การเลือกซื้อสินค้าของคนส่วนใหญ่นั้น การเลือกซื้อนอกจากจะซื้อตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานตามที่ต้องการแล้ว การพิจารณายี่ห้อ สีสัน รูปแบบที่สวยงาม ถูกใจของสินค้า หรือภาชนะบรรจุหรือหีบห่อของสินค้าก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามดึงดูดนั้น อาจส่งผลให้ผู้ซื้อละเลยลืมรายละเอียดที่สำคัญ อันอาจเป็นเหตุให้ถูกการละเมิดสิทธิผู้บริโภคได้ ดังนั้น เพื่อให้ได้สินค้าตรงตามที่ต้องการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีแนวทางมาแนะนำ ดังนี้

๑. ควรตรวจสอบรายละเอียดฉลากของสินค้า เช่น ชื่อ ประเภทหรือชนิดของสินค้า สถานที่ตั้งของผู้ประกอบธุรกิจ เครื่องหมายการค้าของผู้ผลิต หรือผู้สั่งหรือผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ขนาดของสินค้า ปริมาณหรือน้ำหนักของสินค้า ปริมาณสุทธิ ราคา วันเดือนปีที่ผลิตหรือหมดอายุ ส่วนประกอบของสินค้า วิธีการใช้ วิธีการเก็บรักษา คำแนะนำ คำเตือนหรือข้อควรระวังเกี่ยวกับสินค้า
เพื่อเป็นข้อมูลในการเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ
เลือกซื้อสินค้า ที่สำคัญคือ การเลือกสินค้าที่มีฉลาก
คือการเลือกสินค้าที่มีมาตรฐานในระดับหนึ่งแล้ว

๒. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแหล่งกำเนิด สภาพ และคุณภาพของสินค้าจากผู้ขาย ผู้ผลิต ผู้สั่ง หรือผู้นำเข้าที่จำหน่ายสินค้านั้น หรือกับผู้ที่เคยใช้สินค้านั้นแล้ว ก่อนพิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อสินค้ายี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง

๓. ศึกษาเกี่ยวกับเงื่อนไข หรือข้อจำกัดของสินค้า เช่น วันเดือนปีที่ผลิต หรือหมดอายุ วิธีการใช้ การเก็บรักษา คำเตือน หรือข้อควรระวังของสินค้าให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อที่จะสามารถ
ใช้สินค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและประหยัด

๔. ตรวจดูสภาพ คุณภาพ และปริมาณของสินค้าว่าเป็นจริงตรงตามที่ระบุไว้ที่ฉลากของสินค้าหรือไม่ เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ และมีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ

ผู้บริโภคสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก
ได้ที่ www.ocpb.go.th