สวัสดีค่ะ
เรากับแฟนอายุเท่ากัน คบกันมา 5 ปี ยังไม่แต่งงานและจดทะเบียน
น้องชายแฟนกับแฟน แต่งงานกันมา 6 ปี ลูก 1 คน
พ่อแม่แฟนมีภาระ ผ่อนรถ 1 คัน เดือนละแค่ 5000 กับค่ากิน เพราะพ่อแม่เค้าไม่มีเงินและไม่ได้ทำงาน
ที่พ่อแม่แฟนผ่อนรถตอนนี้ เกิดจากเอารถที่มี ไปเข้าไฟแนนซ์เอาเงินสด
ตอนนี้แฟนเงินเดือนประมาณ 20000 เพิ่งรับราชการได้ไม่นาน ย้ายมาจากเอกชน
เราเงินเดือนเท่าไหร่ ขอไม่พูดนะคะ อาจไม่เกี่ยวในเรื่องนี้
น้องชายแฟนกับแฟนเค้า ไม่แน่ใจจริงๆค่ะ ไม่ได้ถามเลย ทราบแค่ว่าเค้าอยู่บ้านฝั่งแฟนน้องฟรี ไม่มีผ่อนบ้าน แฟนเค้าเป็นพนักงานราชการที่นึง ไม่ใช่ข้าราชการ ส่วนน้องชายเป็นพ่อค้าขายอาหารตามสั่งเหมือนพ่อแม่
พ่อแม่แฟนอยู่ทางภาคเหนือกัน 2 คน
เมื่อก่อนเปิดร้านอาหาร แต่เลิกทำเพราะป่วย
ระหว่างนั้นใช้เงินเก็บเพื่อรักษาตัว จนเงินหมดก็เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ รวมถึงกู้เงิน
กู้เงินเป็นกู้กับเพื่อนนะคะ ผ่อนจ่ายตามงวดปกติเลย ไม่ใช่ดอกลอยค่ะ แต่ยอดและดอกค่อนข้างเยอะ
แล้วเค้าทำงานกันอีกไม่ได้ เพราะอาการป่วย จะเกี่ยวกับการยกของหนัก เกี่ยวกับหลายอย่างมาก และต้องอยู่ดูแลกันที่บ้าน
ตั้งแต่เค้าเอารถเข้าไฟแนนซ์ ก็มาบอกทางแฟนกับน้องแฟน
ตอนนั้นแฟนยังทำเอกชน เงินเดือนเยอะกว่าตอนนี้มากๆ แฟนบอกจะหนี้เองทั้งหมด 5000 และค่ากินให้เดือนละ 3000 และให้น้องช่วยจ่ายแค่ค่ากินอีกเดือนละ 3000
แต่คุยกันว่าถ้าพ่อแม่มียิบย่อยอะไร ก็ให้ไปขอที่น้อง
จนแฟนมารับราชการช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ก็ยังโอเค จ่ายกันตามเดิม
จนเมื่อปลายปีก่อน เรากับแฟนเริ่มกู้บ้านกัน กู้ผ่าน และผ่อนเยอะพอสมควร
แฟนเริ่มเอาเงินเก็บมาผ่อนบ้านไปเยอะ เพราะเราคุยกันว่าจะผ่อนเท่าๆกัน ไม่ทิ้งภาระที่ใครมากเกินไป
จนมันเริ่มกลายเป็น เงินเดือนแฟน พอออกปุ้บ ผ่อนบ้าน กับโอนให้พ่อแม่ ก็แทบไม่พอใช้แล้ว
แฟนก็ไม่ได้จะเอาเปรียบเรา เพราะรู้กันว่าเราก็มีภาระที่บ้าน แต่ขอไม่พูดถึงนะคะ
แฟนเลยไปคุยกับน้องชายแฟน ว่าให้ช่วยกันจ่ายให้เท่าๆกัน
เป็นน้องจ่ายเดือนละ 6000 ค่ากินพ่อแม่ และแฟนจ่ายหนี้ 5000
ซึ่งปัญหาเกิดตรงนี้ ตรงที่คนไปคุยกับน้องชายแฟนรอบนี้ คือเรา
ต้องบอกก่อนว่าก่อนจะตกลงกับแฟนแบบจริงจังเรื่องจ่ายใหม่นี้ แฟนเคยคุยกับน้องชายมาแล้ว
