สวัสดีค่ะสมาชิกทุกคน ดิฉันขอใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อเล่าเรื่องราวเรื่องราวหนึ่งที่เกิดขึ้นกับฉันเเละครอบครัว เเละวันนี้ครอบครัวของดิฉันได้จบลงเพียงเพราะมือที่สามที่มาในรูปเเบบของ เเม่สามี ...
..... ก่อนเเต่งงาน
ฉันเเละเเฟนใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปปกติ เราเริ่มต้นจากอาชีพรับราชการค่ะตอนคบกันเเรกๆฉันมีรถยนต์ 1 คัน ครอบครัวซื้อให้ตอนสอบบรรจุได้เป็นสิ่งที่ฉันดีใจมากกว่าการสอบบรรจุได้ เพราะมันทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ฉันเเละเเฟนเริ่มต้นสร้างทรัพย์สินจากการกู้สหกรณ์เราค่อยๆมีของต่างๆเพิ่มขึ้นเเละเริ่มหาอาชีพเสริมโดยการค้าขาย ชีวิตตอนนั้นมีความสุขดีค่ะมีเพื่อนมีเเฟนเเละมีเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก เราสองคนดิ้นรนหาทุกอย่างด้วยตนเองโดยได้รับการช่วยเหลือจากทางบ้านของดิฉันเเละพ่อของสามีอยู่บ้าง เเต่ทุกๆอย่างก้าวของการสร้างทุกอย่างไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดใดจาก เเม่ของเเฟนเลย อาจเป็นเพราะเค้าไม่ชอบในตัวของดิฉันเเต่ด้วยเหตุผลอะไรต่างๆดิฉันไม่สามารถรู้ใจเค้าได้ทั้งหมด
.... เเม่สามี
นิสัยค่อนข้างเป็นคนปากร้าย ฉุนเฉียวขี้โมโห เเละไม่สามารถยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้ พยายามพูดเสียงดังพูดเร็วให้คนอื่นพูดไม่ทันอยู่ตลอดเวลา ใช้ชีวิตเเบบเป็นสาวโสดหลังเลิกกับสามีอย่างโดดเดี่ยวในบ้านหลังหนึ่ง จริงๆเเล้วอาจจะไม่มีใครสามารถอยู่กับเค้าได้นาน หลังๆมาดิฉันเริ่มรู้ว่าเค้าจะใช้เงินซื้อใจลูกของตัวเอง เเละเป็นวิธีที่ได้ผลดีด้วยรวมถึงสามีของฉัน ณ ปัจจุบันนี้ด้วย ดิฉันได้ยินมาว่าไม่เคยลูกสะใภ้คนไหนเข้ากับเเม่เเฟนดิฉันได้เลยเพราะเค้าจะไม่ยอมเสียประโยชน์ใดใดเเละไม่เคยไม่ยอมใครเลย
.... เมื่อตัดสินใจจะสร้างบ้านก่อนเเต่งงาน
เเม่ของดิฉันเป็นคนซื้อที่ดินเพื่อให้ลูกได้มีชีวิตที่ดีขึ้นโดยการกู้ยืมเงินเเละยังคงต้องผ่อนชำระจน ณ ปัจจุบันนี้ ฉันเเละเเฟนตัดสินใจกู้เงินมาสร้างบ้านหลังนี้โดยมีพ่อของเเฟนเป็นคนรับเหมา เราตั้งใจทำบ้านหลังนี้โดยเงินของเราเอง ดิฉันจำได้ว่ามีอยู่วันหนึ่งเเม่ของเเฟนให้เงินมา 10,000 บาทมาเป็นค่าสีที่ใช้ทาบ้านเเต่ตอนนั้นเราไม่ได้ขอเค้าเลย เพราะคิดในใจอยู่เเล้วว่าเงินของเค้าอาจจะเป็นปัญหาตามมาในภายหลัง เเฟนของฉันรับเงินก้อนนั้นมาไปซื้อสีเเละอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆในการทำบ้านมา จนเวลาผ่านไปบ้านของเราก็เสร็จค่ะ
.... เราตัดสินใจเเต่งงานค่ะ เเละมันนำมาซึ่งเรื่องราวที่ไม่ควรเกิดขึ้น
