รีวิวการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกนำเข้าจากต่างประเทศ เราตั้งใจทำรีวิวเพื่อแนะนำคนที่มีปัญหาต้องการรักษา จะได้มีข้อมูลและเตรียมตัวได้ค่ะ 
ยาวมากๆเลยนะคะ 

เนื่องจากคุณแม่ของเรา (อายุ73ปี)  บ้านเราอยู่ต่างจังหวัด (เดินทางมา กทม 4 ชม) 

เดือนมิถุนายน
คุณแม่เราเป็นโรคกระจกตาเสื่อมข้างขวา ทำให้กระจกตาบวม ไม่เรียบ ขับน้ำออกไม่ได้ ตาข้างขวาจึงมองไม่เห็น แม่แจ้งว่า ถ้าปิดตาซ้าย มองแค่ข้างขวาคือไม่สามารถระบุได้ว่าคือใคร มันจะเหมือนมีฝ้ามาบังๆ (เพราะกระจกตาบวม) 
แม่เริ่มรู้สึกมองไม่ชัดตังแต่เดือนมิถุนายน 
หลังแม่แจ้งเรา เราพาแม่ไปพบจักษุแพทย์ รพ ใกล้บ้านทันที (เราทำงาน รพ แม่ใช้สิทธิเบิกได้จ่ายตรง) ทาง รพ แจ้งว่ากระจกตาบวม ส่งต่อพบ จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตาที่ รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) 
ได้คิว1อาทิตย์ พาแม่ไปตรวจ วัดเซล์ของกระจกตา สรุปเซล์เหลือน้อยกว่าปกติ (เสื่อมตามวัย) ทำให้ขับน้ำไม่ได้ กระจกตาบวม วิธีรักษามีอย่างเดียว คือต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา ซึ่งต้องรอจากผู้บริจาคตามคิวของสภากาชาด แม่เราก็เข้าคิวไว้ 26/6/2023 
คุณหมอแจ้งว่า ปกติรอคิวประมาณ 5-10 ปี เป็นอย่างต่ำ แม่ได้ยาหยอดตามาหยอด และนัดดูอาการ 1 เดือน 

เดือนกรกฎาคม
ผลคือไม่ดีขึ้น สรุปแม่เราต้องรอกระจกตาเท่านั้น คุณหมอนัดต่อทุก6เดือน ( ค่าใช้จ่ายใช้สิทธิเบิกได้ทั้งหมด )
ต่อมาเราพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจก หาข้อมูลนานมากจนถึงเดือนตุลาคม เรามารู้ว่ามีที่ รพ จักษุรัตนินท์  แถวอโศก สามารถนำกระจกตาจากต่างประเทศมาได้เร็ว ( ในพันทิปแจ้งว่าคุณภาพอาจไม่ดีเท่าของไทยเพราะต้องขนส่ง แม่เราเลยลังเล แต่สุดท้ายด้วยความเครียด กลัวอีกข้างเป็นแล้วจะลำบาก รอไม่ไหวแล้ว ) จึงติดต่อขอตรวจ 
ขั้นตอนคือโทรไปนัดหมายกับ รพ (ได้คิวตรวจเร็วมากอยู่ค่ะ)  แจ้งอาการ+โรค เราได้นัดเจอคุณหมอเฉพาะทางด้านกระจกตาโดยตรง (พญ.ภัทรมน) 
ไปถึงได้ทำการตรวจหลายอย่าง และคุณหมอตรวจละเอียดมาก 

สรุปแม่เรา ต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา + ผ่าเอาวุ้นที่บังตาออก + PI

 ทาง รพ จะประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ของแม่เรา 230,000 

แต่เนื่องจากแม่เรามีโรคประจำตัว 
1.หัวใจ >> ทานยาละลายลิ่มเลือด 2 ตัว asa , clopidrogrel  ต้องมีใบจากแพทย์ประจำตัวว่าสามารถหยุดยาละลายลิ่มเลือดก่อนผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา 7 วัน 
2.ภูมิแพ้ ตอนผ่าตัดไม่ได้ดมยาสบ ดังนั้นต้องรักษาการไอ จาม ห้ามไอ จาม ระหว่างผ่าตัดเด็ดขาด 

เราก็นำเอกสารไปพบแพทย์เฉพาะทางตามสาขาต่างๆ เมื่อแม่รักษาโรคต่างๆ และร่างกายพร้อมทำการผ่าตัดแล้ว (ส่งข้อมูลผลเลือด+ผลการตรวจโรคประจำตัวต่างๆ ทางเมล์ )
เราก็โทรติดต่อประสานงานกับ รพ 
ทาง รพ จะให้แพทย์ตรวจสอบข้อมูลสุขภาพว่าสามารถผ่าตัดได้หรือไม่ ถ้าผ่าน ก็โอนเงินมัดจำ 100,000 บาท จากนั้น ทาง รพ จะนัดวันผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาให้ แม่เราได้คิว 2 อาทิตย์หลังทุกอย่างพร้อมเลยค่ะ  เร็วมากๆจนตกใจ

แม่เราต้องหยุดยาละลายลิ่มเลือดก่อนวันนัดผ่า 7 วัน หยุดไปเลยทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามีตาบริจาคจากต่างประเทศมาไหม 
พอก่อนวันนัด1-2วัน ทาง รพ แจ้งว่ามีดวงตาบริจาค คอนเฟิมว่าสามารถผ่าได้90% นำเข้าจากอเมริกา กำลังบินมา 