คำตอบที่ได้มีแต่ ให้ไม่ได้หรอก มีลูก ต้องจ่ายค่าลูก ทำแบบเดิมสิ ให้แฟน(คือเรา)ช่วยไปสิ
แฟนเลยบอกให้เราเป็นคนไปพูดดู โดยให้บอกตามจริง ว่ามาช่วยไม่ได้หรอก เพราะต้องให้เงินพ่อแม่ด้วย มีภาระของตัวเองเหมือนกัน
บอกเพิ่มอีกว่า ที่เราคิดว่าเราคุยแทนได้ เพราะเรากับน้องชายแฟน ที่ผ่านมาสนิทกันระดับนึงเลย
พอเราไปคุยรอบนี้ ก้เริ่มจากคุยดี เค้าก็บอก ไม่อยากจ่ายเพิ่ม เหมือนที่บอกแฟนเรานั่นแหละ
เราก้อธิบายว่า ช่วยกันเถอะ เพราะว่านี่ก็ช่วยมากไม่ได้ ต้องให้พ่อแม่ตัวเองด้วย ค่านั่นนี่
เค้าก็ไม่อยากจะจ่ายจริงๆ จนการตอบกลับของเค้าที่ตอบเราคือ เลิกเผือกเหอะ (พูดหยาบนะ) มาพูดแทนทำไม เผือก และด่าหยาบๆเราเยอะมาก
เราก็โมโหเหมือนกันและเริ่มด่ากลับไป จนมันเริ่มแรงมาก
แฟนเราก็โมโห ที่น้องมาด่าเราแรงๆ และด่าร่วมด้วย
แต่พอแฟนด่า มันก็ไปเป็นเรื่องอดีตที่ผ่านมาไปเลยว่า น้องช่วยแค่นิดเดียว เห็นแก่ตัวมานานแล้ว
และมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และน้องชายก็ลากแฟนเค้ามาคุยด้วย
มีที่แฟนน้องชายพูดกับเราคำนึงว่า มุงเป็นคนนอก มาเผือกทำไม ไม่ใช่คนในครอบครัวเลย
เค้าบอกเค้าจดทะเบียนสมรส เป็นครอบครัวนี้มา 6 ปีแล้ว เค้ายุ่งได้ ส่วนเรา ไม่ได้จดทะเบียน ถ้านับทุกวันนี้ก็แค่คนที่นอนกับแฟนเท่านั้น
เราโมโหมาก และเพราะคำพูดจากแฟนน้อง ทำให้เรายื่นคำขาดกับแฟนเลยว่า เราไม่ยุ่งบ้านนี้แล้วนะ มาจ่ายค่าผ่อนบ้านให้เราให้ครบทุกเดือน และจะให้เงินพ่อแม่ยังไงจนเงินเหลือกินใช้มั้ย เราจะไม่สนเลย
แฟนก็โมโหน้องกับแฟนน้อง เพราะคบกันมา 5 ปีแล้ว สำหรับเค้า เราก็เป็นครอบครัว
แล้วเราก็บอกน้องชายแฟนกับแฟนเค้าไปว่า งั้นถ้ามองเราไม่ใช่ครอบครัว อย่ามาบอกให้เราช่วยจ่ายสิ
เค้าก็ตอบว่า ได้ เดี๋ยวเค้าจ่ายกันเอง แต่เลิกมายุ่งกับเค้าและพ่อแม่ (ใช้คำพูดหยาบมากก)
และน้องชายได้พูดกับเราว่า อย่าให้เค้าเจอหน้าเรานะ เดี๋ยวจะได้รู้ว่าคนที่ชอบเผือกเรื่องคนอื่น มันจะต้องโดนอะไร (แต่พูดหยาบกว่านี้เยอะมาก)
น้องชายยังไม่รู้ที่อยู่บ้านใหม่เรากับแฟน รู้แค่ว่าอยู่แถวไหน
และพอน้องชายแฟนพูดเรื่องเงินที่จะจ่ายเองทั้งหมด บวกกับที่พิมขู่เรา
