สวัสดีค่ะ
เรามีปัญหากับแม่ที่เราไม่สามารถหาทางออกได้ รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ
เกริ่นๆ เราเป็นลูกคนเดียวของแม่ ตอนนี้แต่งงาน มีลูก เป็นแม่บ้าน อยู่ตปท ค่ะ
เรื่องแรก เรื่องอยากให้เรากลับมาอยู่บ้าน
สามีเราต้องอยู่ตปท เพราะได้เงินเดือนเยอะกว่าอยู่ไทยมาก แม่เราให้เหตุผลว่าก็มาอยู่บ้าน คนอื่นเขาก็อยู่ได้ ซึ่งบ้านเรามีสวนแค่สามสิบกว่าไร่ เป็นสวนยางรายได้ต่อเดือนตอนนี้ที่เม่เราได้ประมาณไม่เกินสามหมื่น ซึ่งถ้าเราไปอยู่เราก็เป็นตัวหารเพิ่ม เราก็ต้องทำอาชีพเพิ่มอยู่แล้วแต่มันคงเทียบไม่ได้กับที่สามีหาได้อยู่ตอนนี้ อีกอย่างแม่เราใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์
🧹คำถาม เราผิดไหมที่ไม่ได้ดูแลพ่อแม่ (เราไม่เคยขอเงินท่านนะคะ ตอนเราทำงานเราให้ตลอด แต่ตอนนี้เราไม่ทำงาน เราก็ไม่อยากเอาจากสามีเรารู้สึกมันไม่แฟร์ ซึ่งแม่เราก็เห็นด้วย)
เรื่องที่สอง บ้านสกปรก
ตั้งแต่เด็กเราพยายามขวนขวายออกไปอยู่ที่อื่นเพราะบ้านเราสกปรก ล่าสุดที่ทะเลาะกับแม่คือ แม่เราอยากให้สามีเรานอนที่บ้านเพราะทุกครั้งเราจะพาสามีไปเช่าโรงแรมนอน เราไม่ให้เหตุผลพยายามเลี่ยง จนตอนนี้เรามีลูก เราก็คิดว่าลองพูดดูเพื่ออนาคตจะดีขึ้น เพราะเรากลัวว่าถ้าลูกเราถามว่า ทำไมบ้านยายสกปรกจัง คือเราก็ไม่รู้ว่าต้องตอบยังไง เราเคยถามแม่ว่าลองขัดห้องน้ำดูไหม เวลาพ่ออึก็ลองราดน้ำไหม แม่ก็โมโหใส่เราว่า … "นั้นพ่อนะ"
เอาจริง งง เลย เพราะเราคิดว่าก็เพราะเป็นคนในครอบครัวไงเราถึงพูด เพราะมันสกปรกมาก
🧹คำถาม เราเป็นวัวลืมตีนไหมคะ
เรื่องที่สาม เอาแต่ใจ
เราจะกลับไทยทุกปี ตอนนี้เราอยู่ชายแดนซาอุ เวลาเดินทางกลับไทย อย่างน้อยก็20 ชั่วโมงถึงกรุงเทพ ซึ่งบ้านเราอยู่ภาคใต้เดินทางต่ออีกเราก็โอเคไม่เป็นไร ครั้งล่าสุดไทยร้อนมากลูกเราอยู่ที่บ้านแม่ไม่ได้เพราะไม่มีแอร์ ลูกเราไข้ขึ้นแอดมิดเข้ารพ เราเดินทางกลับไม่ได้ค่าใช้จ่ายก็บาน เราก็บอกแม่ว่ารอบนี้เราไม่กลับบ้านแม่นะ แม่มาภูเก็ตได้ไหม แม่ให้เหตุผลว่า"ทำไมไม่กลับบ้าน ญาติๆทุกคนก็อยู่ที่นี้" เราก็บอกไปว่าเราเดินทางไกล เราท้องอยู่ด้วย ลูกอีกคนก็ยังเล็ก ไม่ถึงสองขวบ ครั้งที่แล้วไม่สบาย แม่เราก็บอกว่า "คนอื่นก็ท้อง อย่ามาเอาแต่ใจกับแม่" งง เลยเรา ตอนนั้นเราตัดสายทิ้ง เพราะรู้สึกแย่มากๆ
