สรุปผมผิดที่เป็นคนพิการ สมัครแพ็กเกจพิเศษของ True ที่ทำให้ คนมีบัตรสวัสดิการรัฐ กับ บัตรคนพิการ จนไม่สามารถสมัครได้

กระทู้คำถาม
ซึ่งวันนี้วันที่ 23 พฤษภาคม ช่วงเวลาราวๆบ่าย3 ที่ผ่านมาได้ไป ศูนย์ True Shop ไปสมัครแพ็กเกจ อินเตอร์เน็ตสำหรับ ผู้มีบัตรสวัสดิการรัฐ หรือ บัตรคนพิการ ซึ่งผมเป็นคนพิการ ไปขอสมัครโปรโมชั่นเขาก็โทรหาศูนย์ใหญ่ขอ PIN Codes อะไรซักอย่าง แต่สุดท้ายมาบอกว่า "แพ็คเกจนี้ต้องสมัครโปรโมชั่นเน็ตปกติก่อน มันเป็นแพ็กเกจเติม Bandwidth Internet" ผมเลย งง เลยถามไปแล้วเข้าจะเรียกโปรโมชั่นช่วยเหลือคนจนและคนพิการได้ยังไง ถ้ามันต้องมาเติมเน็ตปกติ 300บาท+ ก่อนแล้วถึง มาสมัครตัวแพ็กเกจ66บาทได้ มันเท่ากับแพงกว่าเดิมไม่ใช่เหรอ คำตอบที่ได้ "ก็ศูนย์บอกมาแบบนี้" ผมเลยหมดหวังพร้อมเสียค่ารถ Grab ไปฟรีๆ ซึ่งผมเป็นคนพิการ ไม่สามารถใช้รถส่วนตัวได้ จากบ้านไปศูนย์True Shop ไป( 164บาท ) + กลับ( 164บาท ) = รวมไป-กลับ ( 328บาท )

พอมาโพสต์ในPantip Admin Trueให้ Inbox ขอรายละเอียดข้อมูลแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ พิมพ์กลับมาเหมือน Ctrl+C > Ctrl+V บอกต้องไปติดต่อศูนย์True Shopเท่านั้น และอธิบายรายละเอียดการโชว์บัตรคนพิการ อธิบายโปรโมชั่น ( ต้องการให้แก้ไข ให้ ไม่ใช่ เอาสิ่งที่อยู่ในคู่มือมาบอกให้เราแก้ไขเอง )

แล้วสุดท้ายผมก็ไปเจอโพส อวยโปรโมชั่นนี้แล้วได้คุยกับ จขกท.เขาใช้บัตรสวัสดิการรัฐ ก็ผ่านเลย ไม่ต้องไปสมัครโปรโมชั่นเน็ตหลักอะไร 300บาท+ ให้เขา สมัคร 66บาท ไปใส่ให้ได้เลย ( สรุปคุยกับคนปกติรู้เรื่องมากกว่า )

สรุปคือผมไม่สามารถสมัครโปรโมชั่นได้ซึ่งการสื่อสารของศูนย์True Shop กับ ศูนย์ใหญ่คุยกันไม่รู้เรื่อง แล้วมาบอกโปรโมชั่นมั่วกับผม แล้วผมต้องการ การแก้ไขให้แอดมินTrue ติดต่อประสานงานให้ก็โดนไล่ให้กลับไปสมัครใหม่ที่ศูนย์ แล้วค่าเดินทางไปกลับแต่ละรอบ 328บาท (ซึ่งผมอยู่จังหวัดบ้านนอกแล้วอยู่ไกล ค่ากิโลเมตรการวิ่งของ Grab Car เลยแพงกว่าปกติ)  