แฟนก้พิมไปในกรุ้ปไลน์ครอบครัวเค้าคร่าวๆว่า น้องจะจ่ายเองนะหลังจากนี้ และขอไม่ยุ่งอะไรแล้ว และลีฟกรุ้ปทันที (แต่ไม่ได้บอกเรื่องราวอะไร พิมไปแค่นั้น)
พอเจอน้องชายขู่แบบนี้ เราเลยตัดสินใจ เราไม่เอาบ้านนี้แล้ว และเราเรียบเรียงคำพูด จนเช้าวันถัดไป เราทักไปบอกพ่อแม่แฟน
แคปที่น้องชายทักมาขู่ และเล่าเรื่องที่คุยกันทั้งหมดให้ฟัง
เรารู้อยู่แล้วว่ายังไงเค้าก็ต้องอยู่ข้างลูกเค้า เราจึงบอกเพียงว่า เรามาเล่าทั้งหมด เพื่อบอกสาเหตุเท่านั้น ถึงการที่จากนี้ เราจะไม่ไปหาเค้าที่บ้านอีก และไม่ขอยุ่งใดๆในทุกเรื่อง หากมีปัญหาอะไร ขอให้คุยกันเอง (เพราะที่ผ่านมา แม่เคยยืมเงินเรา 2 ครั้ง เค้าไม่กล้าบอกแฟน จำนวนไม่มาก แต่จริงๆเราบอกแฟนนะ แต่แฟนก็ไม่ได้บอกแม่ว่ารู้แล้ว)
และบอกเค้าว่า รูปที่แคปให้ดู เพื่อต้องการให้รู้ว่าน้องชายมีนิสัยที่แท้จริงแบบไหน ที่มาข่มขู่กัน
ตั้วใจให้อย่างน้อย ได้รู้ว่าลูกชายคนเล็กของตัวเอง มีนิสัยแบบไหน
แม่ตอบเราแค่ว่า ขอโทษที่เป็นตัวปัญหา ไม่ต้องไปไหนหรอก พ่อแม่จะไปเอง
เราก็บอกไปว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นเลย ให้แม่อยู่กับลูกชายและลูกสะใภ้ไป เค้าตกลงกันเรื่องเงินได้ดีแล้วโดยไม่มีเรา
และเราตัดสินใจบล็อคเบอร์และไลน์ฝั่งนั้นทุกคน
หลังจากนั้น แฟนน้องชายพิมมาหาเราว่า
มุงจำไว้นะ เพราะมุง ทำให้ตอนนี้บ้านนี้แตกแยกกันหมด ตัวเสี้ยม ตัวเผือก เค้าจ่ายเงินกันแบบนี้ ใช้ชีวิตแบบนี้กันมาหลายปี ไม่เคยทะเลาะ พอเราไปพูดแค่แปปเดียว บ้านแตก
เราแอบคิดว่าจริงมั้ยนะ เพราะเราพูดวันเดียว บ้านแตกจริง
แต่ก็ตอบไปว่า ต่อให้ไม่มีเรา อีกหน่อยบ้านก็แตกล่ะ เพราะแฟนก็คงจ่ายไม่ไหวหรอก และแฟนก้ต้องเป็นคนพูดเอง แล้วถ้าเค้าพูด ก็คงทะเลาะกันหนักกว่านี้ด้วย
ตอบไปเท่านี้ และก็คิดได้ว่า ลืมบล็อคแฟนน้องชาย 55555 แล้วก็บล็อคไป
เรื่องมันผ่านมาประมาณ 2 วีคแล้ว บางทีก็นึกถึง โมโหน้องชายกับแฟนด้วยที่มาด่าเราหยาบมาก และสงสารแฟน แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิดขนาดไหน หรืออะไรไม่รู้เลยค่ะ
จริงๆ อีกไม่นานนี้เค้าอาจจะปรับความเข้าใจกันในครอบครัวก็ได้
เพราะแฟนโอนเงินของเดือนนี้ไปตั้งแต่วันที่ 1 ไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าก่อนจะถึง 1 มิถุนา มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม
แต่เพียงแค่ตอนนี้ เราสงสัยอยู่ในใจหลายอย่าง จึงมาถาม
คำถามของเรา ที่อาจเป็นเพียงแค่การถามความคิดเห็น เพราะพวกนี้มันคงไม่มีคำตอบตายตัว
1 เราเป็นคนนอกจริงๆไหมคะ กับคำว่าไม่ได้จดทะเบียน อันนี้เกี่ยวไหม หรือเรื่องเงิน เราเป็นคนนอกจริงๆ เพราะควรคุยแค่พ่อแม่ลูก คิดว่าเราไปยุ่งเกินจำเป็น จริงๆไหมคะ แต่ที่เราไปยุ่งด้วย ก็เพราะถ้าการจ่ายเงินตรงนั้นมันไม่มีการเปลี่ยนแปลง มันจะมากระทบเรา รวมถึงความสัมพันเรากับแฟนแน่นอน
2 ที่เราไม่ช่วยจ่ายให้พ่อแม่เค้า เราเห็นแก่ตัวไหม
3 คิดว่าเป็นเพราะเราจริงๆไหมคะ ที่ตอนนี้ความสัมพันเค้าเป็นแบบนี้กัน ลีฟกรุ้ป ทะเลาะกัน เพราะเรา ทำให้แตกแยกไหม
ไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านไหม ถือว่ามาพิมเป็นไดอารี่ไปเลยแล้วกัน 55555 เพราะเราไม่ได้เล่าใครเลยด้วย เลยไม่ได้ความเห็นเพิ่มเติมจากใครเลย แฟนก็ไม่ได้บ่นอะไรกับเรา เค้าบอกว่ารู้สีกว่าโล่งเหมือนกัน ที่ได้ฟังความคิดของน้องกับแฟนน้องจริงๆ รู้สึกว่าทำให้กล้าที่จะตัดได้ เพราะที่ผ่านมาก็ห่วง แต่เราก็ไม่รู้ว่าในใจแฟนจริงๆ เค้าคิดยังไง
อยากถามความเห็นจากทุกคน เราทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยกจริงไหม และเราเห็นแก่ตัวไหม
เรากับแฟนอายุเท่ากัน คบกันมา 5 ปี ยังไม่แต่งงานและจดทะเบียน
น้องชายแฟนกับแฟน แต่งงานกันมา 6 ปี ลูก 1 คน
พ่อแม่แฟนมีภาระ ผ่อนรถ 1 คัน เดือนละแค่ 5000 กับค่ากิน เพราะพ่อแม่เค้าไม่มีเงินและไม่ได้ทำงาน
ที่พ่อแม่แฟนผ่อนรถตอนนี้ เกิดจากเอารถที่มี ไปเข้าไฟแนนซ์เอาเงินสด
ตอนนี้แฟนเงินเดือนประมาณ 20000 เพิ่งรับราชการได้ไม่นาน ย้ายมาจากเอกชน
เราเงินเดือนเท่าไหร่ ขอไม่พูดนะคะ อาจไม่เกี่ยวในเรื่องนี้
น้องชายแฟนกับแฟนเค้า ไม่แน่ใจจริงๆค่ะ ไม่ได้ถามเลย ทราบแค่ว่าเค้าอยู่บ้านฝั่งแฟนน้องฟรี ไม่มีผ่อนบ้าน แฟนเค้าเป็นพนักงานราชการที่นึง ไม่ใช่ข้าราชการ ส่วนน้องชายเป็นพ่อค้าขายอาหารตามสั่งเหมือนพ่อแม่
พ่อแม่แฟนอยู่ทางภาคเหนือกัน 2 คน
เมื่อก่อนเปิดร้านอาหาร แต่เลิกทำเพราะป่วย
ระหว่างนั้นใช้เงินเก็บเพื่อรักษาตัว จนเงินหมดก็เอารถไปเข้าไฟแนนซ์ รวมถึงกู้เงิน
กู้เงินเป็นกู้กับเพื่อนนะคะ ผ่อนจ่ายตามงวดปกติเลย ไม่ใช่ดอกลอยค่ะ แต่ยอดและดอกค่อนข้างเยอะ