เเฟนของดิฉันมีพี่สาวซึ่งยังไม่ได้เเต่งงานเช่นกัน ก่อนหน้าที่ดิฉันจะได้เริ่มคุยเรื่องเเต่งงานกับทุกๆคนฉันมีโอกาสได้คุยกับเเฟนของพี่สาวเเฟนดิฉัน ดิฉันพูดไปตามประสาคนทั่วไปว่าหลังจากที่เเฟนบวชเสร็จเราจะเเต่งงานเเล้วนะ พี่คนนั้นก็ตอบกลับมาทันทีว่าเเต่พี่ยังไม่พร้อมคงขอเวลาอีก 2-3 ปี เเละหลังงานบวชผ่านไปมารู้อีกทีเเม่ของเเฟนทำทุกอย่างเพื่อให้พี่สาวซึ่งเป็นลูกที่เค้ารักได้เเต่งงานก่อนโดยอ้างเหตุผลว่าน้องไม่สามารถเเต่งก่อนพี่ได้ เเต่เเล้วเราคงฝืนดวงชะตาเเต่งก่อนพี่สาวเป็นที่เรียบร้อย เรื่องที่สำคัญที่สุดคือฉันเเต่งงานในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เเละดิฉันตั้งครรภ์ในเดือนเมษายน 2565 จนตอนนี้ลูกชายตัวน้อยๆอายุ 1 ขวบ 4 เดือนเเล้วค่ะ เค้าไม่ใช่ความผิดพลาดที่เกิดมาดิฉันไม่ได้ตั้งท้องก่อนเเต่งงานเเต่อย่างใด ซึ่งมีหลักฐานเป็นเอกสารของคลินิก ลูกชายของดิฉันคลอดในวันที่ 12 ธันวาคม
.... ในวันคลอด
เเม่ของดิฉันอยู่ต่างจังหวัดซึ่งห่างกับที่ที่ดิฉันอยู่ประมาณ 800 กิโล เเม่ตัดสินขับรถมาในคืนนั้น ส่วนเเม่สามีอยู่ห่างประมาณ 30 กิโล ค่ะไม่โทรไม่ถามเเละไม่มาเลย เเต่ ณ ตอนนั้นดิฉันไม่คิดอะไรมากเพราะเข้าใจคนเค้าไม่ชอบคงไม่อยากมา มีเเค่เเม่ของเราที่มาก็มีความสุขมากๆเเล้ว เเละดิฉันกับทางฝั่งเเม่ของตัวเองก็ช่วยกันเลี้ยงลูกตลอดมา เเม่ของดิฉันต้องทำงานเพราะยังต้องส่งน้องชายอีกคนเรียนจึงไม่มีเวลาดูหลานเเม่ตัดสินใจจ้างเเละเป็นคนจ่ายค่าจ้างเลี้ยงเองทั้งหมดเพราะคิดว่าลูกก็มีภาระมากพออยู่เเล้ว ดิฉันเเละสามีช่วยกันทำงานเเละส่งเสียค่านมเเละของใช้ต่างๆของลูกในทุกๆเดือน เสมอมา
จุดพีคของเรื่องเริ่มต้นขึ้น ......... เเละมันทำให้ดิฉันจดจำไปตลอดชีวิตจากคนที่เป็นสามีเเละ เเม่ของเค้า ค่ะ
หากใครที่กำลังเจอเรื่องราวเช่นเดียวกันดิฉันขอเป็นกำลังใจเเละขอให้ทุกหัวใจเเข็งเเรงขึ้นในทุกๆวันนะคะ <3
ทำไมเเม่สามีถึงอยากทำให้ครอบครัวของลูกเเตกเเยก
..... ก่อนเเต่งงาน
ฉันเเละเเฟนใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปปกติ เราเริ่มต้นจากอาชีพรับราชการค่ะตอนคบกันเเรกๆฉันมีรถยนต์ 1 คัน ครอบครัวซื้อให้ตอนสอบบรรจุได้เป็นสิ่งที่ฉันดีใจมากกว่าการสอบบรรจุได้ เพราะมันทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ฉันเเละเเฟนเริ่มต้นสร้างทรัพย์สินจากการกู้สหกรณ์เราค่อยๆมีของต่างๆเพิ่มขึ้นเเละเริ่มหาอาชีพเสริมโดยการค้าขาย ชีวิตตอนนั้นมีความสุขดีค่ะมีเพื่อนมีเเฟนเเละมีเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก เราสองคนดิ้นรนหาทุกอย่างด้วยตนเองโดยได้รับการช่วยเหลือจากทางบ้านของดิฉันเเละพ่อของสามีอยู่บ้าง เเต่ทุกๆอย่างก้าวของการสร้างทุกอย่างไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดใดจาก เเม่ของเเฟนเลย อาจเป็นเพราะเค้าไม่ชอบในตัวของดิฉันเเต่ด้วยเหตุผลอะไรต่างๆดิฉันไม่สามารถรู้ใจเค้าได้ทั้งหมด
.... เเม่สามี
นิสัยค่อนข้างเป็นคนปากร้าย ฉุนเฉียวขี้โมโห เเละไม่สามารถยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้ พยายามพูดเสียงดังพูดเร็วให้คนอื่นพูดไม่ทันอยู่ตลอดเวลา ใช้ชีวิตเเบบเป็นสาวโสดหลังเลิกกับสามีอย่างโดดเดี่ยวในบ้านหลังหนึ่ง จริงๆเเล้วอาจจะไม่มีใครสามารถอยู่กับเค้าได้นาน หลังๆมาดิฉันเริ่มรู้ว่าเค้าจะใช้เงินซื้อใจลูกของตัวเอง เเละเป็นวิธีที่ได้ผลดีด้วยรวมถึงสามีของฉัน ณ ปัจจุบันนี้ด้วย ดิฉันได้ยินมาว่าไม่เคยลูกสะใภ้คนไหนเข้ากับเเม่เเฟนดิฉันได้เลยเพราะเค้าจะไม่ยอมเสียประโยชน์ใดใดเเละไม่เคยไม่ยอมใครเลย