วันผ่า เช้า 7.30 เราพาแม่ไปที่ รพ จักษุรัตนินท์ ไปเข้าห้องพัก เตรียมผ่า กินข้าวได้ปกติ แต่กินน้อยอาการอ่อนๆ
13.00 แม่เราเข้าไปผ่า ใส่แพมเพิธ เรียบร้อย 
เวลาผ่าประมาณ2 ชม 
แม่ออกมา ปกติดี แม่เล่าว่า กลัวมาก กลัวไอ กลัวจาม แม่ตั้งใจเต็มที่ นับ1ถึงพัน วนไปวนมา ตอนทำหมอฉีดยาชาทำ แม่รู้สึกตัวตลอด ไม่เจ็บเลย แค่รู้สึกลูกตาขึงไปขึงมา 

หลังทำทันที แม่เราต้องนอนราบ หมอนใบเล็กมาก นอนตรง ห้ามตะแคงเด็ดขาด 
หมอมาตรวจตอนเย็น ว่ากระจกตาที่เปลี่ยนติดดีไหม 
เพิ่มเติม ** ความรู้ กระจกตามี5ชั้น แบ่งเป็นชั้นส่วนหน้า กับ ส่วนหลัง
แม่เราเป็นเพราะเซลล์เสื่อม คือชั้นส่วนหลัง ก็เปลี่ยนเฉพาะส่วนหลัง เหลือส่วนหน้าที่ปกติไว้ ดังนั้น คนที่บริจาคกระจกตา 1 ข้าง สามารถช่วยคนไข้ได้มากสุด2คน คือใช้ทั้ง2ส่วนไปเลย  >> เสิดข้อมูลได้ในยูทูปเลย คุณหมอ ภัทรมณ ของ รพ รัตนินท์ อธิบายขั้นตอนการเปลี่ยนกระจกตาไว้ละเอียดมาก 

สรุปแม่เรานอน รพ 1 คืน >> คืนนั้นห้ามลุก ห้ามตะแคง ห้ามขยี้ตา นอนเฉยๆเท่านั้นเพิ่อให้กระจกตาที่ได้ใหม่ ติดสนิทดี 

วันรุ่งขึ้นหมอเข้ามาตรวจ ปกติดี ให้กลับบ้าน 
แต่ต้องอยู่ใน กทม ไม่ให้เดินทางกลับต่างจังหวัดไกลๆ 7-14 วัน 

เราอยู่บ้านญาติ 7 วัน หมอนัดตรวจ กระจกตาใหม่ ต่อติดดีแล้ว กลับบ้านได้ นัดต่ออีก1เดือน 

ค่าใช้จ่าย 
ค่าทำ 230,000 (แล้วแต่คนนะคะ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อประเมินก่อนจะดีที่สุด)
ค่าไปพบแพทย์ตรวจแต่ละครั้ง 3000-5000 
เป็น รพ เอกชน จึงใช้สิทธิไม่ได้ จ่ายเต็มและแม่เราไม่มีประกันสุขภาพ 

ผลการรักษา 
ปัจจุบัน ครบ2เดือนหลังผ่า 
แม่มองเห็นชัดมากกกกกว่าเดิมมากกก
จากเดิมคือถ้าปิดตาซ้าย ตาขวาแม่จะมองไม่เห็นเลย ไม่สามารถมองได้ว่าคืออะไร 
หลังผ่า2วันเริ่มเห็น และการมองเห็นดีขึ้นเรื่อยๆ คุณหมอนัด7วันบอกว่าแม่จะมองหน้าคุณหมอด้วยตาขวาได้แล้วนะ ซึ่งก็จริง
ปัจจุบัน ครบ2เดือน ดีขึ้นเรื่อยๆ ปิดตาซ้าย มองตาขวาคือมองออกว่าคือใคร ชูกี่นิ้ว แค่ยังไม่ชัดคมกริบเหมือนตาซ้าย 
ไม่มีการต่อต้านหรือปัญหาใดๆ ไม่เจ็บปวดเลยสักนิดตั้งแต่ทำมา 
หมอนัดดูอาการเรื่อยๆ เราดูกระจกตาแม่ ใสมาก และแม่เราประทับใจมาก 
แม่มีความสุขมากๆ 



 รูปแรก ก่อนทำ ช่วงหนึ่งแม่หยอดตาพลาด ตาเลยติดเชื้อ ส่วนกระจกตาบวมเพราะโรคอยุ่แล้ว สังเกตุคือจะขุ่นๆ ไม่เห็นม่านตา 
รูปหลังทำ 3 วัน  เห็นม่านตาแล้ว แต่ยังมีอากาศบังๆ 
รูปปัจจุบัน กระจกตาใสมากแล้ว 

 สุดท้ายเราได้ทำตามสัญญาคือถ้าแม่หายจะบริจาคดวงตาและอวัยวะ เพราะเรารู้สึกว่ามันจำเป็นมากต่อคนที่ต้องการ 
บริจาคง่ายมาก บริจาคออนไลน์ได้เลยค่ะ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่หาข้อมูลอยู่นะคะ 

ขอบคุณค่ะ