ถ้าถามว่าทำไมท้องอยู่ยังเดินทาง เราโอเคกับหมอที่ไทย
🧹คำถาม หรือจริงๆเราผิด หรือเราควรมีวิธีที่รับมือที่ดีกว่านี้
ทั้งหมดคือมันมีเรื่องเล็กๆร้อยๆสะสมไปเรื่อยๆอะคะ เราพยายามแล้วแต่เหมือนตอนนี้เราตัน
เราแค่รู้สึกเหนื่อยใจมากๆเลย เราพยายามแล้วนะแต่อาจดูไม่มากพอหรือยังไงเราไม่รู้
ก่อนกลับบ้านเราโทรไปบอกว่าเราจะกลับบ้านสักสี่ห้าวัน มาอยู่กับหลานไหมเดี่ยวเช่าโรงแรม แม่เรา"ไม่รู้เดี่ยวต้องดูวันว่าง วันที่ไม่ขายผัก" จนป้าๆเป็นคนเกลี่ยกล่อมแม่ให้มาอยู่กะหลาน พอถึงตอนกลับบ้าน แม่เราก็แอบเอาอะไรให้ลูกเรากินไม่รู้ แล้วมาเล่าขำขันกับป้า เราก็โมโห เกือบทะเลาะ
จนผ่านไปเกือบเดือนเราที่เราไม่โทรหาแม่เพราะเรารู้สึกไม่โอเค จนล่าสุดที่ก็ทะเลาะกันจนได้ที่แม่ว่าเราว่าเอาแต่ใจ
เราควรปรับปรุงหรือเราควรเปลี่ยนวิธีการคิดยังไงดีคะ
ป้าเราบอกว่าวันหลังถ้ากลับบ้านก็ไม่ต้องบอกแม่ เพราะแม่จะเอาเงิน … เรารู้สึกว่าคำนี้แรงไป ช่วยหน่อยค่ะ เครียด
ทะเลาะกับแม่ บ้านสกปรก เอาแต่ใจ แบบนี้เราเป็นวัวลืมตีนไหมคะ
เรามีปัญหากับแม่ที่เราไม่สามารถหาทางออกได้ รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ
เกริ่นๆ เราเป็นลูกคนเดียวของแม่ ตอนนี้แต่งงาน มีลูก เป็นแม่บ้าน อยู่ตปท ค่ะ
เรื่องแรก เรื่องอยากให้เรากลับมาอยู่บ้าน
สามีเราต้องอยู่ตปท เพราะได้เงินเดือนเยอะกว่าอยู่ไทยมาก แม่เราให้เหตุผลว่าก็มาอยู่บ้าน คนอื่นเขาก็อยู่ได้ ซึ่งบ้านเรามีสวนแค่สามสิบกว่าไร่ เป็นสวนยางรายได้ต่อเดือนตอนนี้ที่เม่เราได้ประมาณไม่เกินสามหมื่น ซึ่งถ้าเราไปอยู่เราก็เป็นตัวหารเพิ่ม เราก็ต้องทำอาชีพเพิ่มอยู่แล้วแต่มันคงเทียบไม่ได้กับที่สามีหาได้อยู่ตอนนี้ อีกอย่างแม่เราใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์
🧹คำถาม เราผิดไหมที่ไม่ได้ดูแลพ่อแม่ (เราไม่เคยขอเงินท่านนะคะ ตอนเราทำงานเราให้ตลอด แต่ตอนนี้เราไม่ทำงาน เราก็ไม่อยากเอาจากสามีเรารู้สึกมันไม่แฟร์ ซึ่งแม่เราก็เห็นด้วย)
เรื่องที่สอง บ้านสกปรก
