จากกระทู้เดิมที่ผมซื้อแบตเตอรี่ลิเธียม 1.5 โวลต์ ที่สามารถชาร์จซ้ำได้เป็นพันรอบ คือกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/42520713 ผมซื้อแบตเตอรี่ลิเธียม 1.5 โวลต์มาใช้งานแทนถ่านไฟฉายคาบอน-สังกะสี ถ่านไฟฉายอัลคาไลน์ แบตเตอรี่นิกเกิล-เมทัลไฮไดร์ (NiMH) และแบตเตอรี่นิกเกิล-แคดเมียม(NiCd) ที่ผมใช้งานอยู่ เหตุที่ต้องใช้ถ่าน/แบตเตอรี่หลายประเภทเพราะอุปกรณ์แต่ละอย่างแต่ละตัวพฤติกรรมการกินไฟไม่เหมือนกัน บางก้อนบางเซลใช้กับตัวนี้ไม่มีปัญหาแต่นำไปใช้กับอีกตัวใช้ได้ไม่นานก็หยุดทำงานซึ่งเป็นที่น่ารำคาญมาก ผมก็เลยแก้ปัญหาด้วยการใช้แบตเตอรี่ลิเธียม 1.5 โวลต์แทนทั้งหมด นอกจากสะดวกขึ้นแล้วยังรักษ์โลกลดขยะพิษอีกด้วย กระทู้นั้นได้รับความสนใจจากสมาชิมากเรียกร้องให้บอกความคืบหน้าว่าการใช้งานเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างก็เลยต้องมาตั้งกระทู้นี้ ครับ
ในภาพเป็นเมาส์ไร้สาย 3 ตัว ตัวสีดำซ้ายมือและตรงกลางเริ่มใช้แบตเตอรี่เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ผมตั้งกระทู้ หลังจากใช้งานมานาน 3 เดือนแบตเตอรี่ในเมาส์สีดำซ้ายมือสุดก็หมด ปกติตัวนี้กินไฟมากที่สุดใส่ถ่านอัลคาไลน์ใหม่ก็ได้ไม่ถึง 3 เดือน เมาส์ตัวสีดำตรงกลางเกินไฟน้อยกว่ายังใช้ได้ต่อไป ส่วนเมาส์ตัวสีขาวพึ่งเริ่มใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไม่ถึงเดือนเมาส์ตัวนี้กินไฟน้อยที่สุดใส่ถ่านอัลคาไลน์ใช้ได้นาน 9 เดือน แบตเตอรี่ลิเธียมอีกเซลใช้กับคีย์บอร์ดไร้สายซึ่งเป็นชุดเดียวกับเมาส์ตัวกลาง ปกติคีย์บอร์ดตัวนี้จะกินไฟน้อยกว่าเมาส์ใช้ถ่านไฟฉายพร้อมกันเมาส์จะหมดถ่านก่อนเดือนครึ่งถ่านในคีย์บอร์ดจึงจะหมดไฟ
จากการใช้งานในเมาส์และคีย์บอร์ดไร้สายพบว่ามันใช้งานดีมากไม่เจอปัญหาใดๆ เลย แต่มีพฤติกรรมการจ่ายไฟแตกต่างจากถ่านไฟฉาย คือ แบตเตอรี่ลิเธียมพวกนี้จ่ายไฟด้วยแรงดันประมาณ 1.54 โวลต์ตลอดเวลาจนถึงวันที่แบตเตอรี่หมด ขณะที่ถ่านไฟฉายแรงดันจะค่อยๆ ลดลงจาก 1.5 โวลต์ค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลาการใช้งานเมื่อลดเหลือ 1.1 โวลต์จะรู้สึกว่าเมาส์ตอบสนองช้าลงและมีไฟกระพริบเตือนว่าถ่านไฟฉายหมดไฟ แต่แบตเตอรี่ลิเธียมพวกนี้จะมีวงจรบั๊อคคอนเวอร์เตอร์ลดแรงดันจาก 3.7 โวลต์เป็น 1.54 โวลต์ และจะจ่ายด้วยแรงดันนี้คงที่จนถึงวันแบตเตอรี่หมดไฟ ซึ่งวงจรป้องกันแรงดันเซลแบตเตอรี่ต่ำจะตัดการทำงานไปเลยป้องกันไม่ให้เซลแบตเตอรี่พัง เมื่อการทำงานของมันเป็นแบบนี้ทำให้ระบบเตือนหมดไฟของเมาส์ไร้สาย คีย์บอร์ดไร้สายจะไม่ทำงานแต่จะหยุดการทำงานไปเลยไม่มีสัญาณเตือนใดๆ
