ระบบอุปถัมภ์ (รู้กัน แบบครอบครัว)..มะเร็งร้ายต่อการพัฒนากีฬาของไทย

ระบบอุปถัมภ์ (Patronage, Individual bestows on others) ..นั้นเป็นมะเร็งร้ายที่ไม่ใช่แค่ต่อเศรษฐกิจไทย ต่องานราชการ แต่ลามไปถึงการพัฒนากีฬาของไทย ทำให้ไทยเราถอยหลังลงคลอง

+ ขาดคนมีฝีมือและปัญญา
การคัดเลือกบุคคลากร ทั้งฝ่ายบริหาร เจ้าหน้าที่ ทีมงาน ไปจนถึงตัวนักกิฬา ที่ไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม ทำให้คนเก่ง คนดีมี potential ท้อถอย หมดกำลังใจ ไม่อยากยุ่ง การเล่นพรรคเล่นพวกทำให้คนไม่ดี ไม่ตั้งใจกับงาน เข้ามาหาประโยชน์ให้ตัวเองและพรรคพวก กัดกร่อนองค์กร

+ ไม่มีการพัฒนาการต่อเนี่อง
ได้คนไม่ได้เรี่อง จะวางแผน จะเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาไปไม่ได้ไกล

+ มีการทุจริตได้ง่าย และเสียหายได้มาก
เกิดการสมรู้ร่วมคิด (แบบครอบครัว)

อย่างกรณีของวอลเล่ย์บอลสาวไทย แม้เวลาผ่านไป ก็ไม่มีพัฒนาการโดดเด่นหรือแค่คืบไปอย่างช้าๆเมื่อเทียบกับทีมชาติอื่นๆ ในระดับเดียวกัน เพราะอย่างโครงการเด็กยักษ์ ที่ผ่านมาหลังทำการคัดเลือกได้ตัวนักกีฬามา ก็ไปเขย่ารวมกันกับพวกฮอบบิท คัดไปตามรุ่นอายุอีกครั้ง ทำให้ได้แต่ตัวนักกีฬาตัวเตี้ยๆ ก็เพราะอ้างว่า พวกฮอบบิท มีความรวดเร็ว คล่องตัวกว่า แทนที่จะลงทุนพัฒนาต่อเนื่องกับเด็กสูง ที่คัดมาแต่แรก ทั้งด้านโภชนาการ ทักษะเทคนิคการเล่นต่อยอดไป ซึ่งผมเห็นว่า เด็กสูงที่ค้ดเลือกมาทุกคนสามารถพัฒนาให้เก่งขึ้นได้ ถ้าให้เวลา ความตั้งใจและในไม่กี่ปี ก็จะก้าวขึ้นไป เป็นกำลังหลักในรุ่นอายุของตัวเองได้ แทนที่จะวนลูปอยู่กับจุดอ่อนเรื่องความสูงของนักกีฬา เพราะกีฬาวอลเล่ย์บอลนั้นความสูงทาง physical มีผลโดยตรงอย่างยิ่ง เป็นความได้เปรียบสูง เมื่อเทียบกับกีฬาชนิดอื่น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่