แล้วเค้าทำงานกันอีกไม่ได้ เพราะอาการป่วย จะเกี่ยวกับการยกของหนัก เกี่ยวกับหลายอย่างมาก และต้องอยู่ดูแลกันที่บ้าน
ตั้งแต่เค้าเอารถเข้าไฟแนนซ์ ก็มาบอกทางแฟนกับน้องแฟน
ตอนนั้นแฟนยังทำเอกชน เงินเดือนเยอะกว่าตอนนี้มากๆ แฟนบอกจะหนี้เองทั้งหมด 5000 และค่ากินให้เดือนละ 3000 และให้น้องช่วยจ่ายแค่ค่ากินอีกเดือนละ 3000
แต่คุยกันว่าถ้าพ่อแม่มียิบย่อยอะไร ก็ให้ไปขอที่น้อง
จนแฟนมารับราชการช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ก็ยังโอเค จ่ายกันตามเดิม
จนเมื่อปลายปีก่อน เรากับแฟนเริ่มกู้บ้านกัน กู้ผ่าน และผ่อนเยอะพอสมควร
แฟนเริ่มเอาเงินเก็บมาผ่อนบ้านไปเยอะ เพราะเราคุยกันว่าจะผ่อนเท่าๆกัน ไม่ทิ้งภาระที่ใครมากเกินไป
จนมันเริ่มกลายเป็น เงินเดือนแฟน พอออกปุ้บ ผ่อนบ้าน กับโอนให้พ่อแม่ ก็แทบไม่พอใช้แล้ว
แฟนก็ไม่ได้จะเอาเปรียบเรา เพราะรู้กันว่าเราก็มีภาระที่บ้าน แต่ขอไม่พูดถึงนะคะ
แฟนเลยไปคุยกับน้องชายแฟน ว่าให้ช่วยกันจ่ายให้เท่าๆกัน
เป็นน้องจ่ายเดือนละ 6000 ค่ากินพ่อแม่ และแฟนจ่ายหนี้ 5000
ซึ่งปัญหาเกิดตรงนี้ ตรงที่คนไปคุยกับน้องชายแฟนรอบนี้ คือเรา
ต้องบอกก่อนว่าก่อนจะตกลงกับแฟนแบบจริงจังเรื่องจ่ายใหม่นี้ แฟนเคยคุยกับน้องชายมาแล้ว
คำตอบที่ได้มีแต่ ให้ไม่ได้หรอก มีลูก ต้องจ่ายค่าลูก ทำแบบเดิมสิ ให้แฟน(คือเรา)ช่วยไปสิ
แฟนเลยบอกให้เราเป็นคนไปพูดดู โดยให้บอกตามจริง ว่ามาช่วยไม่ได้หรอก เพราะต้องให้เงินพ่อแม่ด้วย มีภาระของตัวเองเหมือนกัน
บอกเพิ่มอีกว่า ที่เราคิดว่าเราคุยแทนได้ เพราะเรากับน้องชายแฟน ที่ผ่านมาสนิทกันระดับนึงเลย
พอเราไปคุยรอบนี้ ก้เริ่มจากคุยดี เค้าก็บอก ไม่อยากจ่ายเพิ่ม เหมือนที่บอกแฟนเรานั่นแหละ
เราก้อธิบายว่า ช่วยกันเถอะ เพราะว่านี่ก็ช่วยมากไม่ได้ ต้องให้พ่อแม่ตัวเองด้วย ค่านั่นนี่
เค้าก็ไม่อยากจะจ่ายจริงๆ จนการตอบกลับของเค้าที่ตอบเราคือ เลิกเผือกเหอะ (พูดหยาบนะ) มาพูดแทนทำไม เผือก และด่าหยาบๆเราเยอะมาก
เราก็โมโหเหมือนกันและเริ่มด่ากลับไป จนมันเริ่มแรงมาก
แฟนเราก็โมโห ที่น้องมาด่าเราแรงๆ และด่าร่วมด้วย
แต่พอแฟนด่า มันก็ไปเป็นเรื่องอดีตที่ผ่านมาไปเลยว่า น้องช่วยแค่นิดเดียว เห็นแก่ตัวมานานแล้ว
และมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และน้องชายก็ลากแฟนเค้ามาคุยด้วย