สรุปแล้วที่ผมผิดเพราะผมเป็นคนพิการ บัตรแยกจากบัตรประชาชนเลยไม่สามารถตรวจสอบได้ทันที ต้องคีย์ข้อมูลใหม่ แล้ว ทำให้พนักงานที่ไม่รู้เรื่องโปรโมชั่น ต้องโทรถามสำนักงานใหญ่ทุกรายละเอียดจน การสื่อสารยังไงก็ไม่รู้ มาบอกโปรโมชั่นมั่ว แอดมินก็ทำอะไรไม่ได้

พวกเราคนพิการจำไว้นะครับ ถ้าคิดสมัครโปรโมชั่นอะไร ของ True เช็ครายละเอียดหาหลักฐานไว้ไปบอกว่าทำได้ให้พนักงานดูด้วย ไม่งั้นก็จะโดนบอก "ทำไม่ได้ ทำไม่ได้" แล้วจะต้องเป็นคนพิการที่หน้าหงอยๆเดินกลับ โดยที่เสียตังไปตั้งเยอะ แต่ทำอะไรไม่ได้

บางคนอาจพูดแค่ค่าเดินทาง 700บาท+เอง เงิน100 ก็หายากครับ เมื่อโดนบริษัทไล่ออกเพราะไม่สามารถทำงานได้ ต้องมารับจ้าง Freelance Software development ซึ่งคนคิดว่างานด้านนี้ได้เงินเยอะใช่ครับได้เงินเยอะ เมื่อคุณมีรีวิวที่สูง แล้วถ้าคุณพิการแขนข้างนึง การพิมพ์คอมพิวเตอร์ของคุณจะช้าลง แล้วใช้เวลานาน ไม่สามารถเข้าร่วมกลุ่ม แบ่งงาน-แบ่งเงินได้ เพราะคุณเหมือนเป็นตัวถ่วงไม่มี DevOps กลุ่มไหนรับคนพิการ ที่เป็นจุดอ่อนของกลุ่ม ทำให้งานเสร็จช้ากว่าการทำเป็นกลุ่ม หรือ เป็นบริษัท รีวิวเลยไปอยู่กับ พวกบริษัท กับ กลุ่ม Software developer ที่รวมตัวกัน มากกว่า ตัวคนเดียวในวงการนี้ ต้องวิ่งไล่ของาน ตามสถานที่ต่างๆ สน. โรงบาล. ร้านค้า. บลาๆ ที่ต้องการทำซอร์ฟแวร์ ยังได้งาน เสนอตัวเองในเว็ปรีวิวแทบไม่มี สู้เขาไม่ได้ ต้องวิ่งไล่ไหว้คนมือเดียว เพื่อของาน แก้งานคนเก่าทำลวกๆ โดนโขกสับ กดราคา ก็ต้องยอม

แล้วชีวิตก็ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้อีก อยากร้องไห้กับชีวิต เกิดอุบัติเหตุ เสียงาน เสียแฟน เสียเครดิตด้านการเงิน เสียเงินต้องนอน icu เป็นเดือน ค่ายานอกรายการ เงินเก็บมาก็ต้องเสียกับยานอกรายการกับค่าผ่าตัด เส้นประสาทฉีกขาด ปวดอาการ Phantom Pain อยู่ทุกวัน เกิดกระตุก อาการปวดระดับ10 ต้องกินมอร์ฟีนเม็ด >  ปวดระดับ3 พารา > ระดับ 5 กาบ้า กับ ไทรมาดอร์
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ในโฆษณาชีวิต Software Developers. ชีวิตดี ใช้ดีถ้าทำงานกับบริษัทที่ดี แล้วกับ Freelance ในกลุ่มที่มีความสามารถแบ่งงานกันเป็นระบบ

แต่ถ้าทำงานคนเดียว วิ่งไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งราชการ ทั้งเอกชน ยกมือไหว้ ขอดีล ตรวจสอบงาน โดนกดราคาก็ต้องทำไม่งั้นเขาต้องไป เอาพวกกลุ่มคนในเว็บที่มีรีวิวดี เป็นเรื่องแปลกที่ชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เพราะความพิการ แถมมาโดนคนเอาเปรียบสารพัด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่