เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1127428
ติดตามข่าวสารน่าสนใจมากมายได้ที่
https://www.bangkokbiznews.com
เป็นอีกความเคลื่อนไหวสำคัญของยักษ์ธุรกิจญี่ปุ่นอย่าง ‘อิเซตัน’ ที่มีแผนจะคืนสังเวียนค้าปลีกเมืองไทย พร้อมกับการชูโมเดลซูเปอร์มาร์เก็ตไฮเอนด์ บนเมกะโปรเจคแสนล้านบาท ‘วัน แบงค็อก’ ย่านเศรษฐกิจใหม่ของกรุงเทพฯ
ตามรายงานแผนธุรกิจระยะกลางถึงปัจจุบัน(ปี 2565-2567)ของ ISETAN MITSUKOSHI Holdings มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การขยายตลาดต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย
โดยข้อมูลระบุว่า "อิเซตัน" จะหวนคืนสู่สังเวียนค้าปลีกเมืองไทยอีกครั้ง โดยใช้โมเดล “ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับไฮเอนด์” ในโครงการเมกะโปรเจคแสนล้าน “วัน แบงค็อก” ของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” และพื้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจะมี 4,600 ตารางเมตร(ตร.ม.)
ซูเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าว เป็นเหมือน “ห้างสรรพสินค้าชั้นใต้ดิน” หรือ เดปาจิกะ (Depachika)ที่เป็นสวรรค์ของกิน ตอบโจทย์ผู้บริโภค
สำหรับอิเซตันได้ “ปิดตำนาน” ค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่นในประเทศไทย เมื่อปี 2565 หลังจากดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน 28 ปี และตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยผลประกอบการก่อนปิดฉาก ทำรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในภาวะ “ขาดทุน”
ปิดตำนานอิเซตันในไทย
หากย้อนไปปี 2561-2562 บริษัทมีรายได้ระดับพันล้านบาท แต่เมื่อเผชิญโควิด-19 ระบาด รายได้ลดลงต่ำกว่าพันล้านบาท และลดลงต่อเนื่อง ส่วนปี 2561 ที่มีกำไร ต้องเผชิญขาดทุนหนักในปี 2562 และลากยาวจนถึงปีที่ปิดกิจการ
สมรภูมค้าปลีกในประเทศไทยมีมูลค่ามหาศาล 4 ล้านล้านบาท เต็มไปด้วยยักษ์ใหญ่ แต่ใช่ว่าทุนหนา โมเดลแกร่ง มีทำเลทอง สินค้าที่มาขายแตกต่างตรงใจผู้บริโภค แต่การทำตลาดยังมีตัวแปรอีกมากมายที่จะทำให้..ชนะ! ในเกมแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการ ราคาสินค้าและบริการ กลุ่มเป้าหมาย ฯ ซึ่งอิเซตัน ไม่เพียงตอบโจทย์คนญี่ปุ่นที่อาศัยในไทย แต่ยังเอาใจคนรักญี่ปุ่น ชื่นชอบอาหาร สินค้าญี่ปุ่นด้วย
ซาโยนาระของอิเซตัน จากไปก็ใจหาย แฟนๆต่างหวนคิดคำนึงถึงบรรยากาศชอปปิง กินภายในห้าง แต่พออยู่ กลุ่มเป้าหมายที่ไปอุดหนุน กลับไม่มากพอ จนทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของบริษัท ที่ต้องติดตามดูคือการหวนคืนค้าปลีกด้วยโมเดลซูเปอร์มาร์เก็ตจะเป็นอย่างไร ผลตอบรับดีจนเดินเกมรบครั้งใหม่ระยะยาวได้หรือไม่ ต้องติดตาม
‘อิเซตัน’ จะคืนสังเวียนค้าปลีกเมืองไทย ลุยซูเปอร์มาร์เก็ตที่ ‘วัน แบงค็อก’
https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1127428
ติดตามข่าวสารน่าสนใจมากมายได้ที่
https://www.bangkokbiznews.com
เป็นอีกความเคลื่อนไหวสำคัญของยักษ์ธุรกิจญี่ปุ่นอย่าง ‘อิเซตัน’ ที่มีแผนจะคืนสังเวียนค้าปลีกเมืองไทย พร้อมกับการชูโมเดลซูเปอร์มาร์เก็ตไฮเอนด์ บนเมกะโปรเจคแสนล้านบาท ‘วัน แบงค็อก’ ย่านเศรษฐกิจใหม่ของกรุงเทพฯ
ตามรายงานแผนธุรกิจระยะกลางถึงปัจจุบัน(ปี 2565-2567)ของ ISETAN MITSUKOSHI Holdings มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การขยายตลาดต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย
โดยข้อมูลระบุว่า "อิเซตัน" จะหวนคืนสู่สังเวียนค้าปลีกเมืองไทยอีกครั้ง โดยใช้โมเดล “ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับไฮเอนด์” ในโครงการเมกะโปรเจคแสนล้าน “วัน แบงค็อก” ของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” และพื้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจะมี 4,600 ตารางเมตร(ตร.ม.)
ซูเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าว เป็นเหมือน “ห้างสรรพสินค้าชั้นใต้ดิน” หรือ เดปาจิกะ (Depachika)ที่เป็นสวรรค์ของกิน ตอบโจทย์ผู้บริโภค
สำหรับอิเซตันได้ “ปิดตำนาน” ค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่นในประเทศไทย เมื่อปี 2565 หลังจากดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน 28 ปี และตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยผลประกอบการก่อนปิดฉาก ทำรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในภาวะ “ขาดทุน”
ปิดตำนานอิเซตันในไทย
หากย้อนไปปี 2561-2562 บริษัทมีรายได้ระดับพันล้านบาท แต่เมื่อเผชิญโควิด-19 ระบาด รายได้ลดลงต่ำกว่าพันล้านบาท และลดลงต่อเนื่อง ส่วนปี 2561 ที่มีกำไร ต้องเผชิญขาดทุนหนักในปี 2562 และลากยาวจนถึงปีที่ปิดกิจการ
สมรภูมค้าปลีกในประเทศไทยมีมูลค่ามหาศาล 4 ล้านล้านบาท เต็มไปด้วยยักษ์ใหญ่ แต่ใช่ว่าทุนหนา โมเดลแกร่ง มีทำเลทอง สินค้าที่มาขายแตกต่างตรงใจผู้บริโภค แต่การทำตลาดยังมีตัวแปรอีกมากมายที่จะทำให้..ชนะ! ในเกมแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการ ราคาสินค้าและบริการ กลุ่มเป้าหมาย ฯ ซึ่งอิเซตัน ไม่เพียงตอบโจทย์คนญี่ปุ่นที่อาศัยในไทย แต่ยังเอาใจคนรักญี่ปุ่น ชื่นชอบอาหาร สินค้าญี่ปุ่นด้วย
ซาโยนาระของอิเซตัน จากไปก็ใจหาย แฟนๆต่างหวนคิดคำนึงถึงบรรยากาศชอปปิง กินภายในห้าง แต่พออยู่ กลุ่มเป้าหมายที่ไปอุดหนุน กลับไม่มากพอ จนทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของบริษัท ที่ต้องติดตามดูคือการหวนคืนค้าปลีกด้วยโมเดลซูเปอร์มาร์เก็ตจะเป็นอย่างไร ผลตอบรับดีจนเดินเกมรบครั้งใหม่ระยะยาวได้หรือไม่ ต้องติดตาม