มีที่แฟนน้องชายพูดกับเราคำนึงว่า มุงเป็นคนนอก มาเผือกทำไม ไม่ใช่คนในครอบครัวเลย
เค้าบอกเค้าจดทะเบียนสมรส เป็นครอบครัวนี้มา 6 ปีแล้ว เค้ายุ่งได้ ส่วนเรา ไม่ได้จดทะเบียน ถ้านับทุกวันนี้ก็แค่คนที่นอนกับแฟนเท่านั้น
เราโมโหมาก และเพราะคำพูดจากแฟนน้อง ทำให้เรายื่นคำขาดกับแฟนเลยว่า เราไม่ยุ่งบ้านนี้แล้วนะ มาจ่ายค่าผ่อนบ้านให้เราให้ครบทุกเดือน และจะให้เงินพ่อแม่ยังไงจนเงินเหลือกินใช้มั้ย เราจะไม่สนเลย
แฟนก็โมโหน้องกับแฟนน้อง เพราะคบกันมา 5 ปีแล้ว สำหรับเค้า เราก็เป็นครอบครัว
แล้วเราก็บอกน้องชายแฟนกับแฟนเค้าไปว่า งั้นถ้ามองเราไม่ใช่ครอบครัว อย่ามาบอกให้เราช่วยจ่ายสิ
เค้าก็ตอบว่า ได้ เดี๋ยวเค้าจ่ายกันเอง แต่เลิกมายุ่งกับเค้าและพ่อแม่ (ใช้คำพูดหยาบมากก)
และน้องชายได้พูดกับเราว่า อย่าให้เค้าเจอหน้าเรานะ เดี๋ยวจะได้รู้ว่าคนที่ชอบเผือกเรื่องคนอื่น มันจะต้องโดนอะไร (แต่พูดหยาบกว่านี้เยอะมาก)
น้องชายยังไม่รู้ที่อยู่บ้านใหม่เรากับแฟน รู้แค่ว่าอยู่แถวไหน
และพอน้องชายแฟนพูดเรื่องเงินที่จะจ่ายเองทั้งหมด บวกกับที่พิมขู่เรา
แฟนก้พิมไปในกรุ้ปไลน์ครอบครัวเค้าคร่าวๆว่า น้องจะจ่ายเองนะหลังจากนี้ และขอไม่ยุ่งอะไรแล้ว และลีฟกรุ้ปทันที (แต่ไม่ได้บอกเรื่องราวอะไร พิมไปแค่นั้น)
พอเจอน้องชายขู่แบบนี้ เราเลยตัดสินใจ เราไม่เอาบ้านนี้แล้ว และเราเรียบเรียงคำพูด จนเช้าวันถัดไป เราทักไปบอกพ่อแม่แฟน
แคปที่น้องชายทักมาขู่ และเล่าเรื่องที่คุยกันทั้งหมดให้ฟัง
เรารู้อยู่แล้วว่ายังไงเค้าก็ต้องอยู่ข้างลูกเค้า เราจึงบอกเพียงว่า เรามาเล่าทั้งหมด เพื่อบอกสาเหตุเท่านั้น ถึงการที่จากนี้ เราจะไม่ไปหาเค้าที่บ้านอีก และไม่ขอยุ่งใดๆในทุกเรื่อง หากมีปัญหาอะไร ขอให้คุยกันเอง (เพราะที่ผ่านมา แม่เคยยืมเงินเรา 2 ครั้ง เค้าไม่กล้าบอกแฟน จำนวนไม่มาก แต่จริงๆเราบอกแฟนนะ แต่แฟนก็ไม่ได้บอกแม่ว่ารู้แล้ว)
และบอกเค้าว่า รูปที่แคปให้ดู เพื่อต้องการให้รู้ว่าน้องชายมีนิสัยที่แท้จริงแบบไหน ที่มาข่มขู่กัน
ตั้วใจให้อย่างน้อย ได้รู้ว่าลูกชายคนเล็กของตัวเอง มีนิสัยแบบไหน
แม่ตอบเราแค่ว่า ขอโทษที่เป็นตัวปัญหา ไม่ต้องไปไหนหรอก พ่อแม่จะไปเอง
เราก็บอกไปว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นเลย ให้แม่อยู่กับลูกชายและลูกสะใภ้ไป เค้าตกลงกันเรื่องเงินได้ดีแล้วโดยไม่มีเรา
