R I P
ประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี แห่งอิหร่าน ผู้นำสายฮาร์ดไลน์ซึ่งหลายฝ่ายคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดต่อจาก อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี เสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในเขตภูเขาใกล้กับพรมแดนอาเซอร์ไบจาน ตามรายงานของสื่อทางการอิหร่านวันนี้ (20 พ.ค.)
รายงานระบุว่า ซากของเฮลิคอปเตอร์ที่พาประธานาธิบดีอิหร่าน และฮอสเซน อามีร์อับดอลลาฮยาน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เดินทางกลับจากพื้นที่ชายแดนเมื่อวันอาทิตย์ (19) ถูกพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากหน่วยกู้ภัยเร่งค้นหากันตลอดทั้งคืนท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้ายและมีหิมะตก
“ประธานาธิบดี ไรซี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้โดยสารคนอื่นๆ บนเฮลิคอปเตอร์เสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านผู้ไม่ประสงค์ออกนามให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิหร่านรายงานการเสียชีวิตของ ไรซี โดยอ้างถ้อยแถลงของรองประธานาธิบดี มอห์เซน มันซูรี (Mohsen Mansouri) ซึ่งโพสต์ลงในสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงมีการเผยแพร่ภาพถ่ายจากจุดเกิดเหตุซึ่งแสดงให้เห็นว่าเฮลิคอปเตอร์ลำนี้พุ่งชนกับยอดเขา แม้จะยังไม่การยืนยันถึงสาเหตุการตกอย่างเป็นทางการก็ตาม
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว IRNA รายงานว่า ไรซี เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ Bell 212 ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา
ไรซี วัย 61 ปี ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอิหร่านในปี 2021 และตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งก็ได้สั่งให้มีการบังคับใช้ “กฎหมายศีลธรรม” อย่างเข้มงวด มีมาตรการปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรง รวมถึงแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวในการเจรจานิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจต่างๆ ด้วย
อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำจิตวิญญาณสูงสุดอิหร่านซึ่งมีอำนาจชี้ขาดด้านนโยบายต่างประเทศและโครงการนิวเคลียร์ได้ออกมาแถลงปลอบขวัญชาวอิหร่าน โดยยืนยันว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อกิจการความเป็นไปของรัฐ
ทีมกู้ภัยซึ่งตามรายงานระบุว่ามีถึง 40 ชุดต้องเดินฝ่าภูมิประเทศที่ทุรกันดารท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก กระทั่งสามารถเข้าถึงจุดตกของเฮลิคอปเตอร์ได้เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (20)
“ทีมค้นหาซึ่งเดินทางไปยังจุดตก ไม่พบสัญญาณว่ามีผู้โดยสารที่รอดชีวิต” พีร์ฮอสเซน โคลิวานด์ ผู้อำนวยการสภาเสี้ยววงเดือนแดงแห่งอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ
หลายประเทศเริ่มออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการจากไปอย่างกะทันหันของผู้นำอิหร่าน โดยนายกรัฐมนตรี เชห์บาซ ชารีฟ แห่งปากีสถาน ได้ประกาศผ่าน X ให้มีการไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 1 วัน และลดธงครึ่งเสา “เพื่อแสดงความเคารพต่อประธานาธิบดี ไรซี และผู้ที่ร่วมเดินทางไปกับเขา เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับพี่น้องชาวอิหร่าน” ขณะที่นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย ก็ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X เช่นกันว่า “รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง และช็อกกับข่าวการจากไปที่น่าเศร้า” ของประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี แห่งอิหร่าน
“ผมขอส่งความอาลัยไปยังครอบครัวของท่านและประชาชนชาวอิหร่านทุกคน” โมดี กล่าว “อินเดียขอยืนหยัดเคียงข้างอิหร่านในช่วงเวลาแห่งทุกข์โศกนี้”
กลุ่มฮามาสซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในการทำสงครามต่อสู้กับอิสราเอลก็ได้ออกคำแถลงแสดงความเสียใจกับชาวอิหร่าน “ในความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้” ส่วนกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และกบฏฮูตีและเยเมน ก็ได้ออกมายกย่องคุณงามความดีของ ไรซี และอาลัยต่อการจากไปของเขาเช่นกัน
ไรซี เดินทางไปที่พรมแดนอาเซอร์ไบจานเพื่อร่วมพิธีเปิดเขื่อน กิซ-กอลาซี (Qiz-Qalasi) ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างทั้งสองประเทศ โดยประธานาธิบดี อิลฮัม อาลีเยฟ แห่งอาเซอร์ไบจาน ได้กล่าว “อำลา” ผู้นำอิหร่านในวันเดียวกัน ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น
โศกนาฏกรรมไม่คาดฝันครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่อิหร่านกำลังเผชิญความระส่ำระสายทั้งในด้านการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ โดยคณะผู้ปกครองทางศาสนาของอิหร่านนั้นถูกนานาชาติกดดันเรื่องโครงการนิวเคลียร์ที่ต้องสงสัยว่ามีเจตนาผลิตอาวุธทำลายล้างสูง รวมไปถึงเรื่องที่เตหะรานกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียในช่วงที่เกิดสงครามในยูเครนด้วย
อิหร่านยังให้การหนุนหลังกลุ่มฮามาสซึ่งก่อเหตุโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. จนนำมาซึ่งปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตพลเรือนปาเลสไตน์กาซาไปแล้วกว่า 35,000 คน
ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี
Cr.
https://mgronline.com/around/detail/9670000043416
ไร้ปาฏิหาริย์! ปธน.อิหร่าน ‘เอบราฮิม ไรซี’ เสียชีวิตในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ผู้นำโลกร่วมแสดงความอาลัย
ประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี แห่งอิหร่าน ผู้นำสายฮาร์ดไลน์ซึ่งหลายฝ่ายคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดต่อจาก อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี เสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในเขตภูเขาใกล้กับพรมแดนอาเซอร์ไบจาน ตามรายงานของสื่อทางการอิหร่านวันนี้ (20 พ.ค.)