.... เมื่อตัดสินใจจะสร้างบ้านก่อนเเต่งงาน
เเม่ของดิฉันเป็นคนซื้อที่ดินเพื่อให้ลูกได้มีชีวิตที่ดีขึ้นโดยการกู้ยืมเงินเเละยังคงต้องผ่อนชำระจน ณ ปัจจุบันนี้ ฉันเเละเเฟนตัดสินใจกู้เงินมาสร้างบ้านหลังนี้โดยมีพ่อของเเฟนเป็นคนรับเหมา เราตั้งใจทำบ้านหลังนี้โดยเงินของเราเอง ดิฉันจำได้ว่ามีอยู่วันหนึ่งเเม่ของเเฟนให้เงินมา 10,000 บาทมาเป็นค่าสีที่ใช้ทาบ้านเเต่ตอนนั้นเราไม่ได้ขอเค้าเลย เพราะคิดในใจอยู่เเล้วว่าเงินของเค้าอาจจะเป็นปัญหาตามมาในภายหลัง เเฟนของฉันรับเงินก้อนนั้นมาไปซื้อสีเเละอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆในการทำบ้านมา จนเวลาผ่านไปบ้านของเราก็เสร็จค่ะ
.... เราตัดสินใจเเต่งงานค่ะ เเละมันนำมาซึ่งเรื่องราวที่ไม่ควรเกิดขึ้น
เเฟนของดิฉันมีพี่สาวซึ่งยังไม่ได้เเต่งงานเช่นกัน ก่อนหน้าที่ดิฉันจะได้เริ่มคุยเรื่องเเต่งงานกับทุกๆคนฉันมีโอกาสได้คุยกับเเฟนของพี่สาวเเฟนดิฉัน ดิฉันพูดไปตามประสาคนทั่วไปว่าหลังจากที่เเฟนบวชเสร็จเราจะเเต่งงานเเล้วนะ พี่คนนั้นก็ตอบกลับมาทันทีว่าเเต่พี่ยังไม่พร้อมคงขอเวลาอีก 2-3 ปี เเละหลังงานบวชผ่านไปมารู้อีกทีเเม่ของเเฟนทำทุกอย่างเพื่อให้พี่สาวซึ่งเป็นลูกที่เค้ารักได้เเต่งงานก่อนโดยอ้างเหตุผลว่าน้องไม่สามารถเเต่งก่อนพี่ได้ เเต่เเล้วเราคงฝืนดวงชะตาเเต่งก่อนพี่สาวเป็นที่เรียบร้อย เรื่องที่สำคัญที่สุดคือฉันเเต่งงานในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เเละดิฉันตั้งครรภ์ในเดือนเมษายน 2565 จนตอนนี้ลูกชายตัวน้อยๆอายุ 1 ขวบ 4 เดือนเเล้วค่ะ เค้าไม่ใช่ความผิดพลาดที่เกิดมาดิฉันไม่ได้ตั้งท้องก่อนเเต่งงานเเต่อย่างใด ซึ่งมีหลักฐานเป็นเอกสารของคลินิก ลูกชายของดิฉันคลอดในวันที่ 12 ธันวาคม
.... ในวันคลอด
เเม่ของดิฉันอยู่ต่างจังหวัดซึ่งห่างกับที่ที่ดิฉันอยู่ประมาณ 800 กิโล เเม่ตัดสินขับรถมาในคืนนั้น ส่วนเเม่สามีอยู่ห่างประมาณ 30 กิโล ค่ะไม่โทรไม่ถามเเละไม่มาเลย เเต่ ณ ตอนนั้นดิฉันไม่คิดอะไรมากเพราะเข้าใจคนเค้าไม่ชอบคงไม่อยากมา มีเเค่เเม่ของเราที่มาก็มีความสุขมากๆเเล้ว เเละดิฉันกับทางฝั่งเเม่ของตัวเองก็ช่วยกันเลี้ยงลูกตลอดมา เเม่ของดิฉันต้องทำงานเพราะยังต้องส่งน้องชายอีกคนเรียนจึงไม่มีเวลาดูหลานเเม่ตัดสินใจจ้างเเละเป็นคนจ่ายค่าจ้างเลี้ยงเองทั้งหมดเพราะคิดว่าลูกก็มีภาระมากพออยู่เเล้ว ดิฉันเเละสามีช่วยกันทำงานเเละส่งเสียค่านมเเละของใช้ต่างๆของลูกในทุกๆเดือน เสมอมา
จุดพีคของเรื่องเริ่มต้นขึ้น ......... เเละมันทำให้ดิฉันจดจำไปตลอดชีวิตจากคนที่เป็นสามีเเละ เเม่ของเค้า ค่ะ
หากใครที่กำลังเจอเรื่องราวเช่นเดียวกันดิฉันขอเป็นกำลังใจเเละขอให้ทุกหัวใจเเข็งเเรงขึ้นในทุกๆวันนะคะ <3