และเราตัดสินใจบล็อคเบอร์และไลน์ฝั่งนั้นทุกคน
หลังจากนั้น แฟนน้องชายพิมมาหาเราว่า
มุงจำไว้นะ เพราะมุง ทำให้ตอนนี้บ้านนี้แตกแยกกันหมด ตัวเสี้ยม ตัวเผือก เค้าจ่ายเงินกันแบบนี้ ใช้ชีวิตแบบนี้กันมาหลายปี ไม่เคยทะเลาะ พอเราไปพูดแค่แปปเดียว บ้านแตก
เราแอบคิดว่าจริงมั้ยนะ เพราะเราพูดวันเดียว บ้านแตกจริง
แต่ก็ตอบไปว่า ต่อให้ไม่มีเรา อีกหน่อยบ้านก็แตกล่ะ เพราะแฟนก็คงจ่ายไม่ไหวหรอก และแฟนก้ต้องเป็นคนพูดเอง แล้วถ้าเค้าพูด ก็คงทะเลาะกันหนักกว่านี้ด้วย
ตอบไปเท่านี้ และก็คิดได้ว่า ลืมบล็อคแฟนน้องชาย 55555 แล้วก็บล็อคไป
เรื่องมันผ่านมาประมาณ 2 วีคแล้ว บางทีก็นึกถึง โมโหน้องชายกับแฟนด้วยที่มาด่าเราหยาบมาก และสงสารแฟน แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิดขนาดไหน หรืออะไรไม่รู้เลยค่ะ
จริงๆ อีกไม่นานนี้เค้าอาจจะปรับความเข้าใจกันในครอบครัวก็ได้
เพราะแฟนโอนเงินของเดือนนี้ไปตั้งแต่วันที่ 1 ไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าก่อนจะถึง 1 มิถุนา มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม
แต่เพียงแค่ตอนนี้ เราสงสัยอยู่ในใจหลายอย่าง จึงมาถาม
คำถามของเรา ที่อาจเป็นเพียงแค่การถามความคิดเห็น เพราะพวกนี้มันคงไม่มีคำตอบตายตัว
1 เราเป็นคนนอกจริงๆไหมคะ กับคำว่าไม่ได้จดทะเบียน อันนี้เกี่ยวไหม หรือเรื่องเงิน เราเป็นคนนอกจริงๆ เพราะควรคุยแค่พ่อแม่ลูก คิดว่าเราไปยุ่งเกินจำเป็น จริงๆไหมคะ แต่ที่เราไปยุ่งด้วย ก็เพราะถ้าการจ่ายเงินตรงนั้นมันไม่มีการเปลี่ยนแปลง มันจะมากระทบเรา รวมถึงความสัมพันเรากับแฟนแน่นอน
2 ที่เราไม่ช่วยจ่ายให้พ่อแม่เค้า เราเห็นแก่ตัวไหม
3 คิดว่าเป็นเพราะเราจริงๆไหมคะ ที่ตอนนี้ความสัมพันเค้าเป็นแบบนี้กัน ลีฟกรุ้ป ทะเลาะกัน เพราะเรา ทำให้แตกแยกไหม
ไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านไหม ถือว่ามาพิมเป็นไดอารี่ไปเลยแล้วกัน 55555 เพราะเราไม่ได้เล่าใครเลยด้วย เลยไม่ได้ความเห็นเพิ่มเติมจากใครเลย แฟนก็ไม่ได้บ่นอะไรกับเรา เค้าบอกว่ารู้สีกว่าโล่งเหมือนกัน ที่ได้ฟังความคิดของน้องกับแฟนน้องจริงๆ รู้สึกว่าทำให้กล้าที่จะตัดได้ เพราะที่ผ่านมาก็ห่วง แต่เราก็ไม่รู้ว่าในใจแฟนจริงๆ เค้าคิดยังไง