แถมท้ายด้วยการทดสอบแบตเตอรี่ลิเธียม 1.5 โวลต์ ของฝรั่งโดยซื้อยี่ห้อต่างๆ ที่มีขายมาทดสอบโดยนำไปใช้กับพัดลมมือถือขนาดเล็กได้ผลตามนี้ ยี่ห้อใดคุ้มค่าดูเอาเอง การทดสอบนี้ทำให้เห็นว่าหลายยี่ห้อราคาแพงมีค่าความจุสูงแต่จ่ายพลังงานได้น้อยเพราะประสิทธิภาพของวงจรบั๊คคอนเวอร์เตอร์ในตัวแบตเตอรี่ ใช้งานจริงดูแต่ค่าความจุอย่างเดียวไม่ได้ครับ
รักษ์โลกด้วยการเลิกใช้ถ่านไฟฉาย EP2
ในภาพเป็นเมาส์ไร้สาย 3 ตัว ตัวสีดำซ้ายมือและตรงกลางเริ่มใช้แบตเตอรี่เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ผมตั้งกระทู้ หลังจากใช้งานมานาน 3 เดือนแบตเตอรี่ในเมาส์สีดำซ้ายมือสุดก็หมด ปกติตัวนี้กินไฟมากที่สุดใส่ถ่านอัลคาไลน์ใหม่ก็ได้ไม่ถึง 3 เดือน เมาส์ตัวสีดำตรงกลางเกินไฟน้อยกว่ายังใช้ได้ต่อไป ส่วนเมาส์ตัวสีขาวพึ่งเริ่มใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไม่ถึงเดือนเมาส์ตัวนี้กินไฟน้อยที่สุดใส่ถ่านอัลคาไลน์ใช้ได้นาน 9 เดือน แบตเตอรี่ลิเธียมอีกเซลใช้กับคีย์บอร์ดไร้สายซึ่งเป็นชุดเดียวกับเมาส์ตัวกลาง ปกติคีย์บอร์ดตัวนี้จะกินไฟน้อยกว่าเมาส์ใช้ถ่านไฟฉายพร้อมกันเมาส์จะหมดถ่านก่อนเดือนครึ่งถ่านในคีย์บอร์ดจึงจะหมดไฟ
จากการใช้งานในเมาส์และคีย์บอร์ดไร้สายพบว่ามันใช้งานดีมากไม่เจอปัญหาใดๆ เลย แต่มีพฤติกรรมการจ่ายไฟแตกต่างจากถ่านไฟฉาย คือ แบตเตอรี่ลิเธียมพวกนี้จ่ายไฟด้วยแรงดันประมาณ 1.54 โวลต์ตลอดเวลาจนถึงวันที่แบตเตอรี่หมด ขณะที่ถ่านไฟฉายแรงดันจะค่อยๆ ลดลงจาก 1.5 โวลต์ค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลาการใช้งานเมื่อลดเหลือ 1.1 โวลต์จะรู้สึกว่าเมาส์ตอบสนองช้าลงและมีไฟกระพริบเตือนว่าถ่านไฟฉายหมดไฟ แต่แบตเตอรี่ลิเธียมพวกนี้จะมีวงจรบั๊อคคอนเวอร์เตอร์ลดแรงดันจาก 3.7 โวลต์เป็น 1.54 โวลต์ และจะจ่ายด้วยแรงดันนี้คงที่จนถึงวันแบตเตอรี่หมดไฟ ซึ่งวงจรป้องกันแรงดันเซลแบตเตอรี่ต่ำจะตัดการทำงานไปเลยป้องกันไม่ให้เซลแบตเตอรี่พัง เมื่อการทำงานของมันเป็นแบบนี้ทำให้ระบบเตือนหมดไฟของเมาส์ไร้สาย คีย์บอร์ดไร้สายจะไม่ทำงานแต่จะหยุดการทำงานไปเลยไม่มีสัญาณเตือนใดๆ
แถมท้ายด้วยการทดสอบแบตเตอรี่ลิเธียม 1.5 โวลต์ ของฝรั่งโดยซื้อยี่ห้อต่างๆ ที่มีขายมาทดสอบโดยนำไปใช้กับพัดลมมือถือขนาดเล็กได้ผลตามนี้ ยี่ห้อใดคุ้มค่าดูเอาเอง การทดสอบนี้ทำให้เห็นว่าหลายยี่ห้อราคาแพงมีค่าความจุสูงแต่จ่ายพลังงานได้น้อยเพราะประสิทธิภาพของวงจรบั๊คคอนเวอร์เตอร์ในตัวแบตเตอรี่ ใช้งานจริงดูแต่ค่าความจุอย่างเดียวไม่ได้ครับ