซ์แห่งกีซา (The Great Sphinx of Giza) กันค่ะ ซึ่งสฟิงซ์มีตัวเป็นสิงโตและมีหัวเป็นมนุษย์หมอบเฝ้าอยู่ใกล้กับพีระมิดคาเฟร อันนี้ก็ว้าวมาก   สฟิงซ์คือทำมาจากหินก้อนเดียวแล้วแกะสลักแต่ก่อนมีเคราแต่ตอนนี้หายไปแล้ว เค้าว่าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่ประเทศอังกฤษค่ะ 


เสร็จจากที่กีซ่า เรานั่งรถราวๆ1 ชม.เพื่อไปยังเมืองเมมฟิส ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5,000 ปี ที่นี่จะมีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเมมฟิสที่จัดแสดงรูปแกะสลักขนาดใหญ่ของฟาโรห์ Rameses II ที่ไม่สมบูรณ์เต็มองค์ มีความยาวจากมงกุฎถึงเข่า 11 เมตร นอนอยู่ในอาคาร เห็นแล้วคือว้าวมาก องค์จริงคือแกะสลักไก้งดงามมากค่ะ ถ้าไม่พังทลายไปก่อน จะเป็นรูปแกะสลักขนาดใหญ่ของฟาโรห์ Rameses II ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยนะคะ

บางคนอาจจะสงสัยค่ะว่าแล้วคนที่ไปขุดเจอเนี่ย เค้ารุ้ได้ไงว่าเป็นรามเสสที่ 2 เค้าก้จะดูจากคาร์ทูชที่สลักเป็นชื่อฟาโรห์ตรงเอวนั่นเองค่ะ

ภายในก็จะมีร้านขายของที่ระลึกตั้งเต็มเลยค่ะ
[img]https://f.ptcdn.info/292/084/000/lwopcxdsice2s9xVL22-o.jpg[/img