รายงานระบุว่า ซากของเฮลิคอปเตอร์ที่พาประธานาธิบดีอิหร่าน และฮอสเซน อามีร์อับดอลลาฮยาน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เดินทางกลับจากพื้นที่ชายแดนเมื่อวันอาทิตย์ (19) ถูกพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากหน่วยกู้ภัยเร่งค้นหากันตลอดทั้งคืนท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้ายและมีหิมะตก
“ประธานาธิบดี ไรซี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้โดยสารคนอื่นๆ บนเฮลิคอปเตอร์เสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านผู้ไม่ประสงค์ออกนามให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิหร่านรายงานการเสียชีวิตของ ไรซี โดยอ้างถ้อยแถลงของรองประธานาธิบดี มอห์เซน มันซูรี (Mohsen Mansouri) ซึ่งโพสต์ลงในสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงมีการเผยแพร่ภาพถ่ายจากจุดเกิดเหตุซึ่งแสดงให้เห็นว่าเฮลิคอปเตอร์ลำนี้พุ่งชนกับยอดเขา แม้จะยังไม่การยืนยันถึงสาเหตุการตกอย่างเป็นทางการก็ตาม
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว IRNA รายงานว่า ไรซี เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ Bell 212 ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา
ไรซี วัย 61 ปี ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอิหร่านในปี 2021 และตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งก็ได้สั่งให้มีการบังคับใช้ “กฎหมายศีลธรรม” อย่างเข้มงวด มีมาตรการปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรง รวมถึงแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวในการเจรจานิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจต่างๆ ด้วย
อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำจิตวิญญาณสูงสุดอิหร่านซึ่งมีอำนาจชี้ขาดด้านนโยบายต่างประเทศและโครงการนิวเคลียร์ได้ออกมาแถลงปลอบขวัญชาวอิหร่าน โดยยืนยันว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อกิจการความเป็นไปของรัฐ
ทีมกู้ภัยซึ่งตามรายงานระบุว่ามีถึง 40 ชุดต้องเดินฝ่าภูมิประเทศที่ทุรกันดารท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก กระทั่งสามารถเข้าถึงจุดตกของเฮลิคอปเตอร์ได้เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (20)
“ทีมค้นหาซึ่งเดินทางไปยังจุดตก ไม่พบสัญญาณว่ามีผู้โดยสารที่รอดชีวิต” พีร์ฮอสเซน โคลิวานด์ ผู้อำนวยการสภาเสี้ยววงเดือนแดงแห่งอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ
หลายประเทศเริ่มออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการจากไปอย่างกะทันหันของผู้นำอิหร่าน โดยนายกรัฐมนตรี เชห์บาซ ชารีฟ แห่งปากีสถาน ได้ประกาศผ่าน X ให้มีการไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 1 วัน และลดธงครึ่งเสา “เพื่อแสดงความเคารพต่อประธานาธิบดี ไรซี และผู้ที่ร่วมเดินทางไปกับเขา เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับพี่น้องชาวอิหร่าน” ขณะที่นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย ก็ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X เช่นกันว่า “รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง และช็อกกับข่าวการจากไปที่น่าเศร้า” ของประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี แห่งอิหร่าน
“ผมขอส่งความอาลัยไปยังครอบครัวของท่านและประชาชนชาวอิหร่านทุกคน” โมดี กล่าว “อินเดียขอยืนหยัดเคียงข้างอิหร่านในช่วงเวลาแห่งทุกข์โศกนี้”
กลุ่มฮามาสซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในการทำสงครามต่อสู้กับอิสราเอลก็ได้ออกคำแถลงแสดงความเสียใจกับชาวอิหร่าน “ในความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้” ส่วนกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และกบฏฮูตีและเยเมน ก็ได้ออกมายกย่องคุณงามความดีของ ไรซี และอาลัยต่อการจากไปของเขาเช่นกัน
ไรซี เดินทางไปที่พรมแดนอาเซอร์ไบจานเพื่อร่วมพิธีเปิดเขื่อน กิซ-กอลาซี (Qiz-Qalasi) ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างทั้งสองประเทศ โดยประธานาธิบดี อิลฮัม อาลีเยฟ แห่งอาเซอร์ไบจาน ได้กล่าว “อำลา” ผู้นำอิหร่านในวันเดียวกัน ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น
โศกนาฏกรรมไม่คาดฝันครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่อิหร่านกำลังเผชิญความระส่ำระสายทั้งในด้านการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ โดยคณะผู้ปกครองทางศาสนาของอิหร่านนั้นถูกนานาชาติกดดันเรื่องโครงการนิวเคลียร์ที่ต้องสงสัยว่ามีเจตนาผลิตอาวุธทำลายล้างสูง รวมไปถึงเรื่องที่เตหะรานกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียในช่วงที่เกิดสงครามในยูเครนด้วย
อิหร่านยังให้การหนุนหลังกลุ่มฮามาสซึ่งก่อเหตุโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. จนนำมาซึ่งปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตพลเรือนปาเลสไตน์กาซาไปแล้วกว่า 35,000 คน
ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี
Cr. https://mgronline.com/around/detail/9670000043416