ตั้งแต่เด็กเราพยายามขวนขวายออกไปอยู่ที่อื่นเพราะบ้านเราสกปรก ล่าสุดที่ทะเลาะกับแม่คือ แม่เราอยากให้สามีเรานอนที่บ้านเพราะทุกครั้งเราจะพาสามีไปเช่าโรงแรมนอน เราไม่ให้เหตุผลพยายามเลี่ยง จนตอนนี้เรามีลูก เราก็คิดว่าลองพูดดูเพื่ออนาคตจะดีขึ้น เพราะเรากลัวว่าถ้าลูกเราถามว่า ทำไมบ้านยายสกปรกจัง คือเราก็ไม่รู้ว่าต้องตอบยังไง เราเคยถามแม่ว่าลองขัดห้องน้ำดูไหม เวลาพ่ออึก็ลองราดน้ำไหม แม่ก็โมโหใส่เราว่า … "นั้นพ่อนะ"
เอาจริง งง เลย เพราะเราคิดว่าก็เพราะเป็นคนในครอบครัวไงเราถึงพูด เพราะมันสกปรกมาก
🧹คำถาม เราเป็นวัวลืมตีนไหมคะ
เรื่องที่สาม เอาแต่ใจ
เราจะกลับไทยทุกปี ตอนนี้เราอยู่ชายแดนซาอุ เวลาเดินทางกลับไทย อย่างน้อยก็20 ชั่วโมงถึงกรุงเทพ ซึ่งบ้านเราอยู่ภาคใต้เดินทางต่ออีกเราก็โอเคไม่เป็นไร ครั้งล่าสุดไทยร้อนมากลูกเราอยู่ที่บ้านแม่ไม่ได้เพราะไม่มีแอร์ ลูกเราไข้ขึ้นแอดมิดเข้ารพ เราเดินทางกลับไม่ได้ค่าใช้จ่ายก็บาน เราก็บอกแม่ว่ารอบนี้เราไม่กลับบ้านแม่นะ แม่มาภูเก็ตได้ไหม แม่ให้เหตุผลว่า"ทำไมไม่กลับบ้าน ญาติๆทุกคนก็อยู่ที่นี้" เราก็บอกไปว่าเราเดินทางไกล เราท้องอยู่ด้วย ลูกอีกคนก็ยังเล็ก ไม่ถึงสองขวบ ครั้งที่แล้วไม่สบาย แม่เราก็บอกว่า "คนอื่นก็ท้อง อย่ามาเอาแต่ใจกับแม่" งง เลยเรา ตอนนั้นเราตัดสายทิ้ง เพราะรู้สึกแย่มากๆ
ถ้าถามว่าทำไมท้องอยู่ยังเดินทาง เราโอเคกับหมอที่ไทย
🧹คำถาม หรือจริงๆเราผิด หรือเราควรมีวิธีที่รับมือที่ดีกว่านี้
ทั้งหมดคือมันมีเรื่องเล็กๆร้อยๆสะสมไปเรื่อยๆอะคะ เราพยายามแล้วแต่เหมือนตอนนี้เราตัน
เราแค่รู้สึกเหนื่อยใจมากๆเลย เราพยายามแล้วนะแต่อาจดูไม่มากพอหรือยังไงเราไม่รู้
ก่อนกลับบ้านเราโทรไปบอกว่าเราจะกลับบ้านสักสี่ห้าวัน มาอยู่กับหลานไหมเดี่ยวเช่าโรงแรม แม่เรา"ไม่รู้เดี่ยวต้องดูวันว่าง วันที่ไม่ขายผัก" จนป้าๆเป็นคนเกลี่ยกล่อมแม่ให้มาอยู่กะหลาน พอถึงตอนกลับบ้าน แม่เราก็แอบเอาอะไรให้ลูกเรากินไม่รู้ แล้วมาเล่าขำขันกับป้า เราก็โมโห เกือบทะเลาะ
จนผ่านไปเกือบเดือนเราที่เราไม่โทรหาแม่เพราะเรารู้สึกไม่โอเค จนล่าสุดที่ก็ทะเลาะกันจนได้ที่แม่ว่าเราว่าเอาแต่ใจ
เราควรปรับปรุงหรือเราควรเปลี่ยนวิธีการคิดยังไงดีคะ
ป้าเราบอกว่าวันหลังถ้ากลับบ้านก็ไม่ต้องบอกแม่ เพราะแม่จะเอาเงิน … เรารู้สึกว่าคำนี้แรงไป ช่วยหน่อยค่ะ เครียด